เสียงอื้ออึงวิจารณ์เห็นการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นทั่วบริเวณบล๊อค หลังจากน้าพจน์ถูกส่งตัวไปที่แดนพยาบาล มีหลายๆคนถูกเรียกไปสอบสวนที่ทำการแดน
ปกติวันหยุดเจ้าหน้าที่ที่เข้าเวรหน้าแดนจะไม่ใช่เจ้าหน้าที่ประจำแดน ส่วนมากจะมาจากแดนอื่น หรือส่วนอื่น การสอบสวนเลยดูหลวมๆ เหตุการณ์นี้เลยสรุปไปก่อนว่า อาจเกิดจากการเล่นมวยแล้วไม่พอใจกัน รอให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบแดนโดยตรงมาดำเนินการณ์ต่อ
17.55 น.
อากาศตอนนี้ร้อนอบอ้าวมาก ลมธรรมชาติไม่พัดเลย ใบไม้ของต้นไม้ไม่กระดิกแม้แต่น้อย วันนี้ทีวีถูกระงับไม่ให้เปิด บรรยากาศบนเรือนนอนเลยดูอึมครึม มีแต่เสียงพูดคุยระงมทั่วทั้งเรือนนอน บ้างก็คุยเรื่องความอบอ้าวของอากาศ บ้างก็คุยถึงเหตุการณ์แทงกันในแดน
“แทงไอ้พจน์หรือเปล่าว่ะ” น่าเด่นถามไอ้โจ้
“โอ้ยน้า ผมจะไปแทงเค้าตอนไหน ผมก็อยู่กับน้าตลอด”ไอ้โจ้ตอบทันควัน
“หรือไอ้เทพ” น้าเด่นถามไอ้เทพบ้าง
“น้าเด่นไม่สั่ง ผมจะแทงเค้าทำไม น้าก็เห็นผมนั่งเล่นหมากรุกอยู่” ไอ้เทพตอบเสียงเรียบๆ พลางตาอ่านหนังสือในมือ
“แล้วใครว่ะ”น้าเด่นยังคงสงสัย
“ก็คงไปบิดใครในวงมวยนั่นหล่ะ ผมว่า” ไอ้โจ้พูด
“พวกก็วางใจกันไม่ได้นะ พ่อบ้านใหญ่บางเหนือถูกแทง พวกเรานี่หล่ะจะตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนแรกๆ” น้าเด่นพูดพร้อมหยิบแว่นมาใส่ แล้วกางหนังสือนิยายจีน
“น้าไม่ต้องห่วง พรุ่งนี้ลงไปผมจะไปบอกเด็กๆให้มันระวังตัว และเตรียมตัวกัน” ไอ้เทพพูดเสียงเรียบ แต่มีความหนักแน่นอยู่ในที
ในสายตาน้าเด่น ไอ้เทพถึงจะดูโผงผาง แต่ถ้าถึงเวลามีอะไร ไว้ใจมันได้ทุกที ไม่เหมือนไอ้โจ้ เอะอะมะเทิ่ง มีอะไรจริงๆก็ยังงงๆ ทำอะไรไม่ค่อยถูก หรือภาษาคุกเรียกว่า “รอบยังไม่จัด”
ส่วนทางด้านห้องของพวกไอ้หรั่ง สมาชิกในบ้านทุกคนมานั่งล้อมวง พูดคุยกันเรื่องน้าพจน์
“ผมว่าพวกไอ้โจ้แน่นอน มันน่าจะไม่พอใจ ที่น้าพจน์ออกตัวให้ผมช่วงบ่าย” ไอ้เอกพูดด้วยน้ำเสียงท่าทีขึงขัง
“อืม แต่เราไม่มีหลักฐานนี่สิ ไม่มีใครเห็นคนแทงด้วย” ไอ้หรั่งพูดเสียงต่ำ
“ผมอยู่แถวนั้นตอนนั่งดูต้นทางให้จารย์เหน่ง ก็ไม่เห็นเด็กบ้านใต้เลยนะ”ไอ้นพพูด
“มันอาจจะจ้างพวกซามูมาแทงก็ได้ จะรู้อะไร ใครเป็นซามูรู้หรอ” ไอ้เอกเริ่มเสียงดัง
ไอ้นพส่ายหัวงึกงึก พร้อมหลบสายตาไอ้เอก
“เออ ที่เอกพูดก็เป็นไปได้นะ” จารย์เหน่งเสริม
“ พรุ่งนี้เดี๋ยวลงไปคุยกับน้าเด่นก่อนดูท่าทีทางโน้น หลักฐานเราก็ยังไม่มี ทำอะไรโฉ่งฉ่างไปปัญหาตามมามันเยอะ แล้วค่อยมาคุยกับคนในบ้านน้าพจน์ดู ว่าพวกมันคิดยังไง ว่ายังไงกัน” ไอ้หรั่งสรุปก่อนที่จะเอนตัวลงนอน
