คิดถึง 2 บทที่ 43

กระทู้สนทนา

.

               ไดอารี่ความคิดถึง

               “แม่พายายไปกินข้าวป่าบ่เฮา ไปทานข้าวนอกบ้านมั้ยยาย” ระหว่างนั่งทานข้าวเช้าที่หน้าบ้าน วันนี้เธอกลับมาบ้านพร้อมเพื่อนร่วมห้อง หอบความคิดถึงมาเต็มเปี่ยม ทั้งพ่อ แม่ น้องบีม ยายและเพื่อนร่วมห้องนั่งทานข้าวเช้ากัน เป็นกับข้าวธรรมดา ๆ ที่แสนอร่อยที่สุด ได้กินฝีมือแม่อะไรก็อร่อย

               “อยากไปก็พายายไปสิ แม่กับพ่อไม่ไปหรอก บ่าย ๆ ก็จะออกไปลงตลาดนัดอยู่” แม่ปฏิเสธ ไหนบอกว่ากลับมาอยู่บ้านกับยายอย่างไรล่ะ ทำไมยังจะต้องไปทำงานขายของอีก เธอทำได้แค่ถอนหายใจ มันเป็นอาชีพที่พ่อแม่รัก ในเมื่อท่านอยากทำก็ปล่อยให้ทำไป จนกว่าจะเหนื่อยและหยุดเองก็แล้วกัน

             “แบบนี้แหละบอส ปานนั่นว่ามาอยู่กับยาย ตอนเย็นยายก็อยู่คนเดียว ดึก ๆ นู่นพ่อแม่มืงกลับมา” ทำเอาแม่หัวเราะลั่น รวมทั้งทุกคนด้วย แม้แต่ยายเองก็หัวเราะกับคำพูดตัวเอง

               “เอ้า! ข่อยกะหาซอยลูกน้อ ถ่าเงินนำลูกบ่พอใช้!” ทำเอาเพื่อนร่วมห้องสำลักข้าวกันเลยทีเดียว เธอเองก็ทำได้แค่ยิ้มแหย ๆ ให้ น้องบีมก็นั่งทานข้าวเงียบ ๆ ไม่พูดไม่จา จะให้กอบโกยมากจากที่ไหน ทำงานกินเงินเดือน ไม่ได้เป็นเจ้าของกิจการสักหน่อย โบนัสก็ไม่มีเหมือนคนอื่น ให้ลาออกไปทำโรงงานทั้งคู่มั้ยล่ะ จะได้มีโบนัสสิ้นปีเหมือนคนอื่น โถ่! บอสได้แต่บ่นแม่ในใจ

               “ไปเขื่อนมั้ยยาย ไปไหว้พระด้วย ยายไปภูสิงห์มายัง เขาทำใหม่แล้วนะ สวยกว่าเดิมเลย รอบนี้เราเที่ยวกันที่จังหวัดเรานี่แหละ รอบหน้าลามาหลาย ๆ วันจะพาไปต่างจังหวัด” เพื่อนร่วมห้องของเธอพูดกับยาย ปรายตามอง เขาเองเกิดไม่ทันยายกับตา แม้แต่ปู่ก็ไม่ทัน ทันย่าเพียงคนเดียว

               “ยายมองไม่ค่อยเห็น ภาระเปล่า ๆ “ ยายตอบ ใบหน้ายิ้มแย้ม ยายคงดีใจที่ทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตากัน อาจจะไม่ทุกคน แต่นี้คือครอบครัวหลักของยาย “ไปก็ไป!”

               “พุ้นน่ะ บ่เห็นหุ่ง แต่ว่าไปก็ก็ไปว่าสั้น!” น้องบีมแซวยาย

                ทุกคนหัวเราะกับคำพูดของยาย เมื่อสักครู่ยังปฏิเสธอยู่เลย สุดท้ายตอบไปก็ไปพะนะ! ฮา บอสหัวเราะ เป็นเช้าที่แสนอบอุ่น ถึงอากาศจะร้อนตั้งแต่เช้า ๆ ก็ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ที่หมู่บ้านของเธอก็จะเป็นงานบุญเผวดอีก คุ้มสุดคุ้มที่ขอตามเพื่อนร่วมห้องมาด้วย

