หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[SR] รีวิว MERCEDES-AMG CLS 53 สปอร์ตซีดาน ทรงสวย ขับ 4 ตัวแรงประจำค่าย !
กระทู้รีวิว
Mercedes-Benz
Mercedes-Benz CLS-Class
รถยนต์
4x4
AMG ชื่อ 3 ตัวอักษรแบบนี้เป็นตำนานของทางค่าย MERCEDES-BENZ แน่นอนว่าหลายๆคนน่าจะทราบกันดีเพราะว่าในยุคนี้รหัสแบบนี้เข้าถึงได้ง่ายกว่าสมัยก่อนเยอะอย่างมาก แต่ก่อนนั้นเอง AMG ตัวแรงๆของค่ายนั้นราคาแตะหลักสิบล้านได้เลยในเมื่อหลายๆปีก่อนหน้า หรือแม้แต่ตัวนี้เองถ้าเป็นก่อนที่จะประกอบไทยนั้นราคาก็แตะ 7 ล้านบาทได้เลยทีเดียวครับ สำหรับเจ้า AMG CLS53 ซึ่งรหัสแบบนี้ 2 หลักของทางค่าย MERCEDES-AMG นั้นถ้าเห็นแบบนี้พยายามอยู่ให้ห่างกันไว้ได้เลย แรงทุกตัวครับไม่ว่าจะเป็น 35-43-53-63-63s ก็ตามบอกเลยว่าอย่าไปเล่นกับเค้า ทั้งพละกำลังและระบบขับเคลื่อนเรียกได้ว่าที่สุดของค่ายแล้ว รวมถึงในตัว CLS53 ครั้งนี้ถือว่าเป็นตัวแรงที่สุดของตระกูล CLS แล้วในปีนี้เพราะว่าไม่ได้ทำรหัส 63 แล้วจึงเป็นตัว 53 ที่ทำไม่ได้แรงเท่าตัวก่อนแต่ก็ทำให้หลายๆคนจับต้องได้ง่ายขึ้น ขับได้ง่ายมากขึ้นในเมืองหรือในการใช้งานชีวิตประจำวัน และทางด้าน CLS53 ประกอบไทย MY2021 รุ่นนี้เป็นรหัสปีล่าสุดพร้อมกับ ราคา 5.39 ล้านบาทไทย และ ระบบ MBUXใหม่ใส่มาแล้ว
MERCEDES-AMG CLS53 4MATIC+ รุ่นนี้มาพร้อมกับพละกำลังเครื่องยนต์ เบนซิน แบบ 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร 2,999 ซีซี. เทอร์โบ พละกำลัง 435 แรงม้า ที่ 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 520 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 5,800 รอบ/นาที พร้อมระบบ EQ Boost มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังเพิ่มอีก 22 แรงม้า และ แรงบิดอีก 250 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ AMG Speedshift TCT 9G 9 จังหวะ ทำให้สามารถเร่ง 0-100 ภายใน 5 วินาทีเท่านั้น และ ทำความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง และตัวรถเองนั้นขับเคลื่อน 4 ล้อผ่านระบบ 4MATIC+ ที่จะพิเศษคือสามารถทำให้การขับขี่เน้นการขับหลังมากกว่าเดิมได้ด้วยเช่นกัน หรือรองรับ Driftmode พวกนี้ได้ดีกว่าแบบทั่วไปทำให้การขับขี่นั้นสนุกมากขึ้นกว่าเดิม แต่น่าเสียดายว่าในตัว CLS53 นั้นไม่มีครับ แต่จะได้ ปรับการส่งพลังไปที่ล้อแต่ละข้างได้อย่างอิสระ หรือสามารถส่งไปที่ล้อหลังเพียวๆ เพื่อลดอัตราการสิ้นเปลืองลง ได้นั้นเองครับ ส่วนงานตกแต่งนั้นมีหลากหลายส่วนที่แตกต่างกับรุ่น CLS300D ทั้งกระจังหน้าแบบ Twin-blade ชุดแต่งส่วนท้ายรถ หรือกันชนหน้าหลังแบบ AMG ที่มีการใส่ท่อ 4 ท่อมาให้รวมถึง สปอยเลอร์ด้านหลังแบบ AMG Spoiler Lip พร้อมกับ ล้ออัลลอย AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 20 นิ้ว ตกแต่งด้วยสีดำ และ เบรก 370มม. ในด้านหน้าพร้อมกับ AMG ครับ รวมถึง