คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 47
ก่อนอื่นต้องขออภัยหัวข้อกระทู้ด้วยนะครับผม อ่านไปอ่านมาแล้วน่าจะทำให้เข้าใจผิดจากเนื้อกระทู้จริงๆ ผมจะไม่แก้ไขเนื้อกระทู้นะเพิ่มเติมจากแรกนะครับ คือแก้ไขไปครั้งเดียวตอนประมาณคอมเม้นที่ 4 ครับ เดี๋ยวจะมีใครว่าผมแก้เพื่อแถอะไร 555+ (แก้ไปแล้วนะครับ เพราะคิดว่าแก้ไปน่าจะดีกว่า แต่ทิ้งข้อความเดิมเอาไว้ให้แล้วครับ ก็ขออภัยสำหรับข้อความเดิมๆด้วยนะครับผม..)
คือผมแต่งไปแต่งมาให้มันไม่เกิน 120 ตัวอักษรครับ จริงๆอยากจะพิมพ์ว่า >> งงว่าทำไมถึงได้มีมนุษย์เงินเดือนจำนวนมากถึงมองว่าสถานะการเป็นมนุษย์เงินเดือนกับการเก็บเงินหลักล้านก่อน 30 เป็นเรื่องที่ยาก หรือเป็นไปไม่ได้ครับ เพราะผมว่ามันเป็นเรื่องปกติมากๆที่คนที่มีสถานะเป็นมนุษย์เงินเดือนจะทำได้ (หลักฐานการสื่อสารนี้จะอยู่ในเนื้อกระทู้นะครับผม)
และในเนื้อกระทู้ผมจึงตัดกลุ่มที่ผมไม่ได้เอามาคิดออกไปเลยครับ เพราะผมจะยกตัวอย่างคนที่มีสถานะเป็น "มนุษย์เงินเดือน" มันทำแบบนี้ได้ไหม และมันปกติยังไง ปกติก็คือไม่ต้องไปหารายได้อะไรจากแหล่งอื่นนอกสถานที่ทำงานมาช่วย ก็คือเก็บจากเงินเดือนปกติๆเลยอ่ะ ไม่ได้หมายความว่า เฮ้ยย ใครทำแบบนี้ไม่ได้ผิดปกตินะ (จริงๆอ่านจากหัวข้อกระทู้แล้วถ้าทำให้ใครคิดว่าผมว่าอะไรใครผมไม่ได้ว่านะครับผม เขียนเข้าไปในเนื้อกระทู้หมดแล้วเชิงประโยคบอกเล่าแล้วครับว่าเข้าใจว่าสาเหตุประมาณไหนที่ไม่เป็นแบบนี้)
และที่เขียนขึ้นมาก็เพราะอึดอัดกับคำพูดหรือมุมมองแนวๆว่ามนุษย์เงินเดือนมันทำเรื่องนี้ได้ยาก หรืออะไร ฯลฯ ก็เลยยกตัวอย่างขึ้นมาให้ดูเลยครับผมว่า เนี่ย ประมาณนี้ก็เกินแล้วนะ และมันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง แต่ถ้าใครไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรนะครับผม และต้องขออภัยอีกครั้งกับหัวข้อกระทู้ชวนเข้าใจผิดว่าผมไปว่าอะไรใครนะครับผม TT
คือผมแต่งไปแต่งมาให้มันไม่เกิน 120 ตัวอักษรครับ จริงๆอยากจะพิมพ์ว่า >> งงว่าทำไมถึงได้มีมนุษย์เงินเดือนจำนวนมากถึงมองว่าสถานะการเป็นมนุษย์เงินเดือนกับการเก็บเงินหลักล้านก่อน 30 เป็นเรื่องที่ยาก หรือเป็นไปไม่ได้ครับ เพราะผมว่ามันเป็นเรื่องปกติมากๆที่คนที่มีสถานะเป็นมนุษย์เงินเดือนจะทำได้ (หลักฐานการสื่อสารนี้จะอยู่ในเนื้อกระทู้นะครับผม)
