การเข้าคุกอย่างไร ให้ถูกวิธี และอยู่รอดปลอดภัย ตอนที่ 7 พ่อค้า ซามูไร สงครามแก๊งค์ ( คุกคือที่ทำกิน ) 7/3

20.15 น. 
   บนเรือนนอนเวลานี้ เสียงทีวีของทุกห้อง จะเป็นเสียงเดียวกัน เพราะทุกห้องจะต่อสายสัญญาณมาจากที่ทำการแดน ที่เรือนจำนี้นักโทษจะไม่ได้รับข่าวสารใดใดจากสื่อโทรทัศน์เลย ด้วยเหตุผลทางความมั่นคง  ที่ได้ดูจะเป็นหนังแผ่น หนังใหม่บ้าง เก่าบ้างก็ดูๆกันไป เรื่องไหนนางเอกแต่งตัวเซ็กซี่หน่อย ก็จะมีเสียงวี๊ดวิ้วกันระงมทั้งเรือนนอน 
   ห้อง4/6  เป็นห้องที่ไอ้หรั่งและคนในบ้านนอนร่วมกัน ด้านหลังห้องจารย์เหน่งกำลังบริการลูกค้าด้วยฝีมือการสัก โดยมีไอ้นพเป็นต้นทาง ยืนถือกระจกเล็กๆ ที่หันไปด้านทางเดินนอกห้อง เพื่อดูความเคลื่อนไหว เผื่อมีเจ้าหน้าที่เดินขึ้นมาตรวจความเรียบร้อย  
ส่วนไอ้หรั่งก็นั่งบนที่นอน มือเปิดสมุดบัญชีลูกหนี้ พลิกไปมา พลางขีดฆ่าชื่อลูกหนี้ที่จ่ายหมดแล้ว  
“เอก พรุ่งนี้มีเก็บอีกกี่คน”ไอ้หรั่งเอียงหน้าถามไอ้เอกที่นอนดูหนังอยู่ข้างๆ  
“พรุ่งนี้มี 2 คน สั่งญาติซื้อบุหรี่มาเคลียร์ให้เรา ยอด450 กับ 330 ครับพี่ อีกคนสั่งเป็นกาแฟ 2 ฟอล์ย ยอด 250 ไงเค้าค้างไว้ 50 ครับ” ไอ้เอกตอบ แต่ตาก็ยังคงเพ่งไปทางทีวี  
“ อืม อาทิตย์นี้ดีหน่อย เคลียร์พี่นครแล้ว ยังพอเหลือหน่อย” ไอ้หรั่งพูดพลางใช้นิ้วชี้คลึงที่ปลายจมูก  
ไอ้เอกลุกพรวด ขยับตัวเข้าใกล้ แล้วกระซิบข้างหูไอ้หรั่ง “พี่กลัวอะไร มีไอ้แก้วอยู่ทั้งคน “  
ไอ้หรั่งยกมือขึ้นเงื้อมือตั้งท่าจะดีดหูไอ้เอก  “พรวด” เสียงไอ้เอกทิ้งตัวลงบนที่นอน พร้อมเสียงฮึฮึในลำคอ  
   ไอ้หรั่งไม่พูดอะไร แต่สายตาชำเลืองไปทางไอ้แก้ว แล้วก็หันมาทางหัวนอน มือล้วงห่อกระดาษเล็กๆ ที่เม็ดยาสีเหลืองๆ อยู่ เกือบๆ 20 เม็ด  มันคือยาแพ้อากาศ ที่ไอ้หรั่งให้คนในแดนพยาบาลแอบเอามาขายให้มัน  มันแยกออกมา 5 เม็ด กรอกใส่ปากตัวเอง กินน้ำตาม กำอีก 3 เม็ดยัดใส่มือไอ้เอก แล้วลุกเดินไปทางด้านหลังห้อง พร้อมกวักมือเรียกไอ้แก้วกับไอ้กบ  ให้ตามมา ไอ้หรั่งแกะบุหรี่ ขึ้นมาสูบที่หลังห้อง  แล้วยื่นมือกำยาส่งให้ไอ้แก้ว  