“พี่หรั่งว่าไง ผมก็ว่ายังงั้นหล่ะ ผมจะได้ไปบอกพรรคพวกเรา ให้เตรียมตัวกันไว้ด้วย” ไอ้เอกพูดพลางลุกไปสูบบุหรี่หลังห้อง
ไอ้หรั่งนอนลืมตาพลางเอานิ้วชี้คลึงวนปลายจมูก ในหัวคิดเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น สถานการณ์ตอนนี้ ถ้าหาหลักฐานยืนยันได้ว่าเกี่ยวข้องกับเด็กบ้านใต้จริงๆ ก็คงต้องมีการเอาคืนกันแน่นอน
แต่ถ้ายังคลุมเครืออยู่ ก็ต้องรอดูพรรคพวกในบ้านเหนือก่อนว่าจะเอายังไงกัน เพราะถ้าไม่ทำอะไรเลย เด็กบ้านเหนือจะต้องกลายเป็นรองในหลายๆเรื่อง ในสายตาของคนอื่นๆในคุก ประมาณว่าพ่อบ้านใหญ่โดนแทง แต่เด็กบ้านเหนือหงอยไม่กล้าเอาคืน และจะโดนมองข้ามจากบ้านอื่นๆอีก
ครั้นไอ้หรั่งจะออกตัวปรี๊ดปร๊าดมากก็ไม่ได้ เพราะในบ้านเหนือก็ยังมีตัวกลั่นๆอีกหลายคน จะกลายเป็นว่า ไอ้หรั่งออกตัวเพราะอยากขึ้นเป็นพ่อบ้านใหญ่ดูแลแทนน้าพจน์ไปซะอีก
วันอาทิตย์ เวลา 8.40 น.
หลังจากเข้าแถวเคารพธงชาติ เช็คยอด ทุกๆคนในแดนก็จะแยกย้าย กระจายตัวไปหาที่พักผ่อนหย่อนใจ หามุมส่วนตัว หากิจกรรมทำ ให้ผ่อนคลายสบายๆในวันหยุด
แต่บริเวณข้างกองงานกระดาษ ที่รวมตัวของคนในบ้านไอ้หรั่ง บรรยกาศบริเวณนี้ดูไม่ค่อยผ่อนคลายสักเท่าไหร่ มีพ่อบ้านเด็กบ้านเหนือมารวมตัวกันหลายคน
บรรยกาศการพูดคุยดูเคร่งเครียด มีการโต้เถียงกันเป็นระยะๆ
“เราว่าให้หรั่งเป็นตัวแทนพวกเรา ไปถามทางน้าเด่นดูก็ดีนะ เพราะหรั่งก็จัดได้ว่าเป็นคนหลักๆของพวกเราบ้านเหนือ” ไอ้ไก่ซอย 100 หนึ่งในพ่อบ้านพูด
“ผมว่าให้น้าถมไปดีกว่า น้าถมน่าจะดูมีน้ำหนักมากกว่า” ไอ้ชัยวินดำ พูดแย้ง
ไอ้เอกกำลังจะอ้าปากพูด แต่ก็ต้องหยุดแล้วหันหน้ามาทางไอ้หรั่ง ที่กำลังดึงมือแล้วส่งสัญญาณด้วยการขมวดคิ้ว
“ข้าก็อยากไปคุยให้นะ แต่ข้ากับไอ้เด่นไม่ถูกกันมาตั้งแต่ข้างนอก แย่งลูกค้าบ่อนกันประจำ กลัวจะคุยกับมันได้ไม่นานหน่ะสิ ข้าว่าให้หรั่งไปหน่ะดีแล้ว หรั่งดูนิ่งๆดี แต่ถ้ามีอะไร น้ากับเด็กในบ้าน อยู่ข้างพวกเอ็งอยู่แล้ว” น้าถมพูดออกตัว
เมื่อเป็นเช่นนี้ผลการหาตัวแทนของเด็กบ้านเหนือจึงตกมาเป็นหน้าที่ของไอ้หรั่ง ในใจของไอ้หรั่งก็ไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายอะไรกับหน้าที่นี้
อยากให้เกิดการปะทะกันไหม ก็ไม่ ปะทะกันขึ้นมาค้าขายก็ไม่ได้ ต้องอยู่ลำบาก นอนขังเดี่ยว ไม่สนุกแน่ๆ
อยากให้เรื่องผ่านเฉยๆเงียบๆไหม ก็ไม่ เพราะไม่ทำอะไรเลย ก็จะกลายเป็นหงอไปอีก คุกใครว่าอยู่ง่ายๆ ในสถานะภาพของคนอย่างไอ้หรั่ง
