[CR] How to กู้หน้าขุ่นแม่ภายใน 2 อาทิตย์

ฉันมาไกลลลลลล  มาไกลเหลือเกิน
.
เชื่อว่าคุณแม่หลายคน  เข้าใจในเนื้อเพลงท่อนนี้  ว่าไม่ได้หมายถึงการเดินทาง  แต่หมายถึงการแปลงร่างจากสาวน้อยวัยขบเผาะ  มาเป็นอาจุ่มม่าในช่วงเวลาไม่กี่ปี
.
.
แต่........เวลาทำหน้าที่ของมันได้ดีมาก  ดีเกินไป  ดีจนอยากร้องไห้ 55555
.
เราก็เป็นคนนึง  ที่อยู่ในสถานการณ์นี้ค่ะ  อันที่จริง  เมื่อก่อนเป็นสาวฮอตพอตัว  แม้หน้าตาจะไม่ได้พิมพ์นิยม  แต่มีไม้ตายเป็นคารมและความตลก  ทำให้ตกผู้มาได้ไม่ยาก  แต่หลังจากถอดเขี้ยวเล็บ  เข้าพิธีแต่งงาน  เราก็ปล่อยเนื้อปล่อยตัว  เพราะถือว่าไม่ต้องใช้รูปทรัพย์ไปหลอกล่อใคร  แถมสามีก็ดี๊ ดีย์  จะอ้วน จะบวมยังไง  ฮีก็ยังคอยพร่ำบอกว่าเราน่ารักยังงู๊นยังงี๊  ทำให้เรายิ่งได้ใจ
.
จนกระทั่งตั้งท้องลูกคนแรก  ระดับการแปลงร่างของเรายิ่งอัพเลเวลไปอีกขั้น  การบำรุง(น้ำหนัก)ขั้นสุด  บวกกับอาการกลัวสารเคมีจากโลชั่นและครีมทั้งหลาย  กลัวว่าจะซึมเข้าไปทำอันตรายกับลูก เราเลยยิ่งไม่แตะผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเลย
.
 
พอคลอดก็กลายเป็นความเคยชินกับการใช้ชีวิตแบบนั้น  ไปทำงานหน้าสด  ทานอาหาร(ที่อ้างว่า) บำรุงน้ำนมเต็มที่  เป็นแบบนั้นอยู่ประมาณ 4 ปี  ก็คิดว่าน่าจะสมควรแก่เวลาที่จะหันกลับมาดูแลตัวเอง  ก็ลดความอ้วน เริ่มแต่งตัว เริ่มบำรุงผิว  แลดูสวยขึ้น  สามีก็เลยหวง
.
ฮีเลยเสกเด็กเข้าท้องให้อีก 1 คน  555555555  ก็วนเข้าลูปเดิม เพิ่มเติมคือสภาพผิวหน้าที่ยับเยิน กับน้ำหนักที่พุ่งทะยานไปอีก 
.
2 ปีแรก หลังคลอดคนที่สอง  เราก็พยายามออกกำลังกายและคุมอาหาร  โดยการทานอาหารแบบ Low Carb บวกกับการทำ IF  หรือ  Intermittent Fasting ทำให้น้ำหนักกลับมาเท่าก่อนแต่งงานได้ (ใช้เวลาลองผิดลองถูกประมาณ 2 ปี) 
.
อ้อ  เราลืมบอกไปว่าเราออกกำลังกายโดยการวิ่งเทรล  คือเหมือนวิ่งเข้าป่า ฝ่าไอแดด  เพราะเป็นพวกชอบความท้าทาย  ท้าไปท้ามา  ทั้งกระ  ทั้งฝ้าเต็มหน้า  

ถ้าใครนึกไม่ออกว่าวิ่งเทรลยังไง  ก็ตามรูปเลยจ้า
.
ใส่แขนยาวขายาวนะ  แต่หน้าคือปะทะแดดสุดๆ