ระบบกันสะเทือนแบบถุงลม Air Suspension และ ระบบควบคุม AMG Ride Control+ อีกทั้งในเรื่องของการตกแต่งภายในทั้ง เข็มขัดแดง เบาะแบบพิเศษ รวมถึง หนังแบบ AMG Nappa Leather ตัดสลับ Dinamica Microfibre พวงมาลัยแบบ AMG Performance Steering Wheel ก็จัดเต็มใส่เข้ามา อีกทั้งในปี 2021 นี้เปลี่ยนลวดลายงานออกแบบข้างใน รวมถึง ตัวควบคุมตรงกลาง และ หน้าจอแบบสัมผัส MBUX ใส่เข้ามาให้แล้วนั้นเอง แต่นาฬิกาบนคอนโซลก็หายไปแล้ว และ พวงมาลัยคาร์บอนก็เป็นหนังแทนครับ ส่วนฟีเจอร์ความปลอดภัยต่างๆนั้นใส่มาเต็มเหมือนเดิม แต่น่าเสียดายว่าไม่มีระบบ Active Distance Assist DISTRONIC และ ไม่มีระบบดึงพวงมาลัยกลับหรือเกาะตามโค้งถนนแล้วนะครับในปี 2021 นี้แอบน่าเสียดายพอสมควรเลย ส่วนงานออกแบบ ฟีเจอร์อื่นๆนั้นยังคงใส่เข้ามาให้จัดเต็มและได้ระบบ MBUX ในการใช้งานหน้าจอแทน
PRICE
MERCEDES-AMG CLS53 4MATIC+ : ประกอบในประเทศ : 5,399,000 บาทไทย
EXTERIOR
งานออกแบบทางด้าน CLS นั้นแน่นอนว่าเดิมๆก็มีความสปอร์ตซีดานสวยเตี้ย แบนอยู่แล้วแต่เมื่อมาเป็น CLS53 นั้นหลายๆส่วนดีเทลรายละเอียดนั้นมีความแตกต่างจากเดิมหรือว่า CLS300D ชัดเจนครับ แต่ถ้ามองผ่านๆความต่างกันกลับน้อยมากๆยิ่งถ้าคนที่ไม่ได้สนใจเรื่องรถยนต์อาจจะไม่รู้เลยว่าเป็นตัวแรงครับ ทางด้านงานออกแบบของตัว CLS300D ที่ขายในไทยนั้นจะได้ชุดแต่ง AMG Dynamic อยู่แล้วทำให้หลายๆส่วนเลยเหมือนกันอย่างมาก แต่พวกดีเทล ทั้งกระจังหน้า ชุดกันชนหลัง ท่อไอเสีย กระจกมองข้าง และ เส้นโครเมี่ยมของคันนี้จะเป็นสีดำทั้งหมด แต่น่าเสียดายว่า สีดำเลยอาจจะยิ่งมองยากไปอีกครับ แต่ถ้ามองชัดๆ ตัวรถสีขาวจะได้กระจกมองข้างสีดำ และ ขอบกระจกสีดำด้วยครับ รวมถึงล้อนั้นก็จะมีความแตกต่างกันล้อ 20 นิ้ว พร้อมกับระบบช่วงล่างถุงลมที่จะปรับระดับได้
ดีไซน์ภาพรวมนั้นการที่ได้ล้อลาย 20 นิ้วแบบนี้ 5 ก้านคู้พร้อมกับลวดลายแบบนี้ทำให้ตัวรถนั้นดูลงตัวกว่า. cls300d ชัดเจนมากๆรวมถึงด้วยตัวรูปทรงแบบ Sportsedan อยู่แล้วและได้ช่วงล่างถุงลมในภาพนั้นปรับแบบ Sport+ ทำให้ตัวรถนั้นเตี้ยที่สุดเลยทำให้มีความดุดันมากจริงๆแน่นอนว่าตัวรถสีดำอาจจะมองไม่เห็นการเล่นสีมากเท่าไรนัก แต่ก็ได้ความเรียบหรูมาแทนในการใช้งานออกแบบแบบนี้หลายๆคนน่าจะชอบกันและเป็น AMG ที่เรียบหรูไม่เยอะแต่พละกำลังนั้นมหาศาลเลยจริงๆ การเสริมสปอยเลอร์ท้ายทำให้รถนั้นดูสปอร์ตขึ้นจากพ่อบ้านเดิมๆได้ดีมาก
หน้าตรงเราจะเห็นกระจังหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ของ AMG V8 ได้ดีแต่ครั้งนี้ดีไซน์กระจังหน้ากลับนำมาใช้ในรหัส 43 53 กันบ้างแล้วครับ แต่จะยังไม่ได้กระจังหน้าซี่แนวตั้งแบบพวก GLC 43 หรือ GT-R พวกนั้นนะ แต่จริงๆหลายๆคนก็เอาไปเปลี่ยนดีไซน์ดุดันขึ้นไปอีกครับ แต่พวกงานออกแบบชุดกันชนล่าง ไฟหน้าเรียกได้ว่าชุดเดียวกับ CLS300D แต่จะเปลี่ยนจากพวกโครเมี่ยมเป็นแบบสีดำทั้งหมดนั้นเองครับ ส่วนในด้านหลังจะเริ่มแตกต่างแล้วด้วย ชุดกันชนล่างแบบใหม่พร้อม Diffuser amg ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยท่อคู่ 2 ฝั้ง รวมเป็น 4 ปลายท่อครับ แต่เมื่อมองข้างในจะเห็นแค่ 2 ท่อทั้งหมด ส่วน สปอยเลอร์หลังดีไซน์คล้ายกับ Duck tail สวยงามเรียบๆแต่ก็ดุดันมากขึ้น