และในเนื้อกระทู้ผมจึงตัดกลุ่มที่ผมไม่ได้เอามาคิดออกไปเลยครับ เพราะผมจะยกตัวอย่างคนที่มีสถานะเป็น "มนุษย์เงินเดือน" มันทำแบบนี้ได้ไหม และมันปกติยังไง ปกติก็คือไม่ต้องไปหารายได้อะไรจากแหล่งอื่นนอกสถานที่ทำงานมาช่วย ก็คือเก็บจากเงินเดือนปกติๆเลยอ่ะ ไม่ได้หมายความว่า เฮ้ยย ใครทำแบบนี้ไม่ได้ผิดปกตินะ (จริงๆอ่านจากหัวข้อกระทู้แล้วถ้าทำให้ใครคิดว่าผมว่าอะไรใครผมไม่ได้ว่านะครับผม เขียนเข้าไปในเนื้อกระทู้หมดแล้วเชิงประโยคบอกเล่าแล้วครับว่าเข้าใจว่าสาเหตุประมาณไหนที่ไม่เป็นแบบนี้)
และที่เขียนขึ้นมาก็เพราะอึดอัดกับคำพูดหรือมุมมองแนวๆว่ามนุษย์เงินเดือนมันทำเรื่องนี้ได้ยาก หรืออะไร ฯลฯ ก็เลยยกตัวอย่างขึ้นมาให้ดูเลยครับผมว่า เนี่ย ประมาณนี้ก็เกินแล้วนะ และมันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง แต่ถ้าใครไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรนะครับผม และต้องขออภัยอีกครั้งกับหัวข้อกระทู้ชวนเข้าใจผิดว่าผมไปว่าอะไรใครนะครับผม TT
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
เราว่า มนุษย์เงินเดือนจำนวนมาก น่าจะ
เริ่มจาก 1x,xxx นะคะ ระดับพนักงาน office ทั่วๆไป
พวกเริ่มต้น 2x,xxx น่าจะเป็นกลุ่มที่เรียนเฉพาะทาง วิศวะ หรือ พวก ทำงาน IT
หรือตำแหน่งในองกรค่อนข้างเฉพาะทาง
เเละกลุ่มที่เริ่ม จาก 1x,xxx
ก็น่าจะเป็นกลุ่มท่ต้นทุนชีวิตก็ค่อนข้างต่ำอยู่เเล้ว
เรียนใช้ทุน กยศ , อาจมาจากต่างจังหวัด , ครอบครัวพ่อเเม่ ทำงานรับจ้างธรรมดา
ดังนั้น กลุ่มนี้ ก็คงเดือนชนเดือน ไปอีก หลายปี ทั้งค่าที่พัก ค่ารถ ค่าอาหาร ใช้หนี้
ให้พ่อเเม่ กว่า จะ เงินเดือนขยับไป 20,000
อาจจะใช้เวลา 5 -10 ปีเลยก็ได้ ถ้าไม่ย้ายองค์กรเลย
เริ่มจาก 1x,xxx นะคะ ระดับพนักงาน office ทั่วๆไป
พวกเริ่มต้น 2x,xxx น่าจะเป็นกลุ่มที่เรียนเฉพาะทาง วิศวะ หรือ พวก ทำงาน IT
หรือตำแหน่งในองกรค่อนข้างเฉพาะทาง
เเละกลุ่มที่เริ่ม จาก 1x,xxx
ก็น่าจะเป็นกลุ่มท่ต้นทุนชีวิตก็ค่อนข้างต่ำอยู่เเล้ว
เรียนใช้ทุน กยศ , อาจมาจากต่างจังหวัด , ครอบครัวพ่อเเม่ ทำงานรับจ้างธรรมดา
ดังนั้น กลุ่มนี้ ก็คงเดือนชนเดือน ไปอีก หลายปี ทั้งค่าที่พัก ค่ารถ ค่าอาหาร ใช้หนี้
ให้พ่อเเม่ กว่า จะ เงินเดือนขยับไป 20,000
อาจจะใช้เวลา 5 -10 ปีเลยก็ได้ ถ้าไม่ย้ายองค์กรเลย
ความคิดเห็นที่ 38
25,000 ไม่ใช่มนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆละครับ
ผมจบปริญญาเอก เงินเดือน เมื่อ 13 ปีก่อน 7,000 บาท
โบนัส ตลอด 13 ปีคือ 0 บาท ....