“แบ่งกันกับกบ” ไอ้หรั่งพูดเสียงต่ำ พลางก้มลงดูฝีมือจารย์  
“ฝีมือไม่ตกเลยจารย์ “ ไอ้หรั่งพูดพร้อมกับสบตาจารย์เหน่ง  
อีกมือก็ยื่นไปยัดยาใส่มือไอ้นพ ที่ยืนดูต้นทางอย่างขมักเขม่น พร้อมชู 2 นิ้วเป็นที่เข้าใจว่าฝากยาไว้ที่ไอ้นพ 2 เม็ด  จารย์เหน่งก็ยิ้มแล้วพยักหน้างึกงึก   
   ไอ้หรั่งสูดบุหรี่เข้าปอดเต็มๆอีกครั้ง แล้วยื่นที่เหลือให้ไอ้นพ  ไอ้หรั่งพ่นควันยาวจนฟุ้งด้านหลัง จากนั้นก็เดินกลับมาที่นอน  พอหัวถึงหมอนมันก็เอานิ้วชี้ขึ้นมาคลึงที่ปลายจมูก ในหัวก็คิดเรื่องต่างๆนานา จนเริ่มเคลิ้มไปตามฤทธิ์ยา เสียงรอบข้างเริ่มเงียบ จนได้ยินแค่เสียงกึกๆที่ปลายจมูกของมันเท่านั้นเอง  
   ไอ้หรั่งเกิดมาในครอบครัวที่เรียกได้ว่ามีอันจะกิน พ่อมันเป็นถึงนักธุรกิจชาวอเมริกา ส่วนแม่เป็นถึงข้าราชการในกระทรวงต่างประเทศ ไอ้หรั่งมีพี่สาวอีกคน ซึ่งตอนนี้ก็เป็นถึงเจ้าของร้านอาหารไทยที่อเมริกา 
  ชีวิตวัยเด็กของไอ้หรั่งไม่ต่างจากเจ้าชาย เรียนโรงเรียนดีๆ ไปเที่ยวต่างประเทศปีละหลายหน อยากกินอะไร อยากได้อะไร พ่อแม่หามาให้หมด ในวัยเพียง 14 ปี มันก็มีมอเตอร์ไซค์คันเท่ห์ ไว้ขี้อวดสาวๆและเพื่อนๆของมันแล้ว  
   ด้วยเพราะพ่อและแม่ไม่ค่อยมีเวลาให้มันมากนัก จึงแสดงความรักลูกด้วยสิ่งของ แต่ในช่วงนั้นไอ้หรั่งก็ยังรู้สำนึก ตอบแทนความรักจากพ่อและแม่ด้วยผลการเรียนที่ดี และการไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ยิ่งเป็นที่พอใจของพ่อและแม่  
   จากที่ทั้งพ่อและแม่ไม่เวลาด้วยกันทั้งสองคน เลยทำให้พ่อและแม่ของมันเริ่มห่างๆกันเองด้วย จนพ่อของมันมีเมียน้อย หลงไหลเมียน้อยจนหัวปลักหัวปลำ โดนเมียน้อยหลอกเงิน ชักชวนไปเล่นการพนัน  ไม่สนใจธุรกิจ ธุรกิจที่ทำมาเริ่มขาดทุน เสียพนันจนถึงขั้นหมดเนื้อหมดตัว  