กระจังหน้าดีไซน์ที่ทางค่ายเรียกว่า กระจังหน้าแบบ Twin-blade ที่รุ่นก่อนๆเราจะเห็นได้แค่ในตัว AMG V8 เท่านั้น มีกันชนหน้าตกแต่งแบบ A-Wing Design ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงา บอกเลยว่าดุดันครับ แต่ถ้ามองความต่างกับรุ่นปกติจะมีแค่กระจังหน้า และ เส้นสีโครเมี่ยมหายไปเท่านั้นเอง และจะมองเห็น เซนเซอร์รอบคัน และ กล้องหน้ามีใส่เข้ามาให้ จริงๆถ้าสีดำก็เด่นไปอีกแบบนึงเพราะว่าจะทำให้กระจังหน้า Twin Blade นั้นมีความโดดเด่นมากขึ้น
ทางด้านโลโก้ในบริเวณซุ้มล้อนั้นจะเห็นว่าเขียน Turbo ประจำตระกูล AMG และเขียนว่า 4MATIC+ นั้นเอง ถ้าของแท้จะต้องมีแปะข้างๆครับเป็นจุดสังเกตได้ง่ายๆ ส่วนกระจกมองข้างทรงเดียวกับรุ่นปกติแต่จะพิเศษที่เป็นสีดำ ไม่ว่าตัวถังรถจะสีอะไรก็ตาม แต่กระจกมองข้างนั้นจะได้สีดำล้วนทั้งหมด พร้อมกับกล้อง และ ไฟเลี้ยวในตัวรวมถึงงานออกแบบพวกบรรดารถ สปอร์ตซีดานแบบนี้ คือกระจกแบบไร้ขอบทำให้เวลาเปิดนั้นเป็นแบบรถสปอร์ตเลยถ้าเราเลื่อนกระจกลงมาสุดนั้นเอง เป็นอีกจุดที่ทำให้ตัวรถนั้นดูเท่มากขึ้นเวลาเปิดประตูและดูสวยมากกว่าแบบมีกรอบครับ
ล้ออัลลอย 20 นิ้วลาย 5 ด้านคู่พร้อมกับ เบรกจานโต 370มม. ในด้านหน้า และในด้านหลัง 360 มม. จัดเต็มใหญ่โตมากๆครับ มาพร้อมกับ คาลิปเปอร์เบรกแบบ AMG มีเขียนโลโก้ไว้เท่ๆสีเงิน และตัวล้อเป็นลายที่ต้องบอกว่าลงตัวสวย 5 ก้านแบบนี้แต่การเล่นสีเงิน สลับกับปัดดำเงาทำให้เล่นกับแสงได้สวยอีกทั้งด้วยขนาด 20 นิ้วทำให้ขอบยางบางมากๆ และแนะนำเติมลม 42+ ไปเลยนะครับตามสเปกของตัวรถจะแนะนำให้ปกป้องตัวล้อได้ดีที่สุดนั้นเอง
สำหรับ Sunroof รุ่นนี้มาพร้อมกับตอนหน้าขนาดไม่ได้ใหญ่มากนัก เปิดแล้วจะซ่อนไปในตัวหลังคา ไม่ได้ยื่นออกมานอกรถ อันนี้ถือว่าดี ส่วนด้านท้ายเราจะเห็นสปอยเลอร์หลังทรงเรียบๆคล้ายกับ Ducktail สีดำส่วนนี้จะเป็นสีเดียวกับตัวรถช่วยทำให้แรงกดด้านหลังตัวรถนั้นแน่นขึ้นนั้นเองเวลาขับเร็วๆ และท่อไอเสียสีดำเงาฝั่งละ 2 ข้าง AMG และมาพร้อมกับเสียงที่ดุดันมากๆแต่น่าเสียดายไม่มีการเปิดปิดวาล์วแบบรุ่น 63 พวกนั้นครับ และยังให้ Diffuser หลังมาให้ตรงกลาง พร้อมกับวัสดุสีดำด้านทรงสปอร์ตทำให้ด้านท้ายนั้นมีความแตกต่างกับ 300D ครับ
