เพื่อนๆมีความเห็นยังไงกับการใช้ชีวิตในเมือง อยู่คอนโด ประเทศไทยของเรา พร้อมมั้ยสำหรับการพัฒนาเข้าสู่ยุคใหม่
เราอยู่คอนโดในตัวเมืองเชียงใหม่ ตอนซื้อก็คือแบบอารมณ์ประมาณเหมือนสมัยอยู่ญี่ปุ่นไง คอนโดเอย แมนชั่นเอย เดินไปซื้อของข้างๆได้เลย สะดวก ใกล้โรงพยาบาล ใกล้ตลาด
อยู่กันแบบครอบครัวได้เหมือนบ้าน มีสองห้องนอนเหมือนบ้านเล็กๆ แต่ขอโทษ ที่นี่ประเทศไทย และยังคงกำลังจะพัฒนาเหมือนเดิม
ใครจะเช่าหรือซื้อคอนโดฯ ขอเตือนเลยว่า อย่าพิจารณาแต่เพียงสถานที่ จะให้ดีเข้าในกลุ่มไลน์คอนโดฯดูก่อนสักระยะหลายๆเดือน
ศึกษาสังคมนั้นๆก่อน คนส่วนหนึ่งและนิติฯ ไม่ยอมรับการพัฒนาสู่สังคมยุคใหม่ ไม่ยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่ยอมรับการใช้รถไฟฟ้า จักรยานไฟฟ้า ไม่ยอมรับสังคมผู้สูงอายุ ผู้พิการ
เราเสนอให้ติดตั้งจุดบริการชาร์ตแบตรถไฟฟ้า จ่ายเงินได้ ก็มีคนต่อต้าน จะต่อสายไฟจากห้องตัวเองลงมา ก็ต่อต้าน
ทั้งๆที่สามารถใช้เป็นจุดขายใหม่ สำหรับคนยุคใหม่ที่กำลังก้าวไปสู่ยุครถพลังงานไฟฟ้า
เราโดนมาแล้วหลายเรื่อง สมัยมีรถยนต์ เราขอที่จอดผู้พิการ เพื่อเวลาประคองผู้พิการขึ้นลงรถ จะได้สะดวกเปิดประตูรถได้กว้าง ไม่เปิดไปโดนรถใคร ก็ยังไม่ได้จอดเลย มีป้ายผู้พิการติดไว้จริง แต่มีรถคนในคอนโดมาจอดทุกวัน
บ้างก็ว่าเราใช้สถานะเอาเปรียบคนอื่น เรานี่อยากจะขอเท้าคนพูดมาแลกกับเท้าแม่เรา อยากขอดวงตามาแลกแม่เราจริงๆ (แม่เราพิการเท้าผิดรูป และตาบอดข้างหนึ่ง ลูกเราก็เป็นเด็กพิเศษ การอยู่ใกล้สาธารณูปโภคจึงเป็นการดี)
แต่คอนโดที่เราอยู่ไม่ยอมรับการพัฒนาใดๆทั้งสิ้นจริงๆ
เผลอๆเจ้าของร่วมหรือคนพักอาศัยในคอนโด จะโดนนิติฯใช้งานซะเอง
ชอบชีวิตในเมือง อยู่คอนโดฯ
เราอยู่คอนโดในตัวเมืองเชียงใหม่ ตอนซื้อก็คือแบบอารมณ์ประมาณเหมือนสมัยอยู่ญี่ปุ่นไง คอนโดเอย แมนชั่นเอย เดินไปซื้อของข้างๆได้เลย สะดวก ใกล้โรงพยาบาล ใกล้ตลาด
อยู่กันแบบครอบครัวได้เหมือนบ้าน มีสองห้องนอนเหมือนบ้านเล็กๆ แต่ขอโทษ ที่นี่ประเทศไทย และยังคงกำลังจะพัฒนาเหมือนเดิม
ใครจะเช่าหรือซื้อคอนโดฯ ขอเตือนเลยว่า อย่าพิจารณาแต่เพียงสถานที่ จะให้ดีเข้าในกลุ่มไลน์คอนโดฯดูก่อนสักระยะหลายๆเดือน
ศึกษาสังคมนั้นๆก่อน คนส่วนหนึ่งและนิติฯ ไม่ยอมรับการพัฒนาสู่สังคมยุคใหม่ ไม่ยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่ยอมรับการใช้รถไฟฟ้า จักรยานไฟฟ้า ไม่ยอมรับสังคมผู้สูงอายุ ผู้พิการ
เราเสนอให้ติดตั้งจุดบริการชาร์ตแบตรถไฟฟ้า จ่ายเงินได้ ก็มีคนต่อต้าน จะต่อสายไฟจากห้องตัวเองลงมา ก็ต่อต้าน
ทั้งๆที่สามารถใช้เป็นจุดขายใหม่ สำหรับคนยุคใหม่ที่กำลังก้าวไปสู่ยุครถพลังงานไฟฟ้า
เราโดนมาแล้วหลายเรื่อง สมัยมีรถยนต์ เราขอที่จอดผู้พิการ เพื่อเวลาประคองผู้พิการขึ้นลงรถ จะได้สะดวกเปิดประตูรถได้กว้าง ไม่เปิดไปโดนรถใคร ก็ยังไม่ได้จอดเลย มีป้ายผู้พิการติดไว้จริง แต่มีรถคนในคอนโดมาจอดทุกวัน
บ้างก็ว่าเราใช้สถานะเอาเปรียบคนอื่น เรานี่อยากจะขอเท้าคนพูดมาแลกกับเท้าแม่เรา อยากขอดวงตามาแลกแม่เราจริงๆ (แม่เราพิการเท้าผิดรูป และตาบอดข้างหนึ่ง ลูกเราก็เป็นเด็กพิเศษ การอยู่ใกล้สาธารณูปโภคจึงเป็นการดี)
แต่คอนโดที่เราอยู่ไม่ยอมรับการพัฒนาใดๆทั้งสิ้นจริงๆ
เผลอๆเจ้าของร่วมหรือคนพักอาศัยในคอนโด จะโดนนิติฯใช้งานซะเอง