
จากความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์การกีฬา ทำให้เราเห็นนักเตะจอมเก๋าในวัย 30 อัพที่สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมากมายทั้ง ซลาตัน อิบราฮิมโมวิช ,คริสเตียนโน โรนัลโด้ ,ลีโอเนล เมสซี , หรือแม้กระทั้ง ดักลาส คาโดโซ่ เสือเฒ่าในเวทีฟุตบอลไทย
.
แต่ถ้าย้อนไปเมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว นักเตะวัยไม้ใกล้ฝั่งมักถูกมองว่าเป็นเพียงนักเตะอะไหล่ หรือมีไว้แค่ให้เกียรติกับนักเตะเพราะอยู่กับทีมมานาน การที่จะหวังให้เป็นตัวหลักนั้นเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ ยกเว้นขิงแก่อย่าง แกรี่ แม็คอัลลิสเตอร์ ชายผู้ฉีกทุกตำรา ความเชื่อในยุคนั้นว่านักเตะ 30 อัพคือนักเตะที่หมดสภาพแล้ว
.
ในช่วงซัมเมอร์ปี 2000 เชราร์ อุลลิเยร์ ตำนานกุญชือผู้ล่วงลับของลิเวอร์พูลก็ได้สร้างความประหลาดใจไปทั่วเกาะอังกฤษ เมื่อได้จัดการเซ็นต์ฟรีนักเตะวัย 35 เข้าสู่ถิ่นแอนฟิลด์ โดยที่แฟนๆ หงศ์แดงก็ไม่ค่อยพอใจดีลนี้มากนัก เพราะแทนที่ทีมจะไปดึงนักเตะบิ๊กเนมมา แต่กลับไปดึงนักเตะฟรี ที่ไร้เกียรติประวัติ มีเพียงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลจากทีมท้ายตารางอย่างโคเวนทรีติดตัวมาเท่านั้น
.
โดยที่เวลานั้นไม่มีใครคิดเลยว่า แม็คอัลลิสเตอร์ คนนี้จะเป็นคีย์แมน คนสำคัญที่จะพาลิเวอร์พูลคว้า3แชมป์ประวัติศาสตร์ในฤดูกาลเดียว
.
แม็คอัลลิสเตอร์ เริ่มต้นเหมือนกับนักเตะจอมเก๋าทั่วไป ที่เชราร์ อุลลิเยร์ มักจะเปลี่ยนตัวเข้ามาช่วงท้ายๆเกมส์ แต่เขากลับพิสูจน์ตัวเองได้มากกว่าการเป็นเพียงนักเตะอะไหล่ เมื่อตลอดซีซันเขาได้รับความไว้วางใจ ให้ลงเล่นไปถึง49 นัด(ตัวจริง31สำรอง18) และทำไปได้ถึง8ประตู ในตำแหน่งกองกลาง
โดยเฉพาะการยิงฟรีคิ๊กระยะกว่า 40 หลาช่วงทดเวลาบาดเจ็บใส่คู่ปรับตลอดการอย่างเอฟเวอร์ก่อนที่เอาจะชนะไปอย่างสุดมัน 4-3 คาสนามเมอร์ซี่ไซน์
.
และเเกรี่ยังทำสุดยอดผลงานได้อย่างต่อเนื่องด้วยการยิงประตูชัยดับยอดทีมอย่างบาเซโลน่า 1-0 ในรอบรองชนะเลิศยูฟ่าคัพพาทีมคว้าตั๋วไปเล่นรอบชิงชนะเลิศที่สนามเวสท์ฟาเลินชตาดิโอน รังเหย้าของทีมเสือเหลืองดอร์มุน เจ้าภาพรอบชิงยูฟ่าคัพปี 2001
.
นอกจากนี้เขายังสร้างความประทับใจให้กับเหล่าเดอะคอปอีกครั้ง เมื่อถูกเปลี่ยนตัวลงมาในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลลีกคัพแทนสตีเวน เจอร์ราด ในนาทีที่78 และก็เป็นเป็นเสือเฒ่าคนเดิมที่เป็นผู้นำทีมสังหารจุดโทษเป็นคนแรกให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำก่อนที่สุดท้ายจะเอาชนะไปด้วยสกอร์ 5-4 พาทีมคว้าแชมป์ลีกคัพไปครอง
.
นอกจากนี้ในฟุตบอลถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอย่าง FA คัพก็ยังคงเป็นแกรี่ อีกครั้งที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาและช่วยให้ลิเวอร์พูลเอาชนะอาร์เซนอล 2-1 คว้าแชมป์ที่สองของฤดูกาล
.