ไฟหน้านั้นจะมาพร้อมกับทรงเดียวและเทคโนโลยีเดียวกับรุ่นปกติทั้งหมดเป็น ไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED พร้อม ระบบปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย ALS และ ระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง Cornering Light รวมถึง ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist รวมถึง ไฟ Daytime Running Lights แบบ LED และ ไฟเลี้ยวในตัวครับ ส่วนไฟตัดหมอกนั้นไม่จำเป็นแล้วสำหรับรถรุ่นใหม่ๆที่ไฟธรรมดาแรงกว่าสมัยก่อนเยอะมากๆ แต่ไฟตัดหมอกหลังนั้นให้มาฝั่งขวา ในโคมนะครับ ส่วนกระโปรงหลังนั้นเองที่ด้านซ้ายจะไม่มีนะครับ ส่วนไฟทั้งหมดเป็น LED ทั้งโคมสว่างสวยคม และเส้นสายดูสวยงามแบบเดียวกับรุ่นปกติ
การที่ตัวรถนั้นใช้งานระบบช่วงล่างแบบถุงลมเป็นจุดสำคัญที่ส่งผลต่อการขับขี่แบบเยอะมากๆ รวมถึงส่งผลต่อการใช้งานขับขี่และแน่นอนว่าความสวยงามด้วยทำให้สามารถปรับระดับตัวรถได้และยังมีโหมดการยกตัวรถสูงที่สุดแบบในภาพทำให้หลบพวกคอสะพาน หรือ หมอนถนนสูงๆได้เหมาะกับประเทศไทยมากๆครับจะเห็นเลยว่าความสูงต่างกับแบบรู้สึกได้เมื่อเทียบกับแบบนี้ครับล้อหลังเราจะมองได้ชัดเจนมากๆเลยทีเดียวแต่ก็ไม่ทำให้ตัวรถโย่งเกินไป
ชื่อสินค้า:
MERCEDES-AMG CLS 53
คะแนน:
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
- ได้รับสินค้ามาใช้รีวิวฟรี โดยต้องคืนสินค้าให้เจ้าของสินค้า
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
Mercedes-Benz The New GLC ใหม่ เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในไทย เคาะเริ่ม 3.79 ล้านบาท
Mercedes-Benz GLC-Class ใหม่ ถูกเปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการในไทย มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ทั้ง 250 d 4MATIC OFF-ROAD และ AMG Dynamic เคาะราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 3,790,000 บาท เมอเซเดส-เบนซ์ (ประเทศ
สมาชิกหมายเลข 2626094
CLS300d CBU กับ CLS53 CKD ควรเลือกตัวไหนดีครับ?
สวัสดีครับ พี่ๆเพื่อนๆ, ผมอยากจะขอสอบถามว่าถ้าจะให้เลือกระหว่าง CLS300d ประกอบนอกกับ CLS53 ประกอบไทย พี่ๆเพื่อนๆจะเลือกตัวไหนครับ? คือเพราะว่าราคามันพอๆกัน จากเท่าที่ผมสอบถามคนอื่นๆมาเค้าบอกว่า ตัว53
สมาชิกหมายเลข 5054343
Mercedes-AMG จัดหนัก เตรียมเปิด C43 4MATIC Coupe ใหม่, E63 S 4MATIC+ และ C 200 Coupe ใหม่ สัปดาห์หน้า ที่สนามช้างฯ
Mercedes-Benz ประเทศไทย เตรียมจัดงาน Mercedes-AMG Driving Experience 2018 โดยในงานจะเป็นกิจกรรมทดสอบรถ AMG แบบครบตระกูล ซึ่งภายในงานนี้ ยังมีไฮไลท์สำคัญ คือ การเปิดตัว รถ 3 รุ่นใหม่ ได้แก่ Mercede
GenPon_Redline
Mercedes-Benz เตรียมเปิดตัว The new CLS ใหม่ (CLS300d AMG Premium) ใน Motor Show 2018 สิ้นเดือนนี้
เมอร์เซเดส-เบนซ์ บุกงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 เปิดตัว The new CLS เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวรถยนต์รุ่นที่ 3 ในตระกูล CLS อย่าง The new CLS 300d AMG Premium ยนตรกรรมสปอร์ตรุ
GenPon_Redline
เปิดตัว Mercedes-AMG 3 รุ่น ณ สนามช้างฯ นำทัพโดย E63S 4Matic+ ซุปเปอร์คาร์ 612 ม้า ในร่างซีดานหรู เคาะ 12.79 ล้าน