เดิมเราเป็นคนมีกระอยู่แล้ว  แต่พอหลังจากคลอดลูก  รวมกับการเอาหน้าไปสู้แดด  กระเลยยิ่งชัดมาก  แถมเมื่อช่วงวาเลนไทน์ที่ผ่านมา  เราสังเกตว่าหน้าเริ่มมีฟิล์มฝ้าขึ้นบางๆ
.
ทีนี้เลยเริ่มตื่น  ชั้นจะปล่อยให้หน้าชั้นพังไม่ได้  รูปร่างยังปั้นได้ง่าย  แต่ผิวหน้าเสียแล้วปั้นคืนยาก  คิดได้แบบนี้ก็โผเข้าไปที่โต๊ะเครื่องสำอาง
.
พระเจ้า   หมดอายุไปค่อนครึ่ง   บางอันคือซื้อมา 4 ปี (ก่อนท้องคนที่ 2) แล้วใช้บ้างไม่ใช้บ้าง  มิน่าล่ะ  หน้าถึงพังยับขนาดนี้


นี่คือรูปของส่วนหนึ่งที่หมดอายุบนโต๊ะ  มีโละไปก่อนหน้านี้บ้างแล้ว  บางตัวใช้ดีนะ  แต่เราเองนี่แหละที่ไม่มีวินัย
.
.
เสียดายก็เสียดาย  บางอันก็มีราคา  แต่ต้องจำใจโละทิ้ง  แล้วซื้อใหม่  แต่จะซื้อใหม่แบบเซทเดิม  ก็ไม่ไหวแล้ว  เลยเริ่มคิดว่า  มันน่าจะมีพวกสกินแคร์ที่ราคาไม่แรง  แต่เห็นผล   เลยเริ่มหาข้อมูลพวกรีวิว  และใช้ความรู้เกี่ยวกับพวกสารสำคัญที่เราพอมี (เราจบวิทยาศาสตร์  แต่ไปทางสายอาหาร  สารเคมีต่างๆมีผ่านตามาบ้าง  ก็อาศัยเอาความรู้บวกกับข้อมูลที่หาเพิ่ม ก็ทำให้ช่วยตัดสินใจได้บ้าง)
.
.
ตัวสกินแคร์ที่เราใช้  หาได้ตามท้องตลาดทั่วไป  ไม่ต้องถามนะจ๊ะว่าได้มาจากไหน  ซื้อเองทั้งหมด  มีบางตัวที่ได้มาจากเพื่อน  บางตัวก็แอบอ้างเอามาเป็นของตัวเอง  ว่าซั่นนนนน
.
อ้อ  ลืมบอก  เราเป็นคนผิวแห้ง  มีกระบนใบหน้าบ้างอยู่แล้ว  การใช้สกินแคร์ของเราเลยพุ่งเป้าไปที่ตัวให้ความชุ่มชื้นเพื่อปรับสภาพผิว  และตัวที่ให้ประสิทธิภาพเรื่องลดกระและฝ้าก่อน  แต่ถ้าบางตัวมีสารปรับผิวให้ขาวใส  อันนั้นอยากให้รู้ว่าเป็นประเด็นรองๆที่เราสนใจนะคะ
.

.
.
อันนี้คือหน้าเรา  เคยถ่ายไว้ให้เพื่อนดูว่า  กระมันเยอะขึ้นมาก  และของเราเป็นกระแบบนูนๆอ่ะ  ไม่รู้คนอื่นเป็นไหม  แถวมีฟิล์มฝ้าจางๆแล้วววววว
.
.
อันดับแรก  ด้วยอาชีพเรา เราต้องแต่งหน้า  มีการใช้รองพื้น  เราเลยคิดเอาเองว่าต้องใช้ตัว เมคอัพรีมูฟเวอร์  ซึ่งเดิมเราใช้อีกยี่ห้อหนึ่ง  แต่ตอนนี้เราเปลี่ยนมาใช้โฟม Rojukiss Hydra Poreless Serum Foam สีฟ้าอันนี้ค่ะ 
.


