ทักษิณ คัมแบ๊กคลับเฮาส์ พรุ่งนี้ 2 ทุ่ม เตรียมโชว์ประสบการณ์ ศิลปะเจรจากับผู้นำต่างชาติ
https://www.matichon.co.th/politics/news_2623959
ทักษิณ คัมแบ๊กคลับเฮาส์ พรุ่งนี้ 2 ทุ่ม เตรียมโชว์ประสบการณ์ ศิลปะเจรจากับผู้นำต่างชาติ
ใครที่รอฟังทรรศนะจากอดีตนายกรัฐมนตรี
ทักษิณ ชินวัตร ในประเด็นศิลปะการเจรจาของผู้นำ พรุ่งนี้จึงพลาดไม่ได้
กลุ่ม CARE คิดเคลื่อนไทย เปิดเผยเมื่อวันที่ 15 มีนาคมว่า
การเจรจาเป็นศิลปะอย่างหนึ่งของผู้นำ คุณสมบัติสำคัญของผู้นำที่ประสบความสำเร็จคือต้องมียุทธศาสตร์ในการเจรจา เพื่อผลประโยชน์ของชาติและประชาชน หากขาดศิลปะด้านนี้ไปย่อมทำให้ชาติและประชาชนเสียผลประโยชน์ได้
“พี่โทนี่” คนเดิมจะขอมาเล่าถึงประสบการณ์ที่เคยใช้ศิลปะในการเจรจากับผู้นำต่างชาติ
พบกันวันอังคารที่ 16 มีนาคมนี้ เวลา 2 ทุ่มเป็นต้นไป ที่ CARE ClubHouse & Facebook live : CARE คิดเคลื่อนไทย
แล้วพี่จะบอกให้รู้ว่า “ผู้นำที่เจ๋งๆ ควรทำอย่างไร”
https://www.facebook.com/careorth/posts/283401526744878
“เพื่อไทย” สวน พลังประชารัฐ เลิกหลอกตัวเอง เศรษฐกิจแย่ เพราะไร้ฝีมือ
https://www.thairath.co.th/news/politic/2050293
“เพื่อไทย” สวน พลังประชารัฐ เลิกหลอกตัวเอง เศรษฐกิจแย่ เพราะไร้ฝีมือมาตลอด ชี้ โม้แต่เรื่องแจกเงิน แต่นโยบายเคยหาเสียงกลับไม่เห็นทำเลย เย้ย พา "บิ๊กตู่" มาฉีดวัคซีนกันโควิด-19 ให้ได้ก่อน
วันที่ 15 มี.ค. นางสาว
ตรีชฎา ศรีธาดา คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย แนะ ส.ส.พลังประชารัฐ ให้เลิกนั่งอ่านข่าว หันมามองและสัมผัสโลกความเป็นจริง เศรษฐกิจไทยไม่ได้ดำดิ่ง เพราะเศรษฐกิจโลก แต่เพราะทีมเศรษฐกิจไม่มีประสิทธิภาพ นายกฯ ยังไม่ฉีดวัคซีน หันไปมองเพื่อนบ้าน เวียดนามเศรษฐกิจพุ่งปี 59-63 จีดีพีสูงที่สุดในโลกแซงหน้าไทย ไม่เห็นฝุ่น ซัดกลับ 2 ปีที่ผ่านมา ขายฝันจนประชาชนหันมาทวงนโยบายที่หาเสียงไว้จะปล่อยให้ฝันค้างไปถึงไหน
“
เริ่มจากประเด็นที่คณะทำงานเศรษฐกิจออกมาวิพากษ์การทำงานและการพูดของ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ออกมาระบุว่า เศรษฐกิจปี 2563 ติดลบถึง 6.1% ต่ำสุดในรอบ 22 ปี คือ ความสำเร็จ และยังบอกว่า ปีนี้จะเศรษฐกิจจะฟื้น 4% ซึ่งขัดกับความเป็นไปได้จริง โดยสิ่งที่ทำได้ได้จริงควรเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจที่มีฝีมือมาแก้ปัญหา ก่อนประเทศไทยจะล้มละลายทางเศรษฐกิจ แต่แทนที่รัฐบาลจะคิดเอาไปแก้ปัญหา แต่ น.ส.พิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กลับออกมาตอบโต้โดยอ้างว่า เศรษฐกิจประเทศไทยจีดีพีติดลบตามเศรษฐกิจโลก และยังย้ำว่า เศรษฐกิจไทยเสียหายน้อยกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ ขณะที่หากฉายภาพไปที่ประเทศเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงอย่าง เวียดนาม ซึ่งมีประชากรถึง เกือบ 96 ล้านคน และแม้ว่าปี 2563 เศรษฐกิจทั่วโลก จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่เวียดนามเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลก ที่มีการเติบโตของ GDP ถึง 2.91% โดยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสได้ตั้งแต่ช่วงแรก GDP เวียดนามในช่วงปี 2559-2563 เฉลี่ยอยู่ที่ 5.9% ซึ่งเป็นการเติบโตที่สูงที่สุดในโลกส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจของเวียดนามในปี 2564 สดใส โดยองค์กรการเงินระหว่างประเทศ อาทิ World Bank, International Monetary Fund, Asian Development Bank คาดการณ์ไว้ว่า GDP จะเติบโตอยู่ที่ 6.5-7.0% หมดข้ออ้างของทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลนี้เสียที
“คนพลังประชารัฐ ยังพยายามจะอ้างเรื่องนโยบายของรัฐบาลที่นำมากระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งโครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน และพบว่า โครงการที่รัฐบาลภูมิใจหลายโครงการมีการทุจริตระหว่างทางมหาศาลและถูกขุดคุ้ยสู่สาธารณะ จนไม่รู้ว่าเงินไปตกที่กระเป๋าใครมากกว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่าลืมว่ารัฐบาลนี้และรัฐบาลที่แล้วที่มีนายกรัฐมนตรีคนเดียวกัน พยายามจะกู้เศรษฐกิจให้กลับคืนมา ต้องผ่านการเปลี่ยนมือเศรษฐกิจไปกี่คน โดยมีประชาชนเป็นหนูทดลองมานานถึง 7 ปี และล่าสุด เมื่อวานเป็นวันครบรอบ 2 ปี กับนโยบายจากพรรคพลังประชารัฐ ที่ใช้หาเสียง เมื่อปี 2562 กระทั่งโลกโซเชียลมาทวงถามว่า เป็นรัฐบาลจนลืมหรือเปล่า เกิดคำถามว่า มีอะไรที่พรรคพลังประชารัฐทำตามนโยบายได้บ้าง เช่น การดูแลข้าวเจ้า 12,000 บาทขึ้นไปต่อตัน, ข้าวหอมมะลิ 18,000 บาทขึ้นไปต่อตัน, อ้อย 1,000 บาทขึ้นไปต่อตัน, ยางพารา 65 บาทขึ้นไป/กิโลกรัม, มันสำปะหลัง 3 บาทขึ้นไปต่อกิโลกรัม และปาล์ม 5 บาท/กิโลกรัม การดันค่าแรงขั้นต่ำให้เป็น 400-425 บาท ปรับเงินเดือนระดับปริญญาตรีเป็น 20,000 บาท และระดับอาชีวศึกษาเป็น 18,000 บาท เด็กจบใหม่ เสนอยกเว้นภาษี 5 ปี เสนอยกเว้นภาษี พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ 2 ปี ลดภาษี 10% บุคคลธรรมดา เมื่อไหร่ เรื่องเหล่านี้ต่างหาก ที่คนของพลังประชารัฐ ต้องไปสะกิด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สะเทือนไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี อย่าขายฝันจนลืมสัญญาตอนหาเสียง ย้อนสมัยนายกฯ ยิ่งลักษณ์หาเสียง 49 วัน เอาชนะพรรคประชาธิปัตย์ ถล่มทลาย ได้เป็นรัฐบาล ปีแรกทำตามนโยบายทันที ทั้งนโยบายบ้านหลังแรก รถยนต์คันแรก เงินเดือนปริญญาตรีขั้นต่ำ 15,000 บาท ค่าแรง 300 บาท เป็นต้น