“โอเค เดี๋ยวเราไปเอง” ไอ้หรั่งพูดพร้อมลุกยืน
“ผมไปด้วย ต้นเรื่องจากผม ผมต้องไป” ไอ้เอกพูดพร้อมเตรียมลุกยืน
“ไม่ต้องๆ พี่ไปคนเดียวพอ ยิ่งเอกไปกลัวจะไม่ได้คุยกันพอดี”ไอ้หรั่งรีบห้าม พร้อมเอามือซ้ายตบไหล่ไอ้เอกเบาๆ ขณะเดียวกันก็หันหน้าพร้อมส่ายหัว ให้กับไอ้กบที่ทำท่าจะลุกยืนด้วย
“ได้ๆ ให้หรั่งไปคนเดียว พวกเรารอฟังข่าวและเตรียมพร้อมกันอยู่ที่นี่” ไอ้ชัยวินดำพูด
“เดี๋ยวๆหรั่ง ให้ไอ้ดาเด็กใหม่บ้านเรา ตามหรั่งไปห่างๆ เผื่อมีอะไรมันจะได้รีบมาส่งข่าวพวกเราได้” ไก่ซอย 100 พูดพร้อมกวักมือเรียกไอ้ดา
ไอ้หรั่งพยักหน้าเบาๆ แล้วควักบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ ก่อนเดินมุ่งหน้าไปที่กองงานสายไฟ ที่ประจำของบ้านน้าเด่น
แดดตอนนี้ไม่แรงมากนัก แต่ไม่มีลมพัดเลย ทำให้ทั่วทั้งแดนร้อนอบอ้าว กว่าทุกวันกองงานสายไฟจะอยู่ด้านหลังของร้านค้า เยื้องๆกับโรงเลี้ยง ระหว่างการเดินไอ้หรั่งก็เหลียวมองบรรยกาศรอบตัว ในใจก็ทำการบ้านว่า จะเริ่มถามเริ่มคุยกับน้าเด่นยังไงดี ให้ออกมาเป็นที่พอใจของทุกฝ่ายและของตัวมันเอง
“แกร็ง ๆ แกร็งๆ” เสียงตรวนที่ข้อเท้า ดังเบาๆ จากหน้าร้านค้า
เสี่ยโอ่งยืนมองไอ้หรั่งเดินผ่านหน้าร้านค้าไป
หน้ากองงานสายไฟ มีไอ้เทพกำลังนั่งยองๆเล่นหมากรุกอยู่กับไอ้โจ้ ทันที่ที่ไอ้หรั่งเดินมาถึง ไอ้เทพก็ลุกพรวด ปล่อยให้ไอ้โจ้นั่งหน้าเหรอหรา
“เอ้ยหรั่ง มาทำไมว่ะ” ไอ้เทพถาม
“มาคุยกับน้าเด่นหน่อย” ไอ้หรั่งตอบเสียงเรียบๆต่ำๆ พร้อมก้าวเท้าต่อ
“เดี๋ยว” ไอ้เทพพูด พร้อมส่งสายตาไปที่ชายเสื้อไอ้หรั่ง
ไอ้หรั่งไม่ตอบอะไร แต่ยกชายเสื้อพร้อมหมุนด้านหลังให้ไอ้เทพ แล้วเดินพรวดเข้าไปในกองงาน
ทันทีที่น้าเด่น เห็นไอ้หรั่งเดินเข้ามา น้าเด่นก็ค่อยๆลุกจากที่นั่งประจำตำแหน่งเสมียน แล้วถอดแว่น และวางหนังสือนิยายจีนลง
“ไงหรั่ง มาๆ นั่งก่อน ว่าเที่ยงๆจะเข้าไปคุยด้วยพอดี” น้าเด่นกล่าวทักทายก่อน
“ครับน้า” ไอ้หรั่งพูดพลางดึงเก้าอี้มานั่ง
“ผมถามตรงๆเลยนะ น้าพจน์โดนแทง เด็กบ้านน้าเกี่ยวข้องไหม”ไอ้หรั่งยิงคำถามแบบไม่อ้อมค้อม
“หรั่งหมายถึงใคร” น้าเด่นถามกลับ
“ไอ้โจ้ เอกเล่าให้ผมฟังว่ามีปัญหากับไอ้โจ้ แล้วน้าพจน์มาเคลียร์ให้ ผมเลยคิดว่าไอ้โจ้มันน่าจะไม่พอใจ เลยมาแทงน้าพจน์”ไอ้หรั่งพูดหน้าเรียบๆ
“ไม่ใช่นะ ตอนที่พจน์โดนแทง ไอ้โจ้มันก็อยู่กับน้าที่นี่นะ”น้าเด่นพูดแย้ง
ไอ้หรั่งเอียงหน้าไปทางหน้ากองงาน แล้วพูด “ถ้าผมจะเรียกมันมาถาม น้าจะว่าอะไรไหม”
“ได้สิๆ โจ้ๆ เข้ามานี่หน่อยสิ” น้าเด่นพูดพร้อม ตะโกนเรียก
“ครับๆน้า” ไอ้โจ้ตอบ แล้วลุกพรวด เดินคอเอียงเข้ามา
