ขออนุญาตสอบถามนะคะ พอดีที่บ้านทำร้านอาหารมาประมาณ 10 กว่าปีได้ ทีนี้ยายที่อยู่ทางด้านหลังบ้านจ้างคนคนนึงมาดูแลค่ะ ซึ่งเขาค่อนข้างจะเป็นโรคประสาทนิดหน่อย แต่ก็อยู่ด้วยกันดีมาหลายปี ต่อมาเกิดเหตุการณ์คือแมวเขาโดนรถชน (ซึ่งไม่ใช่ที่บ้านนะคะ แมวเขาเดินไปที่ถนนใหญ่) ตอนนั้นก็ไม่ทราบว่าแมวใครเนื่องจากแถวนั้นมีแมวเยอะค่ะ แต่ทางร้านส้มตำข้างๆก็ทำการฝังให้เพราะไม่ทราบว่าแมวใคร จากนั้นประมาณ 3-4 วัน เขาก็มาถามว่าเห็นแมวเขาไหม แม่เราก็ตอบไปว่าไม่เห็นเลย โดยที่ไม่ได้นึกถึงเรื่องแมวโดนรถชนค่ะ จนเขามาถามอีก แม่เลยนึกขึ้นแล้วบอกเขาไปว่าเห็นทางร้านส้มตำบอกว่ามีแมวโดนรถชนไม่แน่ใจว่าใช่แมวเขาไหม จากนั้นเขาก็ไปคุ้ยๆหาแล้วก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย แล้วเขาก็มาพูดกับเราว่าเขาจะไปออกรายการโหนกระแสเรื่องแมวเขา เขาติดต่อหนุ่ม กรรชัยไปแล้วและจะแจ้งทางฝ่ายคุ้มครองสัตว์ เราก็ไม่ได้อะไรคะ ยิ้มๆไป แล้วเรื่องผ่านไปค่อนข้างหลายเดือนอยู่ค่ะ 2-3 เดือนได้ ทีนี้อยู่ดีๆแม่ก็โทรมาถามเบอร์แฟนเรา เพราะแฟนเราทำงานอยู่ที่สำนักงานเขต เราก็งงๆเลยถามไป สรุปคือมีเจ้าหน้าที่เขตมาตรวจร้านแม่เนื่องจากโดนร้องเรียนเรื่องกลิ่นอาหาร...
คือจะว่าเรามองโลกในแง่ร้ายก็ได้ แต่ตอนนั้นเรานึกถึงคนนั้นเลยว่าร้องเรียนชัวร์ เพราะตั้งแต่แมวเขาตาย แมวเราก็หายไปด้วย ตอนแรกๆเราก็นึกว่ามันอาจจะไปอยู่บ้านเขา เราก็ไม่เอะใจค่ะ แต่โดยปกติแมวเรามันจะมากินข้าวที่ร้านตลอด แต่มันไม่กลับมาเลยค่ะ เราก็พูดกับพ่อว่า ยายนั้นกินไปปะเนี่ย แค้นที่ไม่บอกเขาว่าแมวโดนรถชนตาย พ่อก็ยังบอกว่าไม่ใช่หรอก เรารักสัตว์จะทำลงได้ไง เราก็ยังมั่นใจอยู่ค่ะว่ายังไงเขาต้องเป็นคนเอาแมวเราไปแน่ๆ แต่แม่ไม่อยากมีปัญหาเลยบอกว่าไม่ต้องไปปรักปรำเขา กลับมาที่เรื่องร้องเรียนนะคะ เราก็โอเคมีคนร้องเรียนเราก็แก้ไขปัญหาค่ะ ทำปล่องควันให้ไปอีกทาง (ซึ่งขอเล่าว่าครัวอยู่มุมซ้ายสุดเลย ห่างจากบ้านเขาเยอะค่ะ) หลังจากนั้นเขตก็มาตรวจค่ะ ว่าโอเคทำการแก้ไขแล้วนะ จากนั้นเขตก็มาอีกมาตรวจร้องเรียนร้านส้มตำค่ะ เนื่องจากควันเยอะ ซึ่งร้านส้มตำอยู่ถัดไปจากร้านเรา ในนึกถึงรูป L บ้านเขากับร้านเราคือ _ ส่วนร้านส้มตำกับร้านเรา l ค่ะ ร้านส้มตำก็แก้ไขไป โอเคคิดว่าจะจบแต่ไม่จบค่ะ วันนั้นทางเขตปิดทำการ เขาแจ้งตำรวจให้มาร้านส้มตำ จากนั้นเมื่อวาน ผอ.