มาฟัง "เศรษฐา"พูด ไทยต้องได้วัคซีนสามเข็ม ให้ประเทศเดินหน้าต่อ
https://www.matichon.co.th/politics/news_2628990
มาฟัง “เศรษฐา”พูด ไทยต้องได้วัคซีนสามเข็ม ให้ประเทศเดินหน้าต่อ
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ในงานสัมมนา “
วัคซีนเศรษฐกิจ วัคซีนประเทศไทย” จัดโดย นสพ.ประชาชาติธุรกิจ ณ แกรนด์ฮอลล์ โรงแรม ดิ แอทธีนี โฮเทล แบงค็อก (เพลินจิต)
นาย
เศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วัคซีนเข็มแรกที่อยากให้ฉีดเลย คือ การเมืองและสังคม ที่ต้องมีการแก้รัฐธรรมนูญ แม้ว่าเศรษฐกิจจะเดินไปข้างหน้าได้ แต่ถ้าการเมืองไม่แน่นอนก็ไปต่อไม่ได้ ประชาชนหลายคนไม่พอใจกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จึงอยากให้มีการแก้ไข
ส่วนจะแก้ไขอย่างไรนั้น เชื่อว่าทุกฝ่ายต้องเข้าหันหน้ากัน พูดคุยประนีประนอม เข้าใจถึงการอยู่ร่วมกันของทุกวัย การให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ไม่ก้าวร้าวกัน การที่ต้องไปดูประวัติศาสตร์ชาติไทยว่าเราอยู่มาได้อย่างไร แก้ไขในวาระที่สมควรที่ต้องแก้ ไม่อยากเห็นปัญหาทางการเมืองสังคมมาเป็นตัวฉุดรั้งทางเศรษฐกิจ
วัคซีนเข็มที่สอง คือให้เอกชนมีการฉีดวัคซีนกันเอง ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)ให้การรับรอง เพื่อให้มีการฉีดวัคซีนอย่างกว้างขวางถึง 86% ของจำนวนประชากรให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ รัฐบาลต้องอนุญาตให้เอกชนนำเข้าวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติแล้ว 2 ยี่ห้อ และวัคซีนยี่ห้ออื่นที่ต้องได้รับการรับรองจากอย.สามารถนำเข้ามาได้ด้วย
“
อยากให้มีการเปิดประเทศ ไม่อยากให้รอถึงไตรมาส 4/2564 หลายธุรกิจจะรอกันไม่ไหว ให้มีวัคซีนพาสปอร์ตที่หลายประเทศเริ่มมีแล้ว เพื่อให้เกิดการเดินทาง เกิดการลงทุนได้ ให้เกิดการทำธุรกิจอย่างแพร่หลาย สิ่งเหล่านี้เป็นตัวช่วยให้กระตุ้นเศรษฐกิจได้” นาย
เศรษฐา กล่าว
นายเศรษฐา กล่าวว่า วัคซีนเข็มที่สาม คือการเดินไปข้างหน้าของธุรกิจที่กำลังประสบปัญหาอยู่ อย่างธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) เป็นองค์ประกอบใหญ่ของเศรษฐกิจไทย หลายๆ อย่างยังไม่ได้รับการเยียวยา มาตรการโกดังพักหนี้ (Asset Warehousing) เป็นแนวคิดที่ดี แต่วิธีการปฏิบัติจะมีความลำบาก จะให้โอนสินทรัพย์ชำระหนี้ กว่าจะสำเร็จอาจจะใช้เวลาเป็นเดือนเป็นปี
นาย
เศรษฐา กล่าวว่า ธุรกิจเอสเอ็มอีมีความต้องการลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ โดยรัฐบาลต้องมีการเยียวยา เช่นรัฐบาลประเทศอังกฤษมีการจ่ายเงินให้ 70% ของเงินเดือน เพื่อให้ผู้ประกอบการอยู่รอดได้ เกิดการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง เมื่อเศรษฐกิจกลับมาธุรกิจก็สามารถดำเนินการได้ปกติ และการพักชำระหนี้ ที่ต้องมีการดำเนินการควบคู่กันไป