ขณะเดียวกัน ไอ้เทพก็ลุกขึ้น เดินตามหลังไอ้โจ้เข้ามาติดๆ
“มันมาหล่ะ หรั่งจะถามอะไร ถามเลย”น้าเด่นพูด
“โจ้ ถามจริง นายแทงน้าพจน์หรือเปล่า”ไอ้หรั่งถามเสียงเรียบๆ
“เปล่าๆ ตอนน้าพจน์โดนแทงผมก็อยู่ที่นี่ ใครๆก็เห็น”ไอ้โจ้ตอบเสียงลนๆ
“แล้วจ้างใครไปแทงหรือเปล่า”ไอ้หรั่งถามต่อ
“เฮ้ยๆ ยัดเยียดเด็กมันเกินไปไหมหรั่ง” ไอ้เทพพูดแย้ง
“โอ้ย แค่บุหรี่ซองเดียว ผมจะจ้างใครไปแทงน้าพจน์ทำไม”ไอ้โจ้ตอบด้วยน้ำเสียงเริ่มยียวน เพราะรู้ว่ามีไอ้เทพให้ท้าย
ไอ้หรั่งหันหน้าไปสบตาไอ้เทพ ด้วยสายตาเรียบๆแต่ดูเอาจริงอยู่ครู่นึง แล้วหันมาบอกไอ้โจ้ว่า “โจ้ นายไม่เกี่ยวก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเรารู้ว่าใครเกี่ยว แล้วเราจะกลับมาเล่าให้ฟังนะ”
ไอ้หรั่งเดินกลับไปที่รวมตัวของพวกมัน เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้พรรคพวกฟัง พร้อมกับสนับสนุนความเชื่อของตัวเอง ว่าไม่น่าจะใช้ไอ้โจ้หรือใครๆในเด็กบ้านใต้ เพราะจากการถามแบบตรงจุดของไอ้หรั่ง ดูแล้วไม่มีอาการน่าสงสัย
ทั้งหมดเลยสรุปกันว่ารอน้าพจน์กลับมาจากโรงพยาบาลก่อน แล้วค่อยถามแกอีกที น่าจะได้ข้อมูลมากกว่านี้ ทุกคนเลยแยกย้ายกัน
11.50 น.
ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มมีเมฆดำก่อตัวขึ้นไกลๆทางด้านหลังเรือนจำ ลมเริ่มพัดมาเป็นระลอก ฝนกำลังจะก่อตัว และนี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้วันสองวันที่ผ่านมาร้อนอบอ้าว
ลานกว้างหน้าโรงเลี้ยงวันนี้ดูคึกคักเป็นพิเศษ มีหลายๆคนมาจับจองหัวแถว รอเข้าแถวกินอาหารกลางวัน วันนี้เป็นเมนู “ผัดซีอิ๊ว” เมนูที่นานๆ จะมาจัดให้กินสักที
“น้านพๆ ไปเราไปต่อแถวกินผัดซีอิ๊วกัน” ไอ้แก้วพูดชวน
“รอก่อนก็ได้ รอชุดแรกเข้าไปก่อน เรากินรอบ 2 ก็ได้ แถวยาวขนาดนี้ แก้วจะไปนั่งตากแดดทำไม เล่นหมากรุกอีกเกมก่อน ยังทันเลย”ไอ้นพพูด มือพลางเดินเบี้ยในกระดาน
“พี่กบไปด้วยกันนะ”ไอ้แก้วพูดชวน
ไอ้กบตอบรับคำชวนด้วยการพยักหน้างึกๆ แต่ตายังคงเพ่งสนใจอยู่ในกระดานหมากรุก
“ไปๆ ไปลองผัดซีอิ๊วเรือนจำกันหน่อย ของหายากนะ พวกพี่เคยกินหล่ะ พวกเอ็งไปลองหน่อย” ไอ้หรั่งพูดปนอารมณ์ขันอยู่ในที
ปกติมื้อกลางวันในเรือนจำ ถ้าเป็นเมนูจำเจ จะจัดเสิร์ฟแค่รอบเดียว บางวันคนเข้ามากินยังไม่เต็มโต๊ะเลย แต่ถ้าวันไหนเป็นเมนูพิเศษอาจต้องจัด 2หรือ3 รอบกันเลยทีเดียว
พวกไอ้แก้วไอ้กบไอ้นพ มาไม่ทันรอบ2 เลยต้องรอรอบเก็บตก แต่ละรอบก็ใช้เวลาเกือบๆ 20 นาที ไอ้แก้วเลยบ่นอุบ ไอ้นพก็ทำได้แค่หัวเราะกลบเกลื่อนไป
12.55 น.