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวรถยนต์ 3 รุ่น อย่าง Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé รุ่นประกอบในประเทศโฉมใหม่ Mercedes-AMG E 63 S 4MATIC+ และ Mercedes-Benz C 200 Coupé AM
GenPon_Redline
Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ ประกอบไทย ราคา 5,850,000
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ รถเอสยูวีสมรรถนะสูงจาก Mercedes-AMG มาพร้อมระบบขับเคลื่
PonTripleP
รีวิว Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé ลองของแรงสายพันธุ์ AMG แท้ ที่ถูกที่สุด และประกอบในประเทศคันแรก
เมื่อไม่นานมานี้ ทีมงาน Pantip Garage เราได้รับเกียรติจาก เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) เชิญไปร่วมทริปทดสอบรถแรงของค่ายอย่าง ตระกูล AMG ส่งท้ายครึ่งปีแรก โดยในครั้งนี้นั้นมีรถสมรรถนะสูงของแบรนด์ Merced
GenPon_Redline
อยากรู้ว่า cls 53 กับ cls 300d ค่าดูแลต่างกันเยอะมั้ยครับ
ต้องบอกก่อนว่าผมเคยใช้รถเบนซ์มาก่อนแล้วแต่เป็น E coupe e300 ซึ่งค่าดูแลก็แพงใช้ได้เลยครับ แต่ก็ยังถือว่าเป็นปกติของเบนซ์ แต่ตอนนี้ผมอยากจะเปลี่ยนไปใช้เป็นตัว cls 53 ซึ่งเป็นรถสมรรถนะสูงของเบนซ์ ผมเลยอ
สมาชิกหมายเลข 8431593
เปิดตัว Mercedes-AMG CLA35 รหัสเริ่มต้นสายพันธุ์แรงไลน์อัพ AMG เริ่ม 3.999 ล้าน
Mercedes-AMG เปิดตัวรถรุ่นใหม่ 2 รุ่น ในรหัสสายพันธุ์แรง Mercedes-AMG CLA 35 4MATIC และ Mercedes-AMG CLA 45 S 4MATIC+ Mercedes-AMG CLA&
GenPon_Redline
รีวิว AMG CLS53 ปรับหน้าตา ส่งท้ายเครื่อง 6 สูบเรียง ดีไซน์ดุดันขึ้น พวงมาลัยมีจอ !
AMG เป็นตำนานของทางค่าย MERCEDES-BENZ สำหรับเจ้า AMG CLS53 ซึ่งรหัสแบบนี้ 2 หลักของทางค่าย MERCEDES-AMG นั้นถ้าเห็นแบบนี้พยายามอยู่ให้ห่างกันไว้ได้เลย แรงทุกตัวครับไม่ว่าจะเป็น 35-43-53-63-63s
Techhangout
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
Mercedes-Benz
Mercedes-Benz CLS-Class
รถยนต์
4x4
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[SR] รีวิว MERCEDES-AMG CLS 53 สปอร์ตซีดาน ทรงสวย ขับ 4 ตัวแรงประจำค่าย !
AMG ชื่อ 3 ตัวอักษรแบบนี้เป็นตำนานของทางค่าย MERCEDES-BENZ แน่นอนว่าหลายๆคนน่าจะทราบกันดีเพราะว่าในยุคนี้รหัสแบบนี้เข้าถึงได้ง่ายกว่าสมัยก่อนเยอะอย่างมาก แต่ก่อนนั้นเอง AMG ตัวแรงๆของค่ายนั้นราคาแตะหลักสิบล้านได้เลยในเมื่อหลายๆปีก่อนหน้า หรือแม้แต่ตัวนี้เองถ้าเป็นก่อนที่จะประกอบไทยนั้นราคาก็แตะ 7 ล้านบาทได้เลยทีเดียวครับ สำหรับเจ้า AMG CLS53 ซึ่งรหัสแบบนี้ 2 หลักของทางค่าย MERCEDES-AMG นั้นถ้าเห็นแบบนี้พยายามอยู่ให้ห่างกันไว้ได้เลย แรงทุกตัวครับไม่ว่าจะเป็น 35-43-53-63-63s ก็ตามบอกเลยว่าอย่าไปเล่นกับเค้า ทั้งพละกำลังและระบบขับเคลื่อนเรียกได้ว่าที่สุดของค่ายแล้ว รวมถึงในตัว CLS53 ครั้งนี้ถือว่าเป็นตัวแรงที่สุดของตระกูล CLS แล้วในปีนี้เพราะว่าไม่ได้ทำรหัส 63 แล้วจึงเป็นตัว 53 ที่ทำไม่ได้แรงเท่าตัวก่อนแต่ก็ทำให้หลายๆคนจับต้องได้ง่ายขึ้น ขับได้ง่ายมากขึ้นในเมืองหรือในการใช้งานชีวิตประจำวัน และทางด้าน CLS53 ประกอบไทย MY2021 รุ่นนี้เป็นรหัสปีล่าสุดพร้อมกับ ราคา 5.39 ล้านบาทไทย และ ระบบ MBUXใหม่ใส่มาแล้ว
