เจอแม่แฟนแบบนี้ควรทำอย่างไงต่อดีคะ

เรากับแฟนคบกันมา 8 เดือน เพิ่งเรียนจบกันค่ะ แต่ก็ต่างคนต่างทำงานกันแล้ว เข้าเรื่องเลยนะคะ 2 เดือนแรกที่คบกันเราย้ายออกมาเช่าคอนโดอยู่ค่ะ เพราะมีปัญหากับที่บ้าน แต่เขาไม่ได้อยู่ด้วยนะคะ ไปๆมาๆ มีนอนค้างบ้างบางครั้ง เขาเคยบอกว่าจะช่วยจ่าค่าน้ำค่าไฟให้ แต่ในส่วนนี้เราก็ไม่เคยได้นะคะ แต่ก็ไม่ได้คิดมากอะไร เพราะเขาก็ไม่ได้มาอยู่กับเรา เราอยู่ที่คอนโดได้ประมาณ 3 เดือน แฟนก็เอ่ยปากชวนไปอยู่ที่บ้านเขา จะได้ประหยัดค่าใช้จ่าย เราก็ไม่กล้าไป เกรงใจเขาและที่บ้านเขาด้วย แต่จริงๆเป็นบ้านใหม่ที่ทางครอบครัวเขาซื้อนะคะ ยังไม่มีใครไปอยู่ แฟนเราจะเข้าไปอยู่ก่อน เลยชวนเราไปอยู่ด้วบ ตอนแรกปฏิเสธไปนะคะ พอหลังๆก็มาคิดว่าไปอยู่กับเขาก็ดี จะได้ประหยัดค่าคอนโดไป เพราะค่าคอนโดแต่ละเดือนก็เกือบครึ่งของเงินเดือนเราเลย เลยตัดสินใจเข้าไปอยู่ค่ะ ก็บอกกับแฟนไปว่าจะช่วยค่าน้ำค่าไฟเดือนละ 1500 บาท ตอนแรกแฟนปฏิเสธค่ะ เพราะเขาไม่อยากให้เราต้องมาจ่ายอะไร แต่คือเราเกรงใจจริงๆ เลยบอกว่าจะขอจ่ายแต่ละเดือนเท่านี้ ถ้าเงินเหลือจากที่ให้ไปก็เอาไปเติมน้ำมันรถ หรือว่าซื้อของเข้าบ้านก็ได้ เขาเลยโอเคค่ะ ที่เราพูดแบบนั้นเพราะว่าค่าน้ำค่าไฟรวมกันมันแค่ 100 กว่าบาท แล้วอีกอย่างเวลาเราไปทำงานส่วนมากแฟนจะไปรับไปส่งที่ทำงานค่ะ ถือว่าช่วยค่าน้ำมันเขาไปด้วย ก็ตกลงกันเรียบร้อย แล้วก่อนที่เราจะเข้าไปอยู่ แฟนมาเล่าให้ฟังว่าแม่เขาพูดว่าจะให้เรากับแฟนช่วยกันผ่อนบ้านคนละครึ่ง (บ้านเป็นชื่อแฟน) ตอนเราได้ยินเรารู้สึกงงๆนิดหน่อย แฟนจึงพูดต่อว่า แต่ไม่ต้องคิดมากนะ คุยกับแม่ให้แล้วว่าเรามีส่วนจ่ายแค่ค่าน้ำค่าไฟเดือนละ 1500 แม่เขาเลยตกลง แต่เราไม่รู้ว่าแม่เขาตกลงจริงไหม หรือเขาแค่พูดให้เราสบายใจ เราเลยพยายามไม่คิดมาก ก่อนเข้าไปอยู่เราก็เอาเงินค่ามัดจำคอนโดที่ได้คืนมาเอาให้แฟนยืมซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าห้อง แต่พอซื้อได้อาทิตย์เดียว แม่เขาก็ซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้านทั้งหลังเลยค่ะ ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น แม่เขาก็บอกกับเขาว่าจะช่วยออกค่าเฟอร์ของห้องแฟนเราให้ แต่ทำไมถึงเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้นะคะ เหตุการณ์นั้นยังทำให้เรางงอยู่ถึงทุกวันนี้เลย เราย้ายเข้าเดือนธันวาปีที่แล้วค่ะ พอเราย้ายเข้ามา เราก็จ่ายค่าน้ำค่าไฟปกติ และเก็บเงินที่เหลือจากการจ่ายค่าน้ำค่าไฟไว้ที่เรา