ความรักที่อบอวลอยู่ระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ เอฟเวอร์ตัน

เมอร์ซี่ย์ไซด์ดาร์บี้แมตช์เมื่อคืนวันเสาร์มีขึ้นอย่างประจวบเหมาะพอดีครับ



มันเป็นสัปดาห์ที่หนังสือ "กำเนิดหงส์" เล่ม 1 วางแผงพอดีเลย ซึ่งในเล่ม 1 นี้จะมีเรื่องเกี่ยวโยงกับเอฟเวอร์ตันมากหน่อยด้วยความที่เอฟเวอร์ตันกับลิเวอร์พูลนั้นมีจุดเริ่มต้นเดียวกัน คือโบสถ์เซนต์ โดมิงโก้..

ผมคงจะโพสต์ถึงหนังสือเล่มนี้สักวันพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ล่ะครับ ทว่าโพสต์นี้ผมอยากจะเขียนถึงเมอร์ซี่ย์ไซด์ดาร์บี้แมตช์โดยเฉพาะ
 
หลายคนคงจะรู้มาก่อนแล้วนะครับว่าลิเวอร์พูลคือทีมฟุตบอลทีมใหม่ที่แยกตัวออกมาจากเอฟเวอร์ตันอีกทีโดยมีชายชื่อ จอห์น โฮลดิ้ง เป็นต้นกำเนิด
 
โฮลดิ้งคือประธานสโมสรเอฟเวอร์ตัน ปี 1878 ที่เอฟเวอร์ตันถือกำเนิดขึ้นในชื่อแรกสุดว่า เซนต์ โดมิงโก้ นั้น ลิเวอร์พูลยังไม่เกิดเลยและก็คงจะไม่มีวันได้ลืมตาดูโลกด้วยซ้ำถ้าหากโฮลดิ้งกับบอร์ดบริหารของเอฟเวอร์ตันไม่ทะเลาะกันเองในเวลาต่อมา

สโมสรเอฟเวอร์ตันเกิดก่อนสโมสรลิเวอร์พูล ขณะที่สนามแอนฟิลด์เกิดก่อนสนามกูดิสัน พาร์ค

หลังเปลี่ยนชื่อจาก เซนต์ โดมิงโก้ ที่เป็นชื่อโบสถ์สร้างใหม่ในย่านเอฟเวอร์ตันมาเป็นทีมเอฟเวอร์ตันเพื่อให้สอดคล้องกับการขยายตัวของทีมที่ไม่ได้เฉพาะเจาะจงเป็นแค่ทีมฟุตบอลเล็กๆ ของโบสถ์อีกต่อไปแต่เกี่ยวพันกับชุมชนในภาพที่กว้างขึ้น รวมทั้งย้ายสนามแข่งมา 2 ครั้ง ในที่สุดเอฟเวอร์ตันก็มาปักหลักที่สนามฟุตบอลชื่อว่าแอนฟิลด์

ก็แอนฟิลด์เดียวกับแอนฟิลด์แห่งลิเวอร์พูลในปัจจุบันนั่นแหละครับ

เอฟเวอร์ตัน ใช้สนามแอนฟิลด์เป็นสนามเหย้าของตัวเองเมื่อปี 1884 กระทั่งถึงวันที่ทะเลาะกันครั้งใหญ่ในปี 1892 ก็ยกทีมย้ายออกไปตั้งรกรากใหม่ในพื้นที่ที่ห่างขึ้นไป 1 กิโลเมตรทางตะวันตกเฉียงเหนือของสวนสาธารณะสแตนลี่ย์ พาร์คที่ชื่อเมียร์กรีนฟิลด์ สนามฟุตบอลใหม่ถูกสร้างขึ้นที่นั่นพร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น กูดิสัน พาร์ค

โฮลดิ้งถูกโหวตออกจากตำแหน่งประธานสโมสรเอฟเวอร์ตัน เขาเหลือเพียงเพื่อนกลุ่มเล็กๆ กับนักฟุตบอลไม่กี่คนที่ยังอยู่เคียงข้าง และสนามฟุตบอลเปล่าๆ ที่ชื่อแอนฟิลด์

เขาจะไม่ทำทีมฟุตบอลต่อก็ได้เพราะลงแรงลงเงินไปมากแล้วที่เอฟเวอร์ตัน เพียงแค่ธุรกิจผับกับโรงแรมก็ทำให้โฮลดิ้งมีกินมีใช้ไปตลอดชีวิต ทว่าไฟในการเป็นเจ้าของทีมฟุตบอลนั้นยังคุโชนทั้งยังการถูกตราหน้าจากฝ่ายบริหารเก่าที่แยกตัวออกไปสร้างทีมใหม่ว่าเอาแต่ฉกฉวยผลประโยชน์เข้าตัว