เขต ผู้ช่วย ฝ่าย และเทศกิจก็แห่มาร้านเราค่ะ แจ้งว่ามีร้องเรียนแล้วทางฝั่งร้องเรียนแจ้งว่าร้านแม่เราที่ไม่โดนอะไรเลยเพราะพวกเทศกิจมากินกันเสียงดัง (ว่าแม่เรามีเส้น) แม่เราก็บอกว่าไม่มี ไม่มีเส้น ไม่มีอะไรเลยทั้งนั้น เทศกิจก็ไม่เคยมากิน เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าคนนั้นบอกว่าถ้าเขตทำอะไรร้านแม่เราไม่ได้ ก็จะแจ้งสิ่งแวดล้อม แจ้งกระทรวง แจ้งนายก พวกเขาก็เลยต้องแห่กันมาดูว่าเรื่องเป็นยังไง ซึ่งเจ้าหน้าก็มาตรวจสอบแล้วแม่เราก็ทำถูกหมด ไม่มีอะไร ทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าถ้าเขายังแจ้งไม่หยุเดแล้วเรื่องถึงสิ่งแวดล้อมเรื่องมันจะยุ่งยากมากและมีสิทธิ์ที่จะโดนปิด งงมาก เขาบอกต่อว่าคนนั้นผอ.ให้แม่ลองไปพูดคุยดู แม่เราก็ไปคุยแล้วก็เล่าเรื่องต้นเหตุและข้อสงสัย ผอ.พยักหน้าและเข้าใจแต่ก็พูดได้แค่ว่าอย่าไปทะเลาะกันนะ โดยไม่มีการให้คำแนะนำใดๆ สิ่งที่อยากทราบคือ เราต้องโดนเขาร้องเรียนเท็จและแกล้งแบบนี้ไปเรื่อยๆหรอคะ มันไม่มีมาตรการอะไรเลยใช่ไหม งงมาก คือเจ้าหน้าที่ก็ทราบว่าเขาสติไม่ค่อยดีและเราก็ทำถูกต้องหมด มันสมควรไหมหากร้านเราต้องโดนปิดเพราะมีคนสติไม่สมประกอบร้องเรียนเท็จ แม่กับพ่อเราอยากพูดคุย แต่สำหรับเราไม่ค่ะ มันเป็นเรื่องไม่ถูกต้องและเขาไม่สมควรที่จะได้ใจในสิ่งที่เขาทำ อยากทราบว่ามีวิธีไหนสามารถดำเนินการกับคนแบบนี้ได้บ้างคะ
โดนเพื่อนบ้านร้องเรียนและร้องเรียนเท็จ
คือจะว่าเรามองโลกในแง่ร้ายก็ได้ แต่ตอนนั้นเรานึกถึงคนนั้นเลยว่าร้องเรียนชัวร์ เพราะตั้งแต่แมวเขาตาย แมวเราก็หายไปด้วย ตอนแรกๆเราก็นึกว่ามันอาจจะไปอยู่บ้านเขา เราก็ไม่เอะใจค่ะ แต่โดยปกติแมวเรามันจะมากินข้าวที่ร้านตลอด แต่มันไม่กลับมาเลยค่ะ เราก็พูดกับพ่อว่า ยายนั้นกินไปปะเนี่ย แค้นที่ไม่บอกเขาว่าแมวโดนรถชนตาย พ่อก็ยังบอกว่าไม่ใช่หรอก เรารักสัตว์จะทำลงได้ไง