[CR] เชียงรายไปแปปเดียว เด้วก็กลับ

โควิคเบาเราออกเที่ยว ไปเชียงรายกันค่ะ ทริปนี้ 3 วัน 2 คืน ออกเดินทางกันโดยรถตู้  การเดินทางที่ค่อนข้างใช้เวลาประมาณ 10-11 ชม.โดยประมาณ ทำไมไม่นั่งเครื่อง เพี้ยนขำหนักมากก็มันผิดหวังค่ะ ความจริงทริปนี้เราแพลนไว้ว่าจะออกเดินทางกันตั้งแต่เดือน ม.ค.64 แล้วแต่ช่วงนั้นมีการระบาดเกิดขึ้นอีก เราต้องถอยทับเลื่อนทุกสิ่งอย่างออกไป ตั๋วเปลี่ยนได้ไม่ได้ก็ทิ้ง สุดท้ายเรามานั่งคำนวณ แล้วพบว่าการเดินทางโดยรถตู้นั้นคุ้ม แม้ว่าอาจจะใช้เวลาในการเดินทางไปบ้าง  แต่ก็คิดสะว่า ไม่ต้องแออัดใคร ไม่ต้องเช่ารถขับเอง แล้วได้ชมธรรมชาติระหว่างทาง เพราะผ่านหลายจังหวัดมากกก......ไปกันเลยค่ะ เราออกเดินทางช่วงเวลา 19.00 น.ของเย็นวันพฤหัสบดี 11 มี.ค.-64  พี่โมคนขับรถแนะนำเราหลาย ๆเรื่อง ทั้งสถานที่เที่ยว ทั้งการเดินทาง ระหว่างทางที่จะไปเชียงราย  พี่เขาเต็มที่มากกกนี่พี่เพี้ยนเองจากประสบการณ์การขับรถที่ขั้นเทพ ..ดอยผาหมี ผาฮี้ อะ เราไปลุยกัน(เพราะเพื่อนที่เคยไปแอบกระซิบ เมิงรถตู้ไม่มีใครเขาขึ้นกันเหรอก ผาฮี้น่ะ ) อะ ไปลองกันครับ พี่โมกล่าว เพี้ยนชนแก้ว

แว็บบบมาถึงเชียงรายได้ประมาณ ตี 5 นิด ๆๆ ไวแท้นั่งเพลิน ๆ พี่โมก็พาเราแวะปั้ม ล้างหน้าแปรงฟัน ทำภาระกิจส่วนตัว .. ลืมบอกทริปนี้เราไปกัน 7 คน ครอบครัวเรา 5 คน และ พี่โม พี่แจง อีก 2 คน ไปต่อค่ะ ถึงเชียงรายเราแวะไปทานอาหารกัน เป็นต้มเลือดหมู ปริมาณเยอะมากกก ราคาถูกด้วย ชื่อร้านเจ๊สหรส เกาเหลาเลือดหมู จิงจูฉ่าย อยู่ตรงหอนาฬิกา แต่เราทานไม่หมด คือ มันเยอะมากค่ะ 
พาพันอิ่มมากอิ่มท้องเราก็พากันมาแวะที่ วัดเจ็ดยอด อยู่ใกล้กับหอนาฬิกาเลย

โดยรวมภายในวัดค่อนข้างสวยงามมาก เน้นสีส้มแดง และเงียบมาก ไม่มีคนเลยมีแค่กลุ่มเราที่เข้าไป มาทริปนี้เน้นพาแม่เที่ยววัดก็จะเยอะหน่อยนะคะเพี้ยนขำหนักมากทำใจวัยรุ่นค่ะ ไม่รอช้าพี่โมแกพาเราลุยต่อ ไปวัดร่องเสือเต้นกันค่ะ
รถวัยรุ่นถูกใจวัยคุณแม่มากคร้าาา .. เพี้ยนเย้