นาทีนั้นแกรี่ ได้เปลี่ยนความไม่พอใจของเดอะค็อปในการเซ็นต์สัญญากับเขาเมื่อต้นฤดูกาลให้การเป็นดีลที่ทรงคุณค่าและคุ้มค่าที่สุดประจำปีไปแล้ว และคงเป็นเรื่องแปลกประหลาดและสร้างความไม่พอใจมากๆ ถ้าเขาจะไม่มีชื่อเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริงในรอบชิงฟุตบอลยูฟ่าคัพ 4 วันต่อมาหลังจากพึ่งพาทีมชูถ้วยแชมป์FA คัพไปหมาดๆ
.
และกองกลางในวัย 35 ปีก็ตอบแทนความไว้วางใจของนายใหญ่และสาวกเด็กหงศ์ ด้วยการสร้างปรากฎการแดงทั้งแผ่นดินเยอรมัน จากผลงานลงเล่น 120+ นาทีเต็ม ยิง 1 จ่าย 1 และยิงฟรีคิ๊กโดนกองหลังอลาวาส คู่ปรับจากแดนสเปน ที่พยามจะเข้าสกัดเปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเอง เป็นประตูชัยด้วยกฎโกลเด้นโกลล์ พาทีมคว้าแชมป์ที่สามของฤดูกาล และคว้าตำแหน่งแมนออฟเดอะแมทซ์รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยของยุโรปไปครอง
.
แม้เวลาจะล่วงไปกว่า 20 ปีแล้ว แกรี่ แม็คอัลลิสเตอร์ ซึ่งท้ายที่สุดจะไม่ได้แขวนสตั๊ดอำลาพื้นสนามกับลิเวอร์พูล แต่ปัจจุบันเขาก็ยังคงวงเวียนอยู่กับฟุตบอลที่เขารักโดยการเป็นผู้ช่วยให้กับตำนานอีกคนของเครื่องจักรสีแดง สตีเวน เจอร์ราดที่รับบทเป็นผู้จัดการว่าที่ทีมแชมป์สก็อตติดลีกอย่างเรนเจอร์ในปัจจุบัน
.
.
# #โกลสตรอม #พรีเมียรลีก #ฟุตบอลโลก2022 #แม็คอัลลิสเตอร์ #ยูฟ่าคัพ
ที่มา#โกลสตรอม
แม็คอัลลิสเตอร์ ขิงแก่วัย 35 กับตำนานแมนออฟเดอะเเมทซ์รอบชิง ยูฟ่าคัพ
จากความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์การกีฬา ทำให้เราเห็นนักเตะจอมเก๋าในวัย 30 อัพที่สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมากมายทั้ง ซลาตัน อิบราฮิมโมวิช ,คริสเตียนโน โรนัลโด้ ,ลีโอเนล เมสซี , หรือแม้กระทั้ง ดักลาส คาโดโซ่ เสือเฒ่าในเวทีฟุตบอลไทย
.
แต่ถ้าย้อนไปเมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว นักเตะวัยไม้ใกล้ฝั่งมักถูกมองว่าเป็นเพียงนักเตะอะไหล่ หรือมีไว้แค่ให้เกียรติกับนักเตะเพราะอยู่กับทีมมานาน การที่จะหวังให้เป็นตัวหลักนั้นเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ ยกเว้นขิงแก่อย่าง แกรี่ แม็คอัลลิสเตอร์ ชายผู้ฉีกทุกตำรา ความเชื่อในยุคนั้นว่านักเตะ 30 อัพคือนักเตะที่หมดสภาพแล้ว
.
ในช่วงซัมเมอร์ปี 2000 เชราร์ อุลลิเยร์ ตำนานกุญชือผู้ล่วงลับของลิเวอร์พูลก็ได้สร้างความประหลาดใจไปทั่วเกาะอังกฤษ เมื่อได้จัดการเซ็นต์ฟรีนักเตะวัย 35 เข้าสู่ถิ่นแอนฟิลด์ โดยที่แฟนๆ หงศ์แดงก็ไม่ค่อยพอใจดีลนี้มากนัก เพราะแทนที่ทีมจะไปดึงนักเตะบิ๊กเนมมา แต่กลับไปดึงนักเตะฟรี ที่ไร้เกียรติประวัติ มีเพียงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลจากทีมท้ายตารางอย่างโคเวนทรีติดตัวมาเท่านั้น
.
โดยที่เวลานั้นไม่มีใครคิดเลยว่า แม็คอัลลิสเตอร์ คนนี้จะเป็นคีย์แมน คนสำคัญที่จะพาลิเวอร์พูลคว้า3แชมป์ประวัติศาสตร์ในฤดูกาลเดียว
.