“และวันนี้ไม่ต้องคิดเรื่องอื่น เอาเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 ก่อน เมื่อไหร่นายกฯ จะฉีด ตอนไปรับวัคซีนเห็นไปถ่ายรูปกันด้วยความภูมิใจถ่ายรูปใหญ่โตว่าวัคซีนมาถึงเมืองไทยแล้ว พอจะฉีดจริงๆ เลื่อนฉีดมา 2 ครั้งแล้ว จนมีคนเข้าใจว่า ท่านนายกฯ ป่วยเป็นโรคปอดกับโรคตา เลยไม่ยอมฉีด ขนาดโฆษกรัฐบาลการันตีว่าไม่เลื่อน ขนาดรัฐมนตรีไปนั่งรอยังเป็นโรคเลื่อนได้ สถานการณ์แบบนี้เศรษฐกิจประเทศไทย ไม่มีทางดีได้ ถ้าวันนี้ยังมีนายกรัฐมนตรีที่ ชื่อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา และเป็นนายกฯ ที่ยังไม่ยอมฉีดวัคซีน แต่ฉีดแอลกอฮอล์ใส่นักข่าว แถมยังมีทีมเศรษฐกิจที่ไม่มืออาชีพ ยังมีการปรับครม.ที่เอื้อประโยชน์กัน โดยไม่สนใจประชาชน ยังมีรัฐธรรมนูญที่มีปัญหาและยังแก้ไขไม่ได้ และประชาชนยังไม่ได้ฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง ตราบนั้นจำนวนประชากรในประเทศไทยจะลดลงเรื่อยๆ เพราะคงทยอยตายเพราะพิษเศรษฐกิจทารุณกรรม” นางสาว
ตรีชฎา กล่าว...
JJNY : ทักษิณคัมแบ๊กคลับเฮาส์พรุ่งนี้2ทุ่ม│พท.สวนพปชร.เลิกหลอกตัวเอง│อัยการธนกฤตชี้ทางออกลงมติรธน.วาระ3│อ.นิด้าเตือนรบ.
https://www.matichon.co.th/politics/news_2623959
ใครที่รอฟังทรรศนะจากอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ในประเด็นศิลปะการเจรจาของผู้นำ พรุ่งนี้จึงพลาดไม่ได้
กลุ่ม CARE คิดเคลื่อนไทย เปิดเผยเมื่อวันที่ 15 มีนาคมว่า
การเจรจาเป็นศิลปะอย่างหนึ่งของผู้นำ คุณสมบัติสำคัญของผู้นำที่ประสบความสำเร็จคือต้องมียุทธศาสตร์ในการเจรจา เพื่อผลประโยชน์ของชาติและประชาชน หากขาดศิลปะด้านนี้ไปย่อมทำให้ชาติและประชาชนเสียผลประโยชน์ได้
“พี่โทนี่” คนเดิมจะขอมาเล่าถึงประสบการณ์ที่เคยใช้ศิลปะในการเจรจากับผู้นำต่างชาติ
พบกันวันอังคารที่ 16 มีนาคมนี้ เวลา 2 ทุ่มเป็นต้นไป ที่ CARE ClubHouse & Facebook live : CARE คิดเคลื่อนไทย
แล้วพี่จะบอกให้รู้ว่า “ผู้นำที่เจ๋งๆ ควรทำอย่างไร”
https://www.facebook.com/careorth/posts/283401526744878
“เพื่อไทย” สวน พลังประชารัฐ เลิกหลอกตัวเอง เศรษฐกิจแย่ เพราะไร้ฝีมือ
https://www.thairath.co.th/news/politic/2050293
“เพื่อไทย” สวน พลังประชารัฐ เลิกหลอกตัวเอง เศรษฐกิจแย่ เพราะไร้ฝีมือมาตลอด ชี้ โม้แต่เรื่องแจกเงิน แต่นโยบายเคยหาเสียงกลับไม่เห็นทำเลย เย้ย พา "บิ๊กตู่" มาฉีดวัคซีนกันโควิด-19 ให้ได้ก่อน