เราก็ยังมั่นใจอยู่ค่ะว่ายังไงเขาต้องเป็นคนเอาแมวเราไปแน่ๆ แต่แม่ไม่อยากมีปัญหาเลยบอกว่าไม่ต้องไปปรักปรำเขา กลับมาที่เรื่องร้องเรียนนะคะ เราก็โอเคมีคนร้องเรียนเราก็แก้ไขปัญหาค่ะ ทำปล่องควันให้ไปอีกทาง (ซึ่งขอเล่าว่าครัวอยู่มุมซ้ายสุดเลย ห่างจากบ้านเขาเยอะค่ะ) หลังจากนั้นเขตก็มาตรวจค่ะ ว่าโอเคทำการแก้ไขแล้วนะ จากนั้นเขตก็มาอีกมาตรวจร้องเรียนร้านส้มตำค่ะ เนื่องจากควันเยอะ ซึ่งร้านส้มตำอยู่ถัดไปจากร้านเรา ในนึกถึงรูป L บ้านเขากับร้านเราคือ _ ส่วนร้านส้มตำกับร้านเรา l ค่ะ ร้านส้มตำก็แก้ไขไป โอเคคิดว่าจะจบแต่ไม่จบค่ะ วันนั้นทางเขตปิดทำการ เขาแจ้งตำรวจให้มาร้านส้มตำ จากนั้นเมื่อวาน ผอ.เขต ผู้ช่วย ฝ่าย และเทศกิจก็แห่มาร้านเราค่ะ แจ้งว่ามีร้องเรียนแล้วทางฝั่งร้องเรียนแจ้งว่าร้านแม่เราที่ไม่โดนอะไรเลยเพราะพวกเทศกิจมากินกันเสียงดัง (ว่าแม่เรามีเส้น) แม่เราก็บอกว่าไม่มี ไม่มีเส้น ไม่มีอะไรเลยทั้งนั้น เทศกิจก็ไม่เคยมากิน เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าคนนั้นบอกว่าถ้าเขตทำอะไรร้านแม่เราไม่ได้ ก็จะแจ้งสิ่งแวดล้อม แจ้งกระทรวง แจ้งนายก พวกเขาก็เลยต้องแห่กันมาดูว่าเรื่องเป็นยังไง ซึ่งเจ้าหน้าก็มาตรวจสอบแล้วแม่เราก็ทำถูกหมด ไม่มีอะไร ทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าถ้าเขายังแจ้งไม่หยุเดแล้วเรื่องถึงสิ่งแวดล้อมเรื่องมันจะยุ่งยากมากและมีสิทธิ์ที่จะโดนปิด งงมาก เขาบอกต่อว่าคนนั้นผอ.ให้แม่ลองไปพูดคุยดู แม่เราก็ไปคุยแล้วก็เล่าเรื่องต้นเหตุและข้อสงสัย ผอ.พยักหน้าและเข้าใจแต่ก็พูดได้แค่ว่าอย่าไปทะเลาะกันนะ โดยไม่มีการให้คำแนะนำใดๆ สิ่งที่อยากทราบคือ เราต้องโดนเขาร้องเรียนเท็จและแกล้งแบบนี้ไปเรื่อยๆหรอคะ มันไม่มีมาตรการอะไรเลยใช่ไหม งงมาก คือเจ้าหน้าที่ก็ทราบว่าเขาสติไม่ค่อยดีและเราก็ทำถูกต้องหมด มันสมควรไหมหากร้านเราต้องโดนปิดเพราะมีคนสติไม่สมประกอบร้องเรียนเท็จ แม่กับพ่อเราอยากพูดคุย แต่สำหรับเราไม่ค่ะ มันเป็นเรื่องไม่ถูกต้องและเขาไม่สมควรที่จะได้ใจในสิ่งที่เขาทำ อยากทราบว่ามีวิธีไหนสามารถดำเนินการกับคนแบบนี้ได้บ้างคะ