เลือกเรียนคณะสายวิทย์เพราะคิดว่าจะทำให้เรามีงานที่มั่นคง แต่เรากลับไม่มีความสุขเลย

สวัสดีค่ะ จขกท. เขียนกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะรู้สึกอึดอัดใจและรู้สึกผิดหวังกับตัวเองมากๆและต้องการที่จะระบายความรู้สึก แต่ไม่กล้าพอที่จะเล่าให้คนใกล้ตัวฟังค่ะ เลยจะขอใช้พื่นที่ตรงนี้ในการพูดเรื่องราวต่างๆของตัว และอยากได้ความเห็นจากเพื่อนๆด้วยค่ะ
                 ขอเกลิ่นก่อนว่าพ่อแม่ จขกท. แยกทางกันตั้งแต่ก่อนที่เราจะเกิด เราโตมากับครอบครัวฝั่งแม่ซึ่งครอบครัวฝั่งแม่ส่วนใหญ่เกือบทุกคนจะมีปัญหาเรื่องเงินทอง ต้องกู้หนียืมสินธนาคารอยู่บ่อยๆค่ะ แต่เราก็ยังไปมาหาสู่กับครอบครัวฝั่งพ่ออยู่นะคะ ซึ่งพ่อก็คอยส่งค่าเลี้ยงดูมาให้ตลอด แต่ไม่ค่อยได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน เราไม่ค่อยสนิทกับพ่อเลยค่ะ เวลาอยู่กับพ่อเราจะพูดน้อยมาก(ปกติจะพูดมาก พูดเรื่อยเปื่อย) แต่พ่อก็จะบอกตลอดว่ามีอะไรก็บอกได้ตลอดพ่อรักลูก พ่อเป็นคนที่ไม่ค่อยมีอารมณ์ขันค่ะ จริงจัง ทุกอย่างต้องเป็นไปตามหลักการตามกฏอะไรประมาณนั้นอะค่ะ ครอบครัวฝั่งพ่อทุกคนมีงานที่ดีทำ มีงานที่มั่นคงทุกคน ไม่มีปัญหาเรื่องเงินเลยค่ะ ง่ายๆคือแม่มีเวลาให้แต่ไม่มีเงิน ส่วนพ่อมีเงินแต่ไม่มีเวลา ซึ่งเราสนิทกับแม่มากกว่ามากๆ
                 งั้นมาเข้าเรื่องเลยนะคะ ตั้งแต่เด็กๆ จขกท. ชอบวิ่งเล่น ชอบวาดรูประบายสี ชอบสีสันต่างๆที่ได้เห็นได้ทำ ชอบจินตนาการเรื่องราวนู้นนี่ บางครั้งก็แต่งเรื่องๆหนึ่งขึ้นมาเป็นเหมือนกับการ์ตูนสั้นแบบในหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะค่ะ แต่จะแต่งขึ้นมาในหัว เราจะคิดภาพตัวการ์ตูนต่างๆไว้ในหัวแล้วก็จะจินตนาการว่าตัวการ์ตูนพวกนั้นมันกำลังเดินเล่นหรือใช้ชีวิตอยู่ในโลกความจริงค่ะ แล้วเราก็รู้ตัวมาตลอดว่าชอบการแต่งเรื่องราว วาดรูป ระบายสี ขีดๆเขียนๆ แต่พอได้เข้าเรียนในโรงเรียนประถมเราดันเรียนวิชาคณิตฯได้ดีมากๆ แล้วพอเข้าโรงเรียนมัธยมก็ยังทำวิชาเลขได้ดีกว่าวิชาอื่นๆส่วนใหญ่ แต่เรากลับไม่รู้สึกชอบวาบาเลขหรือวิชาวิทยาศาสตร์เลยค่ะ แค่รู้สึกว่าน่าสนใจ แต่เรากลับสนใจพวกวิชาศิลป์ พละ พวกนี้มากกว่า ตอน ม.ปลายเราเรียนสายวิทย์-คณิตฯมาเพราะมันไปต่อคณะต่างๆได้ง่ายกว่า แล้วเราก็เคยคิดว่าอยากเรียนด้านการแสดง กำกับการแสดง พวกที่เกี่ยวกับการแสดง การออกแบบ อะไรพวกนี้ค่ะ คนที่บ้านเรา(ฝั่งแม่นะคะ)อย่างลุงกับป้าที่ช่วยเลี้ยงเรามาก็อยากให้เราเลือกอาชีพที่มั่นคงแบบพวกหมอ พยาบาล ครู อะไรพวกนี้ค่ะ ซึ่งพ่อกับแม่ก็บอกให้เลือกสิ่งที่เรายากเรียนอยากทำจริงๆ เค้าไม่บังคับ เค้าให้อิสระกับเราเต็มที่เลย(จริงๆรู้สึกเหมือนว่าพ่ออยากให้เป็นครู แม่อยากให้เป็นนักบัญชี) แต่นั่นแหละค่ะที่มันกดดัน เรารู้สึกว่าเค้าเชื่อใจเราและไว้เราให้เราเลือกได้ เอาจริงๆมันกดดันมากๆเลยนะคะ ใจเราอยากเลือกพวกการแสดง การเขียน ออกแบบ แต่!