7 สาเหตุ ที่ทำให้เป็นผู้นำที่ดีไม่ได้ เพราะอะไร ?
.
.
.

สมัยนี้มักจะมีให้เห็นอยู่บ่อย ๆ ในเรื่องของการเป็นผู้นำ ซึ่งผู้นำหลายคนมีแต่ตำแหน่งและอำนาจ แต่กลับไม่ได้รับการยอมรับนับถือจากลูกน้องแม้แต่น้อย เป็นสิ่งที่น่าคิด !

และบ่อยครั้งเองที่พบว่า ในองค์กรทั่วไปมีคนบางคนทำงานมานาน การศึกษาก็ไม่น้อยหน้า แต่เวลาผ่านไปนับสิบปีก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม ทำงานซ้ำซากแบบเดิม ๆ ในขณะเดียวกัน ที่บางคนอดทน ขยัน ซื่อสัตย์ ตั้งใจทำงาน
แต่ก็ไม่ถูกเลือกให้เป็นผู้นำ บางคนเป็นผู้นำอยู่แล้ว ก็ย่ำอยู่กับที่ ไปไม่ถึงไหน

การเป็นหัวหน้าที่ดีนั้น ไม่เสมอไป ว่าจะต้องทำงานหนัก ขยัน อดทน หรือว่าทำงานมานานแค่ไหนแล้ว เพราะในบางองค์กรก็จะเห็นผู้นำที่ยังมีอายุไม่มากนัก และสามารถทำหน้าที่บริหารจัดการได้ดีเลยทีเดียว และแน่นอนว่าการเป็นผู้นำจะได้รับการคาดหวังว่าจะนำพาองค์กรให้เจริญก้าวหน้าได้ พร้อม ๆ กับการดูแลพนักงานหลายชีวิต เพราะฉะนั้นแล้ว ลองสำรวจตัวเองว่าเป็นหัวหน้าที่ดีพอแล้วหรือยัง เพื่อที่จะได้ปรับปรุงตัวแล้วเลิกพฤติกรรมแบบนี้เสีย
1.ไม่กล้าตัดสินใจ
หัวหน้าบางคนมีคุณสมบัติเพียบพร้อมไปหมด ทั้งการศึกษาและการทำงาน แต่กลับขาดภาวะผู้นำ ไม่กล้าที่จะตัดสินใจ บริหารงานแบบกล้า ๆ กลัว ๆ ไม่เด็ดขาด ไม่มีความมั่นใจในตัวเองสักเท่าไหร่ ถ้าผู้นำเป็นแบบนี้จะเป็นแบบอย่างในการทำงานให้ลูกน้องได้หรือไม่ เพราะอย่าลืมว่าบทบาทของผู้นำที่ดี จะต้องมีคุณสมบัติเหล่านี้ด้วย แต่อย่าเพิ่งกังวลไป เพราะปัญหาแบบนี้สามารถแก้ไขได้ เริ่มต้นจากการเชื่อมั่นศักยภาพของตัวเองก่อน กระตือรือร้น ไม่หยุดที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ มีการวางแผนงานล่วงหน้าที่ชัดเจนและเด็ดขาด
2.บ้าอำนาจ
อีโก้สูงถือตัวเหนือกว่าผู้อื่น หลงระเริงกับอำนาจที่มีอยู่ ใช้ตำแหน่งบังคับให้คนอื่นทำตามใจตัวเองหรือใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว จะทำให้ลูกน้องกดดัน ทำงานอย่างระแวงด้วยความหวาดกลัว ถ้าอยากได้ใจลูกน้องหรือให้เคารพจากใจจริงแล้วละก็ ควรปฏิบัติกับพวกเขาด้วยความเคารพเช่นกัน เอาใจเขามาใส่ใจเรา หัวหน้าที่ดีควรส่งเสริมทีม คอยให้กำลังใจและให้คำปรึกษาได้ ที่สำคัญอย่าถือตัวมากเป็นกันเองกับลูกน้อง อยู่ร่วมทำงานแบบพี่น้องครอบครัว ถ้าแบบนี้ได้แล้วละก็ รับรองได้ใจลูกน้องไปเต็ม ๆ
3.เจ้าอารมณ์
เรื่องนี้ต้องระวังมาก ๆ การมีวุฒิภาวะทางอารมณ์เป็นคุณสมบัติของคนทำงานทุกคน โดยเฉพาะคนที่เป็นหัวหน้า ควรควบคุมอารมณ์ให้ได้ ไม่ใช้อารมณ์นำเหตุผล ยิ่งอยู่ในตำแหน่งที่สูง ๆ ก็ควรระมัดระวังในการใช้คำพูดวางตัวให้เป็น เพราะไม่มีลูกน้องคนไหนอยากเป็นที่รองรับอารมณ์ของใครแบบไร้เหตุผลสิ้นดี จริงอยู่ว่าคนทุกคนต้องมีอารมณ์โกรธบ้างด้วยกันทั้งนั้น แต่ก็ควรที่จะแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวให้ออกด้วย
