เรากับแฟนตอนนี้คบกันเกือบจะ9ปีเต็ม
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราไม่เคยเดินหนีปัญหาเลย เพราะเราเชื่อตลอดว่า ความรักของเรากับแฟนมันมีพลังมากๆ
ที่ผ่านมีทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติ เรากับแฟน ไม่เคยมีปัญหา เรื่องมือที่3เลย ไม่เคยทะเลาะกันเพราะเรื่องคนอื่น เราและแฟนซื่อสัตย์กันมากๆ ทุกครั้งที่เราทะเลาะมักจะคุยให้เข้าใจกันตลอด มีบ้างที่แฟนมักจะพูดว่าขอห่างกันสักพัก แต่เราทั้งคู่ก็ไม่เคยทำได้เลยจริงๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นเราที่มักจะคอยยื้อเขาไว้
แล้วเขาเองก็ไม่อยากให้เราหายไปไหน
เราเป็นคนที่ให้แฟนก่อนตลอด ยอมเขาตลอด อาจจะมีบ้างที่เราเหนื่อย แต่เราก็ยินดีทำให้ เพราะเมื่อทุกอย่างผ่านไปด้วยดี มันก็มีความสุข ซึ่งนิสัยส่วนตัวเราเอง เราจะเห็นแก่คนอื่นก่อน มักจะสร้างความสุขให้คนอื่น คอยให้เอเนอร์จี้+ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะแฟน หรือ เพื่อน
แล้วก็มาถึงจุดที่เรารู้สึกจมดิ่งมากที่สุด เรามีปัญหากับที่บ้าน ปัญหาเรื่องที่ทำงาน ซึ่งเราคิดว่าเรากำลังเจอ Quarter-life crisis (วิกฤตการณ์หนึ่งในสี่ของชีวิต) ซึ่งช่วงนี้แฟนเราก็ทำงาน เราก็ทำงาน เราไม่ได้อยู่ด้วยกันเราเข้าใจ ว่าพอต่างคนต่างทำงาน เวลาที่มีให้กันมันจะน้อยลง มันต้องการ space มากขึ้น
แล้วมีวันนึงเขาก็หายไป (เขาเลิกงานดึกกว่าปกติแล้วยุ่งมาก เขาลืมบอกเรา) แต่มันเป็นวันที่เราต้องการใครสักคนมากที่สุด แล้วเราเลือกที่จะเก็บความรู้สึกนี้ไว้คนเดียว ไม่ได้บอกสิ่งที่เราต้องการกับแฟนไป แล้ววันนั้นเราก็นอนไม่หลับ นอนคิด นอนสับสนกับความรู้สึกตัวเองทั้งคืน แล้วสุดท้ายเราก็หาความสุขของเราไม่เจอ เรากลับไม่เข้าใจว่าความสุข หรือ ความต้องการจริงๆของเราคืออะไร แล้วเขาเองใช่ความสุขของเรารึป่าว
หลังจากนั้นเราก็เลยไปหาแฟนแล้วคุยกับแฟน ว่าช่วงนี้เราไม่โอเคเลย รู้สึกไม่มีความสุข ไม่รู้ว่ามันคืออะไร มันอาจจะเปนความรู้สึกที่ชั่ววูปที่เข้ามาแปปๆแล้วเดวก็ผ่านไปไหม เราก็พูดกับแฟนตรงๆว่า เราไม่แน่ใจ ว่าเขาเป็นความสุขเราไหม คือเราแค่รู้สึกว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ต่างคนต่างเติมความสุข ให้กันตลอด ตรงไหนที่มันว่าง เราก็หามาเติมเต็มกัน แต่ความรู้เราในวันนั้น มันเหมือน เราเติมกันจนเต็มแล้ว แล้วมันอิ่มตัว ไม่รู้จะเอาความสุขจากตรงไหนมาใส่ หรือ ไม่รู้ว่าส่วนตรงไหนที่ควรจะเติมเต็ม มันเหมือนทางตันจริง