               วันนี้พายายออกไปดูโลกภายนอกสักหน่อย ใกล้ ๆ บ้านนี่แหละ หลังทานข้าวเช้าเสร็จพวกเธอก็ออกเดินทาง สถานที่จะไปก็คือ หาดดอกเกด ภูสิงห์แค่นั้น มีเวลาก็อาจไปต่อที่ภูข้าวด้วย แล้วทุกคนก็ก้มหน้าก้มตาทานข้าวกันต่อ เมื่ออิ่มกันหมดบอสเป็นคนนำสำรับมาเก็บ ล้างถ้วยล้างจานให้เสร็จเรียบร้อยก่อนจะไปข้างนอก

                ระหว่างนั้น บอสอดนึกถึงตอนเด็ก ๆ ไม่ได้เลย ที่สมัยก่อนตัวเองนั่งมองครอบครัวคนอื่นไปเที่ยว รูปแบบมันก็ไม่ต่างกันมากนักกับตัวเองในตอนนี้ นั่นก็คือ ญาติของเธอกลับมาจากกรุงเทพ แล้วพาครอบครัวไปเที่ยว มีรถ มีเงิน พาพ่อแม่ไปเที่ยว ตอนนั้นบอสเห็นแล้วอยากไปเที่ยวแบบนั้นมาก ๆ และสัญญากับตัวเอง หากเรียนจบมีงานทำมีเงินเมื่อไหร่ จะซื้อรถและพาครอบครัวไปเที่ยวแบบนี้ สุดท้ายเธอก็ทำได้ ทำได้อย่างที่สัญญาเอาไว้เมื่อตอนยังเป็นเด็ก...

               บอสกับน้องบีมพากันไปเล่นที่บ้านย่า ป้าต้อยกับลุงบินไม่อยู่อีกเช่นเคย ไปสวน ส่วนพี่ชายสองคนพี่โจไม่อยู่บ้าน พี่กอล์ฟนอนคุยโทรศัพท์กับแฟนบนบ้าน ข้างล่างมีย่ากับพวกเธอสองคนนั่งเล่นคุยกันอยู่ น้องบีมจองเปลคนเดียว ไกวไปไกวมาไม่กลัวเชือกขาดเลย วันนี้เธอไม่ไปหาสองฝาแฝดที่บ้าน เลือกมานั่งเล่นที่บ้านย่าดีกว่า

                ย่าก็ไม่ได้ทำอะไร อยู่บ้านเฉย ๆ ทีแรกพวกเธอว่าจะนั่งรถตู้ไปกรุงเทพหาแม่ เพราะปิดเทอมแล้ว ทว่าญาติของเธอกลับมาบ้านพอดี จึงกะว่าจะขอติดรถไปด้วย ไม่ต้องนั่งรถตู้ไปกันเอง อีกสามสี่วันนู่นถึงจะได้ไปกัน

               ละแวกบ้านย่า คุ้มเดียวกันก็มีแต่ญาติ ๆ ทั้งนั้น เป็นญาติฝั่งพ่อของเธอ พี่สาวลูกของป้ากลับมาเยี่ยมบ้าน มีรถกระบะคันสวยมาจอดหน้าบ้าน สวมสร้อยทองเต็มไม้เต็มมือ รวยมาก ๆ ชื่อพี่เจี๊ยบ ทว่าพวกเธอก็ไม่ได้ไปเล่นด้วยหรอก ด้วยอายุที่ห่างกันมาก โตไม่ทันกัน จึงไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่

               พี่เจี๊ยบพาแฟนและลูกสาวมาไหว้สวัสดีย่า พี่เจี๊ยบเป็นหลานยาย พวกเธอเป็นหลานย่า พร้อมของฝากเยอะแยะมากมายที่นำมาฝากย่าของเธอ หลานตัวน้อยก็ซนเสียจริง วิ่งไปวิ่งมาไม่ยอมนั่งอยู่กับที่เลย น้องบีมก็เล่นกับหลานด้วย อายุไม่ห่างกันมาก ส่วนตนเองนั่งมองเฉย ๆ รู้สึกอึดอัดนิดหน่อย ที่มีแขกมาเพิ่มแม้จะเป็นญาติกันก็เถอะ ตอนนี้อยากไปหาพี่สาวฝาแฝดแล้วล่ะ

