การเป็นหัวหน้า/โค้ช ทีม ก็ไม่จำเป็นต้องเกรี้ยวกราดนะ ...

การที่หัวหน้า/โค้ชทีม ไม่มีผลงาน ในช่วงเศรษฐกิจ Covid 
เป็นเรื่องที่หัวหน้า/โค้ชทีม ต้องรีบปรับตัว เพื่อสร้างวิธีการใหม่ ปรับเปลี่ยน เปลี่ยนแปลง และเป็นการคิดหาวิธีเพื่อรับมือในวิกฤตครั้งหน้า

แต่กลายเป็นว่า ไปด่าพนักงานในทีม ด่าพ่อด่าแม่พนักงาน ด่าคำหยาบ ดูถูกเหยียดหยาม
เพื่อให้พนักงานผลักดันผลงานใหม่ๆออกมาให้ได้ 

ที่นี่..... ที่ทำงาน ไม่ใช่ สงครามในออฟฟิศ ที่จะต้องปลุกเร้าเพื่อกระตุ้นจิตใจให้สู้
ถ้าคุณไม่ใช่หัวหน้า/โค้ชทีมที่ดี เพราะวันๆหมกหมุ่นแต่เรื่องครอบครัว หมกหมุ่นในโลก internet และบ้าาการเล่น app มือถือ
ถ้าคุณยังไม่สามารถปรับเปลี่ยนตัวเองได้ การจ่ายเงินชดเชยเพื่อให้คุณเดินทางออกจากการทำงาน มันคือเรื่องจำเป็นและสมควรทำ

การให้คุณออก พร้อมเงินค่าชดเชย จึงเป็นธรรมกับตัวคุณเองและพนักงานทุกคนในบริษัท และเป็นธรรมกับออฟฟิศอย่างสูงที่สุดแล้ว
มีพนักงานอีกมากมาย ที่ออกจากบริษัท โดยไม่ได้รับแม้แต่เงินชดเชย เพราะเป็นความผิดที่ขาด/ลา/มาสาย และด้วยข้อหาที่พนักงานกระทำผิดอย่างรุนแรง
การทุจริตที่เบิกค่าใช้จ่ายแบบผิดปกติ สามารถตรวจสอบได้จริง แต่ไว้รวบยอดทีเดียว เพื่อจัดการครั้งเดียวจบ

การเกรี้ยวกราดและหัวรุนแรงในที่ทำงาน 
ไม่ใช่พฤติกรรมที่สมควรทำ ใครได้ยินได้ฟังก็เห็นแต่ จะเปรียบได้กับ อาการผู้วิกลจริตทางจิต คุมตัวเองไม่ได้
ไม่ได้สร้างความหวาดกลัว สร้างให้คนยอมทำตาม แต่ผลที่ได้คือคนที่ทำกลับกลายเป็นคนน่ารังเกียจเอง

อย่าไปลอกเลียนแบบ พฤติกรรมน่ารังเกียจเลย
เพราะทุกวันนี้ HR หลายๆออฟฟิศก็เหนื่อยกับการดิ้นรนต่อสู้ของหัวหน้า/โค้ชทีม ที่ทำงานไม่เป็น
เป็นหัวหน้า/โค้ชทีม มันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าเป็นแล้วสร้างปัญหา ก็ไม่ควรได้เป็นต่อ (เป็นผลที่คุณทำตัวคุณเอง)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่