[CR] เที่ยวไปกินไป by laser @ เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน 10 : ซูตองเป้ ภูโคลน บ้านรักไทย

"เที่ยวไปกินไป by laser @ เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน 10 : ซูตองเป้ ภูโคลน บ้านรักไทย"
เป็นการพาเพื่อนสิงคโปร์ ไปเที่ยวเชียงใหม่-เชียงราย-แม่ฮ่องสอน รวม 17 วัน ตอนที่ 10 ต่อจาก
"เที่ยวไปกินไป by laser @ เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน 1 Magic Food Park ข้าวต้มกระดูกหมูช้างม่อย"
https://pantip.com/topic/37693950
"เที่ยวไปกินไป by laser @ เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน 2 ดอยอินทนนท์ ขุนวาง ตักบาตรเป็งปุ๊ด"
https://pantip.com/topic/37696652
"เที่ยวไปกินไป by laser @ เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน 3 : ดอยอ่างขาง 1 : จันทรุปราคาเต็มดวง" 
https://pantip.com/topic/37701675
"เที่ยวไปกินไป by laser @ เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน 4: ดอยอ่างขาง 2 : บ้านขอบด้ง"
https://pantip.com/topic/37704005
"เที่ยวไปกินไป by laser @ เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน 5 : ดอยอ่างขาง 3 : บ้านนอแล บ้านผาแดง"
https://pantip.com/topic/37819812
"เที่ยวไปกินไป by laser @ เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน 6 : สวนส้มธนาธร บ้านดินอาข่า ดอยแม่สลอง"
https://pantip.com/topic/37922293
"เที่ยวไปกินไป by laser @ เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน 7 : ตลาดเทศบาล ดอยตุง ฉุยฟง ถนนคนม่วน"
https://pantip.com/topic/38018071
"เที่ยวไปกินไป by laser @ เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน 8 : วัดร่องเสือเต้น ไร่บุญรอด วัดร่องขุ่น โอ้กะจู๋"
https://pantip.com/topic/38162111
และ "เที่ยวไปกินไป by laser @ เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน 9 : ปาย พระธาตุดอยกองมู แม่ฮ่องสอน"
https://pantip.com/topic/40528690/
วันพุธที่ 7-2-18 ตื่นตั้งแต่ตีห้า ตีห้าสีสิบออกจากบุญดีเฮาส์เกสต์เฮาส์ เพื่อไปสะพานซูตองเป้



สะพานซูตองเป้ตั้งอยู่ที่บ้านกุงไม้สัก อำเภอเมืองฯ จังหวัดแม่ฮ่องสอน  จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน
นั่งรถย้อนกลับขามา ห่างจากตัวเมืองประมาณ 8 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าบ้านกุงไม้สัก สามารถไปได้สองเส้นทาง 
ทางแรกนั่งรถตรงขึ้นไปสวนธรรมภูสมะ แล้วเดินย้อนลงมา ทางที่สองจอดรถในหมู่บ้านกุงไม้สัก 
แล้วเดินตามสะพานไม้ไผ่ขึ้นไปสวนธรรมภูสมะ แล้วจึงเดินย้อนกลับมาอีกครั้ง เลือกทางที่สอง 
เพราะอยากรอตักบาตรพระที่ลงมาจากสวนธรรมภูสมะ จากตัวเมืองไปทาง ทล 108 (1095)
เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงชนบท มส.4001 ระยะทาง 2 กม.ถึงลานจอดรถในหมู่บ้านกุงไม้สัก
6.10 น.ถึงสะพานซูตองเป้ หมอกหนา ทัศนวิสัย 50 เมตร ทุกอย่างดูขาวโพลน 
เหมือนสะพานทะลุมิติออกมาตรงหน้า เหมือนท้าทายให้เดินเข้าไปค้นหา
ซุ้มประตูเข้าสู่สะพานเป็นศิลปะแบบไทใหญ่



ด้านขวาของทางขึ้นสะพานมีร้านค้า เจ้าของร้านกางเต็นท์นอนในร้าน



ทางด้านซ้ายเป็นศาลาขายเสื้อและของที่ระลึก 
มีกล่องรับบริจาคไม้ไผ่ สำหรับซ่อมทางเดินบนสะพาน



