" Mona Lisa " แห่งอียิปต์โบราณ




ภาพวาด "Meidum Geese" ถูกพบในโบสถ์ Chapel of Itet ในสุสานของ Nefermaat และ Itet (Cr.ภาพ: CK Wilkinson)
 

เกือบห้าพันปีที่แล้ว ศิลปินคนหนึ่งได้วาดภาพห่านที่มีรายละเอียดอย่างเหลือเชื่อในสุสานของขุนนางอียิปต์และภรรยา ซึ่งจากการวิเคราะห์ใหม่
ชี้ให้เห็นว่า "Mona Lisa" ของอียิปต์โบราณนี้ อาจแสดงให้เห็นถึงสายพันธุ์ห่านที่ไม่รู้จักมาก่อนและปัจจุบันได้สูญพันธุ์ไปแล้ว
 
ภาพวาดอายุ 4,600 ปีนี้ เรียกว่า "Meidum Geese" ถูกค้นพบในโบสถ์ Chapel of Itet ในปี 1800 ในสุสานของ Nefermaat (ลูกชายของฟาโรห์ Sneferu ในราชวงศ์ที่ 4 และเป็นขุนนางระดับสูงสุดที่รับใช้ฟาโรห์)และภรรยาของเขา Itet  ในปิรามิด Meidum (ที่ค้นพบในปี 1871)  ซึ่งเป็นแหล่งโบราณคดีในอียิปต์ตอนล่าง (อ้างอิงจาก Metropolitan Museum of Art ในนิวยอร์กซิตี้)

ภาพวาดสดใสนี้ ครั้งหนึ่งได้รับการอธิบายว่าเป็น  "Egypt's Mona Lisa" (โมนาลิซาแห่งอียิปต์) และเคยเป็นส่วนหนึ่งของฉากหลังขนาดใหญ่ที่ยังแสดงให้เห็นถึงผู้ชายที่กำลังดักจับนกด้วยตาข่าย เพื่อเป็นเครื่องบูชาสำหรับเจ้าของสุสานนั้น และภาพวาดถูกพบโดยศิลปินชาวอิตาลีชื่อ Luigi Vassalli ซึ่งได้นำภาพวาดจากสุสานไปมอบให้กับพิพิธภัณฑ์อียิปต์กลางกรุงไคโร

โดยเมื่อปีที่แล้ว Anthony Romilio ผู้ช่วยด้านเทคนิคของมหาวิทยาลัย Queensland's school of chemistry and molecular biosciencesของ ในออสเตรเลีย ได้เข้ามาตรวจสอบภาพวาดพบว่า มีห่านตัวหนึ่งที่ดึงดูดสายตาของเขา ซึ่งมีสีสันและลวดลายที่แตกต่างจากห่านสมัยใหม่มาก และได้ให้ความเห็นไว้ว่า สิ่งมีชีวิตในภาพวาดไม่เคยเห็นและไม่รู้จักมาก่อน



ห่านโบราณในภาพวาด (ซ้าย) จะมีลักษณะคล้ายกับห่านอกแดง (Branta ruficollis) มากที่สุด
แต่มีความแตกต่างที่สำคัญ ดังที่เห็นได้จากการเปรียบเทียบกับ รุ่นใหม่ของทั้งห่านอกแดง (ตรงกลาง) และห่านอกแดง (ขวา) 
(Cr.ภาพ: CK Wilkinson, A. Romilio, Tambako the Jaguar)
 
ในการศึกษานี้ Romilio ได้ทำการวัดห่านทั้งสามชนิดที่ปรากฎในภาพ รวมถึงสีและเครื่องหมายบนร่างกายกับห่านสมัยใหม่ เขาพบว่า ห่านสายพันธุ์หนึ่งในภาพวาดนั้น มีลักษณะคล้ายห่าน greylag goose ( Anser anser ) แต่ก็อาจเป็นห่าน bean goosee ( A. fabalis ) ก็ได้ และตัวที่สองมีลักษณะคล้ายกับห่าน white-fronted goose ( A. albifrons ) และไม่ตรงกับนกน้ำสมัยใหม่ใด ๆ

โดยห่านลึกลับนี้ มีลักษณะคล้ายกับห่านอกแดง ( Branta ruficollis ) มากที่สุด แต่มีความแตกต่างที่สำคัญเล็กน้อย ในรูปแบบสีบนลำตัวและใบหน้า
และแม้จะเปรียบเทียบกับนกชนิดอื่น ๆด้วย ก็ยังไม่ชัดเจนว่าห่านทั้งสามชนิดนี้เป็นสายพันธุ์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วจริง ๆ หรือไม่ นอกจากนี้ ยังเป็นไปได้ว่าจิตรกรในอดีตได้สร้างงานศิลปะของตัวเองผ่านภาพวาดห่านที่สมบูรณ์นี้

Romilio กล่าวในรายงานเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาไม่มีการพบกระดูกจากห่านอกแดงในแหล่งโบราณคดีใด ๆ ของอียิปต์ แต่กระดูกที่เป็นของนกที่ไม่สามารถระบุได้ จะมีลักษณะคล้ายกับนก red-breasted bird ในเกาะ Crete

อียิปต์นั้น เคยเป็นแหล่งรวมความหลากหลายทางชีวภาพ เมื่อมันถูกปกคลุมไปด้วยทุ่งหญ้าเขียวชอุ่ม ทะเลสาบ และป่าไม้ ซึ่งสิ่งมีชีวิตเก่าแก่เหล่านี้หลายชนิดสูญพันธุ์ไปแล้วในปัจจุบัน แต่เป็นภาพวาดในงานศิลปะที่ตกแต่งสุสานและวัดวาอาราม " ศิลปะให้ข้อมูลเชิงลึกทางวัฒนธรรม แต่ยังเป็นบันทึกกราฟิกที่มีคุณค่าของสัตว์ที่ไม่รู้จักในปัจจุบันด้วย "

โดยภาพวาดที่ผ่านมา ได้ชี้นำนักวิจัยให้ค้นพบสายพันธุ์ที่ไม่รู้จักของละมั่ง , oryx , เนื้อทราย , ลาและ tauroch (บรรพบุรุษวัว) และรูปภาพแทนสัตว์โบราณเหล่านี้ ช่วยให้เรารับรู้ถึงความหลากหลายทางชีวภาพเมื่อหลายพันปีก่อนที่อยู่ร่วมกับมนุษย์ ซึ่งผลการวิจัยนี้ที่ถูกตีพิมพ์บนออนไลน์เมื่อวันที่
13 กุมภาพันธ์ 2021 ในวารสารวิทยาศาสตร์ Journal of Archaeological Science: Reports

 Meidum Pyramid (Neithsabes / Wikimedia Commons )
ในภาษาอาหรับเรียกว่า False Pyramid เพราะมันดูไม่ค่อยเหมือนพีระมิดเท่าไหร่
สุสาน Nefermaat ใน Meidum Pyramid 

 
งานวิจัยในปี 2015 โดย Francesco Tiradritti จาก Kore University of Enna ที่ตีพิมพ์ใน LiveScience ชี้ให้เห็นว่า
ภาพวาดดังกล่าวอาจเป็นการปลอมแปลงในศตวรรษที่ 19 ซึ่งอาจทำโดย Vassalli
แต่ข้อเรียกร้องของ Tiradritti ถูกยกเลิกทันทีโดย Zahi Hawass และหน่วยงานอื่น ๆ ของอียิปต์

(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่