เป็นสูตรสำหรับผิวอ่อนแอ  บอบบาง ขาดน้ำ แพ้ง่าย  ที่เปลี่ยน ตอนแรกเพราะมันมีกลิ่นหอม  แต่พอใช้แล้วสังเกตว่า  หน้าไม่ได้สะอาดแบบตึงๆเหมือนเดิม  คือ  ปกติที่เราใช้โฟม หลังล้างหน้า  ผิวหน้าเราเวลาลูบจะดังเอี๊ยดเลย  แต่ตัวนี้  ล้างแล้วหน้านุ่ม  ไม่ตึง (อันนี้รู้สึกได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้  คือ  รู้สึกว้าวเลย)  แถมยังรู้สึกว่าสิวน้อยลงด้วย  เรียกได้ว่าเป็นการค้นพบโดยบังเอิญนะคะ  เราจำราคาไม่ได้  น่าจะร้อยนิดๆ  เราซื้อตามร้านทั่วไปเลยค่ะ
.
.
ส่วน  สกินแคร์บำรุงผิวหน้า  เราจะแยกออกระหว่างตัวที่ใช้กลางคืน กับกลางวันนะคะ  กลางคืนเราจะเน้นฟื้นฟู บำรุง ลดเลือน  ส่วนกลางวัน เราจะเน้นป้องกัน (ที่อ่านมาเค้าแนะนำว่าแบบนี้)
.
.
ว่าด้วยเรื่อง “ครีม” ช่วงกลางคืน ตอนแรกเราใช้ Return หลอดสีชมพูตัวเดียว  ตัวนี้ใช้มาก่อนหน้าแล้ว แต่ใช้ไม่ต่อเนื่อง  แค่รู้ว่าไม่แพ้ เลยใช้มาเรื่อยๆ  พอใช้ต่อเนื่องผิวจะฟูๆเด้งๆ บอกไม่ถูก ตอนเช้าคือหน้าฉ่ำเลยอ่ะ  ตัวนี้ลองหาดูรีวิวในกระทู้อื่นดูนะคะ เราก็อาศัยอ่านๆเอาจากในนี้ด้วย  เริ่มจากหลอดเล็กๆ พอหมดเราเลยจัดหลอดใหญ่
.

.
.
ส่วนอีกตัวตือ นิสิต วิบวับ เซรั่ม (น่าจะอ่านว่าแบบนี้แหละ)  ตัวนี้เรามาเจอทีหลัง  เรื่องของเรื่องคือเราไปค้างบ้านเพื่อนแล้วลืมเอา Return ไปเพื่อนก็หยิบเซรั่มตัวนี้ให้หลังจากที่เราล้างหน้าเสร็จ  ตอนแรกเราไม่ใช้เพราะกลัวแพ้ แต่พออ่านส่วนประกอบ  ดูไม่มีตัวกระตุ้นให้แพ้ (ไม่มีแอลกอฮอล์  ไม่มีน้ำหอม  ไม่ใส่สี ไม่มีสารประกอบจำพวกน้ำมันหรือออยล์ และไม่มีพาราเบนด้วย) แถมกลัวเพื่อนเสียน้ำใจ  เลยทาบางๆแล้วมาลุ้นเอาตอนเช้า  สรุปไม่มีผดขึ้น  โอเค คุณได้ไปต่อ
.
.