แม็คอัลลิสเตอร์ เริ่มต้นเหมือนกับนักเตะจอมเก๋าทั่วไป ที่เชราร์ อุลลิเยร์ มักจะเปลี่ยนตัวเข้ามาช่วงท้ายๆเกมส์ แต่เขากลับพิสูจน์ตัวเองได้มากกว่าการเป็นเพียงนักเตะอะไหล่ เมื่อตลอดซีซันเขาได้รับความไว้วางใจ ให้ลงเล่นไปถึง49 นัด(ตัวจริง31สำรอง18) และทำไปได้ถึง8ประตู ในตำแหน่งกองกลาง
โดยเฉพาะการยิงฟรีคิ๊กระยะกว่า 40 หลาช่วงทดเวลาบาดเจ็บใส่คู่ปรับตลอดการอย่างเอฟเวอร์ก่อนที่เอาจะชนะไปอย่างสุดมัน 4-3 คาสนามเมอร์ซี่ไซน์
.
และเเกรี่ยังทำสุดยอดผลงานได้อย่างต่อเนื่องด้วยการยิงประตูชัยดับยอดทีมอย่างบาเซโลน่า 1-0 ในรอบรองชนะเลิศยูฟ่าคัพพาทีมคว้าตั๋วไปเล่นรอบชิงชนะเลิศที่สนามเวสท์ฟาเลินชตาดิโอน รังเหย้าของทีมเสือเหลืองดอร์มุน เจ้าภาพรอบชิงยูฟ่าคัพปี 2001
.
นอกจากนี้เขายังสร้างความประทับใจให้กับเหล่าเดอะคอปอีกครั้ง เมื่อถูกเปลี่ยนตัวลงมาในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลลีกคัพแทนสตีเวน เจอร์ราด ในนาทีที่78 และก็เป็นเป็นเสือเฒ่าคนเดิมที่เป็นผู้นำทีมสังหารจุดโทษเป็นคนแรกให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำก่อนที่สุดท้ายจะเอาชนะไปด้วยสกอร์ 5-4 พาทีมคว้าแชมป์ลีกคัพไปครอง
.
นอกจากนี้ในฟุตบอลถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอย่าง FA คัพก็ยังคงเป็นแกรี่ อีกครั้งที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาและช่วยให้ลิเวอร์พูลเอาชนะอาร์เซนอล 2-1 คว้าแชมป์ที่สองของฤดูกาล
.
นาทีนั้นแกรี่ ได้เปลี่ยนความไม่พอใจของเดอะค็อปในการเซ็นต์สัญญากับเขาเมื่อต้นฤดูกาลให้การเป็นดีลที่ทรงคุณค่าและคุ้มค่าที่สุดประจำปีไปแล้ว และคงเป็นเรื่องแปลกประหลาดและสร้างความไม่พอใจมากๆ ถ้าเขาจะไม่มีชื่อเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริงในรอบชิงฟุตบอลยูฟ่าคัพ 4 วันต่อมาหลังจากพึ่งพาทีมชูถ้วยแชมป์FA คัพไปหมาดๆ
.
และกองกลางในวัย 35 ปีก็ตอบแทนความไว้วางใจของนายใหญ่และสาวกเด็กหงศ์ ด้วยการสร้างปรากฎการแดงทั้งแผ่นดินเยอรมัน จากผลงานลงเล่น 120+ นาทีเต็ม ยิง 1 จ่าย 1 และยิงฟรีคิ๊กโดนกองหลังอลาวาส คู่ปรับจากแดนสเปน ที่พยามจะเข้าสกัดเปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเอง เป็นประตูชัยด้วยกฎโกลเด้นโกลล์ พาทีมคว้าแชมป์ที่สามของฤดูกาล และคว้าตำแหน่งแมนออฟเดอะแมทซ์รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยของยุโรปไปครอง
.
แม้เวลาจะล่วงไปกว่า 20 ปีแล้ว แกรี่ แม็คอัลลิสเตอร์ ซึ่งท้ายที่สุดจะไม่ได้แขวนสตั๊ดอำลาพื้นสนามกับลิเวอร์พูล แต่ปัจจุบันเขาก็ยังคงวงเวียนอยู่กับฟุตบอลที่เขารักโดยการเป็นผู้ช่วยให้กับตำนานอีกคนของเครื่องจักรสีแดง สตีเวน เจอร์ราดที่รับบทเป็นผู้จัดการว่าที่ทีมแชมป์สก็อตติดลีกอย่างเรนเจอร์ในปัจจุบัน
.
.
# #โกลสตรอม #พรีเมียรลีก #ฟุตบอลโลก2022 #แม็คอัลลิสเตอร์ #ยูฟ่าคัพ
ที่มา#โกลสตรอม