เพราะเรากับแฟนตกลงกันว่าจะเอาเงินที่เหลือไปซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นกันก่อน แต่เพราะสถานการณ์โควิดจึงทำให้เรามาตกงานตอนต้นเดือนมกรา เลยทำให้ต้องเอาเงินส่วนนั้นมาใช้กินก่อน แฟนก็โอเคไม่ว่าอะไร ได้งานใหม่แล้วค่อยกว่ากัน จนเราได้งานใหม่จริงๆค่ะ เพิ่งได้เดือนนี้เลยค่ะ ทำมาได้อาทิตย์กว่าแล้ว ระหว่างที่เราตกงานก็ไม่ได้ให้แฟนมาเลี้ยงนะคะ เราใช้เงินเก็บเราค่ะ พอไม่กี่วันก่อนแม่เขาก็มาพูดกับเราค่ะ ว่าเดือนนี้ช่วยกันผ่อนบ้านนะ คนละเท่านี้ๆ (ยอดเงินไม่ได้เยอะอะไรค่ะ เพิ่มจากเดิมไม่เท่าไหร่) แฟนเราเขาก็งงว่าทำไมอยู่ๆถึงพูดขึ้นมา แฟนเราถามแม่เขาว่าเราเกี่ยวอะไรด้วย แม่เขาก็บอกอ้าว ก็เกี่ยวสิ เราก็เป็นคนอยู่บ้านหลังนั้น แฟนเลยบอกอีกว่า เดี๋ยวค่อยคุยเรื่องนี้กัน2คนนะ แม่เขาก็โมโห บอกว่า ไม่ จะคุยตรงนี้ เปิดใจกันไปเลย หมดโควิดค่อยว่ากัน ซึ่งเราเป็นคนนั่งอยู่ตรงนั้นเราก็ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะต้องพูดยังไงหรือทำตัวแบบไหน จนเรามาคุยกับแฟนเรื่องนี้2คน เราบอกกับเขาว่าเราเข้าใจ เราช่วยผ่อนได้ เดือนสองเดือน แต่ถ้าให้ช่วยผ่อนตลอดไปเราทำไม่ได้นะ บ้านไม่ใช่ของเรา ในเมื่อถ้าเราจะมีภาระแล้ว เราก็อยากจะให้มันเป็นของๆเรา ไม่ได้อยากมีภาระแต่ก็มีแค่ตัว เพราะจะเลิกกันหรือเปล่าก็ไม่รู้ แฟนเราก็เข้าใจ จึงไปคุยกับแม่เขา แม่เขาโมโหมากค่ะ พูดคำหยาบต่างๆนาๆ จับใจความได้ว่า "พวกสองตัวเป็นอะไรกัน ทั้งและมัน อย่าให้กูด่านะ เดี๋ยวกูจะไปด่าพวกที่ที่บ้าน พวกสองตัวไม่ต้องมาให้กูเห็นหน้านะ" เราได้รู้แบบนั้นเราทำตัวไม่ถูกเลยค่ะ จะมาด่าเราเรื่องอะไร ทั้งตกใจและงง เพราะไม่เคยเจอแม่แฟนแบบนี้จริงๆ เราควรทำไงต่อไปดีคะ เราตัดสินใจจะกลับไปอยู่บ้านเพราะเรากับที่บ้านปรับความเข้าใจกันได้นานแล้ว แต่แฟนขอไม่ให้ไป เขาไม่อยากอยู่บ้านคนเดียว เขาไม่มีใครนอกจากเรา ใจนึงเราก็อยากอยู่กับฟนนะคะ เป็นห่วงเขา แต่อีกใจก็อยากกลับไปอยู่บ้านตัวเอง เพราะสภาพจิตใจตอนนี้เราก็ไม่ไหวค่ะ ขืนถ้าอยู่ต่อเราคงพบจิตเวชแน่ๆ เราอึดอัดมากๆเลยค่ะ กลัวว่าอยู่ต่อก็จะทำให้ต้องเลิกกับแฟนเพราะแม่ของเขา (เพราะแฟนเก่าเขาที่เลิกกันไปก็เพราะว่าแม่เขาไม่ชอบ) ก่อนหน้านี้แม่เขาก็เคยหลุดพูดกับเราตอนเมาค่ะว่าเขาไม่ชอบเรา แต่เราไม่คิดไรมาก เพราะเขาเมาอาจจะเรียบเรียงคำพูดไม่ถูก จึงปล่อยผ่านไป สุดท้ายนี้ขอคำปรึกษาพี่ๆเพื่อนๆในห้องนี้หน่อยค่ะ ว่าควรทำยังไงต่อไปดี เพราะเราก็รักแฟนของเรามาก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่