MERCEDES-AMG CLS53 4MATIC+ รุ่นนี้มาพร้อมกับพละกำลังเครื่องยนต์ เบนซิน แบบ 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร 2,999 ซีซี. เทอร์โบ พละกำลัง 435 แรงม้า ที่ 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 520 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 5,800 รอบ/นาที พร้อมระบบ EQ Boost มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังเพิ่มอีก 22 แรงม้า และ แรงบิดอีก 250 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ AMG Speedshift TCT 9G 9 จังหวะ ทำให้สามารถเร่ง 0-100 ภายใน 5 วินาทีเท่านั้น และ ทำความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง และตัวรถเองนั้นขับเคลื่อน 4 ล้อผ่านระบบ 4MATIC+ ที่จะพิเศษคือสามารถทำให้การขับขี่เน้นการขับหลังมากกว่าเดิมได้ด้วยเช่นกัน หรือรองรับ Driftmode พวกนี้ได้ดีกว่าแบบทั่วไปทำให้การขับขี่นั้นสนุกมากขึ้นกว่าเดิม แต่น่าเสียดายว่าในตัว CLS53 นั้นไม่มีครับ แต่จะได้ ปรับการส่งพลังไปที่ล้อแต่ละข้างได้อย่างอิสระ หรือสามารถส่งไปที่ล้อหลังเพียวๆ เพื่อลดอัตราการสิ้นเปลืองลง ได้นั้นเองครับ ส่วนงานตกแต่งนั้นมีหลากหลายส่วนที่แตกต่างกับรุ่น CLS300D ทั้งกระจังหน้าแบบ Twin-blade ชุดแต่งส่วนท้ายรถ หรือกันชนหน้าหลังแบบ AMG ที่มีการใส่ท่อ 4 ท่อมาให้รวมถึง สปอยเลอร์ด้านหลังแบบ AMG Spoiler Lip พร้อมกับ ล้ออัลลอย AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 20 นิ้ว ตกแต่งด้วยสีดำ และ เบรก 370มม. ในด้านหน้าพร้อมกับ AMG ครับ รวมถึง ระบบกันสะเทือนแบบถุงลม Air Suspension และ ระบบควบคุม AMG Ride Control+ อีกทั้งในเรื่องของการตกแต่งภายในทั้ง เข็มขัดแดง เบาะแบบพิเศษ รวมถึง หนังแบบ AMG Nappa Leather ตัดสลับ Dinamica Microfibre พวงมาลัยแบบ AMG Performance Steering Wheel ก็จัดเต็มใส่เข้ามา อีกทั้งในปี 2021 นี้เปลี่ยนลวดลายงานออกแบบข้างใน รวมถึง ตัวควบคุมตรงกลาง และ หน้าจอแบบสัมผัส MBUX ใส่เข้ามาให้แล้วนั้นเอง แต่นาฬิกาบนคอนโซลก็หายไปแล้ว และ พวงมาลัยคาร์บอนก็เป็นหนังแทนครับ ส่วนฟีเจอร์ความปลอดภัยต่างๆนั้นใส่มาเต็มเหมือนเดิม แต่น่าเสียดายว่าไม่มีระบบ Active Distance Assist DISTRONIC และ ไม่มีระบบดึงพวงมาลัยกลับหรือเกาะตามโค้งถนนแล้วนะครับในปี 2021 นี้แอบน่าเสียดายพอสมควรเลย ส่วนงานออกแบบ ฟีเจอร์อื่นๆนั้นยังคงใส่เข้ามาให้จัดเต็มและได้ระบบ MBUX ในการใช้งานหน้าจอแทน
PRICE
MERCEDES-AMG CLS53 4MATIC+ : ประกอบในประเทศ : 5,399,000 บาทไทย