ถ้าเขาวางมือก็ไม่ต่างอะไรกับการเป็นผู้แพ้

สนามฟุตบอลก็มีอยู่แล้ว โฮลดิ้งจึงเลือกสร้างทีมฟุตบอลใหม่ขึ้นมาเพื่อใช้สนามแอนฟิลด์ เขาให้ จอห์น แม็คเคนน่า มือขวาและเพื่อนสนิทของตัวเองเป็นคนจัดการหานักฟุตบอลเข้าทีม

เอฟเวอร์ตันใช้นักเตะอังกฤษผสมกับสกอตติชราวครึ่งต่อครึ่ง ลิเวอร์พูลไม่ยอมเดินตามเด็ดขาด แม็คเคนน่าจึงขึ้นเหนือไปชักจูงเพชรเม็ดงามจากสกอตแลนด์ลงมาเล่นฟุตบอลในทีมเดียวกัน ทีมชุดแรกในประวัติศาสตร์ของลิเวอร์พูลจึงเป็นนักเตะสกอตต์ล้วนๆ เป็น Team of the Macs ที่ผู้คนเรียกกัน

นั่นคือการกำเนิดของ 2 ทีมแห่งเมอร์ซี่ย์ไซด์ เอฟเวอร์ตัน เป็นพี่ ลิเวอร์พูล แอนฟิลด์ เป็นพี่ กูดิสัน พาร์ค

สายสัมพันธ์ระหว่างเอฟเวอร์ตันกับลิเวอร์พูลจึงเป็นเหมือนคนในครอบครัว ผูกพันเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน เป็นเหมือนพี่กับน้องที่บางทีก็ไม่เข้าใจกัน แต่ลึกๆ ก็ยังรักและดูแลกัน

ในสนามต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตัวเอง สมกับที่เป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีพิสูจน์ว่าใครจะเป็นเบอร์หนึ่งของเมือง มีการเล่นที่ดุเดือดการเข้าสกัดถึงลูกถึงคน ใบเหลืองใบแดงปลิวว่อน เมอร์ซี่ย์ไซด์ดาร์บี้คือเกมที่มีใบแดงเกิดขึ้นเยอะที่สุดแล้วในพรีเมียร์ลีก

ไม่ต้องอะไรมาก ย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์แค่เกมแรกที่ทั้ง 2 ทีมได้ฟาดแข้งกัน (ลิเวอร์พูลชนะ 1-0 ในนัดชิงชนะเลิศลิเวอร์พูล ซีเนียร์ คัพ ทอม วิลลี่ อดีตนักเตะเอฟเวอร์ตันเป็นคนยิงประตูเดียวของเกม) ผลก็จบลงด้วยการประท้วงวุ่นวายเสียแล้ว



 แต่กระนั้นก็เถิดครับ.. 

มีความรักปกคลุมอย่างเอ่อล้นเช่นกันระหว่างพี่น้องคู่นี้ มันคล้ายกับพี่น้องคู่หนึ่งที่ทะเลาะกันอยู่เรื่อย แต่เมื่อถึงเวลาที่สำคัญและมีความหมายที่สุด ต่างฝ่ายต่างก็รู้ว่าพวกเขารักและเป็นห่วงกัน

ในวันที่เด็กชาย รีส โจนส์ แฟนบอลรุ่นจิ๋ววัย 11 ขวบของเอฟเวอร์ตันเสียชีวิตจากการถูกฆาตกรรมเป็นคดีสะเทือนขวัญไปทั่วประเทศเมื่อปี 2007 ลิเวอร์พูลเชิญครอบครัวของเด็กน้อยผู้เคราะห์ร้ายมาที่แอนฟิลด์ เดอะค็อปทั้งสนามยืนขึ้นปรบมือให้กำลังใจพ่อแม่และพี่ชายของรีส บางคนปาดน้ำตาด้วยความเห็นใจสงสาร

แล้วเพลง Z Cars ก็ดังกระหึ่มแอนฟิลด์ท่ามกลางเสียงปรบมือกึกก้องจากเดอะค็อป

เพลง Z Cars ดังที่แอนฟิลด์มีความหมายอย่างไรน่ะหรือครับ ก็เหมือนกับเพลง You'll never walk alone ถูกนำไปเปิดที่กูดิสัน พาร์ค นั่นแหละ Z Cars คือเพลงบรรเลงประจำทีมเอฟเวอร์ตันที่จะเปิดก่อนแข่งทุกครั้งที่กูดิสัน พาร์ค
นี่คือ Class of Merseyside..