หัวข้อคุณพูดถึงว่า มันเป็นเรื่อง “ปรกติ”
แต่ตัวอย่างที่คุณยกมา มันไม่ “ปรกติ”
เพราะคนปรกติส่วนมาก จบปริญญาตรี และมีเงินเดือนขึ้นด้วยเลข 1
นี่ข้อมูลปี 2014
ถ้า 10 ปีก่อนน้อยกว่านี้อีก
แถม จขกท ยกตัวอย่าง โบนัส 4 เดือน / ปี คงไม่ใช่ทุกบริษัทแหละครับ
ผมจบปริญญาเอก เงินเดือน เมื่อ 13 ปีก่อน 7,000 บาท
โบนัส ตลอด 13 ปีคือ 0 บาท ....
หัวข้อคุณพูดถึงว่า มันเป็นเรื่อง “ปรกติ”
แต่ตัวอย่างที่คุณยกมา มันไม่ “ปรกติ”

เพราะคนปรกติส่วนมาก จบปริญญาตรี และมีเงินเดือนขึ้นด้วยเลข 1

นี่ข้อมูลปี 2014
ถ้า 10 ปีก่อนน้อยกว่านี้อีก
แถม จขกท ยกตัวอย่าง โบนัส 4 เดือน / ปี คงไม่ใช่ทุกบริษัทแหละครับ
แสดงความคิดเห็น
งงว่าทำไมถึงได้มีมนุษย์เงินเดือนจำนวนมากถึงมองว่าการเก็บเงินล้านก่อน 30 เป็นเรื่องที่ยากครับ ผมว่ามันเป็นเรื่องปกติมากๆ
จากนี้ผมจะเขียนจากข้อเท็จจริงแล้วนะครับ แต่จะเขียนอธิบายไว้เล็กน้อย และน่าจะกระทบคนบางคนอยู่แล้วแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่บอกให้รู้ไว้นะครับว่า มันก็เป็นข้อเท็จจริงด้านนึงอ่ะนะ ไม่ได้จงใจนะว่าใคร ส่วนใครบอกอะไรมามันก็เป็นข้อเท็จนึงด้านนึงของคนคนนั้นอ่ะนะครับ มันเป็นเรื่องส่วนตัวของคนคนนั้นก็ไม่คิดจะไปเถียงเรื่องส่วนตัวของใครอยู่แล้ว และกระทู้นี้แค่จะแชร์ด้านๆนึงเท่านั้น
สำหรับหัวข้อกระทู้ผมอยากจะเปลี่ยนว่า >>> งงว่าทำไมถึงได้มีมนุษย์เงินเดือนจำนวนมากถึงมองว่าสถานะนี้กับการเก็บเงินล้านก่อน 30 มันเป็นเรื่องที่ยาก หรือเป็นไปไม่ได้ครับ เพราะผมว่าจริงๆแล้วสถานะนี้มันก็ทำได้เป็นเรื่องปกติมากๆ
ขอขยายความคำว่าปกติ คือทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนไปเป็นปกติเลย ไม่ได้ไปรับเงินจากที่อื่นเพิ่ม รับจากที่ทำงานอย่างเดียว เพราะฉะนั้นผมไม่ได้จะไปว่าใครทำไม่ได้แบบนี้คือผิดปกตินะครับผม..