“น้าหรั่งๆ พี่กบแทงน้าเด่น หน้าสายไฟ ตอนนี้พวกมันกำลังรุมกระทืบพี่กบ อยู่ในกองงาน” ไอ้แก้วตะโกนเสียงตื่น
“ใครนะ กบหรอ จารย์เหน่ง ไปตามพวกเรามาเร็ว เอกไปกับพี่” ไอ้หรั่งพูดพร้อมกับคว้าเหล็กแหลมที่ซ่อนอยู่ข้างตู้
“แก้ว เอ็งรออยู่นี่ ไม่ต้องไป” ไอ้หรั่งสั่งขณะที่ตัวเองกำลังพันเหล็กด้วยผ้าให้ติดแน่นอยู่กับมือทั้งสองข้าง
การเข้าคุกอย่างไร ให้ถูกวิธี และอยู่รอดปลอดภัย ตอนที่ 7 พ่อค้า ซามูไร สงครามแก๊งค์ ( คุกคือที่ทำกิน ) 7/5
ปกติวันหยุดเจ้าหน้าที่ที่เข้าเวรหน้าแดนจะไม่ใช่เจ้าหน้าที่ประจำแดน ส่วนมากจะมาจากแดนอื่น หรือส่วนอื่น การสอบสวนเลยดูหลวมๆ เหตุการณ์นี้เลยสรุปไปก่อนว่า อาจเกิดจากการเล่นมวยแล้วไม่พอใจกัน รอให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบแดนโดยตรงมาดำเนินการณ์ต่อ
17.55 น.
อากาศตอนนี้ร้อนอบอ้าวมาก ลมธรรมชาติไม่พัดเลย ใบไม้ของต้นไม้ไม่กระดิกแม้แต่น้อย วันนี้ทีวีถูกระงับไม่ให้เปิด บรรยากาศบนเรือนนอนเลยดูอึมครึม มีแต่เสียงพูดคุยระงมทั่วทั้งเรือนนอน บ้างก็คุยเรื่องความอบอ้าวของอากาศ บ้างก็คุยถึงเหตุการณ์แทงกันในแดน
“แทงไอ้พจน์หรือเปล่าว่ะ” น่าเด่นถามไอ้โจ้
“โอ้ยน้า ผมจะไปแทงเค้าตอนไหน ผมก็อยู่กับน้าตลอด”ไอ้โจ้ตอบทันควัน
“หรือไอ้เทพ” น้าเด่นถามไอ้เทพบ้าง
“น้าเด่นไม่สั่ง ผมจะแทงเค้าทำไม น้าก็เห็นผมนั่งเล่นหมากรุกอยู่” ไอ้เทพตอบเสียงเรียบๆ พลางตาอ่านหนังสือในมือ
“แล้วใครว่ะ”น้าเด่นยังคงสงสัย
“ก็คงไปบิดใครในวงมวยนั่นหล่ะ ผมว่า” ไอ้โจ้พูด
“พวกก็วางใจกันไม่ได้นะ พ่อบ้านใหญ่บางเหนือถูกแทง พวกเรานี่หล่ะจะตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนแรกๆ” น้าเด่นพูดพร้อมหยิบแว่นมาใส่ แล้วกางหนังสือนิยายจีน
“น้าไม่ต้องห่วง พรุ่งนี้ลงไปผมจะไปบอกเด็กๆให้มันระวังตัว และเตรียมตัวกัน” ไอ้เทพพูดเสียงเรียบ แต่มีความหนักแน่นอยู่ในที
ในสายตาน้าเด่น ไอ้เทพถึงจะดูโผงผาง แต่ถ้าถึงเวลามีอะไร ไว้ใจมันได้ทุกที ไม่เหมือนไอ้โจ้ เอะอะมะเทิ่ง มีอะไรจริงๆก็ยังงงๆ ทำอะไรไม่ค่อยถูก หรือภาษาคุกเรียกว่า “รอบยังไม่จัด”
ส่วนทางด้านห้องของพวกไอ้หรั่ง สมาชิกในบ้านทุกคนมานั่งล้อมวง พูดคุยกันเรื่องน้าพจน์
“ผมว่าพวกไอ้โจ้แน่นอน มันน่าจะไม่พอใจ ที่น้าพจน์ออกตัวให้ผมช่วงบ่าย” ไอ้เอกพูดด้วยน้ำเสียงท่าทีขึงขัง
“อืม แต่เราไม่มีหลักฐานนี่สิ ไม่มีใครเห็นคนแทงด้วย” ไอ้หรั่งพูดเสียงต่ำ
“ผมอยู่แถวนั้นตอนนั่งดูต้นทางให้จารย์เหน่ง ก็ไม่เห็นเด็กบ้านใต้เลยนะ”ไอ้นพพูด
“มันอาจจะจ้างพวกซามูมาแทงก็ได้ จะรู้อะไร ใครเป็นซามูรู้หรอ” ไอ้เอกเริ่มเสียงดัง
ไอ้นพส่ายหัวงึกงึก พร้อมหลบสายตาไอ้เอก
“เออ ที่เอกพูดก็เป็นไปได้นะ” จารย์เหน่งเสริม