   ส่วนทางแม่ก็แอบเล่นชู้กับคนขับรถประจำตัว  เพราะเห็นว่าผัวฝรั่งทำได้ เค้าก็ทำได้ จนพ่อแม่ไอ้หรั่งต้องแยกทางกัน  เวลานั้นไอ้หรั่งเสียใจมาก ไม่พูดกับใครในบ้านเลย หมกตัวอยู่แต่ในห้อง เปิดเพลงเสียงดังลั่นบ้าน  เริ่มออกเที่ยวกลับบ้านดึก เริ่มลองเสพยา เริ่มไม่กลับบ้านหายไปทีก็3-4วัน  
   จนถึงวันนึงพ่อไอ้หรั่งตัดสินใจกลับไปอยู่อเมริกา เพราะอย่างน้อยยังมีธุรกิจครอบครัว ฟาร์มวัว สวนผักให้ทำ อยู่ที่นี่น่าจะไม่มีอะไรดีขึ้น  
“ก๊อกๆ ก๊อกๆ”เสียงเคาะประตูดัง  
ไอ้หรั่งหันมองพร้อมตะโกนเสียงหงุดหงิด “ใครอ่ะ” 
“แด๊ด เอง แด๊ดขอคุยด้วยหน่อย” พ่อไอ้หรั่งพูดผ่านประตู  
   ไอ้หรั่งลูกพรวดจากที่นอน เดินไปเปิดประตู  
“มีอะไรครับแด๊ด” ไอ้หรั่งพูดพลางยื่นหน้า เปิดประตูแค่ครึ่ง ด้วยสีหน้าหงุดหงิด  
กลิ่นบุหรี่และกลิ่นอับๆคลุ้งโชย ออกมาจากห้องของมัน   
พ่อไอ้หรั่งสายหัว พร้อมพูด “ยู จะไปกับแด๊ดไหม แด๊ดจะกลับไปอยู่อเมริกา” 
“ไม่ครับ”ไอ้หรั่งตอบเสียงห้วน 
“เจนก็ไปนะ”พ่อไอ้หรั่งพูดต่อ  
ไอ้หรั่งอึ้งไปสักพัก เพราะไม่คิดว่าพี่สาวของมันจะไปกับพ่อด้วย  
“ครับ ไม่ไปครับ ผมจะอยู่กับแม่”ไอ้หรั่งตอบเสียงเรียบๆแต่ปนความเศร้าลึกๆ  
   นั่นเองเป็นคำพูดสุดท้ายที่มันได้คุยกับพ่อ เพราะวันที่พ่อและพี่สาวเดินทาง มันก็ไม่ได้ว่างไปส่ง เพราะมัวแต่เมายาจนลืมวันลืมคืน  
   พอผัวฝรั่งไปได้ไม่ถึงอาทิตย์ แม่ไอ้หรั่งก็เอาชายชู้เข้าบ้าน ทำหน้าที่แทนผัวทันที แรกๆไอ้หรั่งก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะในใจก็ยังคิดว่าเป็นความผิดของพ่อ แต่อยู่ๆไป ผัวใหม่แม่ เริ่มออกลาย เมาแล้วเริ่มตบตีแม่มัน หลายครั้งที่ไอ้หรั่งมีปากเสียงกับผัวแม่ แต่เรื่องก็จบๆไปเพราะแม่มันห้าม ไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่โต  