วันที่ 15 มี.ค. นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย แนะ ส.ส.พลังประชารัฐ ให้เลิกนั่งอ่านข่าว หันมามองและสัมผัสโลกความเป็นจริง เศรษฐกิจไทยไม่ได้ดำดิ่ง เพราะเศรษฐกิจโลก แต่เพราะทีมเศรษฐกิจไม่มีประสิทธิภาพ นายกฯ ยังไม่ฉีดวัคซีน หันไปมองเพื่อนบ้าน เวียดนามเศรษฐกิจพุ่งปี 59-63 จีดีพีสูงที่สุดในโลกแซงหน้าไทย ไม่เห็นฝุ่น ซัดกลับ 2 ปีที่ผ่านมา ขายฝันจนประชาชนหันมาทวงนโยบายที่หาเสียงไว้จะปล่อยให้ฝันค้างไปถึงไหน
“เริ่มจากประเด็นที่คณะทำงานเศรษฐกิจออกมาวิพากษ์การทำงานและการพูดของ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ออกมาระบุว่า เศรษฐกิจปี 2563 ติดลบถึง 6.1% ต่ำสุดในรอบ 22 ปี คือ ความสำเร็จ และยังบอกว่า ปีนี้จะเศรษฐกิจจะฟื้น 4% ซึ่งขัดกับความเป็นไปได้จริง โดยสิ่งที่ทำได้ได้จริงควรเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจที่มีฝีมือมาแก้ปัญหา ก่อนประเทศไทยจะล้มละลายทางเศรษฐกิจ แต่แทนที่รัฐบาลจะคิดเอาไปแก้ปัญหา แต่ น.ส.พิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กลับออกมาตอบโต้โดยอ้างว่า เศรษฐกิจประเทศไทยจีดีพีติดลบตามเศรษฐกิจโลก และยังย้ำว่า เศรษฐกิจไทยเสียหายน้อยกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ ขณะที่หากฉายภาพไปที่ประเทศเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงอย่าง เวียดนาม ซึ่งมีประชากรถึง เกือบ 96 ล้านคน และแม้ว่าปี 2563 เศรษฐกิจทั่วโลก จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่เวียดนามเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลก ที่มีการเติบโตของ GDP ถึง 2.91% โดยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสได้ตั้งแต่ช่วงแรก GDP เวียดนามในช่วงปี 2559-2563 เฉลี่ยอยู่ที่ 5.9% ซึ่งเป็นการเติบโตที่สูงที่สุดในโลกส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจของเวียดนามในปี 2564 สดใส โดยองค์กรการเงินระหว่างประเทศ อาทิ World Bank, International Monetary Fund, Asian Development Bank คาดการณ์ไว้ว่า GDP จะเติบโตอยู่ที่ 6.5-7.0% หมดข้ออ้างของทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลนี้เสียที
