JJNY : ภาคธุรกิจแนะยกเครื่องทีมศก.│สมชัยลั่น3รมต.เข้าเรือนจำวันเดียวก็หลุด│ตู่เลื่อนฉีดวัคซีน│ตู่ฉุน 80 ส.ส.ล่าชื่อบีบ

ภาคธุรกิจ แนะยกเครื่องทีมศก. เฟ้นคนทำงานเชิงรุก ฟื้นฐานราก ช่วยเด็กจบใหม่
https://www.matichon.co.th/economy/news_2599220
 

 
ภาคธุรกิจ แนะยกเครื่องทีมศก. เฟ้นคนทำงานเชิงรุก ฟื้นฐานราก ช่วยเด็กจบใหม่ หลัง 3 รมต.หลุดตำแหน่ง
 
คำพิพากษาศาลให้จำคุก 8 อดีตแกนนำ กปปส.จากคดีการชุมนุมและบุกรุกสถานที่ราชการ ทำให้นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ นายพุทธิพงษ์ ปุณกัณต์ รมว.ดิติทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม ต้องพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีทันที ไม่เพียงส่งผลสะเทือนไปถึงการเมืองเกิดไฟต์บังคับต้องปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) แต่ในภาคธุรกิจก็กำลังจับตาต่อการปรับเปลี่ยนครั้งนี้
 
โดยเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) มองว่า การที่ 3 รัฐมนตรีหลุดจากตำแหน่งถือเป็นจังหวะดี ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะปรับตำแหน่งที่นั่งของแต่ละกระทรวง และต้องติดตามใกล้ชิดว่า จะมีแรงกระเพื่อมในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ หากมีความชุลมุนในการปรับตำแหน่ง จะส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาล และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทางอ้อมได้
 
นายธนิต กล่าวว่า สิ่งที่ภาคเอกชนอยากเห็นที่สุด คือการเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจใหม่ อยากให้นายกฯ ดึงคนที่มีความรู้จริงเรื่องเศรษฐกิจเข้ามาบริหารงาน ตอนนี้ถือเป็นจุดด้อยของรัฐบาลที่เห็นชัดสุด คือ ทีมเศรษฐกิจ แต่ไม่ใช่ว่าทีมเศรษฐกิจในปัจจุบันไม่เก่ง เพียงแต่บางคนจะเก่งด้านการบริหารรัฐวิสาหกิจเป็นส่วนใหญ่ ในสถานการณ์เช่นนี้ ควรดึงคนมีความรู้เรื่องการฟื้นเศรษฐกิจฐานราก เข้ามาอยู่ในทีมด้วย เพราะคนรับผลกระทบส่วนใหญ่เป็นประชาชนคนทั่วไป แต่มาตรการที่รัฐออกมายังเน้นช่วยผู้ประกอบการและคนระดับกลาง
 
นายธนิต กล่าวว่า อีกสิ่งที่อยากเห็นในการปรับ ครม. ครั้งนี้ คือ กระทรวงพาณิชย์ มองว่าปัจจุบันทำงานเชิงรับมากเกินไป อยากให้ทำงานเชิงรุกมากกว่านี้ เพราะมีกรมที่มีความสำคัญต่อภาคการค้าและส่งออก อยากให้เร่งพัฒนาการค้าชายแดน และปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่ค้าของไทย
 
ส่วนอีกกระทรวงที่อยากเห็นความเปลี่ยนแปลง คือ กระทรวงแรงงาน อยากให้ทำงานเชิงรุกกว่าที่เป็นอยู่เช่นกัน ในปัจจุบันปัญหาแรงงานไม่ได้หมดไป ยิ่งยุคนี้อัตราการว่างงานยิ่งเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเด็กจบใหม่ในเดือนเมษายนนี้ มากกว่าครึ่งยังไม่มีงานรองรับ อยากเห็นกระทรวงแรงงานออกมาตรการรองรับหรือผลักดันให้ปัญหาหมดไป
 

 
สมชัย ลั่น 3 รัฐมนตรี ถูกส่งเข้าเรือนจำ เพียงวันเดียวก็หลุดจากตำแหน่ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_2599026
 
สมชัย ลั่น 3 รัฐมนตรี ถูกส่งเข้าเรือนจำ เพียงวันเดียวก็หลุดจากตำแหน่ง
 
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต. ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า 

เทคนิคติดคุก 1 วัน พ้นจากตำแหน่งทันที
 
ย้อนอดีตกลับไปดูรัฐธรรมนูญ 2540 มาตรา 137(4) กำหนดว่า คนที่จะเป็น กกต. ต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 109 (4) ที่เขียนว่า 
“ต้องคำพิพากษาจำคุกและถูกควบคุมโดยหมายศาล”

 
เมื่อ กกต. ยุค วาสนา เพิ่มลาภ 3 คน ถูกศาลตัดสินจำคุกเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2549 คนละ 4 ปีและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี ด้วยข้อหาจัดการเลือกตั้งโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม และถูกส่งตัวเข้าเรือนจำทันที โดยถูกคุมขังเป็นเวลา 3 วันจึงมาการประกันตัวมาสู้คดีในขั้นอุทธรณ์และฎีกา ซึ่งกว่าคดีขั้นฎีกาจะแล้วเสร็จคือวันที่ 13 มิถุนายน 2556
 
กกต.ทั้งสาม พ้นจากตำแหน่งทันที เมื่อศาลส่งเข้าเรือนจำ ด้วยเหตุขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ และ มีการสรรหากกต.ชุดใหม่มาทำงานต่อโดยเริ่มงานตั้งแต่ 20 กันยายน 2549
 
ข้อความในมาตรา 109(4) ของรัฐธรรมนูญ 2540 เป็นลักษณะต้องห้ามของผู้เป็น ส.ส. ซึ่งเป็นเนื้อหาเดียวกับ มาตรา 98(6) ของรัฐธรรมนูญ 2560
 
ดังนั้นเมื่อ ส.ส. และรัฐมนตรี ถูกส่งเข้าเรือนจำ เพียงวันเดียวก็หลุดจากตำแหน่ง ครับ
ทบทวนความจำอีกนิด คดี กกต.ชุดที่ 2 ติดคุก และพ้นตำแหน่งทันที คนยื่นฟ้องชื่อ ถาวร เสนเนียม

https://www.facebook.com/Somchai.Srisutthiyakorn/posts/3610157405700303
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่