เราทั้งคู่ร้องไห้คุยกันด้วยความสับสนกันทั้งสองฝ่าย ว่าจุดบกพร่องของความสัมพันธ์คืออะไร แต่เราก็หาจุดบกพร่องไม่เจอ จนสุดท้ายแฟนเลยบอกว่าให้ลดความสัมพันธ์ของทั้งคู่ลงไหม บางทีเราอาจจะเป็นแค่ความผูกพันธ์กันเฉยๆ เผื่อเราเองก็จะเจอความสุขที่แท้จริงของเรา แล้วก็ให้ความสำคัญของตัวเองก่อนบ้าง ก่อนที่จะให้คนอื่น รักตัวเองให้มากๆ เราเองก็เหมือนพูดอะไรไม่ได้ไม่รู้จะเอายังไงดี ไม่อยากถอยออกมา เพราะเราคิดว่าการถอยออกมาทั้งที่ยังรักกันอยู่ มันจะเจ็บปวดมากๆ แฟนก็บอกเราว่า ถอยออกมาตั้งหลักกันก่อน มันอาจจะดีก็ได้ เราเองก็ได้แต่หวัง ว่าทุกอย่างจะกลับมาปกติ
แต่เรากลับเพิ่งมานั่งคิดได้ว่า ช่วงนี้เรากับแฟน เจอกันน้อยมาก แต่ก่อนเวลาเราทำงาน เขามักจะชอบมาจุกจิกเรา มันทำให้เรารำคาน พอตอนนี้แฟนทำงานเราเลยไม่จุกจิกเขา แต่มันกลับกลายทำให้เราคิดได้ว่า การที่รำคานเขาในวันนั้น มันก็ทำให้เข้าใจได้ว่าเขาเองก็เหงาและซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเขาเองมากๆ ว่าเขาไม่อยากให้เราหายไปไหน แต่การที่เราไม่จุกจิกไม่งี่เง่าใส่เขา เพราะเราคิดว่าควรให้เวลาเขา กลายเป็นว่าเราเลือกที่จะเก็บความงี่เง่าเอาไว้ที่ตัวเอง แล้วก็เป็นเราเองที่รู้สึกว่าเขาหายไป มานั่งคิดได้ตอนนี้ ก็รู้สึกว่าตัวเอง โง่จริงๆ
ความสัมพันธ์ของเราตอนนี้คือเราเข้าใจว่า ไม่มีใครบอกเลิกกัน แต่เราคุยกันด้วยความเข้าใจ เพียงแต่ปัญหามันเกิดจากตัวเราเอง
ซึ่งเราไม่เคยเป็นฝ่ายพูดเลยไม่ว่าครั้งในที่ทะเลาะกันว่า เออ เราห่างกันเถอะ ฉันไม่โอเคกับเทอ มักจะเป็นฝั่งแฟนที่พูด แต่เหมือนครั้งนี้ก็เป็นฝั่งเราที่ทำให้เขารู้สึกว่า เราอยากจะเดินออกมา แต่แท้จริงเราว่ามันไม่ใช่ เราต้องการเขามากกว่าเดิมด้วยซ้ำมั้ง ในใจลึกๆเราเชื่อว่าอย่างนั้น
แต่ตอนนี้เรา handle ความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ ตอนนี้เราตัวคนเดียวมากจริงๆ เรารู้สึกอ่อนแอ
เราอยากมั่นใจว่า การที่เป็นแบบนี้ มันดีแล้วใช่ไหม เรากับแฟน จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม แล้วถ้ากลับมาเหมือนเดิม เราจะดูแลกันต่อไปได้ไหม
เพราะเราไม่อยากเริ่มต้นใหม่กับใคร แฟนคนนี้เป็นคนแรกของเรา เรากับแฟนผ่านอะไรกันมาเยอะมากจริงๆ เรารักแฟนมาก
เรารู้ว่าไม่มีใครสามารถตอบเราได้ เพราะทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับเวลาจริงๆ แต่แค่ตอนนี้เราต้องการที่จะพูดออกมา เราอ่อนแอมากจริงๆ
หากผิดกฎต้องขออภัย เป็นกระทู้แรกของเรา เราโพสหลังจากทุกอย่างเกิดขึ้น 1 วัน
