รีวิวการสอบ English Language Level Test (ELLT) by British Monkey
วันนี้ผมจะมารีวิวการสอบ ELLT ของ Oxford International English Test Centre
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า การสอบนี้จะเป็นการสอบที่คล้ายๆกับ IELTS เพื่อนำคะแนนที่ได้ไปยื่นเข้ามหาลัยที่เราต้องการ
พูดง่ายๆก็คือ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการสอบภาษาอังกฤษเพื่อใช้ในการเรียนต่อต่างประเทศ แต่การสอบ ELLT นั้น ด้วยความที่เพิ่งจะเริ่มมีการสอบนี้เมื่อปีที่แล้ว ณ ตอนนี้มีเพียง 14 มหาวิทยาลัยเท่านั้น ที่ใช้ผลคะแนนนี้ในการเรียนต่อได้ ดังนี้
Bangor University
Coventry University
De Montfort University International College
Nottingham Trent University
The University of Central Lancashire
University of Birmingham
University of Dundee
University of Greenwich
University of Hertfordshire
University of Hull
University of Leeds
University of Roehampton
University of Strathclyde
University of Sunderland
การสอบจะแบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ Listening, Reading, Writing และ Speaking
ข้อสอบจะมีความคล้าย IELTS คือต้องมีการเขียน Essay และ สอบพูดกับ Examiner ด้วย
ข้อดี
1. สอบออนไลน์ 100% นั่งสอบอยู่ที่บ้านได้
2. สามารถเลือกได้ว่าจะสอบวันไหน เวลาไหน (ไม่จำเป็นต้องสอบทีเดียวหมดทุกพาร์ทในวันเดียว)
3. ค่าสอบถูกกว่า IELTS (สอบครั้งละ £80 ประมาณ 3,400 บาท แต่ผมได้ส่วนของมหาวิทยาลัยด้วย เลยเหลือแค่ £60)
4. รู้ผลเร็วมาก ประมาณ 1-2 วัน หลังจากการสอบพูด
ข้อเสีย
1. พาร์ท Reading บทความที่ให้มาค่อนข้างยาว แต่ไม่สามารถไฮไลต์ข้อความหรือปรับขนาดตัวอักษรได้ ขยายหรือหดขนาดหน้าจอก็ไม่ได้เช่นกัน
2. การจองเวลาสำหรับการสอบ Speaking ต้องดูเวลาดีๆ เพราะใช้คนละ Time zones กัน อย่างผมอยู่ญี่ปุ่น เวลาห่างจากอังกฤษ 9 ชั่วโมง อาจจะปัญหาเรื่องการนัดเวลาสอบ
ด้านล่างคือตัวอย่างของใบ certificate ที่จะได้หลังที่เราสอบเสร็จแล้ว อีกใบจะเป็นคำแนะนำจากครูผู้สอบเรา ระดับมีตั้งแต่ 0-7 มีการเทียบกับคะแนนของ IELTS ไว้ให้ด้วย
ถ้าผมว่า ELLT กับ IELTS อันไหนยากกว่ากัน ผมคงตอบว่ามันมีความยากง่ายคนละแบบ ข้อสอบ ELLT อาจจะช่วยให้เราทำข้อสอบได้ง่ายและสะดวกขึ้น และเวลาสอบที่ไม่ได้ทรหดขนาดนั้น แต่ก็มีหลายพาร์ทที่ดูเหมือนจะง่ายแต่ก็ยาก เช่น
- Writing เขียน essay แสดงความคิดเห็นห้ามเกิน 200 คำ และต้องตอบคำถาม รวมทั้งยกตัวอย่างประกอบ You have to be very concise.
- Listening ฟังได้สองรอบ ดีมาก! แต่ก็ต้องแลกมากับการที่ข้อสอบไม่ได้เรียงตามบทสนทนาและเน้นความเข้าใจทั้งบทสนทนาจริงๆ
- คะแนนที่ได้ทุกพาร์ทสูงสุดแค่ระดับ 7 หรือ C1+ ซึ่งถ้าอยากได้ระดับนี้หมายถึงต้องได้เต็มเท่านั้น You can smash it!