               “น้องบอสอยู่ ม.ไหนแล้วบอส มาปีนี้โตเป็นสาวแล้วยาย มีแฟนยังหนิ ไอ้แฝดน่ะใครนะที่ว่ามีแฟนแล้ว น้องแพรวใช่มั้ย ที่คบกับบักลูกยายคุ้มเหนือน่ะ ” พี่เจี๊ยบถามเธอ พร้อมหันไปคุยกับย่า “เด็กน้อยสมัยนี้ขาวคัก ไม่เหมือนสมัยเราน้อต้น ดำซะ ฮา” พี่เจี๊ยบคุยกับเธอกับพี่ต้นสามีของตัวเอง พี่ต้นก็ยิ้มให้ นั่งอยู่อีกมุมของแคร่

               “รุ่นเรามันรุ่นเหยียบกับระเบิดน่ะ ฮา” พี่ต้นพูดพร้อมหัวเราะ เธอเองก็หัวเราะตาม ส่วนน้องบีมกับหลานยังเล่นกันอยู่ ไม่สนใจขนมที่พี่เจี๊ยบกับพี่ต้นถือมาฝากเลย แลดูน้องบีมจะสนุกกับเพื่อนใหม่มาก “นั่นคนนั้นก็โตเร็วมาก ๆ  มารอบก่อนขี้หมูกยังกืดลืดก๊าดลาดอยู่เลย” พี่ต้นแซวน้องบีม

               คราวนี้บอสหัวเราะลั่นบ้านเลย เจ้าตัวเองก็หัวเราะ “บอสขึ้น ม.2 แล้ว ยังไม่มีแฟนจ้า ไอ้แพรวนั่นแหละมันคบกับพี่เม้าส์อยู่ พิมพ์ก็มีแฟนแล้วนะ บอสคนเดียวยังไม่มีกะเค้าเลย” รู้สึกภูมิใจนิดหน่อยตอบพี่สาวไป ทว่าภายในใจอยากไปหาสองฝาแฝดแล้ว และพี่เจี๊ยบก็คุยกับย่าต่อ คุยไปเรื่อยเปื่อย ตามประสาหลานสาวกับยายที่ห่างกันนาน หลาน ๆ แต่ละคนโตมาก็เข้ากรุงเทพหางานทำกันหมด

                “บ่าย ๆ ไปเที่ยวกันมั้ยบอส ไปเที่ยวกับพี่เจี๊ยบมั้ยน้องบีม” พี่เจี๊ยบชวน สำหรับเธอใจหนึ่งก็อยากไป อีกใจก็ไม่

                “ไป! พี่บอสไปมั้ย” น้องบีมตอบทันควัน พร้อมเงยหน้าถามเธอ บอสยักคิ้วให้น้องสาวเป็นคำตอบ สรุปก็ไปด้วยจนได้ เดี๋ยวจะไปชวนสองฝาแฝดไปด้วย เธอจะได้มีเพื่อนคุย

              “พาน้องมีนไปดูไดโนเสาร์ ไปเขื่อนลำปาวกันมั้ย” พี่เจี๊ยบพูดต่อ “ยายไปด้วยนะ ไปกินปลาเผาที่เขื่อนกัน” พี่เจี๊ยบคะยั้นคะยอยาย “ไอ้กอล์ฟไอ้โจไปไหนกันล่ะ”

               “พี่โจไม่อยู่ พี่กอล์ฟอยู่บนบ้าน” บอสตอบ

               “พี่มืงมาก็ไม่ลงมาต้อนรับเลยนะ” พี่เจี๊ยบบ่น พร้อมเดินขึ้นบันไดไปหาน้องชายบนบ้าน บอสมองตามได้แต่อมยิ้มให้กับมิตรภาพพี่น้องของตัวเอง ถึงไม่เท่าพี่น้องฝั่งแม่ก็ถือว่าสนิทกันพอสมควร

               “ไปชวนพี่แหมะบอส สองแฝดจะไปกะเค้ามั้ยน่ะ” ย่าบอกให้เธอไปชวนพิมพ์กับแพรว บอสไม่รีรอรีบวิ่งไปบ้านลุงวิทย์ทันที และได้คำตอบว่าทั้งสองคนก็ไปด้วย พวกเธอออกมารอที่บ้านย่า