4.ไม่สามารถสร้างผลงานได้
จะมีการศึกษาดีสูงส่ง เก่งกาจมาจากไหน หรือเป็นนักพูดที่กล่อมใจจูงใจคนเก่ง อย่างไรก็ตาม หากไม่มีผลงานก็จบนะ หรือจะพูดง่าย ๆ ก็คือ เก่งแต่พูดทำไรไม่เป็น ซึ่งชีวิตจริงในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานหรือผู้บริหารขององค์กรคงไม่ต้องการนักคิด หรือนักพูดที่สร้างผลงานไม่ได้หรือผลงานไม่มีคุณภาพนั่นเอง
5.ชอบให้สัญญาที่รักษาไม่ได้
มักจะเป็นวิธีของผู้บริหารหลายคน ที่เวลาอยากได้ผลงานจากลูกน้องก็มีรางวัลผลตอบแทนมาล่อ แต่เมื่อลูกน้องทำได้จริงก็ลืมหรือแกล้งลืมที่จะมอบให้ หรือบางทีผู้บริหารอาจมีจิตใจดีตั้งใจจะช่วยงานลูกน้อง แต่พอจริง ๆ ทำไม่ได้ อาจด้วยความที่ตอนนั้นงานเข้ายุ่งพอดีทำให้ลืมสิ่งที่รับปากไว้ รู้ไหมว่าแบบนี้ทำให้เสียเครดิต อย่างมาก ฉะนั้นจึงควรไตร่ตรองก่อนจะให้สัญญากับใครและจดบันทึกไว้ด้วยว่าไปรับปากอะไรกับใครบ้างจะได้ไม่ลืม ไม่เช่นนั้นต่อไปจะไม่มีใครเชื่อในคำพูดอีก
6.ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง
จะมีหัวหน้างานบางประเภทที่มักยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางของทุกสรรพสิ่ง คิดอยากทำอะไรก็ทำ ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่ลูกน้องหรือพนักงานต้องรับมือกับการมีหัวหน้างานประเภทนี้ พวกเขาจะรู้สึกเหนื่อยหน่าย และไม่มีความสุข และจะคอยระวังตัวตลอดเวลา ว่าคำสั่งนั้นเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบหรือจริงกันแน่ เพราะเป็นแบบนี้ผู้ตามจึงไม่ยอมรับนับถือผู้นำที่ไม่ยับยั้งชั่งใจหรือยึดตัวเองเป็นที่ตั้งตลอด
7.ไม่จริงใจต่อทีม
เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยเจอ คนที่ต่อหน้าอย่าง ลับหลังอย่าง เมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกน้องจับได้ว่าโดนหลอก โดนหักหลัง โดยเฉพาะจากคนที่เป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้บริหาร พวกเขาจะแสดงท่าทีก้าวร้าวต่อต้านขึ้นมาทันที และไม่ว่าต่อไปจะมีงานใดมอบหมายให้ทำ ก็จะทำด้วยความระแวง ว่าจะโดนอะไรอีกหรือไม่ ผู้นำที่ดีจะต้อง มีความจริงใจ ทั้งต่อเพื่อนร่วมงาน ต่อผู้ที่เหนือกว่าและผู้ที่ต่ำกว่า คุณจะไม่สามารถคงความเป็นผู้นำของตนไว้ได้นาน ถ้าหากว่าไร้ซึ่งความจริงใจและเป็นสาเหตุหลักของความล้มเหลวในทุกด้านของชีวิต

