นักวิทย์ที่เชื่อว่า "หลังความตายเป็นไปไม่ได้&ไม่มีอยู่จริง" ต้องทำความดีต่อมนุษยชาติมากขนาดไหน ตอนตายถึงจะรอดครับ

จากข่าวศาสตราจารย์ที่Caltech เผยว่าหลังความตายเป็นไปไม่ได้&ไม่มีอยู่จริง
https://www.khaosod.co.th/lifestyle/news_6018056

ผมยังคิดไม่ออกเลยว่า ผู้คนมากมายที่คิดแบบนี้ ตอนตายแล้วจะรอดจากด้านมืดของจักรวาลได้ยังไง

ในกึ่งพุทธกาล กลุ่มผู้ที่ปฏิบัติธรรมจะมีเรื่องนึงที่สำคัญที่เฝ้ามอนิเตอร์กันมาตลอด200กว่าปี
ก็คือ จะมีพระโพธิสัตว์ท่านนึง คือ พระธรรมิกราช
การมอนิเตอร์ก็คือ เทสกับด้านมืดว่าพลังอำนาจลดลงหรือยัง
ผลที่ได้คือ ด้านมืดก็ยังเฮียและสุดสยองเหมือนเดิม(ขอภัยที่ใช้คำหยาบ)
มันหมายความว่า พระโพธิสัตว์ท่านนั้นยังไม่มาและยังเก็บงานไม่สำเร็จ

ในถิ่นกาขาว ทุกอย่างจะกลับดำเป็นขาว กลับขาวเป็นดำ ผู้คนจะแยกแยะมารกับพระโพธิสัตว์ไม่ออกเลย
เพราะมาร สร้างภาพเป็นพระโพธิสัตว์ พระพุทธรูปทั่วประเทศ มีมารสิงอยู่
ถ้าคนคิดว่า สิ่งที่สิงอยู่ในนั้นเป็นพระพุทธเจ้าก็มีเสร็จมารเท่านั้น
ฝ่ายธรรมกับอธรรมในกึ่งพุทธกาล เป็นเรื่องที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนที่ขนาดตาบัวก็ยังแยกแยะไม่ออกและเรียบร้อย
ผมจึงประเมินว่า คนทั่วๆไป โอกาสที่จะรอดจากด้านมืดหรือมารเกือบเท่า0เลยน่ะครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
ก่อนหน้านี้  
เคยคิดว่าท่าน จขกท.คนนี้ งมงาย   เหมือนกับคนที่งมงายทั่วไป

แต่พอมาถึงกระทู้นี้  ผมว่า จขกท.ท่านนี้มีความผิดปกติ
เพราะมีแนวโน้มย้ำคิดย้ำทำ  คือความเชื่อพื้นฐานย่ำแย่ งมงายอยู่แล้ว
แต่มีภาวะย้ำคิดย้ำทำร่วมด้วย ...... ดังนั้น  ผมว่าทุกท่านควรเลิกสนทนา
เลิกตอบกระทู้จะดีกว่า  เพราะไม่มีประโยชน์อันใดที่จะคุยกับคนที่ผิดปกติ

มันไม่มีความสร้างสรรค์  ไม่เกิดประโยชน์  มีแต่เสียเวลาเปล่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่