วัดร่องเสือเต้น วัดสีน้ำเงิน สวยคุมโทนมากค่ะ เราชอบนะ คือ สีนี้สีที่ให้พลัง มองแล้วดูมีพลัง เข้มแข็ง ว้าววมาก พื้นที่ก็ไม่เยอะมากค่ะ ภายในวัดมีของพื้นเมืองขาย ประมาณ 3-4 ร้าน และมีโซนที่ให้เราได้ทำบุญเล็ก ๆน้อย ๆ 

เชียงรายถ้าถามที่เที่ยวเราคงนึกถึงแค่ที่วัด ถ้าให้แวะคาเฟ่ เราคงจะไม่ไหว  คือ กินไม่ไหวค่ะ 5555 ลุยต่อค่ะ มุ่งหน้าไปบ้านดำกัน 

บ้านดำ แท่นแท๊นแทนนนน มีค่าเข้าน้าาา สูงวัย และเด็กฟรีค่ะ  มีทางผ่านฆ่าเชื้อก่อนเข้าชมศิลปะภายใน  ภายนอกร่มรื่น เหมือนเดินอยู่ในคุ้มเจ้าเมืองล้านนา สวย ๆๆ คุมโทนด้วยการตกแต่งสีดำ เกือบทั้งหมด ให้ความรู้สึกสบาย ๆๆ นะ สำหรับเรา บางคนบอกสีดำน่ากลัว ดูลึกลับ แต่เรากลับมองว่า ให้ความรู้สึกสงบและหนักแน่นดี  ชอบ ๆๆ  บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ และตัวตนของอาจารย์ถวัลย์ได้ดีเลยค่ะ 

ว้าวววว สุดกับหนังจระเข้ยักษ์ 2 ตัว คือ ตัวน่าจะใหญ่มากกกก ลูกชายตัวเล็กไปเลย เพี้ยนเพลีย

 

ทางลงไปห้องน้ำ ร่มรื่นเย็นสบาย ภายใน ภายนอก ยังมีคนทำงานกันตลอด สำหรับบ้านดำเราใช้เวลาเดินกันน่าจะประมาณ 20 น.ได้ ทำเวลานิดนึงค่ะ จะได้ไปต่อ สำหรับคนที่ชื่นชอบอาจารย์และงานศิลปะ ที่นี่มีคุณค่าทางใจ ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้มากกก
เพี้ยนปักหมุดไปต่อค่ะ พี่โมจะพา่เราขึ้นไปไร่ชาฉุยฟง กันต่อ 

เห็นทางเข้า ท่างขึ้นไร่ชา แล้วอะเมซิ่งมากกกก ว้าวววว คือ ชอบมากค่ะ ทุกอย่างเขียวขจี  กว้างไกลมาก ตื่นเต้น 5555 โอยยยย 

ไม่รอช้าค่ะ ใช้เวลาให้คุ้ม เครื่องดื่มต้องมา เค็กโรลชาเชียวต้องเข้า ไร้ที่ติ ละมุนมาก ต่อคิวสั่งจ่ายเงินรออาหารสักประมาณ 5 น.ได้ ไวมาก เหมาะมากเป็นคาเฟ่ที่ใส่ใจคนอยากเที่ยวแต่มีเวลาน้อย เพี้ยนเย้

ไม่รอช้าค่ะ หาพร็อพมาเพิ่มเติมสำหรับไร่ชา ตะกร้า 20 บาท / ใบ อะมา ๆๆๆๆ ใบชาก็แอ๊บ ๆๆเก็บไปค่ะ 55555 

อากาศดีนะ แต่ช่วงนี้เราต้องทำใจเรื่องของฝุ่น ก็ใส่หน้ากากป้องกันไป ป้องกันได้ทั้งฝุ่น ทั้งโควิด จุดไหนคนแออัดน้อยๆ เราก็มีเวลาได้ถอดแมสออกบ้าง ดูแลตัวเองกันไปค่ะ ช่วงนี้เราชินจนกลายเป็นเรื่องปกติแล้ว 