ความรัก 9 ปี ควรพักทั้งที่ยังรักหรือไปต่อแบบงงๆ
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราไม่เคยเดินหนีปัญหาเลย เพราะเราเชื่อตลอดว่า ความรักของเรากับแฟนมันมีพลังมากๆ
ที่ผ่านมีทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติ เรากับแฟน ไม่เคยมีปัญหา เรื่องมือที่3เลย ไม่เคยทะเลาะกันเพราะเรื่องคนอื่น เราและแฟนซื่อสัตย์กันมากๆ ทุกครั้งที่เราทะเลาะมักจะคุยให้เข้าใจกันตลอด มีบ้างที่แฟนมักจะพูดว่าขอห่างกันสักพัก แต่เราทั้งคู่ก็ไม่เคยทำได้เลยจริงๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นเราที่มักจะคอยยื้อเขาไว้
แล้วเขาเองก็ไม่อยากให้เราหายไปไหน
เราเป็นคนที่ให้แฟนก่อนตลอด ยอมเขาตลอด อาจจะมีบ้างที่เราเหนื่อย แต่เราก็ยินดีทำให้ เพราะเมื่อทุกอย่างผ่านไปด้วยดี มันก็มีความสุข ซึ่งนิสัยส่วนตัวเราเอง เราจะเห็นแก่คนอื่นก่อน มักจะสร้างความสุขให้คนอื่น คอยให้เอเนอร์จี้+ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะแฟน หรือ เพื่อน
แล้วก็มาถึงจุดที่เรารู้สึกจมดิ่งมากที่สุด เรามีปัญหากับที่บ้าน ปัญหาเรื่องที่ทำงาน ซึ่งเราคิดว่าเรากำลังเจอ Quarter-life crisis (วิกฤตการณ์หนึ่งในสี่ของชีวิต) ซึ่งช่วงนี้แฟนเราก็ทำงาน เราก็ทำงาน เราไม่ได้อยู่ด้วยกันเราเข้าใจ ว่าพอต่างคนต่างทำงาน เวลาที่มีให้กันมันจะน้อยลง มันต้องการ space มากขึ้น
แล้วมีวันนึงเขาก็หายไป (เขาเลิกงานดึกกว่าปกติแล้วยุ่งมาก เขาลืมบอกเรา) แต่มันเป็นวันที่เราต้องการใครสักคนมากที่สุด แล้วเราเลือกที่จะเก็บความรู้สึกนี้ไว้คนเดียว ไม่ได้บอกสิ่งที่เราต้องการกับแฟนไป แล้ววันนั้นเราก็นอนไม่หลับ นอนคิด นอนสับสนกับความรู้สึกตัวเองทั้งคืน แล้วสุดท้ายเราก็หาความสุขของเราไม่เจอ เรากลับไม่เข้าใจว่าความสุข หรือ ความต้องการจริงๆของเราคืออะไร แล้วเขาเองใช่ความสุขของเรารึป่าว
หลังจากนั้นเราก็เลยไปหาแฟนแล้วคุยกับแฟน ว่าช่วงนี้เราไม่โอเคเลย รู้สึกไม่มีความสุข ไม่รู้ว่ามันคืออะไร มันอาจจะเปนความรู้สึกที่ชั่ววูปที่เข้ามาแปปๆแล้วเดวก็ผ่านไปไหม เราก็พูดกับแฟนตรงๆว่า เราไม่แน่ใจ ว่าเขาเป็นความสุขเราไหม คือเราแค่รู้สึกว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ต่างคนต่างเติมความสุข ให้กันตลอด ตรงไหนที่มันว่าง เราก็หามาเติมเต็มกัน แต่ความรู้เราในวันนั้น มันเหมือน เราเติมกันจนเต็มแล้ว แล้วมันอิ่มตัว ไม่รู้จะเอาความสุขจากตรงไหนมาใส่ หรือ ไม่รู้ว่าส่วนตรงไหนที่ควรจะเติมเต็ม มันเหมือนทางตันจริง