.
ตอนเช้าเราเลยทาอีกรอบก่อนกลับ  แล้วเผลอหยิบติดมือมา  (เผลอแหละ เผลอจริงๆ)  หลังๆมาเราเลยใช้เช้า-เย็น  ทาก่อนลงครีม Return  ระหว่างนี้เพื่อนก็ทวงจนขี้เกียจทวง  เราก็ทาเหมือนเป็นของตัวเองประมาณอาทิตย์กว่าๆ  แฟนก็ทักว่าหน้าขาวขึ้น  เราเลยเพิ่งสังเกตว่า  ความจริงหน้าเราไม่ได้ขาวขึ้น  แต่รอยกระและฟิล์มฝ้ามันจางลง  จนทำให้เหมือนหน้าเราใสขึ้นอ่ะ  งานดี  ไม่เสียทีที่ยึดมาเป็นของตัวเอง  เพื่อนซื้อจากไหนเราไม่รู้นะ  รู้แต่ว่าหมดขวดนี้อาจต้องไปหามาตำเพิ่ม  แต่  ตัวนี้จะแปลกหน่อย คือมันมีหัวดูดเซรั่มขึ้นมา  ไม่ต้องเท หรือบีบเหมือนอันอื่น  ใช้ครั้งแรกเราไม่ค่อยชิน แต่นานไปก็โอเค
.
ภาคกลางวัน
.
.
ตอนเช้าเราก็ล้างหน้าแล้วลงตัว นิสิต วิบวับ เซรั่มก่อน  แป๊บเดียวก็ซึมแว้บไป  ล้วก็ลง  OLAY All Day Hydration  ต่อ ตัวนี้สารภาพว่าเราใช้มาตั้งแต่มันเปิดตัวใหม่ๆ (น่าจะเป็นสิบปีละมั้ง)  ใช้มาเรื่อยๆ  เพราะเราไม่แพ้  กลิ่นหอมหน่อยๆ ครีมบางเบาซึมง่าย ไม่หนักหน้า
.

OLAY ตัวนี้เน้นความชุ่มชื้นนะ  เพราะไม่มีส่วนประกอบของสารกันแดด หรือสารปรับผิวสว่างใสใดๆ  เอาจริงๆนางควรไปเป็นไนท์ครีม  แต่ด้วยความที่นางเป็นครีมเนื้อเบา เราเลยอนุญาตให้มาอยู่กลางวันได้ เพราะกลางวันบวกพวกรองพื้น เครื่องสำอาง  หน้าก็จะหนาๆนิดนึง
.
.
ต่อมา  สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับช่วงกลางวันคือกันแดด  เราใช้กันแดดเนื้อน้ำนมของ Biore UV Face milk  ขวดสีขาว 
.
.

ตัวนี้กันแดดดี เนื้อเบา เป็นเบสปรับสีผิวได้ไปในตัว  กันน้ำด้วยนะ ขอบอก ..... แต่เนื้อเหลวเป็นน้ำ ระวังตอนเท  เราทำเลอะเทอะบ่อยมากเพราะเป็นคนมือหนัก  Biore มีหลายสูตร แต่เราชอบสูตรนี้สุด  ทาแล้วหน้าจะลื่นๆ ไม่มัน  ความจริงออกวาวๆมุกๆนิดนึงด้วยซ้ำ
.
.
จากนั้นก็จะเป็นเรื่องการแต่งหน้าปกปิดความชั่วร้าย   ก่อนแต่งเราลงไพรม์เมอร์ ของ อ.ปิงปองตัวนี้  


(ได้มาหลอดแรกเพราะลงเรียนแต่งหน้ากับอาจารย์  ตั้งแต่ช่วง 1 ปีก่อนโควิดระบาด  ใช้ดีเลยซื้อใช้เรื่อยๆ)  ตัวนี้ปรับสีผิวได้ดีมาก  สีเหมาะกับคนเอเชีย  พวกรอยฝ้ารอยสิวที่ไม่หนักหนาเกินไปเอาอยู่
.
.
พอช่วงเย็นก็กลับเข้าวงจรเดิม คือล้างหน้าด้วย Rejukiss บำรุงด้วยนิสิตเซรั่ม และปิดด้วย Return ครีม
และนี่คือผลงานหลังผ่านไป ประมาณ 2 สัปดาห์  ทาแดมมมมมมมมมม