“ พรุ่งนี้เดี๋ยวลงไปคุยกับน้าเด่นก่อนดูท่าทีทางโน้น หลักฐานเราก็ยังไม่มี ทำอะไรโฉ่งฉ่างไปปัญหาตามมามันเยอะ แล้วค่อยมาคุยกับคนในบ้านน้าพจน์ดู ว่าพวกมันคิดยังไง ว่ายังไงกัน” ไอ้หรั่งสรุปก่อนที่จะเอนตัวลงนอน
“พี่หรั่งว่าไง ผมก็ว่ายังงั้นหล่ะ ผมจะได้ไปบอกพรรคพวกเรา ให้เตรียมตัวกันไว้ด้วย” ไอ้เอกพูดพลางลุกไปสูบบุหรี่หลังห้อง
ไอ้หรั่งนอนลืมตาพลางเอานิ้วชี้คลึงวนปลายจมูก ในหัวคิดเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น สถานการณ์ตอนนี้ ถ้าหาหลักฐานยืนยันได้ว่าเกี่ยวข้องกับเด็กบ้านใต้จริงๆ ก็คงต้องมีการเอาคืนกันแน่นอน
แต่ถ้ายังคลุมเครืออยู่ ก็ต้องรอดูพรรคพวกในบ้านเหนือก่อนว่าจะเอายังไงกัน เพราะถ้าไม่ทำอะไรเลย เด็กบ้านเหนือจะต้องกลายเป็นรองในหลายๆเรื่อง ในสายตาของคนอื่นๆในคุก ประมาณว่าพ่อบ้านใหญ่โดนแทง แต่เด็กบ้านเหนือหงอยไม่กล้าเอาคืน และจะโดนมองข้ามจากบ้านอื่นๆอีก
ครั้นไอ้หรั่งจะออกตัวปรี๊ดปร๊าดมากก็ไม่ได้ เพราะในบ้านเหนือก็ยังมีตัวกลั่นๆอีกหลายคน จะกลายเป็นว่า ไอ้หรั่งออกตัวเพราะอยากขึ้นเป็นพ่อบ้านใหญ่ดูแลแทนน้าพจน์ไปซะอีก
วันอาทิตย์ เวลา 8.40 น.
หลังจากเข้าแถวเคารพธงชาติ เช็คยอด ทุกๆคนในแดนก็จะแยกย้าย กระจายตัวไปหาที่พักผ่อนหย่อนใจ หามุมส่วนตัว หากิจกรรมทำ ให้ผ่อนคลายสบายๆในวันหยุด
แต่บริเวณข้างกองงานกระดาษ ที่รวมตัวของคนในบ้านไอ้หรั่ง บรรยกาศบริเวณนี้ดูไม่ค่อยผ่อนคลายสักเท่าไหร่ มีพ่อบ้านเด็กบ้านเหนือมารวมตัวกันหลายคน
บรรยกาศการพูดคุยดูเคร่งเครียด มีการโต้เถียงกันเป็นระยะๆ
“เราว่าให้หรั่งเป็นตัวแทนพวกเรา ไปถามทางน้าเด่นดูก็ดีนะ เพราะหรั่งก็จัดได้ว่าเป็นคนหลักๆของพวกเราบ้านเหนือ” ไอ้ไก่ซอย 100 หนึ่งในพ่อบ้านพูด
“ผมว่าให้น้าถมไปดีกว่า น้าถมน่าจะดูมีน้ำหนักมากกว่า” ไอ้ชัยวินดำ พูดแย้ง
ไอ้เอกกำลังจะอ้าปากพูด แต่ก็ต้องหยุดแล้วหันหน้ามาทางไอ้หรั่ง ที่กำลังดึงมือแล้วส่งสัญญาณด้วยการขมวดคิ้ว
“ข้าก็อยากไปคุยให้นะ แต่ข้ากับไอ้เด่นไม่ถูกกันมาตั้งแต่ข้างนอก แย่งลูกค้าบ่อนกันประจำ กลัวจะคุยกับมันได้ไม่นานหน่ะสิ ข้าว่าให้หรั่งไปหน่ะดีแล้ว หรั่งดูนิ่งๆดี แต่ถ้ามีอะไร น้ากับเด็กในบ้าน อยู่ข้างพวกเอ็งอยู่แล้ว” น้าถมพูดออกตัว
เมื่อเป็นเช่นนี้ผลการหาตัวแทนของเด็กบ้านเหนือจึงตกมาเป็นหน้าที่ของไอ้หรั่ง ในใจของไอ้หรั่งก็ไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายอะไรกับหน้าที่นี้
อยากให้เกิดการปะทะกันไหม ก็ไม่ ปะทะกันขึ้นมาค้าขายก็ไม่ได้ ต้องอยู่ลำบาก นอนขังเดี่ยว ไม่สนุกแน่ๆ
อยากให้เรื่องผ่านเฉยๆเงียบๆไหม ก็ไม่ เพราะไม่ทำอะไรเลย ก็จะกลายเป็นหงอไปอีก คุกใครว่าอยู่ง่ายๆ ในสถานะภาพของคนอย่างไอ้หรั่ง
“โอเค เดี๋ยวเราไปเอง” ไอ้หรั่งพูดพร้อมลุกยืน