เขียนไปเขียนมาโพสเริ่มยาวแล้ว ไว้ถ้ามีคนสนใจเกี่ยวกับการสอบนี้จริงๆ ผมจะมาเล่าข้อสอบแต่ละพาร์ทแบบละเอียดว่ามีอะไรบ้าง
และผมมีวิธีการเตรียมสอบและอ่านหนังสืออย่างไร (tricks and tips) ไว้จะมาเขียนให้อ่านอีกครั้ง
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนที่มีความสนใจนะครับ ใครรีบหรือมีคำถามอะไรเพิ่มเติมเข้าไปถามผมในเพจได้เลยครับผม
ผมเขียนเนื้อหาหลายๆอย่างไว้ในเพจ British Monley ด้วย
https://www.facebook.com/Britishlittlemonkey/
#ellt
#oietc
สอบ English Language Level Test (ELLT) แทน IELTS ใช้เรียนต่อที่อังกฤษ #Part 1
วันนี้ผมจะมารีวิวการสอบ ELLT ของ Oxford International English Test Centre
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า การสอบนี้จะเป็นการสอบที่คล้ายๆกับ IELTS เพื่อนำคะแนนที่ได้ไปยื่นเข้ามหาลัยที่เราต้องการ
พูดง่ายๆก็คือ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการสอบภาษาอังกฤษเพื่อใช้ในการเรียนต่อต่างประเทศ แต่การสอบ ELLT นั้น ด้วยความที่เพิ่งจะเริ่มมีการสอบนี้เมื่อปีที่แล้ว ณ ตอนนี้มีเพียง 14 มหาวิทยาลัยเท่านั้น ที่ใช้ผลคะแนนนี้ในการเรียนต่อได้ ดังนี้
Bangor University
Coventry University
De Montfort University International College
Nottingham Trent University
The University of Central Lancashire
University of Birmingham
University of Dundee
University of Greenwich
University of Hertfordshire
University of Hull
University of Leeds
University of Roehampton
University of Strathclyde
University of Sunderland
การสอบจะแบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ Listening, Reading, Writing และ Speaking
ข้อสอบจะมีความคล้าย IELTS คือต้องมีการเขียน Essay และ สอบพูดกับ Examiner ด้วย
ข้อดี
1. สอบออนไลน์ 100% นั่งสอบอยู่ที่บ้านได้
2. สามารถเลือกได้ว่าจะสอบวันไหน เวลาไหน (ไม่จำเป็นต้องสอบทีเดียวหมดทุกพาร์ทในวันเดียว)
3. ค่าสอบถูกกว่า IELTS (สอบครั้งละ £80 ประมาณ 3,400 บาท แต่ผมได้ส่วนของมหาวิทยาลัยด้วย เลยเหลือแค่ £60)
4. รู้ผลเร็วมาก ประมาณ 1-2 วัน หลังจากการสอบพูด
ข้อเสีย
1. พาร์ท Reading บทความที่ให้มาค่อนข้างยาว แต่ไม่สามารถไฮไลต์ข้อความหรือปรับขนาดตัวอักษรได้ ขยายหรือหดขนาดหน้าจอก็ไม่ได้เช่นกัน
2. การจองเวลาสำหรับการสอบ Speaking ต้องดูเวลาดีๆ เพราะใช้คนละ Time zones กัน อย่างผมอยู่ญี่ปุ่น เวลาห่างจากอังกฤษ 9 ชั่วโมง อาจจะปัญหาเรื่องการนัดเวลาสอบ
ด้านล่างคือตัวอย่างของใบ certificate ที่จะได้หลังที่เราสอบเสร็จแล้ว อีกใบจะเป็นคำแนะนำจากครูผู้สอบเรา ระดับมีตั้งแต่ 0-7 มีการเทียบกับคะแนนของ IELTS ไว้ให้ด้วย
ถ้าผมว่า ELLT กับ IELTS อันไหนยากกว่ากัน ผมคงตอบว่ามันมีความยากง่ายคนละแบบ ข้อสอบ ELLT อาจจะช่วยให้เราทำข้อสอบได้ง่ายและสะดวกขึ้น และเวลาสอบที่ไม่ได้ทรหดขนาดนั้น แต่ก็มีหลายพาร์ทที่ดูเหมือนจะง่ายแต่ก็ยาก เช่น
- Writing เขียน essay แสดงความคิดเห็นห้ามเกิน 200 คำ และต้องตอบคำถาม รวมทั้งยกตัวอย่างประกอบ You have to be very concise.
- Listening ฟังได้สองรอบ ดีมาก! แต่ก็ต้องแลกมากับการที่ข้อสอบไม่ได้เรียงตามบทสนทนาและเน้นความเข้าใจทั้งบทสนทนาจริงๆ
- คะแนนที่ได้ทุกพาร์ทสูงสุดแค่ระดับ 7 หรือ C1+ ซึ่งถ้าอยากได้ระดับนี้หมายถึงต้องได้เต็มเท่านั้น You can smash it!
เขียนไปเขียนมาโพสเริ่มยาวแล้ว ไว้ถ้ามีคนสนใจเกี่ยวกับการสอบนี้จริงๆ ผมจะมาเล่าข้อสอบแต่ละพาร์ทแบบละเอียดว่ามีอะไรบ้าง
และผมมีวิธีการเตรียมสอบและอ่านหนังสืออย่างไร (tricks and tips) ไว้จะมาเขียนให้อ่านอีกครั้ง
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนที่มีความสนใจนะครับ ใครรีบหรือมีคำถามอะไรเพิ่มเติมเข้าไปถามผมในเพจได้เลยครับผม
ผมเขียนเนื้อหาหลายๆอย่างไว้ในเพจ British Monley ด้วย https://www.facebook.com/Britishlittlemonkey/
#ellt
#oietc