[SR] บันทึกการเดินทางเหมืองโชน | ไปเองก็ได้


บันทึกการเดินทางเหมืองโชน | ไปเองก็ได้

บันทึกการเดินทางเหมืองโชน 5 วัน 4 คืน
การเดินป่าเส้นทางเหมืองโบราณและความสมบรูณ์ของธรรมชาติของป่าใต้ ซึ่งการเดินจะเริ่มจากระนองไปออกที่สุราษฎร์ธานี หรือเขื่อนเชี่ยวหลานนั้นเอง ป่าไทยยังมีความอุดมสมบรูณ์ไม่แพ้ที่ไหนในโลกเลย

การเดินทาง
เริ่มต้นที่ กทม - ระนอง โดยรถบัส จากนั้นก็ไปที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา เพื่อพักและเตรียมตัวก่อนออกเดินทาง 
เขตรักษาพันธุ์ - หน่วยพิทักษ์ป่ากำพวน
เริ่มเดินจากหน่วยพิทักษ์ป่า - ออกที่แพ (5 วัน 4 คืน)
ออกจากแพ - เขื่อนเชี่ยวหลาย - กลับบ้าน
การเดินทางคร่าวๆ จะเป็นประมาณนี้

เรื่องอาหาร ต้องเตรียมเองของสมาชิกทั้งหมด 5 วัน 4 คืน ไม่ขอลงรายละเอียดนะเพราะพี่ในทริปเป็นคนดูแลในส่วนนี้
เรื่องการเตรียมตัว: ควรเตรียมร่างกายและมีประสบการณ์เดินป่ามาบ้างแล้ว ซึ่งอุปกรณ์ต่างๆควรที่จะพร้อมและครบจะทำให้ทำอะไรได้สะดวกขึ้น, ควรใส่เสื้อผ้าป้องกันมิดชิด, การเข้ามาเดินป่าที่นี่ต้องขออนุญาติจากทางเขตรักษาพันธุ์ก่อนครับ ไม่สามารถเข้ามาได้เอง!
การนอน: นอนเปลจะสะดวกที่สุด เพราะว่าพื้นที่ค่อนข้างน้อย แต่ในบ้างจุดก็สามารถกางเต็นท์ได้แต่ต้องหาที่สักหน่อย
มีทากเกือบจะตลอดทาง, 
การเดิน: ในแต่ละวัน เดินประมาณ 8.00-9.00 เช้า ถึงแคมป์ประมาณ 17.00-18.00 เกือบทุกวัน, มีเดินผ่านลำธารและลุยน้ำ ปีน ไต่ ลอด เลาะ เกือบทุกอย่าง 

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


เริ่มการเดินทางที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าคลองนาคา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เราได้ขออนุญาติเข้ามาในครั้งนี้ โดยเขตรักษาพันธุ์มีพื้นที่ดูแลในจ.ระนอง และพื้นที่ค่อนข้างที่จะใหญ่มาก ที่นี่จึงมีหลายหน่วยพิทักษ์ป่าที่คอยรักษาและดูแลผืนป่าแห่งภาคใต้แห่งนี้ ซึ่งที่นี่ถือเป็นป่าที่มีความอุมดมสมบรูณ์มาก ทำให้มีหลายๆสิ่งที่ยังคงเดิมและไม่มีการเข้าไปบุกรุกหรือทำอะไรอย่างอื่น

ก่อนออกเดินทางไปหน่วยพิทักษ์ป่ากำพวน โดยเราอยู่ที่นี่เพื่อจัดเตรียมของและอาหารของเราก่อนออกเดินทาง ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากตลอด 5 วันของเราที่เราจะไป ของเกินคงดีกว่าของขาดละเนอะทุกคน แต่ทั้งนี้ก็ต้องคำนวณเรื่องน้ำหนักกันดีๆ เพราะเราต้องแบกขึ้นเป้ของเราและเดินตลอด 5 วัน โดยอาหารเราก็ช่วยกันแบกเท่าๆกัน เพื่อช่วยกันแบ่งน้ำหนักตรงนี้ ซึ่งมันก็จะลดลงตามวันที่เราเดินนั้นแหละ (วันแรกก็จะหนักหน่อย 555)