“ผมไปด้วย ต้นเรื่องจากผม ผมต้องไป” ไอ้เอกพูดพร้อมเตรียมลุกยืน
“ไม่ต้องๆ พี่ไปคนเดียวพอ ยิ่งเอกไปกลัวจะไม่ได้คุยกันพอดี”ไอ้หรั่งรีบห้าม พร้อมเอามือซ้ายตบไหล่ไอ้เอกเบาๆ ขณะเดียวกันก็หันหน้าพร้อมส่ายหัว ให้กับไอ้กบที่ทำท่าจะลุกยืนด้วย
“ได้ๆ ให้หรั่งไปคนเดียว พวกเรารอฟังข่าวและเตรียมพร้อมกันอยู่ที่นี่” ไอ้ชัยวินดำพูด
“เดี๋ยวๆหรั่ง ให้ไอ้ดาเด็กใหม่บ้านเรา ตามหรั่งไปห่างๆ เผื่อมีอะไรมันจะได้รีบมาส่งข่าวพวกเราได้” ไก่ซอย 100 พูดพร้อมกวักมือเรียกไอ้ดา
ไอ้หรั่งพยักหน้าเบาๆ แล้วควักบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ ก่อนเดินมุ่งหน้าไปที่กองงานสายไฟ ที่ประจำของบ้านน้าเด่น
แดดตอนนี้ไม่แรงมากนัก แต่ไม่มีลมพัดเลย ทำให้ทั่วทั้งแดนร้อนอบอ้าว กว่าทุกวันกองงานสายไฟจะอยู่ด้านหลังของร้านค้า เยื้องๆกับโรงเลี้ยง ระหว่างการเดินไอ้หรั่งก็เหลียวมองบรรยกาศรอบตัว ในใจก็ทำการบ้านว่า จะเริ่มถามเริ่มคุยกับน้าเด่นยังไงดี ให้ออกมาเป็นที่พอใจของทุกฝ่ายและของตัวมันเอง
“แกร็ง ๆ แกร็งๆ” เสียงตรวนที่ข้อเท้า ดังเบาๆ จากหน้าร้านค้า
เสี่ยโอ่งยืนมองไอ้หรั่งเดินผ่านหน้าร้านค้าไป
หน้ากองงานสายไฟ มีไอ้เทพกำลังนั่งยองๆเล่นหมากรุกอยู่กับไอ้โจ้ ทันที่ที่ไอ้หรั่งเดินมาถึง ไอ้เทพก็ลุกพรวด ปล่อยให้ไอ้โจ้นั่งหน้าเหรอหรา
“เอ้ยหรั่ง มาทำไมว่ะ” ไอ้เทพถาม
“มาคุยกับน้าเด่นหน่อย” ไอ้หรั่งตอบเสียงเรียบๆต่ำๆ พร้อมก้าวเท้าต่อ
“เดี๋ยว” ไอ้เทพพูด พร้อมส่งสายตาไปที่ชายเสื้อไอ้หรั่ง
ไอ้หรั่งไม่ตอบอะไร แต่ยกชายเสื้อพร้อมหมุนด้านหลังให้ไอ้เทพ แล้วเดินพรวดเข้าไปในกองงาน
ทันทีที่น้าเด่น เห็นไอ้หรั่งเดินเข้ามา น้าเด่นก็ค่อยๆลุกจากที่นั่งประจำตำแหน่งเสมียน แล้วถอดแว่น และวางหนังสือนิยายจีนลง
“ไงหรั่ง มาๆ นั่งก่อน ว่าเที่ยงๆจะเข้าไปคุยด้วยพอดี” น้าเด่นกล่าวทักทายก่อน
“ครับน้า” ไอ้หรั่งพูดพลางดึงเก้าอี้มานั่ง
“ผมถามตรงๆเลยนะ น้าพจน์โดนแทง เด็กบ้านน้าเกี่ยวข้องไหม”ไอ้หรั่งยิงคำถามแบบไม่อ้อมค้อม
“หรั่งหมายถึงใคร” น้าเด่นถามกลับ
“ไอ้โจ้ เอกเล่าให้ผมฟังว่ามีปัญหากับไอ้โจ้ แล้วน้าพจน์มาเคลียร์ให้ ผมเลยคิดว่าไอ้โจ้มันน่าจะไม่พอใจ เลยมาแทงน้าพจน์”ไอ้หรั่งพูดหน้าเรียบๆ
“ไม่ใช่นะ ตอนที่พจน์โดนแทง ไอ้โจ้มันก็อยู่กับน้าที่นี่นะ”น้าเด่นพูดแย้ง
ไอ้หรั่งเอียงหน้าไปทางหน้ากองงาน แล้วพูด “ถ้าผมจะเรียกมันมาถาม น้าจะว่าอะไรไหม”
“ได้สิๆ โจ้ๆ เข้ามานี่หน่อยสิ” น้าเด่นพูดพร้อม ตะโกนเรียก
“ครับๆน้า” ไอ้โจ้ตอบ แล้วลุกพรวด เดินคอเอียงเข้ามา
ขณะเดียวกัน ไอ้เทพก็ลุกขึ้น เดินตามหลังไอ้โจ้เข้ามาติดๆ
“มันมาหล่ะ หรั่งจะถามอะไร ถามเลย”น้าเด่นพูด
“โจ้ ถามจริง นายแทงน้าพจน์หรือเปล่า”ไอ้หรั่งถามเสียงเรียบๆ