ขอแก้ไข ตัดข้อความที่ดูน่าจะสร้างความไม่พอใจสูงๆ และเขียนอธิบายเพิ่มเติมในเนื้อกระทู้เดิมใหม่ดังนี้นะครับผม
นี่ผมไม่ได้พูดลอยๆนะครับ ผมจะเขียนตัวอย่างแบบดิบๆไว้ด้วย คือก่อนอื่นผมขอไม่นับต่ำแหน่งงานต่ำกว่า ป.ตรี หรือเงินเดือนที่เริ่มต้นด้วยเลขหน้าเป็นเลข 1 นะครับ (ที่ผมเขียนแบบนี้เพราะเขียนตามข้อเท็จจริงของโอกาสที่จะทำได้สูง และผมเชื่อว่าคนที่เขามีเป้าหมาย และ...เขาไม่น่าจะมองว่านี่เป็นการดูถูกหรอกนะครับ) ทีนี้มาเข้าเรื่องกันเลยนะครับ (ว่าสถานะมนุษย์เงินเดือน สามารถทำได้ไหม) สมมุติว่าผมให้ตัวเลขจำนวนปีการทำงานอย่างน้อยเลยครับหลังเรียนจบป.ตรี อย่างน้อยมันไม่น่าจะต่ำกว่า 6 ปี เพราะงั้นผมขอคิดแค่ 6 ปีนะครับ ส่วนเงินเดือนตั้งแต่เริ่มทำงานไปจนถึง 30 มันก็จะต้องมีจุดที่สตาร์ทและเพิ่มไปเรื่อยๆ ดังนั้นผมขอเฉลี่ยแบบดิบสุดๆเป็น 25,000 บาทต่อเดือนนะครับ ทีนี้ถ้าคนคนนี้ไปทำงานอยู่ในโรงงานที่ได้โบนัสเฉลี่ยขั้นต่ำที่ซักประมาณ 4 เดือน ถ้าคิดจากค่าเฉลี่ยดิบๆของเงินเดือน 25,000 บาท 6 ปีก็จะได้โบนัสรวม 6 แสนบาท แล้วเงินเดือนแบบเฉลี่ยดิบๆที่ผมตีเอาไว้ซัก 25,000 สมมุติว่าใช้ไปเลยซักเดือนละ 12,000 มันก็จะเหลือเก็บอยู่ 13,000 ต่อเดือน 6 ปีก็จะมีเท่ากับ 936,000 รวมกับโบนัสรวมทั้งหมดก็จะเป็น 1,536,000 นั่นหมายความว่า ถ้าประมาณนี้ อายุ 30 ก็จะมีเงินเกิน 1 ล้านมาอีก 536,000 บาทซึ่งอันนี้สามารถเอาไปซื้อรถได้อีกอย่างน้อย 1 คัน นี่อ่ะครับ จากตัวอย่างที่ผมยกขึ้นมามันเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นมากๆเลย และเรื่องจริงๆคือสามารถเก็บเงินได้มากกว่าที่ผมคำนวณนี้แบบดิบๆด้วยซ้ำ แต่งงว่าทำไมมีมนุษย์เงินเดือนจำนวนมากชอบไปพิมพ์ว่าสถานะมนุษย์เงินเดือนจะทำเรื่องแบบนี้มันยาก มันเป็นไปไม่ได้ ฯลฯ ทั้งๆที่ความจริงเรื่องนี้มันเป็นเรื่องปกติมากๆเลย "และเอาจริงๆสำหรับคนที่ทำไม่ได้มันเป็นเพราะรายรับ กับรายจ่ายต่างหากครับ หรือไม่ก็ไม่ได้จงใจจะเก็บเงิน หรือเก็บเป็นเงินตั้งแต่แรก" (ข้อความนี้จริงๆผมก็เขียนไว้ตั้งแต่เดิมแล้วนะครับ จริงๆก็จะเขียนแค่เชิงข้อเท็จจริงเท่านั้น ว่าผมก็รู้ว่าทำได้ หรือไม่ได้เพราะอะไร แต่มันน่าจะอ่านดูไม่น่าพอใจสำหรับคนกลุ่มนึงผมต้องขออภัยด้วยนะครับผม ไม่ได้มีประเด็นอะไรไปว่าคนอื่นเลยครับ เพราะเรื่องส่วนตัวของคนอื่นถ้าผมมาตั้งกระทู้มาเถียงก็แปลกละครับ) และต้นเรื่องที่ผมมาเขียนกระทู้แบบนี้เพราะว่าผมเห็นมีคนชอบไปพิมพ์ว่า "มนุษย์เงินเดือน" มันทำอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ได้ แล้วมันรู้สึกอึดอัดครับ เดี๋ยวเด็กๆเห็นเขาจะหดหู่กันหมด เลยเอาความจริงอีกด้านที่เกิดขึ้นจริงๆมาเล่าให้ฟังครับ..