EXTERIOR
งานออกแบบทางด้าน CLS นั้นแน่นอนว่าเดิมๆก็มีความสปอร์ตซีดานสวยเตี้ย แบนอยู่แล้วแต่เมื่อมาเป็น CLS53 นั้นหลายๆส่วนดีเทลรายละเอียดนั้นมีความแตกต่างจากเดิมหรือว่า CLS300D ชัดเจนครับ แต่ถ้ามองผ่านๆความต่างกันกลับน้อยมากๆยิ่งถ้าคนที่ไม่ได้สนใจเรื่องรถยนต์อาจจะไม่รู้เลยว่าเป็นตัวแรงครับ ทางด้านงานออกแบบของตัว CLS300D ที่ขายในไทยนั้นจะได้ชุดแต่ง AMG Dynamic อยู่แล้วทำให้หลายๆส่วนเลยเหมือนกันอย่างมาก แต่พวกดีเทล ทั้งกระจังหน้า ชุดกันชนหลัง ท่อไอเสีย กระจกมองข้าง และ เส้นโครเมี่ยมของคันนี้จะเป็นสีดำทั้งหมด แต่น่าเสียดายว่า สีดำเลยอาจจะยิ่งมองยากไปอีกครับ แต่ถ้ามองชัดๆ ตัวรถสีขาวจะได้กระจกมองข้างสีดำ และ ขอบกระจกสีดำด้วยครับ รวมถึงล้อนั้นก็จะมีความแตกต่างกันล้อ 20 นิ้ว พร้อมกับระบบช่วงล่างถุงลมที่จะปรับระดับได้
ดีไซน์ภาพรวมนั้นการที่ได้ล้อลาย 20 นิ้วแบบนี้ 5 ก้านคู้พร้อมกับลวดลายแบบนี้ทำให้ตัวรถนั้นดูลงตัวกว่า. cls300d ชัดเจนมากๆรวมถึงด้วยตัวรูปทรงแบบ Sportsedan อยู่แล้วและได้ช่วงล่างถุงลมในภาพนั้นปรับแบบ Sport+ ทำให้ตัวรถนั้นเตี้ยที่สุดเลยทำให้มีความดุดันมากจริงๆแน่นอนว่าตัวรถสีดำอาจจะมองไม่เห็นการเล่นสีมากเท่าไรนัก แต่ก็ได้ความเรียบหรูมาแทนในการใช้งานออกแบบแบบนี้หลายๆคนน่าจะชอบกันและเป็น AMG ที่เรียบหรูไม่เยอะแต่พละกำลังนั้นมหาศาลเลยจริงๆ การเสริมสปอยเลอร์ท้ายทำให้รถนั้นดูสปอร์ตขึ้นจากพ่อบ้านเดิมๆได้ดีมาก
หน้าตรงเราจะเห็นกระจังหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ของ AMG V8 ได้ดีแต่ครั้งนี้ดีไซน์กระจังหน้ากลับนำมาใช้ในรหัส 43 53 กันบ้างแล้วครับ แต่จะยังไม่ได้กระจังหน้าซี่แนวตั้งแบบพวก GLC 43 หรือ GT-R พวกนั้นนะ แต่จริงๆหลายๆคนก็เอาไปเปลี่ยนดีไซน์ดุดันขึ้นไปอีกครับ แต่พวกงานออกแบบชุดกันชนล่าง ไฟหน้าเรียกได้ว่าชุดเดียวกับ CLS300D แต่จะเปลี่ยนจากพวกโครเมี่ยมเป็นแบบสีดำทั้งหมดนั้นเองครับ ส่วนในด้านหลังจะเริ่มแตกต่างแล้วด้วย ชุดกันชนล่างแบบใหม่พร้อม Diffuser amg ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยท่อคู่ 2 ฝั้ง รวมเป็น 4 ปลายท่อครับ แต่เมื่อมองข้างในจะเห็นแค่ 2 ท่อทั้งหมด ส่วน สปอยเลอร์หลังดีไซน์คล้ายกับ Duck tail สวยงามเรียบๆแต่ก็ดุดันมากขึ้น
กระจังหน้าดีไซน์ที่ทางค่ายเรียกว่า กระจังหน้าแบบ Twin-blade ที่รุ่นก่อนๆเราจะเห็นได้แค่ในตัว AMG V8 เท่านั้น มีกันชนหน้าตกแต่งแบบ A-Wing Design ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงา บอกเลยว่าดุดันครับ แต่ถ้ามองความต่างกับรุ่นปกติจะมีแค่กระจังหน้า และ เส้นสีโครเมี่ยมหายไปเท่านั้นเอง และจะมองเห็น เซนเซอร์รอบคัน และ กล้องหน้ามีใส่เข้ามาให้ จริงๆถ้าสีดำก็เด่นไปอีกแบบนึงเพราะว่าจะทำให้กระจังหน้า Twin Blade นั้นมีความโดดเด่นมากขึ้น