“คนพลังประชารัฐ ยังพยายามจะอ้างเรื่องนโยบายของรัฐบาลที่นำมากระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งโครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน และพบว่า โครงการที่รัฐบาลภูมิใจหลายโครงการมีการทุจริตระหว่างทางมหาศาลและถูกขุดคุ้ยสู่สาธารณะ จนไม่รู้ว่าเงินไปตกที่กระเป๋าใครมากกว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่าลืมว่ารัฐบาลนี้และรัฐบาลที่แล้วที่มีนายกรัฐมนตรีคนเดียวกัน พยายามจะกู้เศรษฐกิจให้กลับคืนมา ต้องผ่านการเปลี่ยนมือเศรษฐกิจไปกี่คน โดยมีประชาชนเป็นหนูทดลองมานานถึง 7 ปี และล่าสุด เมื่อวานเป็นวันครบรอบ 2 ปี กับนโยบายจากพรรคพลังประชารัฐ ที่ใช้หาเสียง เมื่อปี 2562 กระทั่งโลกโซเชียลมาทวงถามว่า เป็นรัฐบาลจนลืมหรือเปล่า เกิดคำถามว่า มีอะไรที่พรรคพลังประชารัฐทำตามนโยบายได้บ้าง เช่น การดูแลข้าวเจ้า 12,000 บาทขึ้นไปต่อตัน, ข้าวหอมมะลิ 18,000 บาทขึ้นไปต่อตัน, อ้อย 1,000 บาทขึ้นไปต่อตัน, ยางพารา 65 บาทขึ้นไป/กิโลกรัม, มันสำปะหลัง 3 บาทขึ้นไปต่อกิโลกรัม และปาล์ม 5 บาท/กิโลกรัม การดันค่าแรงขั้นต่ำให้เป็น 400-425 บาท ปรับเงินเดือนระดับปริญญาตรีเป็น 20,000 บาท และระดับอาชีวศึกษาเป็น 18,000 บาท เด็กจบใหม่ เสนอยกเว้นภาษี 5 ปี เสนอยกเว้นภาษี พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ 2 ปี ลดภาษี 10% บุคคลธรรมดา เมื่อไหร่ เรื่องเหล่านี้ต่างหาก ที่คนของพลังประชารัฐ ต้องไปสะกิด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สะเทือนไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี อย่าขายฝันจนลืมสัญญาตอนหาเสียง ย้อนสมัยนายกฯ ยิ่งลักษณ์หาเสียง 49 วัน เอาชนะพรรคประชาธิปัตย์ ถล่มทลาย ได้เป็นรัฐบาล ปีแรกทำตามนโยบายทันที ทั้งนโยบายบ้านหลังแรก รถยนต์คันแรก เงินเดือนปริญญาตรีขั้นต่ำ 15,000 บาท ค่าแรง 300 บาท เป็นต้น
“และวันนี้ไม่ต้องคิดเรื่องอื่น เอาเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 ก่อน เมื่อไหร่นายกฯ จะฉีด ตอนไปรับวัคซีนเห็นไปถ่ายรูปกันด้วยความภูมิใจถ่ายรูปใหญ่โตว่าวัคซีนมาถึงเมืองไทยแล้ว พอจะฉีดจริงๆ เลื่อนฉีดมา 2 ครั้งแล้ว จนมีคนเข้าใจว่า ท่านนายกฯ ป่วยเป็นโรคปอดกับโรคตา เลยไม่ยอมฉีด ขนาดโฆษกรัฐบาลการันตีว่าไม่เลื่อน ขนาดรัฐมนตรีไปนั่งรอยังเป็นโรคเลื่อนได้ สถานการณ์แบบนี้เศรษฐกิจประเทศไทย ไม่มีทางดีได้ ถ้าวันนี้ยังมีนายกรัฐมนตรีที่ ชื่อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา และเป็นนายกฯ ที่ยังไม่ยอมฉีดวัคซีน แต่ฉีดแอลกอฮอล์ใส่นักข่าว แถมยังมีทีมเศรษฐกิจที่ไม่มืออาชีพ ยังมีการปรับครม.ที่เอื้อประโยชน์กัน โดยไม่สนใจประชาชน ยังมีรัฐธรรมนูญที่มีปัญหาและยังแก้ไขไม่ได้ และประชาชนยังไม่ได้ฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง ตราบนั้นจำนวนประชากรในประเทศไทยจะลดลงเรื่อยๆ เพราะคงทยอยตายเพราะพิษเศรษฐกิจทารุณกรรม” นางสาวตรีชฎา กล่าว...