ดังนั้นแล้วจะเห็นได้ว่าเหตุผลที่ทำให้ผู้บริหารไม่สามารถเป็นผู้นำที่ดีได้มักเป็นเรื่องเกี่ยวกับการดูแลคน ในการสร้างสัมพันธภาพกับทีมงานอยู่หลายข้อ ฉะนั้นต้องมีความสนใจกับเรื่องคนมากเป็นพิเศษเพราะถ้าเมื่อไหร่ที่ไม่มีทีมงานอยากทำงานกับผู้นำ คำว่าผู้นำมันก็จะหมดความหมายโดยปริยาย อย่าลืมว่าผู้นำที่ดีจะต้องมีผู้ตามเสมอ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ? สำหรับใครที่คิดว่า สาเหตุที่กล่าวมาเบื้องต้น เหมาะที่สุดกับการที่ผู้ตามไม่อยากมีผู้นำแบบนี้ ตอนนี้คุณพอจะมีไอเดียในการจะไปต่อได้แล้วรึยัง ? ซึ่งคุณสามารถแชร์ไอเดียได้นะครับหรือพูดคุยกันได้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงแก้ไข หรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือกับอะไรก็ตามแต่.... คุณสามารถคอมเมนต์มาด้านล่างนี้ได้เลย ผมยินดีรับฟังครับ

วรัทภพ รชตนามวงษ์
7 สาเหตุ ที่ทำให้เป็นผู้นำที่ดีไม่ได้ เพราะอะไร ?
แต่ก็ไม่ถูกเลือกให้เป็นผู้นำ บางคนเป็นผู้นำอยู่แล้ว ก็ย่ำอยู่กับที่ ไปไม่ถึงไหน
หัวหน้าบางคนมีคุณสมบัติเพียบพร้อมไปหมด ทั้งการศึกษาและการทำงาน แต่กลับขาดภาวะผู้นำ ไม่กล้าที่จะตัดสินใจ บริหารงานแบบกล้า ๆ กลัว ๆ ไม่เด็ดขาด ไม่มีความมั่นใจในตัวเองสักเท่าไหร่ ถ้าผู้นำเป็นแบบนี้จะเป็นแบบอย่างในการทำงานให้ลูกน้องได้หรือไม่ เพราะอย่าลืมว่าบทบาทของผู้นำที่ดี จะต้องมีคุณสมบัติเหล่านี้ด้วย แต่อย่าเพิ่งกังวลไป เพราะปัญหาแบบนี้สามารถแก้ไขได้ เริ่มต้นจากการเชื่อมั่นศักยภาพของตัวเองก่อน กระตือรือร้น ไม่หยุดที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ มีการวางแผนงานล่วงหน้าที่ชัดเจนและเด็ดขาด
2.บ้าอำนาจ
อีโก้สูงถือตัวเหนือกว่าผู้อื่น หลงระเริงกับอำนาจที่มีอยู่ ใช้ตำแหน่งบังคับให้คนอื่นทำตามใจตัวเองหรือใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว จะทำให้ลูกน้องกดดัน ทำงานอย่างระแวงด้วยความหวาดกลัว ถ้าอยากได้ใจลูกน้องหรือให้เคารพจากใจจริงแล้วละก็ ควรปฏิบัติกับพวกเขาด้วยความเคารพเช่นกัน เอาใจเขามาใส่ใจเรา หัวหน้าที่ดีควรส่งเสริมทีม คอยให้กำลังใจและให้คำปรึกษาได้ ที่สำคัญอย่าถือตัวมากเป็นกันเองกับลูกน้อง อยู่ร่วมทำงานแบบพี่น้องครอบครัว ถ้าแบบนี้ได้แล้วละก็ รับรองได้ใจลูกน้องไปเต็ม ๆ
3.เจ้าอารมณ์
เรื่องนี้ต้องระวังมาก ๆ การมีวุฒิภาวะทางอารมณ์เป็นคุณสมบัติของคนทำงานทุกคน โดยเฉพาะคนที่เป็นหัวหน้า ควรควบคุมอารมณ์ให้ได้ ไม่ใช้อารมณ์นำเหตุผล ยิ่งอยู่ในตำแหน่งที่สูง ๆ ก็ควรระมัดระวังในการใช้คำพูดวางตัวให้เป็น เพราะไม่มีลูกน้องคนไหนอยากเป็นที่รองรับอารมณ์ของใครแบบไร้เหตุผลสิ้นดี จริงอยู่ว่าคนทุกคนต้องมีอารมณ์โกรธบ้างด้วยกันทั้งนั้น แต่ก็ควรที่จะแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวให้ออกด้วย
4.ไม่สามารถสร้างผลงานได้