               เมื่อทุกคนพร้อมแล้ว พี่เจี๊ยบกับพี่ต้นก็พาไปหาดดอกเกด คนที่ไปมีเพียงเธอกับน้องบีม พิมพ์แพรวย่า และครอบครัวของพี่เจี๊ยบทุกคน ทุก ๆ รอบที่พี่เจี๊ยบมาบ้าน จะพาครอบครัวไปเที่ยวเสมอ ใกล้บ้างไกลบ้างตามแต่โอกาส

               ย่ากับลุงและป้านั่งข้างในรถ ส่วนพวกเธอสี่คนนั่งกระบะหลัง มีน้องมีนด้วยอีกคนอยากนั่งกับพวกเธอ พี่ต้นกับพี่เจี๊ยบก็ไม่ว่าอะไร สถานที่แรกพี่ต้นพาไปคือ ไปดูไดโนเสาร์ที่ภูกุ้มข้าวกันก่อน สำหรับเธอ พิมพ์และแพรวไม่ได้ตื่นตาตื่นใจอะไรเลย เพราะเลยวัยนั้นมาแล้ว

               คนที่ตื่นเต้นเห็นจะเป็นน้องบีมกับน้องมีนเสียมากกว่า ลงจากรถได้วิ่งไปหาไดโนเสาร์ปูนปั้นที่ตั้งอยู่ปากทางเข้ากันเลย พี่เจี๊ยบต้องร้องห้ามกลัวจะล้มหน้าแหกกัน และก็นำกล้องมาถ่ายรูปลูกสาวกับน้องสาวไว้ เรียกพวกเธอและย่าลุงกับป้าด้วยให้เข้าไปถ่ายรูปหมู่ บันทึกภาพแห่งความสุขเอาไว้

               ทุกคนเดินเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์กระดูกไดโนเสาร์กัน พี่เจี๊ยบเป็นคนเก็บภาพถ่ายรูปให้ทุกคน บอสเองก็ใช้โทรศัพท์มือถือของตนถ่ายรูปเก็บไว้ด้วย ถ่ายรูปให้น้องบีมกับย่าด้วย เก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือของตนเอง

               พอเข้าไปด้านในก็มีพวกฟอสซิลต่าง ๆ ให้ดู  เป็นพิพิธภัณฑ์เชิงวิทยาศาสตร์ก็ว่าได้ และจุดเด่นของที่นี่คือ กระดูกไดโนเสาร์ ที่ถูดค้นพบเมื่อหลายปีมาแล้ว มีข้อมูลให้อ่านมากมาย คนที่ซนเป็นลิง วิ่งไปมุมนั้นมุมนี้ทีเห็นจะเป็นน้องบีมกับน้องมีนนั่นแหละ พี่ต้นต้องคอยปรามเอาไว้

               มีนักท่องเที่ยวมาจากที่อื่น ๆ มาชมด้วย ทว่าไม่ค่อยเยอะเหมือนวันหยุดเทศกาล หากเป็นเทศกาลคนจะเยอะมาก ๆ เมื่อทุกคนเดินดูพิพิธภัณฑ์ที่จัดโชว์จนครบแล้วค่อยกลับไปที่หาดเอกเกดและสวนสะออนต่อ

               จุดที่สองที่พี่ต้นกับพี่เจี๊ยบพาเที่ยวคือสวนสะออน ทางเข้าเป็นป่า เงียบสงัด ขับเข้าไปลึกพอสมควร เป็นสวนสัตว์ขนาดย่อม ส่วนมากจะมีแต่วัวกระทิง มีลิงด้วย มีนกหางนกยูง มีตัวเม่นให้ดูแค่นั้น ไม่มีอะไรน่าชม แค่พาน้องมีนมาดูสัตว์ น้องบีมกับน้องมีนดูเข้าขากันเป็นอย่างดี วิ่งซนตรงนี้ที ตรงนั้นที เพราะอายุห่างกันแค่สามปี ทำให้เล่นกันคุยกันรู้เรื่องได้