เมียนมา "ประท้วงแบบไร้คน" หลังผู้ชุมนุมโดนปราบปรามนองเลือด ตายแล้ว 216 ศพ
https://www.thairath.co.th/news/foreign/2052407
เมื่อวันที่ 17 มี.ค. เว็บไซต์ข่าว Irrawaddy รายงานว่า ชาวเมียนมาบางส่วนหันมาประท้วงแบบ "
ไร้ผู้ประท้วง" มีการนำป้ายข้อความต่อต้านรัฐประหารไปวางเรียงกันตามพื้นถนน บริเวณใกล้กับสะพานอองเซยา ในเมืองย่างกุ้ง ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างเขตอินเล กับเขตไลง์ตายา
การประท้วงแบบไร้คน มีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่เพิ่งยกกำลังไปปราบปรามผู้ประท้วงอย่างรุนแรงด้วยกระสุนจริง ระเบิดเพลิง และแก๊สน้ำตา ในเขตอินเล และไลง์ตายา และเมื่อวันอังคารที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา มีรายงานจากสื่อท้องถิ่นของเมียนมา ว่ามีคนถูกยิงบนราวสะพานเสียชีวิต 2 ศพ ก่อนที่ทหารจะโยนศพลงไปในแม่น้ำไลง์ สร้างความโกรธแค้นให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก
ขณะเดียวกัน ชาวเมืองย่างกุ้งหลายพันคน ได้พากันอพยพหนีออกจากเมืองที่มีสภาพไม่ต่างจากสมรภูมิสงครามกลางเมืองไปแล้ว โดยมีผู้ประท้วงถูกยิงเสียชีวิตอย่างน้อย 34 ศพ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และโรงงานหลายสิบแห่งในเขตอุตสาหกรรมยังถูกเผา ด้านเว็บไซต์ข่าวอิรวดี รายงานว่านับตั้งแต่รัฐประหาร ตอนนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 216 ศพ.
ที่มา
Irrawaddy
JJNY : ฟัง"เศรษฐา"พูด ไทยต้องได้วัคซีน3เข็ม│เมียนมาประท้วงแบบไร้คน│อรรถวิชช์เสนอแก้272│อนุทินเล็งนำเข้าวัคซีนยี่ห้ออื่น
https://www.matichon.co.th/politics/news_2628990
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ในงานสัมมนา “วัคซีนเศรษฐกิจ วัคซีนประเทศไทย” จัดโดย นสพ.ประชาชาติธุรกิจ ณ แกรนด์ฮอลล์ โรงแรม ดิ แอทธีนี โฮเทล แบงค็อก (เพลินจิต)
นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า วัคซีนเข็มแรกที่อยากให้ฉีดเลย คือ การเมืองและสังคม ที่ต้องมีการแก้รัฐธรรมนูญ แม้ว่าเศรษฐกิจจะเดินไปข้างหน้าได้ แต่ถ้าการเมืองไม่แน่นอนก็ไปต่อไม่ได้ ประชาชนหลายคนไม่พอใจกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จึงอยากให้มีการแก้ไข
ส่วนจะแก้ไขอย่างไรนั้น เชื่อว่าทุกฝ่ายต้องเข้าหันหน้ากัน พูดคุยประนีประนอม เข้าใจถึงการอยู่ร่วมกันของทุกวัย การให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ไม่ก้าวร้าวกัน การที่ต้องไปดูประวัติศาสตร์ชาติไทยว่าเราอยู่มาได้อย่างไร แก้ไขในวาระที่สมควรที่ต้องแก้ ไม่อยากเห็นปัญหาทางการเมืองสังคมมาเป็นตัวฉุดรั้งทางเศรษฐกิจ
วัคซีนเข็มที่สอง คือให้เอกชนมีการฉีดวัคซีนกันเอง ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)ให้การรับรอง เพื่อให้มีการฉีดวัคซีนอย่างกว้างขวางถึง 86% ของจำนวนประชากรให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ รัฐบาลต้องอนุญาตให้เอกชนนำเข้าวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติแล้ว 2 ยี่ห้อ และวัคซีนยี่ห้ออื่นที่ต้องได้รับการรับรองจากอย.สามารถนำเข้ามาได้ด้วย