จะมีการศึกษาดีสูงส่ง เก่งกาจมาจากไหน หรือเป็นนักพูดที่กล่อมใจจูงใจคนเก่ง อย่างไรก็ตาม หากไม่มีผลงานก็จบนะ หรือจะพูดง่าย ๆ ก็คือ เก่งแต่พูดทำไรไม่เป็น ซึ่งชีวิตจริงในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานหรือผู้บริหารขององค์กรคงไม่ต้องการนักคิด หรือนักพูดที่สร้างผลงานไม่ได้หรือผลงานไม่มีคุณภาพนั่นเอง
5.ชอบให้สัญญาที่รักษาไม่ได้
มักจะเป็นวิธีของผู้บริหารหลายคน ที่เวลาอยากได้ผลงานจากลูกน้องก็มีรางวัลผลตอบแทนมาล่อ แต่เมื่อลูกน้องทำได้จริงก็ลืมหรือแกล้งลืมที่จะมอบให้ หรือบางทีผู้บริหารอาจมีจิตใจดีตั้งใจจะช่วยงานลูกน้อง แต่พอจริง ๆ ทำไม่ได้ อาจด้วยความที่ตอนนั้นงานเข้ายุ่งพอดีทำให้ลืมสิ่งที่รับปากไว้ รู้ไหมว่าแบบนี้ทำให้เสียเครดิต อย่างมาก ฉะนั้นจึงควรไตร่ตรองก่อนจะให้สัญญากับใครและจดบันทึกไว้ด้วยว่าไปรับปากอะไรกับใครบ้างจะได้ไม่ลืม ไม่เช่นนั้นต่อไปจะไม่มีใครเชื่อในคำพูดอีก
6.ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง
จะมีหัวหน้างานบางประเภทที่มักยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางของทุกสรรพสิ่ง คิดอยากทำอะไรก็ทำ ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่ลูกน้องหรือพนักงานต้องรับมือกับการมีหัวหน้างานประเภทนี้ พวกเขาจะรู้สึกเหนื่อยหน่าย และไม่มีความสุข และจะคอยระวังตัวตลอดเวลา ว่าคำสั่งนั้นเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบหรือจริงกันแน่ เพราะเป็นแบบนี้ผู้ตามจึงไม่ยอมรับนับถือผู้นำที่ไม่ยับยั้งชั่งใจหรือยึดตัวเองเป็นที่ตั้งตลอด
7.ไม่จริงใจต่อทีม
เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยเจอ คนที่ต่อหน้าอย่าง ลับหลังอย่าง เมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกน้องจับได้ว่าโดนหลอก โดนหักหลัง โดยเฉพาะจากคนที่เป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้บริหาร พวกเขาจะแสดงท่าทีก้าวร้าวต่อต้านขึ้นมาทันที และไม่ว่าต่อไปจะมีงานใดมอบหมายให้ทำ ก็จะทำด้วยความระแวง ว่าจะโดนอะไรอีกหรือไม่ ผู้นำที่ดีจะต้อง มีความจริงใจ ทั้งต่อเพื่อนร่วมงาน ต่อผู้ที่เหนือกว่าและผู้ที่ต่ำกว่า คุณจะไม่สามารถคงความเป็นผู้นำของตนไว้ได้นาน ถ้าหากว่าไร้ซึ่งความจริงใจและเป็นสาเหตุหลักของความล้มเหลวในทุกด้านของชีวิต
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ? สำหรับใครที่คิดว่า สาเหตุที่กล่าวมาเบื้องต้น เหมาะที่สุดกับการที่ผู้ตามไม่อยากมีผู้นำแบบนี้ ตอนนี้คุณพอจะมีไอเดียในการจะไปต่อได้แล้วรึยัง ? ซึ่งคุณสามารถแชร์ไอเดียได้นะครับหรือพูดคุยกันได้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงแก้ไข หรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือกับอะไรก็ตามแต่.... คุณสามารถคอมเมนต์มาด้านล่างนี้ได้เลย ผมยินดีรับฟังครับ
วรัทภพ รชตนามวงษ์