               บอสมองดูทุกคนมีความสุขมาก พวกเธอสามคนก็มีความสุข ย่า ลุงป้าที่เป็นพ่อแม่พี่เจี๊ยบ ตัวพี่เจี๊ยบเอง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มแห่งความสุข ที่พาครอบครัวมาเที่ยว ถึงจะเป็นการเที่ยวแค่นี้ มาแค่นี้ก็มีความสุข บอสนึกในใจ ถ้าโตขึ้นมีงานทำ เธอจะพาแม่กับยายกับตาทุกคนมาเที่ยวกินข้าวแบบนี้บ้าง ไปต่างจังหวัดกันไปเลย คอยดูถ้าโตขึ้น นึก ๆ แล้วก็ยิ้ม มองดูทุกคนที่ใบหน้ายิ้มแย้มมาก

               “ปะเราไปหาดดอกเกดกันดีกว่า ไม่มีอะไรให้ดูเลยสวนสะออน ไม่เหมือนตอนพี่เด็ก ๆ นะมีสัตว์เยอะกว่านี้อีก” พี่เจี๊ยบบ่นอุบอิบ เหมือนมาเสียเวลา รู้แบบนี้ไปหาดดอกเกดเลยก็ดี

               “บอสก็ว่าอย่างนั้นแหละพี่เจี๊ยบ บีม! ปะ พาน้องมีนมาแหมะ ไปเล่นน้ำบ่!” บอสเรียกน้องสาวที่กำลังพากันไกวชิงช้าอยู่ น้องบีมทำหน้าเสียดาย คนที่งอแงไม่อยากไปคือน้องมีนเอง จึงโดนพี่เจี๊ยบดุไปที ทั้งสองคนเดินหน้ามุ่ยกลับมา

               ทุกคนขึ้นรถนั่งประจำที่ของตัวเอง เดินทางไปที่หาดดอกเกดกันต่อ ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก เมื่อขับมาถึงมีแม่ค้าเดินมาประกบ ต้องการที่จะขายเสื่อขายอาหารให้ พี่เจี๊ยบก็ไม่ว่า เพราะต้องการจะซื้อปลาเผากุ้งเผาด้วยอยู่แล้ว ก็ปล่อยให้แม่ค้าเดินตามได้ตามสบาย

               พวกเธอเดินลงมาที่หาดทราย เลือกมุมเหมาะ ๆ และร่ม ๆ ที่สุด พี่เจี๊ยบสั่งกับข้าวไปหลายอย่างมาก กินจนจุใจไปเลย บอสแอบมองก็นึกปลื้มใจไปอีก โตขึ้นหาเงินได้เธอจะทำเหมือนพี่เจี๊ยบ พาครอบครัวมาทานข้าวแบบนี้ให้ได้ พี่เจี๊ยบบอกให้พวกเธอสั่งอะไรก็ได้ที่อยากทาน พี่เจี๊ยบจ่ายเอง ทว่าพวกเธอสามคนก็ไม่สั่งอะไรเลย ทานอะไรก็ได้ ขอน้ำอัดลมด้วยก็พอ

               น้องบีมกับน้องมีนก็อยากเล่นน้ำ กวนผู้เป็นแม่อยู่อย่างนั้น จนในที่สุดพี่ต้นต้องพาลูกสาวกับน้องสาวภรรยาไปเล่นน้ำจนได้ พี่ต้นเช่าห่วงยางพาน้องบีมกับน้องมีนลงเล่นน้ำก่อนเลย ระหว่างที่รอแม่ค้านำอาหารมาเสิร์ฟ บ่ายสามโมงยังแดดอยู่ แต่ก็ยังพอมีร่มเงาของต้นไม้ให้นั่ง และพอมีลมพัดมาให้รู้สึกเย็นสบาย

                ใกล้ ๆ กันมีครอบครัวคนไทยที่ได้สามีเป็นชาวต่างชาติมานอนอาบแดดด้วย ใส่บีกีนี่นอนอาบแดดกันอยู่สองคนผัวเมีย พวกเธอเห็นแล้วอดหันไปมองไม่ได้ ผู้เป็นภรรยาที่เป็นคนไทยก็ยิ้มให้ คงรู้ว่าพวกเธอคิดอะไรกันอยู่ ก็ไม่ได้ใส่ใจนัก

               ย่านั่งตำหมากเคี้ยวอย่างสบายใจ ขนาดมาเที่ยวแบบนี้ยังขาดหมากไม่ได้ ลุงกับป้าก็เช่นกันนั่งมองหลาน ๆ เล่นน้ำ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่