พ่อกับแม่รู้สึกว่ามันดูไม่มั่นคง ซึ่งเราเองก็คิดแบบนั้นค่ะ เราเห็นคนที่บ้าน(ฝั่งแม่)ทำงานหนักกว่าจะได้เงินมาแต่ละบาทแล้วยังมีหนี้สินอีก เราเลยคิดว่าเราควรเลือกเรียนต่อสายที่ดูมั่นคงค่ะ แต่ให้เป็นหมอก็โง่เกินไป เป็นพยาบาลก็คงไม่ได้เพราะไม่มีใจรักการให้บริการ เป็นครูก็ไม่ชอบเด็ก กลัวจะต้องเจอเด็กแบบตัวเอง เราก็เลยเลือกคณะๆหนึ่งซึ่งเรียนเกี่ยวกับเชื้อแบคฯ ยีสต์ รา อะไรพวกนี้ ประมาณว่าเป็นนักวิทย์ในห้องแลปอะค่ะ ตอนที่เรียนแรกๆก็ยังพอโอเคอยู่ แต่พอขึ้นปี2ก็เริ่มรู้ตัวว่าไม่ไหว พอจะจบปี2ขึ้นปี3 ก็คิดว่าอยากจะซิ่วค่ะเพราะเกรดแย่มาก เลยว่าจะบอกพ่อ(คุยกับแม่แล้วว่ารู้สึกไม่ค่อยโอเคที่จะเรียนต่อ)แต่ก่อนเราจะบอกเรื่องนี้มันมีเรื่องของพี่เราที่เรียนคณะสายวิทย์เหมือนกัน ซึ่งพี่เราอยู่ปี3 จะขึ้นปี4 เค้าเรียนไม่ไหวเลยซิ่วออกมาเรียนด้านนิเทศ พวกเบื่องหลังอะค่ะ ซึ่งเราก็อยากเรียนเหมือนกัน พอพ่อรู้เรื่องที่พี่ซิ่วเค้าก็บ่นใหญ่เลยว่าจะซิ่วทำไมอีกนิดเดียวก็เรียนจบแล้วน่าจะทนเรียนให้จบๆไปก่อนค่อยไปเรียนใหม่ เราเลยไม่กล้าบอกพ่อเรื่องที่อยากซิ่วเลยค่ะ ซึ่งตอนเรียนเราก็มีปัญหาติดโปรจนเกือบโดนรีไทด้วย แต่ดชคดีที่อาจารย์ช่วยจนรอดมาได้ จนตอนนี้อีกไม่กี่เดือนจะเรียนจบแล้วค่ะ ตอนแรกเราคิดว่าคงพอจะหางานทำแล้วก็ทำไปซักพักค่อยไปเรียนอย่างอื่นที่เราอยากเรียนจริงๆ แต่พอเราไปฝึกงานเรารู้เลยว่ามันไม่ใช่ทางมากๆ แล้วตอนนี้พ่อก็ถามว่าเรียนจบแล้วจะเรียนต่อเลยมั้ยหรือจะทำงานก่อน เราเลยว่าจะหางานทำก่อนแต่ก็มีโควิดนี่อีก แถมเราก็ไม่ได้เรียนเก่งเกรดดีจนเอาไปอวดใครได้ เราไม่มั่นใจเลยว่าจะมีงานทำ เราจะทำยังไงดีค่ะ แล้วพ่อกับแม่ก็ดูเหมือนจะอยากให้เราทำงานที่ตรงสายซักหน่อย จะได้ใช้ความรู้ที่เรียนมากให้มันคุ้มค่าหน่อย เพราะเสียค่าเทอมไปแพงมากๆ (แต่เราแถบไม่มีความรู้เลย)ฮื่อ~
                    ตอนนี้เราควรทำยังไงดีค่ะ จะให้กำลังใจตัวเองยังไงดี ตอนนี้เราทำได้แค่บอกตัวเองว่าอดทนไว้ เราเลือกทางนี้แล้ว อดทนไปก่อน ยังไงเราก็ต้องได้ทำสิ่งที่อยากทำซักวันหนึ่ง ฮื่อ~ แล้วนี้เราก็กลัวที่จะบอกพ่อมากๆว่าเราไม่ชอบสิ่งที่เรียนมาเลย แต่ถ้าบอกเราก็พอจะรู้คำตอบของพ่ออยู่ดี พ่อคงจะบอกประมาณว่าเรียนมาแล้วก็ใช้ความรู้ให้เกิดประโยชน์หน่อย บอกตรงๆว่านอกจากหน้าตาเราไม่มีอะไรเหมือนพ่อกับแม่ซักอย่างเลย ไม่เหมือนเลยซักนิด  
                   ฮื่อ~ ตอนนี้เราเครียดหนักมาก เรียกว่าอยู่ในสภาวะเครียดได้เลยค่ะ
                   ยาวไปหน่อยแต่ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่