“เปล่าๆ ตอนน้าพจน์โดนแทงผมก็อยู่ที่นี่ ใครๆก็เห็น”ไอ้โจ้ตอบเสียงลนๆ
“แล้วจ้างใครไปแทงหรือเปล่า”ไอ้หรั่งถามต่อ
“เฮ้ยๆ ยัดเยียดเด็กมันเกินไปไหมหรั่ง” ไอ้เทพพูดแย้ง
“โอ้ย แค่บุหรี่ซองเดียว ผมจะจ้างใครไปแทงน้าพจน์ทำไม”ไอ้โจ้ตอบด้วยน้ำเสียงเริ่มยียวน เพราะรู้ว่ามีไอ้เทพให้ท้าย
ไอ้หรั่งหันหน้าไปสบตาไอ้เทพ ด้วยสายตาเรียบๆแต่ดูเอาจริงอยู่ครู่นึง แล้วหันมาบอกไอ้โจ้ว่า “โจ้ นายไม่เกี่ยวก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเรารู้ว่าใครเกี่ยว แล้วเราจะกลับมาเล่าให้ฟังนะ”
ไอ้หรั่งเดินกลับไปที่รวมตัวของพวกมัน เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้พรรคพวกฟัง พร้อมกับสนับสนุนความเชื่อของตัวเอง ว่าไม่น่าจะใช้ไอ้โจ้หรือใครๆในเด็กบ้านใต้ เพราะจากการถามแบบตรงจุดของไอ้หรั่ง ดูแล้วไม่มีอาการน่าสงสัย
ทั้งหมดเลยสรุปกันว่ารอน้าพจน์กลับมาจากโรงพยาบาลก่อน แล้วค่อยถามแกอีกที น่าจะได้ข้อมูลมากกว่านี้ ทุกคนเลยแยกย้ายกัน
11.50 น.
ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มมีเมฆดำก่อตัวขึ้นไกลๆทางด้านหลังเรือนจำ ลมเริ่มพัดมาเป็นระลอก ฝนกำลังจะก่อตัว และนี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้วันสองวันที่ผ่านมาร้อนอบอ้าว
ลานกว้างหน้าโรงเลี้ยงวันนี้ดูคึกคักเป็นพิเศษ มีหลายๆคนมาจับจองหัวแถว รอเข้าแถวกินอาหารกลางวัน วันนี้เป็นเมนู “ผัดซีอิ๊ว” เมนูที่นานๆ จะมาจัดให้กินสักที
“น้านพๆ ไปเราไปต่อแถวกินผัดซีอิ๊วกัน” ไอ้แก้วพูดชวน
“รอก่อนก็ได้ รอชุดแรกเข้าไปก่อน เรากินรอบ 2 ก็ได้ แถวยาวขนาดนี้ แก้วจะไปนั่งตากแดดทำไม เล่นหมากรุกอีกเกมก่อน ยังทันเลย”ไอ้นพพูด มือพลางเดินเบี้ยในกระดาน
“พี่กบไปด้วยกันนะ”ไอ้แก้วพูดชวน
ไอ้กบตอบรับคำชวนด้วยการพยักหน้างึกๆ แต่ตายังคงเพ่งสนใจอยู่ในกระดานหมากรุก
“ไปๆ ไปลองผัดซีอิ๊วเรือนจำกันหน่อย ของหายากนะ พวกพี่เคยกินหล่ะ พวกเอ็งไปลองหน่อย” ไอ้หรั่งพูดปนอารมณ์ขันอยู่ในที
ปกติมื้อกลางวันในเรือนจำ ถ้าเป็นเมนูจำเจ จะจัดเสิร์ฟแค่รอบเดียว บางวันคนเข้ามากินยังไม่เต็มโต๊ะเลย แต่ถ้าวันไหนเป็นเมนูพิเศษอาจต้องจัด 2หรือ3 รอบกันเลยทีเดียว
พวกไอ้แก้วไอ้กบไอ้นพ มาไม่ทันรอบ2 เลยต้องรอรอบเก็บตก แต่ละรอบก็ใช้เวลาเกือบๆ 20 นาที ไอ้แก้วเลยบ่นอุบ ไอ้นพก็ทำได้แค่หัวเราะกลบเกลื่อนไป
12.55 น.
“น้าหรั่งๆ พี่กบแทงน้าเด่น หน้าสายไฟ ตอนนี้พวกมันกำลังรุมกระทืบพี่กบ อยู่ในกองงาน” ไอ้แก้วตะโกนเสียงตื่น
“ใครนะ กบหรอ จารย์เหน่ง ไปตามพวกเรามาเร็ว เอกไปกับพี่” ไอ้หรั่งพูดพร้อมกับคว้าเหล็กแหลมที่ซ่อนอยู่ข้างตู้
“แก้ว เอ็งรออยู่นี่ ไม่ต้องไป” ไอ้หรั่งสั่งขณะที่ตัวเองกำลังพันเหล็กด้วยผ้าให้ติดแน่นอยู่กับมือทั้งสองข้าง