   จนถึงวันที่จุดแตกหัก คืนนั้นแม่มันไม่อยู่บ้าน ผัวแม่มันนั่งกินเหล้าอยู่ในห้องรับแขกด้านล่าง กินไปจนเหล้ากำลังจะหมดขวดที่สอง มันเมามาก โหวกเหวกโวยวายลั่นบ้าน  ไอ้หรั่งที่กำลังเสพยาอยู่บนห้อง ก็หงุดหงิด เปิดประตูห้องวิ่งลงมา 
“เสียงดัง ยิ้มอะไรเนี้ย คนจะหลับจะนอน”ไอ้หรั่งตะโกน ยืนจังก้าชี้หน้าผัวแม่ 
“ใครว่ะ อ่อ ไอ้ลูกพ่อไม่เอานี่เอง” ผัวแม่มันพูดพร้อมหยีตามองไอ้หรั่ง  
พร้อมยืนมือคว้าที่เขี่ยบุหรี่ ที่ทำจากแก้วหน้า ปาตรงไปที่ไอ้หรั่ง  
“ปึ๊ก” เสียงที่เขี่ยกระแทกหน้าไอ้หรั่งตรงครึ่งปากครึ่งจมูกพอดี  
   ตอนนั้นไอ้หรั่งมึนงง จนยืนแทบไม่อยู่ เลือดข้นๆไหลจากจมูกผ่านปาก จนมันรู้สึกได้ทั้งกลิ่น และรสชาติของเลือด  ไอ้หรั่งเอามือขวาขึ้นกำจมูก  พร้อมกันนั้นเองไอ้หรั่งวิ่งเข้าหาผัวแม่มันอย่างไร้สติ ระดมต่อยเตะอย่างไม่ยั้ง จนร่างผัวแม่มันนอนร้องโอดโอยที่พื้น  
   เลือดข้นคลั่กยังคงไหลออกจากจมูกของไอ้หรั่ง ยิ่งทำให้มันเดือดแค้น วิ่งกลับไปเอาที่เขี่ยบุหรี่อันเดิม แล้วลงมานั่งคล่อมผัวแม่มัน ต่อด้วยระดมทุบหน้าผัวแม่มันด้วยที่เขี่ยบุหรี่อันนั้น  ล่วงเวลาผ่านไปนานหลายนาที   
“ฮึบ เฮอ ฮึบ เฮอ” เสียงหอบถี่ๆของไอ้หรั่ง  
   ยังนี่ยังไม่ใช่คดีคุกของไอ้หรั่ง คดีนี้พ่อและแม่ของไอ้หรั่งทุ่มทุกบาท เพื่อไม่ให้ลูกชายคนเดียวติดคุก ทนายเก่งๆ วิ่งเต้นตำรวจ ทำทุกอย่าง ทุกวิถีทาง ไอ้หรั่งรอดคุกจากคดีนี้มาได้ จากนั้นมันก็ทำตัวแบบไม่สนโลกแล้ว ใช้ชีวิตประชดพ่อแม่ คิดในใจเสมอว่า มันอยู่คนเดียวในโลก ขนาดพี่สาวที่สนิทกับมัน ยังทิ้งมันไปเลย  
   คดีแรกของไอ้หรั่งเป็นคดีลักทรัพย์ ล้อเลื่อน  ไอ้หรั่งและเพื่อนตั้งแก๊งค์ขโมยรถมอไซค์ แล้วแยกชิ้นส่วนเอาอะไหล่ที่ชอบมาใส่รถตัวเองบ้าง หรือเอาไปขายทั้งคันบ้าง เพื่อเอาเงินมาซื้อยา และเที่ยวเตร่  ที่โดนจับก็เพราะเพื่อนไปเกม แล้วซัดทอด พาตำรวจมาจับถึงที่ ที่พวกมันมั่วสุมกัน รอบแรกโดนไปเบาๆ 2 ปีกว่า  หลังจากนั้นไอ้หรั่งก็เข้าออกคุกจนเป็นบ้านอีกหลัง  
วันเสาร์ เวลา 9.22 น. 
