สามีเลี้ยงได้ กับ สามีหาอาชีพให้ภรรยาทำเพื่อเพิ่มรายได้อันไหนดีกว่ากัน

สวัสดีค่ะ เรากับสามีอยู่กินกันมา 8 ปี ตอนแรกเราทำธุรกิจค้าขายช่วยกัน แต่พอเจอพิษเศรษฐกิจ สามีก็เลยออกมารับจ้างขับรถส่งของ ตอนแรกต่างคน ต่างทำงาน พอผ่านไปสักระยะ สามีก็ให้หยุด แล้วมาวิ่งรถส่งของด้วยกัน(โดยซื้อเป็นรถตัวเอง) ตอนแรกลำบากมาก อดทนกัดฟันสู้มาด้วยกัน จนหมดหนี้ก้อนแรก แล้วก็ขยับขยายใหญ่ขึ้น (ซึ่งบอกก่อนนะคะว่าเราขับรถไม่เป็น) พอขยับขยายใหญ่ขึ้น ภาระ ค่าใช้จ่าย มีลูกอีก 2 คน สามีเขาก็ยังให้เราไปรถกับเขาเหมือนเดิม พอเวลาผ่านไปรายจ่ายมันเยอะขึ้น เราคิดว่า การที่เรามารถกับสามีมันไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย ซึ่งบางครั้งเราให้เขามาคนเดียวเขาก็ทำได้ แต่สักพัก เขาก็จะไปรับเรามาด้วย เรามองว่ามันไม่เกิดประโยชน์อะไร แทนที่เราจะเอาเวลาตรงนี้ไปหารายได้ ที่พอจะได้เงินมาช่วยอีกทางดีกว่า แต่สามีเขามองว่า เขาเลี้ยงเราได้ แต่ขอแค่ให้ประหยัด ส่วนลูกเราให้ยายเลี้ยง ต้องบอกเลยว่า ส่งเงินให้ทุกเดือนแบบประหยัด เคยคุยกับสามีขอเป็นรายเดือนให้ยาย เดือนละ 8000.- (รวมนม- ขนม-ไปรร.) เขาบอกว่าเยอะไปให้ใช้แบบประหยัดๆ ตอนนี้ภาระค่าใช้จ่ายสูงขึ้น รายรับที่หาได้ มีพอแค่ค่ารายจ่าย ไม่มีเหลือเก็บ เราเคยขอสามี ขายน้ำ เขาบอกว่า จะมานั่งเก็บเงินสิบอยู่ทำไมให้ลำบาก มารถส่งของกับเขาสบายกว่า เราไม่ได้มองว่า เงินมันน้อยนะ แต่เรามองว่า อย่างน้อยเราก็มีรายได้แบ่งเบาภาระเขา และเราได้มีเวลาอยู่กับลูกๆ  ไม่ใช่ไม่ยอมไปทำนะ แต่ทุกครั้งที่คุยกัน มันจะจบที่ทะเลาะกัน ไม่เข้าใจกันตลอด เขาบอกว่าเรา อยากหนีเอาตัวรอด ไม่ยอมไปร่วมทุกข์กับเขา ปล่อยให้เขาไปเจอปัญหาคนเดียว ถ้าเกิดเขาเป็นไรไกลบ้านไปก็ไม่มีคนดูแล และอื่นๆ 
ตอนนี้ เราอยากเปิดร้านเสริมสวยมากๆ เพราะ ตอนที่เขาป่วยคือเราต้องเอาเงินที่เก็บไว้ออกมาใช้ เนื่องจากมีรายได้แค่ทางเดียว แต่เขาไม่เห็นด้วย เขาบอกให้เรารอไปก่อน อีก 4-5 ปี ถ้าเขาประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานเขา เขาจะเปิดร้านให้ 
เพื่อนๆมีความคิดเห็นยังไงบ้างคะ เราควรคุยกับเขายังไงดี การเปิดร้านต้องใช้ทุน ซึ่งเราไม่มีทุน เงินเขาเป็นคนเก็บ เราไม่อยากมีปัญหา อยากพูดให้เขาเข้าใจว่าเราต้องการหารายได้ช่วย ไม่ใช่เราหนีเอาตัวรอด เรายังอยากให้ครอบครัวเป็นครอบครัว รบกวนทีนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่