===========================================================
===========================================================
**ข้อความเดิมทั้งหมด (น่าจะมีประโยคสร้างความไม่พอใจของคนอีกกลุ่มนึงที่ผมเขียนเอาไว้โดยไม่ได้คำนึงถึง ต้องขออภัยด้วยจริงๆนะครับผม ผมไม่ได้ตั้งใจครับ..)
นี่ผมไม่ได้พูดลอยๆนะครับ ผมจะเขียนตัวอย่างแบบดิบๆไว้ด้วย คือก่อนอื่นผมขอไม่นับต่ำแหน่งงานต่ำกว่า ป.ตรี หรือเงินเดือนที่เริ่มต้นด้วยเลขหน้าเป็นเลข 1 นะครับ คือเอาตรงๆสภาพแวดล้อมที่ผมเรียนจบมา ตัวเลขนำหน้าอย่างน้อยมันจะเป็นเลข 2 ครับ ส่วนคนที่สงสัยเรื่องนี้ผมขอไม่ขยายความนะครับ ทีนี้มาเข้าเรื่องกันเลยนะครับ สมมุติว่าผมให้ตัวเลขจำนวนปีการทำงานอย่างน้อยเลยครับหลังเรียนจบป.ตรี อย่างน้อยมันไม่น่าจะต่ำกว่า 6 ปี เพราะงั้นผมขอคิดแค่ 6 ปีนะครับ ส่วนเงินเดือนตั้งแต่เริ่มทำงานไปจนถึง 30 มันก็จะต้องมีจุดที่สตาร์ทและเพิ่มไปเรื่อยๆ ดังนั้นผมขอเฉลี่ยแบบดิบสุดๆเป็น 25,000 บาทต่อเดือนนะครับ ทีนี้ถ้าคนคนนี้ไปทำงานอยู่ในโรงงานที่ได้โบนัสเฉลี่ยขั้นต่ำที่ซักประมาณ 4 เดือน ถ้าคิดจากค่าเฉลี่ยดิบๆของเงินเดือน 25,000 บาท 6 ปีก็จะได้โบนัสรวม 6 แสนบาท แล้วเงินเดือนแบบเฉลี่ยดิบๆที่ผมตีเอาไว้ซัก 25,000 สมมุติว่าใช้ไปเลยซักเดือนละ 12,000 มันก็จะเหลือเก็บอยู่ 13,000 ต่อเดือน 6 ปีก็จะมีเท่ากับ 936,000 รวมกับโบนัสรวมทั้งหมดก็จะเป็น 1,536,000 นั่นหมายความว่า ถ้าประมาณนี้ อายุ 30 ก็จะมีเงินเกิน 1 ล้านมาอีก 536,000 บาทซึ่งอันนี้สามารถเอาไปซื้อรถได้อีกอย่างน้อย 1 คัน นี่อ่ะครับ จากตัวอย่างที่ผมยกขึ้นมามันเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นมากๆเลย และเรื่องจริงๆคือสามารถเก็บเงินได้มากกว่าที่ผมคำนวณนี้แบบดิบๆด้วยซ้ำ แต่งงว่าทำไมมีมนุษย์เงินเดือนจำนวนมากชอบไปพิมพ์ว่าสถานะมนุษย์เงินเดือนจะทำเรื่องแบบนี้มันยาก มันเป็นไปไม่ได้ ฯลฯ ทั้งๆที่ความจริงเรื่องนี้มันเป็นเรื่องปกติมากๆเลย และเอาจริงๆสำหรับคนที่ทำไม่ได้มันเป็นเพราะรายรับ กับรายจ่ายต่างหากครับ หรือไม่ก็ไม่ได้จงใจจะเก็บเงิน หรือเก็บเป็นเงินตั้งแต่แรก แบบว่าพอดีเห็นแล้วมันรู้สึกอึดอัดครับ เดี๋ยวเด็กๆเห็นเขาจะหดหู่กันหมด เลยเอาความจริงอีกด้านที่เกิดขึ้นจริงๆมาเล่าให้ฟังครับ..