   วันนี้ทุกๆกองงานจะทำงานแค่ครึ่งวัน ส่วนมากจะเป็นการเคลียร์งานของวันศุกร์ เตรียมส่งออกวันจันทร์ซะมากกว่า ในกองงานจึงมีแต่คนมานอนเล่น นอนอ่านหนังสือ หรือนั่งดูทีวี  
   ไอ้หรั่งและเด็กในบ้านทุกคนก็จะมารวมตัวกันที่หน้าตู้เก็บของข้างกองงาน เรียกได้ว่าเป็นที่ประจำของบ้านมัน ด้านนึงก็จะเป็นวงหมากรุกระหว่างไอ้แก้วกับไอ้นพ โดยมีไอ้กบค่อยเป็นเทรนเนอร์ให้ไอ้แก้ว อีกด้านนึง จารย์เหน่งก็นั่งฝนเข็มสัก เพื่อให้พร้อมออกหากิน วันหยุดแบบนี้ จารย์เหน่งจะมีนัดกับลูกค้าทุกครั้งไป  
   ด้านไอ้หรั่งกับไอ้เอก ก็นั่งคุยเรื่องสัพเพเหระ เรื่อยเปื่อย ระหว่างนั่งรอลูกค้าเดินไปเดินมา เจอใครก็ทัก เรียกลูกค้าบ้างเป็นครั้งคราว เพราะยังไม่ต้องรีบยังเช้าอยู่  
“วันนี้รถของฝากญาติมาช้าจังว่ะเอก” ไอ้หรั่งพูดพลางหยิบจัดถุงแกงในตะกร้า  
“ครับพี่ วันศุกร์คนเยี่ยมเยอะ ของน่าจะเยอะ แล้วไอ้ปู ที่จัดของเยี่ยม เพิ่งปล่อยไปเมื่อวานด้วย คงยุ่งหน้าดูเลย ”  ไอ้เอกตอบ 
“ปูไหนว่ะ พี่เคยเจอไหม”ไอ้หรั่งถามต่อ  
“ไอ้ปูสูงๆ ดำๆ ที่บ้านมันอยู่หลังตลาดไงพี่ มันยังเคยวิ่งมาเอายากับพี่อยู่เลย รอบนี้ มันอยู่แดน1 โดนแค่ปีกว่าเอง เกมของไม่เยอะ”ไอ้เอกอธิบาย  
“เออๆ จำได้หล่ะ ที่มันชอบย้อมผมแดงๆ ผมบ๊อบๆนะ”ไอ้หรั่งพูดพร้อมเอามือคลึงจมูก  
“นั่นแหล่ะๆ มัน  ตอนมันอยู่ช่วยเราได้เยอะนะพี่  พอมันมาส่ง ผมจะให้มันดูชื่อลูกค้าเรา มันก็จะช่วยเอาของลูกค้าเราออกมาก่อน  วันนี้ยังไม่รู้ใครจะมาส่งเลย”ไอ้เอกพูดด้วยเสียงปนกังวล  
“โน่น ประตูแดนเปิดแล้ว รถของฝากมาแล้ว”ไอ้หรั่งพูดพร้อมชี้มือไปหน้าแดน  
   เวลานี้เหล่าคนคุกที่ญาติมาเยี่ยมเมื่อวาน ก็จะกรูกันออกมายืนรอที่บริเวณลานกว้างหน้าร้านค้า เพื่อรอรับของตามชื่อตัวเอง  
“นั่นไง ลูกค้าเรามารอแล้ว เดี๋ยวผมไปเก็บหนี้ก่อน”ไอ้เอกพูดจบก็หยิบสมุดบัญชี แล้ววิ่งพรวดไปที่ลาน 
“เอก ให้พี่ไปด้วยไหม” ไอ้หรั่งตะโกนถามไล่หลัง  
“ไม่ต้องพี่”ไอ้เอกตอบ พลางวิ่งเยาะๆ พร้อมมือโบกสมุดบัญชีไปมา  
   ไอ้เอกเดินตรงเข้าหา ส่งยิ้มทักทายลูกค้าของมัน พร้อมพูด “บรรจบ สั่งของเคลียร์ยอดให้พี่เรียบร้อยดีใช่ไหม” 
“ครับพี่”ลูกค้าตอบพร้อมพยักหน้า  