เราทั้งคู่ร้องไห้คุยกันด้วยความสับสนกันทั้งสองฝ่าย ว่าจุดบกพร่องของความสัมพันธ์คืออะไร แต่เราก็หาจุดบกพร่องไม่เจอ จนสุดท้ายแฟนเลยบอกว่าให้ลดความสัมพันธ์ของทั้งคู่ลงไหม บางทีเราอาจจะเป็นแค่ความผูกพันธ์กันเฉยๆ เผื่อเราเองก็จะเจอความสุขที่แท้จริงของเรา แล้วก็ให้ความสำคัญของตัวเองก่อนบ้าง ก่อนที่จะให้คนอื่น รักตัวเองให้มากๆ เราเองก็เหมือนพูดอะไรไม่ได้ไม่รู้จะเอายังไงดี ไม่อยากถอยออกมา เพราะเราคิดว่าการถอยออกมาทั้งที่ยังรักกันอยู่ มันจะเจ็บปวดมากๆ แฟนก็บอกเราว่า ถอยออกมาตั้งหลักกันก่อน มันอาจจะดีก็ได้ เราเองก็ได้แต่หวัง ว่าทุกอย่างจะกลับมาปกติ
แต่เรากลับเพิ่งมานั่งคิดได้ว่า ช่วงนี้เรากับแฟน เจอกันน้อยมาก แต่ก่อนเวลาเราทำงาน เขามักจะชอบมาจุกจิกเรา มันทำให้เรารำคาน พอตอนนี้แฟนทำงานเราเลยไม่จุกจิกเขา แต่มันกลับกลายทำให้เราคิดได้ว่า การที่รำคานเขาในวันนั้น มันก็ทำให้เข้าใจได้ว่าเขาเองก็เหงาและซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเขาเองมากๆ ว่าเขาไม่อยากให้เราหายไปไหน แต่การที่เราไม่จุกจิกไม่งี่เง่าใส่เขา เพราะเราคิดว่าควรให้เวลาเขา กลายเป็นว่าเราเลือกที่จะเก็บความงี่เง่าเอาไว้ที่ตัวเอง แล้วก็เป็นเราเองที่รู้สึกว่าเขาหายไป มานั่งคิดได้ตอนนี้ ก็รู้สึกว่าตัวเอง โง่จริงๆ
ความสัมพันธ์ของเราตอนนี้คือเราเข้าใจว่า ไม่มีใครบอกเลิกกัน แต่เราคุยกันด้วยความเข้าใจ เพียงแต่ปัญหามันเกิดจากตัวเราเอง
ซึ่งเราไม่เคยเป็นฝ่ายพูดเลยไม่ว่าครั้งในที่ทะเลาะกันว่า เออ เราห่างกันเถอะ ฉันไม่โอเคกับเทอ มักจะเป็นฝั่งแฟนที่พูด แต่เหมือนครั้งนี้ก็เป็นฝั่งเราที่ทำให้เขารู้สึกว่า เราอยากจะเดินออกมา แต่แท้จริงเราว่ามันไม่ใช่ เราต้องการเขามากกว่าเดิมด้วยซ้ำมั้ง ในใจลึกๆเราเชื่อว่าอย่างนั้น
แต่ตอนนี้เรา handle ความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ ตอนนี้เราตัวคนเดียวมากจริงๆ เรารู้สึกอ่อนแอ
เราอยากมั่นใจว่า การที่เป็นแบบนี้ มันดีแล้วใช่ไหม เรากับแฟน จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม แล้วถ้ากลับมาเหมือนเดิม เราจะดูแลกันต่อไปได้ไหม
เพราะเราไม่อยากเริ่มต้นใหม่กับใคร แฟนคนนี้เป็นคนแรกของเรา เรากับแฟนผ่านอะไรกันมาเยอะมากจริงๆ เรารักแฟนมาก
เรารู้ว่าไม่มีใครสามารถตอบเราได้ เพราะทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับเวลาจริงๆ แต่แค่ตอนนี้เราต้องการที่จะพูดออกมา เราอ่อนแอมากจริงๆ
หากผิดกฎต้องขออภัย เป็นกระทู้แรกของเรา เราโพสหลังจากทุกอย่างเกิดขึ้น 1 วัน