ไปจ้าาาา ไปดอยตุงกันต่อ เราคนเที่ยว แต่แอบเกรงใจพี่โม 5555555 ไปแต่ละที่ ถ้าขับมาเองถอดใจตั้งแต่สุโขทัยได้ โอยยยย ว่าไป เพี้ยนเบลอ

ทางขึ้นดอยตุง คือ โค้งค่อนข้างเยอะ แต่ธรรมชาติ เขาข้างทางสวย ร่มเย็นมาก มาถึงก็เงียบ ๆ คนไม่เยอะมาก สบาย ๆ 

บรรยากาศโดยรอบส่วนใหญ่ก็จะเป็นดอกไม้ เยอะแยะมากมาย สวยสดชื่นนะ สีสันสดใส ไม่มีเหี่ยวเฉาเลย 
พระตำหนักดอยตุงเปิดให้เข้าชมนะคะ แต่มีกฎข้อห้าม คือ ห้ามใส่รองเท้าเข้าไป ทางประชาสัมพันธ์ เขาจะมีถุงรองเท้าให้บริการ และมีเทปอัดบรรยายถึงจุดต่างๆภายในของพระตำหนัก ที่สำคัญห้ามถ่ายรูป หรือ หยิบจับ สิ่งของภายในเด็ดขาด

บรรยากาศภายในก็จะประมาณนี้ล่ะค่ะ ส่วนตัวเราเดินไม่ไหวจริง ๆๆ เพราะค่อนข้างพีค ด้วยเรื่องของอากาศและระยะทาง เราเลยจบดอยตุงเพียงเท่านี้
เพี้ยนสะอื้นไปต่อ ๆๆๆ เด้วเวลาหมด ตียาวขึ้นดอยไปค่ะ ดอยผาฮี้ ดอยผาหมี เรียกจ้าววว

เส้นทางอันหฤโหด ต้องยกตำแหน่งคนขับมือทองให้พี่เขา โอ้โห ทางจุดที่เราจอดคือ ผาฮี้ เราก็ไม่ได้ลงเดินไปดูนะคะ ได้แค่ถ่ายจากบนรถ เพราะมันดูเงียบแบบแปลก ๆ มีเมล็ดกาแฟตากอยู่ พี่โมเลยตัดสินใจขับออกมาตรงไปที่ดอยผาหมีเลย เพี้ยนกริบไปแวะทานอาหารกันที่สวนคุณปู่ ที่นี่เขาว่าถ้าไม่มาคือ มาไม่ถึง ผาหมี เพี้ยนขำหนักมาก

เส้นทางเดินเข้าไปที่สวนคุณปู่ ถามว่าโหดไหม คงไม่มั้ง แม่เราอายุ 62 ก็พอเดินได้ ชิล ๆๆนานางงในงง รึปล่าว 5555555

แต่พอมาถึงแล้ว คือ เดอะเบสนะ ที่สุดเออ หายเหนื่อยเลย พักแปป
ลมเย็น วิวดี หลักล้านมาก อาหาร น้ำ ขนมอร่อย ว้ายยยยไม่ผิดหวังอะ


รักเขานะ แต่เขาจะรักเรารึป่าววว ง่อวววว ... นั่งได้สักพักใหญ่ ๆ ก็ต้องเตรียมตัวเดินขึ้น ไปที่จุดจอดรถนี่ล่ะ จังหวะชีวิตล่ะ ขาลงมันยังลงได้เดินได้ชิล ๆ ขาขึ้นไมยากเย็นขนาดนี้ เปรียบเหมือนชีวิตคนจริง ๆ เดินมาสักพักจึงได้รู้และเข้าใจว่า มันเหนื่อยเสมอกว่าจะได้มาในสิ่งที่ต้องการ 

[img]https://f.ptcdn.info/866/072/000/qq1m
[
ชื่อสินค้า:   เชียงราย
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่