ก่อนจะเข้าป่าเราก็แวะตลาดกันก่อน เผื่อขาดเหลืออะไรซื้อตุนๆ ไปก่อนได้เลย

หน่วยพิทักษ์ป่ากำพวน - เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา
เป็นหน่วยงานที่ดูแลในพื้นที่ที่เราจะไปเดินป่ากันในครั้งนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็เป็นคนดูแลเราอย่างดี ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 5 คน โดยเราจะมีทั้งหมด 10 คน
ในทริปนี้ก็รวมเป็น 15 คน ซึ่งบ้างคนอาจสงสัยว่าทำไมเจ้าหน้าที่มาหลายคน ป่าใต้หรือเหมืองโชนนี่ ทางเดินค่อนข้างที่จะรกและต้นไม้ พืช หรือสิ่งต่างๆ ทำให้เส้นทางการเดินจะไม่เหมือนการเดินป่าทั่วๆ ไป ซึ่งหากเราเดินเอง ไม่กี่เมตรเราอาจจะไม่เห็นเพื่อนข้างหน้าได้แล้ว รวมทั้งเส้นทางที่เดินทุกครั้งเจ้าหน้าที่ก็บอกไม่เหมือนเดิมเพราะอาจมีต้นไม้ล้ม หรือบ้างเส้นทางไม่สามารถเดินไปได้ ณ ตอนนั้นๆ จึงทำให้ต้องมีเจ้าหน้าดูแลเราและประกบเรา เพื่อป้องกันการหลงทางและดูแลได้อย่างทั่วถึงนั้นเอง

ต่อไปก็จะเป็นบรรยากาศการเดินป่าในวันแรก

นี่ก็เป็นรอยทางของกระทิงและหมูป่า ซึ่งรอยเท้าใหญ่ - กระทิง, รอยเล็ก - หมูป่า ตอนที่เราเจอนี่ก็จะมีรอบเท้าค่อนข้างเยอะเลย เจ้าหน้าก็ได้บอกว่าเขาเดินทางก็เป็นฝูงใหญ่ คงจะผ่านมาหาอาหารกันทางนี้

เดินการไปได้ประมาณ 3 ชม. เราก็มาพักกันที่นี่เพื่อพักกินข้าวเที่ยงกันก่อน ก่อนที่จะเดินทางยาวจนไปถึงแคมป์แรกในวันนี้กันเลย

เดินมาสักพักก็มาถึง จุดน้ำตกเล็ก ซึ่งตั้งแต่จุดนี้เป็นต้นไปเท่าที่จำได้คือ พวกเราต้องเดินเลาะไปทางอีกด้านนึงและต้องไต่ไปตามทางน้ำ ซึ่งทางเดินค่อนข้างที่จะชันมาก ทุกคนในทริปได้เหนื่อยกันทีเดียว แต่ก็ได้เจอกับสัตว์เล็กเต็มๆเลย

นี่เป็นดอกบัวผุดที่บานไปแล้ว ตอนนี้ก็กำลังเริ่มเน่า โดยครั้งนี้มาแล้วก็อยากจะได้เจอดอกบัวผุดเต็มๆ บ้างเหมือนกัน เพราะผมก็ยังไม่เคยเจอเลย เห็นแต่ในรูป


ดอกบัวผุด หรือที่คนใต้มักเรียกกันว่า บัวตูม มีชื่อสามัญว่า Sapria Himalayana และชื่อวิทยาศาสตร์คือ Sapria himalayana Griff. พบในป่าดิบตั้งแต่แหลมมลายูลงไป และในไทยพบที่อุทยานแห่งชาติเขาสก อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ดอกบัวผุดเป็นพืชกาฝากที่อาศัยน้ำเลี้ยงจากรากของเถาวัลย์น้ำอย่าง เครือเขาน้ำหรือส้มกุ้ง ไม่มีลำต้น ไม่มีใบ มีเพียงดอกสีแดงประแต้มเหลืองใหญ่ราว 10 เซนติเมตร โผล่ขึ้นมาจากดินเท่านั้น เป็นดอกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกและมีกลิ่นที่เหม็นมาก ลักษณะคล้ายกับหม้อขนาดใหญ่มีกลีบหนา มีเส้นผ่านศูนย์กลางโดยประมาณ 50 – 100 เซนติเมตร ภายในดอกจะมีแผ่นแบนคล้ายจาน ส่วนด้านบนมีปุ่มคล้ายหนามแหลมจานนี้จะซ้อนเกสรตัวผู้กับรังไข่ไว้ด้านล่าง ที่โคนของดอกมีกลีบนำสีน้ำตาลอมเหลืองเรียงสลับซับซ้อนกันอยู่มาก เมื่อดอกยังสดอยู่ดอกบัวผุดจะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 10 กิโลกรัม กลีบดอกมีความหนาตั้งแต่ 0.5-1 เซนติเมตร ใช้เวลาในการเติบโตนานกว่า 9 เดือน และดอกบัวผุดจะบานอยู่ได้แค่ 4-5 วัน จากนั้นจะค่อย ๆ ดำเน่าไป (http://www.guilinlake.com)