อันนี้คือถ่ายหลังจากอาบน้ำ ล้างหน้า  ใช้เวลาหลังจากเริ่มดูแลตัวเองประมาณ 2 อาทิตย์ค่ะ
.
.
เราหน้าแห้งเลยไม่ค่อยมีรอยสิว  แต่กระกับฝ้า  ลดลงอย่างเห็นได้ชัด  โดยเฉพาะฟิล์มฝ้า  แต่งหน้าเบาๆก็กลบได้แล้ว ไม่ต้องถึงกับโบก เพราะมันจางลง  แถมผิวหน้ายังเด้งๆเหมือนอิ่มน้ำ  แต่งหน้าติดทนกว่าเดิม (ปกติใกล้เที่ยงจะเยิ้มๆละ  แต่พอเริ่มดูแลตัวเอง สี่โมงหน้ายังเป๊ะ)
 .
.
สรุป  เราว่าเรามาถูกทางแล้ว  เพราะผลิตภัณฑ์แต่ละตัวเหมาะกับสภาพผิวหน้าเรา  ทั้งเป้าหมายเรื่องการบำรุง  ก็ทำได้ดี  เป้าหมายเรื่องป้องกันและลดเลือน ก็ทำได้ดี  หลายคนทักว่าเราหน้าใสขึ้น (ทักตอนหน้าสด)  ซึ่งอย่างที่บอกว่าน่าจะเพราะกระ ฝ้า เริ่มหายไป
เพื่อนเราบอกว่า  ที่ฝ้ากับกระจาง  พระเอกน่าจะเป็นนิสิตครีมกับตัวกันแดดของ Biore  
.
นิสิตครีมเพื่อนก็ใช้แล้วได้ผลเหมือนกัน (ในส่วนประกอบมีเกลือหิมาลายัน  ซึ่งเค้าเคลมว่าช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายด้วย  เลยทำให้หน้าขาวใสขึ้น)  เราก็คิดว่าน่าจะใช่เพราะบรรดาทั้งหมดที่เราใช้ ไม่มีตัวไหนที่มีสรรพคุณเรื่องลดกระลดฝ้า  
.
ส่วนกันแดดของ Biore ก็เข้าข่ายช่วยด้วยเหมือนกัน   แต่เอาจริงๆ Biore คุณสมบัติคือป้องกันสาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้า นั่นก็คือแสงแดด  พอทั้งบำรุง ลดรอย ปกป้องไปพร้อมๆกัน  ผลเลยอาจเห็นชัดขึ้น
 
ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด  ราคาชิ้นละไม่เกิน 350 บาท หาซื้อได้ตามร้านคอสเมติกส์ทั่วไป  บางอันเราสั่งจากแอพออนไลน์  (ยกเว้นนิสิตครีมที่เราไม่รู้ราคา เพราะตกมาจากเพื่อน)  
 .
.
สำหรับเรา  ถ้าให้แนะนำ  อยากให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวเรา  และเลือกตัวที่มีสารตกค้างน้อยที่สุด  เพราะถ้าเกิดอาการแพ้  หน้าก็จะพังไปพักใหญ่ๆ กว่าจะแก้ให้กลับคืนมาได้อาจหมดความมั่นใจไปก่อน  เอาจริงๆมันต้องลอง  แต่เวลาลองก็อย่าเล่นใหญ่โบกไปก่อน  ให้เทสทีละหน่อย  ยิ่งอายุเยอะ  กว่าจะกู้คืนมาได้  หืดแทบขึ้นคอ  ของเราจางลงบ้าง  ทำให้แต่งหน้าง่ายขึ้น ไม่ต้องโบกรองพื้นหนาเหมือนเดิม  
 .
.
ในกระทู้หน้าเราจะมาเขียนเรื่องการทานแบบ Low carb และการทำ IF นะคะ  ว่าลองผิดลองถูกมาขนาดไหน  เอาเป็นว่า เจ็บมาเยอะละกันค่ะ
 .
.
ขอบคุณทุกท่านที่ทนอ่านมาจนถึงตรงนี้นะคะ  ตอนนี้ขอยาดไปทำตัวสวยให้แฟนหวงต่อละค่า
ชื่อสินค้า:   NISIT SERUM
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่