“อยากให้มีการเปิดประเทศ ไม่อยากให้รอถึงไตรมาส 4/2564 หลายธุรกิจจะรอกันไม่ไหว ให้มีวัคซีนพาสปอร์ตที่หลายประเทศเริ่มมีแล้ว เพื่อให้เกิดการเดินทาง เกิดการลงทุนได้ ให้เกิดการทำธุรกิจอย่างแพร่หลาย สิ่งเหล่านี้เป็นตัวช่วยให้กระตุ้นเศรษฐกิจได้” นายเศรษฐา กล่าว
นายเศรษฐา กล่าวว่า วัคซีนเข็มที่สาม คือการเดินไปข้างหน้าของธุรกิจที่กำลังประสบปัญหาอยู่ อย่างธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) เป็นองค์ประกอบใหญ่ของเศรษฐกิจไทย หลายๆ อย่างยังไม่ได้รับการเยียวยา มาตรการโกดังพักหนี้ (Asset Warehousing) เป็นแนวคิดที่ดี แต่วิธีการปฏิบัติจะมีความลำบาก จะให้โอนสินทรัพย์ชำระหนี้ กว่าจะสำเร็จอาจจะใช้เวลาเป็นเดือนเป็นปี
นายเศรษฐา กล่าวว่า ธุรกิจเอสเอ็มอีมีความต้องการลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ โดยรัฐบาลต้องมีการเยียวยา เช่นรัฐบาลประเทศอังกฤษมีการจ่ายเงินให้ 70% ของเงินเดือน เพื่อให้ผู้ประกอบการอยู่รอดได้ เกิดการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง เมื่อเศรษฐกิจกลับมาธุรกิจก็สามารถดำเนินการได้ปกติ และการพักชำระหนี้ ที่ต้องมีการดำเนินการควบคู่กันไป
เมียนมา "ประท้วงแบบไร้คน" หลังผู้ชุมนุมโดนปราบปรามนองเลือด ตายแล้ว 216 ศพ
https://www.thairath.co.th/news/foreign/2052407
เมื่อวันที่ 17 มี.ค. เว็บไซต์ข่าว Irrawaddy รายงานว่า ชาวเมียนมาบางส่วนหันมาประท้วงแบบ "ไร้ผู้ประท้วง" มีการนำป้ายข้อความต่อต้านรัฐประหารไปวางเรียงกันตามพื้นถนน บริเวณใกล้กับสะพานอองเซยา ในเมืองย่างกุ้ง ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างเขตอินเล กับเขตไลง์ตายา
การประท้วงแบบไร้คน มีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่เพิ่งยกกำลังไปปราบปรามผู้ประท้วงอย่างรุนแรงด้วยกระสุนจริง ระเบิดเพลิง และแก๊สน้ำตา ในเขตอินเล และไลง์ตายา และเมื่อวันอังคารที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา มีรายงานจากสื่อท้องถิ่นของเมียนมา ว่ามีคนถูกยิงบนราวสะพานเสียชีวิต 2 ศพ ก่อนที่ทหารจะโยนศพลงไปในแม่น้ำไลง์ สร้างความโกรธแค้นให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก
ขณะเดียวกัน ชาวเมืองย่างกุ้งหลายพันคน ได้พากันอพยพหนีออกจากเมืองที่มีสภาพไม่ต่างจากสมรภูมิสงครามกลางเมืองไปแล้ว โดยมีผู้ประท้วงถูกยิงเสียชีวิตอย่างน้อย 34 ศพ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และโรงงานหลายสิบแห่งในเขตอุตสาหกรรมยังถูกเผา ด้านเว็บไซต์ข่าวอิรวดี รายงานว่านับตั้งแต่รัฐประหาร ตอนนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 216 ศพ.
ที่มา Irrawaddy