โดยดอกบัวผุดที่เราเจอนี่ ก็มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 60 cm เลยทีเดียว (2 ไม้บรรทัด) ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าเคยเจอที่ใหญ่สุดแถวนี้ประมาณ 80 cm ได้ ซึ่งแบบใหญ่มากกก ดอกที่เราได้มาเจอ ไอเราว่ามันก็ใหญ่มากแล้วนะ

ส่วนในรูปนี้ก็เป็นดอกบัวผุดที่ยังไม่บานนั้นเอง ซึ่งเราเห็นอันนี้แล้วเราไม่คาดคิดเลยนะว่า อันนี้มันจะไปบานเป็นดอกบัวผุดที่ขนาดใหญ่ขนาดนั้นได้ ถ้าเห็นในป่าจริงๆ ก็คงคิดว่าเป็นเมล็ดอะไรไม่รู้ใหญ่ๆ และเราก็คงไม่ได้สนจริงเขาเลย 
การได้เจอดอกบัวผุดนี่ก็ถือเป็นความโชคดีของเราในทริปนี้ด้วยนะ


และแล้วเราก็เดินมาถึงแคมป์ในวันแรกสักที ซึ่งมาถึงประมาณเกือบ หกโมงเลย วันแรกก็เดินกันเอาเรื่องเลย แต่ก็ถือว่าเป็นการปรับร่างกายในการเดินและนะ วันต่อๆไปคงดีขึ้นหรือปล่าว 555 

DAY 2 - ยอดเขาสันแดน

เริ่มตื่นเช้าก็กินข้าวและเก็บสัมภาระ เดินทางกันต่อ โดยจุดหมายในวันนี้ก็คือ แคมป์เหมืองโชน (แต่ไม่ได้พัก) และไปต่อที่ยอดเขาสันแดน ซึ่งวันนี้เราจะไปกันบนยอดนั้นแหละ เพื่อชมวิวพระอาทิตย์ตกและขึ้น ซึ่งจะได้เห็นวิวทะเล 3 จังหวัด และพระอาทิตย์ขึ้นกับทะเลหมอก นั้นแหละ ลุยยย

นั้นแหละทุกคน ยอดเขาสันแดนที่เราจะไปกันวันนี้ มองจากตรงนี้ทำไมมันสูงขนาดนั้นน่ะ ทั้งที่ความจริงถ้าเทียบกับเขาอื่นๆ ก็ไม่ได้สูงมากนะ คงเป็นเพราะเราเดินตั้งแต่จุดที่ใกล้ๆ ทะเล และค่อยๆไต่ขึ้นมาด้วยแหละมั้ง 

เส้นทางการเดินขึ้น ซึ่งเราใช้เส้นทางเขารถที่เคยขึ้นไปบนเหมืองโชนนั้นเอง ซึ่งแต่ก่อนได้มีรถตีนตะขาบและขนแร่ในทางนี้ โดยจากตอนนั้นผ่านมาตอนนี้ก็หลายปีมากแล้ว ทำให้ธรรมชาติได้กลื่นพื้นที่นี่ไปเรื่อยๆ จนเป็นเส้นทางแบบในรูปนั้นเอง

 เฟิร์นมหาสดำ
มหาสดำ เป็นไม้จำพวกเฟิร์นยืนต้นเป็นเฟิร์นโบราณ ที่มีลำต้นสูงใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับเฟิร์นทุกชนิดในโลก ลำต้นนั้นสูงได้มากกว่า 10 เมตร ทำให้มองดูคล้ายต้นไม้ยักษ์แห่งป่าดึกดำบรรพ์ และเป็นต้นไม้ยุคเดียวกับไดโนเสาร

ไม้กำลังสัตว์ (ไม่แน่ใจนะ)

ก่อนที่จะตัดภาพขึ้นยอดเขาสันแดน เราก็แวะชมดอกกุหลาบพันปี - สีขาว ก่อนซึ่งจริงๆแล้ว ช่วงนี้ดอกกุหลาบพันปีขึ้นเต็มเลย แต่ไม่ได้ถ่ายมาทั้งหมดเพราะว่าเขาขึ้นตรงที่สูง ถือเป็นดอกที่สวยงามเลยทีเดียว


ยอดเขาสันแดน ความสูงประมาณ 1300 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งจะสามารถให้วิวได้ทั้ง 3 จังหวัด ระนอง สุราษฎ พังงา
และจากนี้ไปจะเป็นรูปบรรยากาศบนยอดเขาทั้งหมด - พระอาทิตย์ตก

ชื่อสินค้า:   เหมืองโชน
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง โดยได้รับส่วนลดหรือสิทธิพิเศษจากเจ้าของสินค้าเพื่อแลกกับการรีวิว
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่