ทางด้านโลโก้ในบริเวณซุ้มล้อนั้นจะเห็นว่าเขียน Turbo ประจำตระกูล AMG และเขียนว่า 4MATIC+ นั้นเอง ถ้าของแท้จะต้องมีแปะข้างๆครับเป็นจุดสังเกตได้ง่ายๆ ส่วนกระจกมองข้างทรงเดียวกับรุ่นปกติแต่จะพิเศษที่เป็นสีดำ ไม่ว่าตัวถังรถจะสีอะไรก็ตาม แต่กระจกมองข้างนั้นจะได้สีดำล้วนทั้งหมด พร้อมกับกล้อง และ ไฟเลี้ยวในตัวรวมถึงงานออกแบบพวกบรรดารถ สปอร์ตซีดานแบบนี้ คือกระจกแบบไร้ขอบทำให้เวลาเปิดนั้นเป็นแบบรถสปอร์ตเลยถ้าเราเลื่อนกระจกลงมาสุดนั้นเอง เป็นอีกจุดที่ทำให้ตัวรถนั้นดูเท่มากขึ้นเวลาเปิดประตูและดูสวยมากกว่าแบบมีกรอบครับ
ล้ออัลลอย 20 นิ้วลาย 5 ด้านคู่พร้อมกับ เบรกจานโต 370มม. ในด้านหน้า และในด้านหลัง 360 มม. จัดเต็มใหญ่โตมากๆครับ มาพร้อมกับ คาลิปเปอร์เบรกแบบ AMG มีเขียนโลโก้ไว้เท่ๆสีเงิน และตัวล้อเป็นลายที่ต้องบอกว่าลงตัวสวย 5 ก้านแบบนี้แต่การเล่นสีเงิน สลับกับปัดดำเงาทำให้เล่นกับแสงได้สวยอีกทั้งด้วยขนาด 20 นิ้วทำให้ขอบยางบางมากๆ และแนะนำเติมลม 42+ ไปเลยนะครับตามสเปกของตัวรถจะแนะนำให้ปกป้องตัวล้อได้ดีที่สุดนั้นเอง
สำหรับ Sunroof รุ่นนี้มาพร้อมกับตอนหน้าขนาดไม่ได้ใหญ่มากนัก เปิดแล้วจะซ่อนไปในตัวหลังคา ไม่ได้ยื่นออกมานอกรถ อันนี้ถือว่าดี ส่วนด้านท้ายเราจะเห็นสปอยเลอร์หลังทรงเรียบๆคล้ายกับ Ducktail สีดำส่วนนี้จะเป็นสีเดียวกับตัวรถช่วยทำให้แรงกดด้านหลังตัวรถนั้นแน่นขึ้นนั้นเองเวลาขับเร็วๆ และท่อไอเสียสีดำเงาฝั่งละ 2 ข้าง AMG และมาพร้อมกับเสียงที่ดุดันมากๆแต่น่าเสียดายไม่มีการเปิดปิดวาล์วแบบรุ่น 63 พวกนั้นครับ และยังให้ Diffuser หลังมาให้ตรงกลาง พร้อมกับวัสดุสีดำด้านทรงสปอร์ตทำให้ด้านท้ายนั้นมีความแตกต่างกับ 300D ครับ
ไฟหน้านั้นจะมาพร้อมกับทรงเดียวและเทคโนโลยีเดียวกับรุ่นปกติทั้งหมดเป็น ไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED พร้อม ระบบปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย ALS และ ระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง Cornering Light รวมถึง ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist รวมถึง ไฟ Daytime Running Lights แบบ LED และ ไฟเลี้ยวในตัวครับ ส่วนไฟตัดหมอกนั้นไม่จำเป็นแล้วสำหรับรถรุ่นใหม่ๆที่ไฟธรรมดาแรงกว่าสมัยก่อนเยอะมากๆ แต่ไฟตัดหมอกหลังนั้นให้มาฝั่งขวา ในโคมนะครับ ส่วนกระโปรงหลังนั้นเองที่ด้านซ้ายจะไม่มีนะครับ ส่วนไฟทั้งหมดเป็น LED ทั้งโคมสว่างสวยคม และเส้นสายดูสวยงามแบบเดียวกับรุ่นปกติ
การที่ตัวรถนั้นใช้งานระบบช่วงล่างแบบถุงลมเป็นจุดสำคัญที่ส่งผลต่อการขับขี่แบบเยอะมากๆ รวมถึงส่งผลต่อการใช้งานขับขี่และแน่นอนว่าความสวยงามด้วยทำให้สามารถปรับระดับตัวรถได้และยังมีโหมดการยกตัวรถสูงที่สุดแบบในภาพทำให้หลบพวกคอสะพาน หรือ หมอนถนนสูงๆได้เหมาะกับประเทศไทยมากๆครับจะเห็นเลยว่าความสูงต่างกับแบบรู้สึกได้เมื่อเทียบกับแบบนี้ครับล้อหลังเราจะมองได้ชัดเจนมากๆเลยทีเดียวแต่ก็ไม่ทำให้ตัวรถโย่งเกินไป
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้