   ไอ้เอกยืนโอบไหล่ลูกค้า ด้วยท่าทางสบายใจ ระหว่างรอการเรียกรับของ บรรยกาศตอนนี้ก็จะวุ่นวายพอสมควร แดดก็ร้อน คนก็เยอะ ของก็เยอะ คนที่ได้รับก็จะนั่งตรวจเช็คของว่าครบตามที่ตัวเองสั่งไหม คนรอก็ยืนชะเง้อ เบียดกันไปมา   
“บรรจบ “ เสียงของชายแจกของ  ในคุกเวลาที่เรียกรับอะไร ไม่ว่าจะเป็นจดหมาย ของฝาก หรือเซนต์รับเงินฝาก จะเรียกแค่ชื่อ  แล้วให้เจ้าตัวตอบนามสกุลเอง เพื่อป้องกันพวกสวมรอย   และป้องกันความผิดพลาดด้วย เพราะชื่อจะซ้ำกัน  
“เกิดหนูครับ” ลูกค้าไอ้เอกตอบเสียงดัง แล้วเดินฝ่ากลุ่มคนที่ยืนรอ เข้าไปรับของ  
“ยอด บรรจบ 250 ตัดคืนพี่ก่อน กาแฟ 2ฟอล์ย เหลือ 50 บาท” ไอ้เอกพูดพลางเอื้อมมือจะหยิบของในถุง  
“เฮ้ย บรรจบ ยอดพี่ว่าไง” เสียงปริศนาดังมาทางด้านหลัง  
   ไอ้โจ้ คนที่เคยถูกไอ้กรุงแทงคอ เพราะเรื่องกระเทย หลังจากมันกลับจากโรงพยาบาล พร้อมรอยแผลเป็นยาวที่คอ และอาการคอเอียงทางซ้ายนิดๆ มันเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ไม่กลัวใคร พร้อมแทงกับคนที่จะเข้ามาหาเรื่องมัน เรื่องในวันนั้นสอนให้มันรู้ว่า คนอ่อนแออยู่ในคุกไม่ได้   
“บรรจบ เราเป็นหนี้บ้านนี้เค้าด้วยหรอ” ไอ้เอกถาม 
“ครับพี่ หนี้บอลเมื่อคืน แต่ผมบอกพี่โจ้เค้าไปแล้วนะ ขอเคลียร์อีกรอบ รอบนี้ให้บ้านพี่เอกก่อน ก่อนเล่นเค้าก็โอเคนี่” ลูกค้าไอ้เอกตอบเสียงสั่น  
“ใช่อยู่ แต่จะขอก่อนสักฟอล์ยไม่ได้หรือไง พอดีที่บ้านกาแฟหมดพอดี เอกนายก็รอเก็บที่เหลือรอบหน้าพร้อมเรา” ไอ้โจพูดด้วยน้ำเสียงยียวน 
“เฮ้ย เด็กมันไม่ได้สั่งมาเผื่อนายนี่ ตอนก่อนเล่นเด็กมันก็บอกอยู่นี่” ไอ้เอกพูดด้วยน้ำเสียงแข็ง 
“เออ แค่แบ่งกันคนละฟอล์ย จะเป็นอะไรนักหนาว่ะ” ไอ้โจ้พูดเสียงดัง  
“ไม่เป็นไรนักหนาหรอก แต่กูไม่ให้ มีไรไหม”ไอ้เอกพูดพร้อมเดินเข้าประชิด  
“ไม่มีไรหรอกเอก แค่นี้ขอไม่ได้ก็ไม่เป็นไร” ไอ้โจ้พูดพร้อมหันหลังเดินคอเอียงๆจากไป 
   “แกร็งๆ แกร็งๆ” เสียงตรวนที่ข้อเท้ากระทบกัน ดังเบาๆมาจากหน้าร้านค้า เหตุการณ์ที่มีปากเสียงนี้ อยู่ภายใต้สายตาของเสี่ยโอ่งเสมียนร้านค้า ชายร่างอ้วน อายุราวๆ 50 ต้นๆ มีรอยสักเด่นเป็นรูปมังกรพันรอบหน้าท้อง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่