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
17 กันยายน ปี 2012 ห้าวันหลังจากมีการเปิดเผยหลักฐานใหม่ที่มีน้ำหนักอย่างที่สุดในการลบล้างมลทินที่แปดเปื้อน 96 ชีวิตแห่งโศกนาฏกรรมฮิลล์สโบโร่และนำมาซึ่งการพิจารณาคดีใหม่อีกครั้ง กูดิสัน พาร์คร่วมรำลึกและสดุดีเดอะค็อปทั้ง 96 ชีวิตก่อนเกมพรีเมียร์ลีกที่เอฟเวอร์ตันรับมือนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

รูปผู้เสียชีวิตถูกนำขึ้นสกอร์บอร์ดพร้อมรายชื่อเป็นตัววิ่งผ่านไปทีละคนๆ แฟนบอลทุกคนในชุดและผ้าพันคอสีน้ำเงินลุกขึ้นยืนส่งเสียงเป็นกำลังใจและปรบมือดังสนั่น

ที่กลางสนามเด็กหญิง-เด็กชายคู่หนึ่งยืนจับมือกัน เด็กผู้หญิงอายุมากกว่า ใส่เสื้อสีน้ำเงินหมายเลข 9 เด็กผู้ชายอายุน้อยกว่า ใส่เสื้อสีแดงหมายเลข 696..

แล้วอินโทรบาดใจของเพลง He ain't heavy, ยิ้ม's my brother ของ The Hollies ก็ดังขึ้น

บรรยากาศคล้ายจมอยู่ในภวังค์ อินโทรแผ่วลงสอดประสานกับเนื้อร้องท่อนแรกที่ดังขึ้น..

"The road... is long..



ผมจำได้ว่าตัวเองดูถ่ายทอดสดเกมนั้นอยู่ด้วย ซึมอยู่นานเลยด้วยมันสัมผัสใจเหลือเกิน มันคือพิธีการที่เปี่ยมไปด้วยความหมายจริงๆ 

"... With many a winding turn
That leads us to who knows where
Who knows where
But I'm strong
Strong enough to carry him
He ain't heavy, ยิ้ม's my brother...
......
Doesn't weigh me down at all
He ain't heavy he's my brother
He's my brother
He ain't heavy, ยิ้ม's my brother, he ain't heavy"

ไม่เลย.. เขาไม่หนักเลย ผมอุ้มเขาไหว ก็เขาเป็นน้องชายของผมนี่

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

Class of Merseyside..

ตัวพิธีการนั้นเต็มไปด้วยความตื้นตัน แต่มันยิ่งตื้นตันขึ้นไปอีกเมื่อมันเป็นเอฟเวอร์ตัน ทีมเดียวในโลกที่สามารถเรียกลิเวอร์พูลว่า brother - น้องชาย ได้เต็มตามความหมายของมัน

ให้หลังเพียงไม่กี่วันเดอะค็อปบนอัฒจันทร์ค็อปสแตนด์แห่งแอนฟิลด์ก็ร่วมกันแปรอักษรเป็นพยัญชนะสีน้ำเงินสลับแดงว่า THANKS

ขอบคุณ..ขอบคุณมาก.. พี่ชาย

นั่นคือความรักที่อบอวลอยู่ระหว่างลิเวอร์พูลกับเอฟเวอร์ตัน แม้เราจะมองไม่เห็นในบางครั้งแต่ไม่ได้หมายความว่ามันไม่ได้มีอยู่จริง

ในโศกนาฏกรรมฮิลล์สโบโร่ แม้ 96 ชีวิตผู้จากไปจะเป็นเดอะค็อป แต่เอฟเวอร์โตเนียนมากมายก็ต้องสูญเสียสมาชิกในครอบครัวไปด้วยเช่นกัน บางคนเสียพ่อ บางคนเสียพี่ บางคนเสียญาติ เสียเพื่อน เสียคนรัก..

เอฟเวอร์ตันไม่เคยหยุดให้การสนับสนุนครอบครัวและเพื่อนๆ ของเหยื่อฮิลล์สโบโร่



 15 เมษายน ปี 2013 บิลล์ เคนไรท์ ประธานสโมสรเอฟเวอร์ตันไปร่วมงานรำลึกที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในแอนฟิลด์ เขากล่าวสุนทรพจน์ท่ามกลางผู้ร่วมงานที่เป็นลิเวอร์พูล เคนนี่ ดัลกลิช อลัน แฮนเซ่น เอียน รัช ฟิล ธอมป์สัน จอห์น อัลดริดจ์ สตีเว่น เจอร์ราร์ด เจมี่ คาร์ราเกอร์ และใครต่อใครอีกหลายคนรวมทั้งครอบครัวญาติมิตรของทั้ง 96 ชีวิตอีกเต็มอัฒจันทร์

เป็นสุนทรพจน์ที่จับใจ เคนไรท์ยืนพูดที่แอนฟิลด์ในฐานะตัวแทนจากสโมสรเอฟเวอร์ตัน เขาบอกว่าสมัยเด็กเขาไปดูบอลทั้งลิเวอร์พูลและเอฟเวอร์ตันเล่น สัปดาห์นึงมาที่นี่ที่แอนฟิลด์ อีกสัปดาห์ก็ไปที่นั่น.. ที่ "the other place"

ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกครับ เขาจะพูดคำว่า กูดิสัน พาร์ค ก็ได้ไม่มีใครว่าอะไรอยู่แล้ว แต่เขาเลือกใช้คำที่มีความพิเศษกว่านั้น คำที่แสดงให้เห็นถึงกาลเทศะอันมีระดับ

"ผมหวังว่าในปีหน้า ปีที่ครบรอบ 25 ปี พวกคุณจะได้ฉลองชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่จะเคยมีทีมไหนในประเทศนี้ทำได้ มันไม่ใช่แค่ชัยชนะในเกมฟุตบอล แต่เป็นชัยชนะแห่งชีวิต.. 

"เอฟเวอร์ตันฟุตบอลคลับและ เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมของเราที่ร่วมนั่งอยู่ตรงนั้นขอคำนับพวกคุณ และถ้าคุณอยากจะไปทำอะไรให้พวกเขาในสถานที่ของเราพร้อมกับเพื่อนๆ ชาวสีน้ำเงินบ้าง.. the door is always open for you - ประตูพร้อมเปิดต้อนรับพวกคุณเสมอ"

ในวันที่ทุกอย่างคลี่คลาย 96 ชีวิตที่เปื้อนมลทินกำลังจะกลายเป็นผู้บริสุทธิ์เพียงรอคำตัดสินของศาลเมื่อปี 2017 เอฟเวอร์ตันเชิญทีมงาน Hillsborough Family Support Group ที่รณรงค์แคมเปญต่อสู้เพื่อความยุติธรรมให้กับเรื่องนี้มาตลอดนำโดย มาร์กาเร็ต แอสปินัลล์ และ เจนนี่ ฮิกส์ มากูดิสัน พาร์ค ในเกมที่พบกับบอร์นมัธ



เสียงปรบมือดังกึกก้องยาวนานกว่าที่เคย เอฟเวอร์โตเนียนทุกคนร่วมยินดีกับพันธนาการที่ถูกปลดเปลื้องออกไปของเดอะค็อป กล้องในสนามจับภาพใกล้ของแฟนบอลแต่ละคน พวกเขาและพวกเธอบางคนมีน้ำเอ่ออยู่ในดวงตา

ป้ายผ้า Justice at last.. brothers in arms ถูกดึงกางออกโดดเด่นบนอัฒจันทร์

ก็นั่นล่ะครับ Class of Merseyside.. เอฟเวอร์ตัน กับ ลิเวอร์พูล ทำให้เราเสียน้ำตาได้บ่อยกว่าที่คิด

เมื่อวานนี้ผมนั่งเปิดดูคลิป บิลล์ เคนไรท์ กล่าวสุนทรพจน์ที่แอนฟิลด์ ดูคลิปลิเวอร์พูลเชิญครอบครัวเจ้าหนู รีส โจนส์ มาแอนฟิลด์ ดูคลิปพิธีการที่มีเพลง He ain't heavy, ยิ้ม's my brother ที่เอฟเวอร์ตันจัดให้ลิเวอร์พูลที่กูดิสัน พาร์ค ดูคลิปเดอะค็อปสแตนด์แปรอักษรว่า THANKS ดูคลิปวันที่ทีมทอฟฟี่สีน้ำเงินเชิญคณะรณรงค์ครอบครัวฮิลล์สโบโร่มายังกูดิสัน พาร์ค อยู่หลายรอบ

น้ำตาไหลทุกรอบโดยเฉพาะช่วงของเคนไรท์ ช่วงของ รีส โจนส์ และช่วงที่เสียงร้อง The road.. is long... ดังขึ้นที่กูดิสัน พาร์ค

ย้อนกลับไปเมื่อครั้งอดีตอีกหน ในพิธีศพของ จอห์น โฮลดิ้ง นักฟุตบอลเอฟเวอร์ตันมาร่วมแบกโลงศพกับนักเตะลิเวอร์พูลด้วย ในพิธีศพของ จอห์น แม็คเคนน่า นักฟุตบอลของเอฟเวอร์ตันก็มาแบกโลงศพของเขาร่วมกับนักเตะลิเวอร์พูลเช่นกัน

แฟนบอลเอฟเวอร์ตันบางคนอาจเกลียดลิเวอร์พูล แฟนบอลลิเวอร์พูลบางคนอาจเกลียดเอฟเวอร์ตัน นั่นคือเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนคงบังคับความรู้สึกกันไม่ได้ สำหรับผมไม่เคยเกลียดเอฟเวอร์ตัน ตรงกันข้ามยังเอาใจช่วยพวกเขาในเกมสำคัญๆ เสมอ



credit : www.siamsport.co.th โดย ตังกุย (มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่