เมื่อได้ยินเสียงคน เจ้าของร้านรีบลุกขึ้นมาเปิดร้าน





หนุ่มเจ้าของร้านบอกว่า ปกติพระออกบินฑบาตประมาณหกโมงเช้า 
น่าจะเดินเรียงแถวมาถึงประมาณหกโมงครึ่ง อีกสักครู่คงมาถึง
เพราะอาจมีคนตักบาตรจากด้านบนสวนธรรมภูสมะ หรือวัดภูสะมะ
ระหว่างรอสั่งกาแหมาดื่มและไข่กระทะมากินเป็นมื้อเช้า





หน้าร้านมีป้ายแจ้งกฏการเดินบนสะพานซูตองเป้
จูงจักรยานเดินบนสะพานได้ แต่ห้ามการปั่นจักรยาน



หกโมงครึ่งแล้วพระยังไม่มา



6.44 น.ยังไม่มีวี่แวว



สองหนุ่มสาวรอไม่ไหว
ตัดสินใจถือของที่เตรียมมาตักบาตร
เดินขึ้นสะพานหายลับไปในหมอก



6.56 น.เดินขึ้นสะพานซูตองเป้



สะพานซูตองเป้ เป็นสะพานพื้นไม้ไผ่ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย 
มีความยาวประมาณ 500 เมตร ทอดผ่านทุ่งนาจากฝั่งบ้านกุงไม้สัก
ไปยังสวนธรรมภูสมะ ตัวสะพานกว้างประมาณสองเมตร เดินสวนกันได้
ตัวสะพานตั้งอยู่เสาไม้จากเสาไม้เก่าของชาวบ้าน รองรับคานไม้ทีรับน้ำหนักของทางเดินไม้ไผ่
คำว่า "ซูตองเป้" เป็นคำไทใหญ่ แปลว่าอธิษฐานสำเร็จ
เชื่อกันว่าหากยืนตั้งจิตอธิษฐานกลางสะพานขอความสำเร็จในเรื่องดี จะสมหวังทุกประการ



ทางเดินไม้ไผ่เกิดจากการทุบไม่ไผ่ให้แผ่ออกเป็นแผ่นแบน
แล้วนำมาสานขัดแตะในแนวตั้งและแนวนอน เหมือนเป็นเสื่อไม้ไผ่ขนาดใหญ่
ลักษณะเหมือนพื้นอุโบสถของวัดต้นเกว๋น
คห.7 "เที่ยวไปกินไป by laser @ เชียงใหม่ 2017 : 3 นางพญาเสือโคร่งจอมทอง, วัดต้นเกว๋น, แยกรินคำ"
https://pantip.com/topic/36186402
เป็นการทำและสานด้วยมือ อันแสดงถึงแรงศรัทธาของทั้งพระ สามเณรและชาวบ้านที่ช่วยกันสร้างสะพานนี้
-สร้างโดยการนำโดยการนำของพระปลัดจิตตพัฒน์ อคคฺปัญโญ ประธานสงฆ์สวนธรรมภูสมะ 
ที่ได้ร่วมกันสร้างขึ้นทอดข้ามแม่น้ำสะงาข้ามทุ่งนาของชาวบ้าน เชื่อมระหว่าง“สวนธรรมภูสมะ”
สถานปฏิบัติธรรมอันปลีกวิเวกสงบ กับ“หมู่บ้านกุงไม้สัก” เพื่อให้พระภิกษุสามเณรจากสวนธรรมภูสมะ
เดินบิณฑบาต รวมถึงชาวบ้าน เกษตรกรที่อยู่ในบริเวณนั้นได้เดินข้ามสัญจรไป-มา
โดยเจ้าของที่นาได้ถวายผืนนาที่สะพานสร้างทอดผ่าน ส่วนคณะศรัทธาอื่นๆก็ได้บริจาคเสาไม้ บริจาคไม้ไผ่ 
แรงงาน และปัจจัยอื่นๆ ในการสร้างสะพานแห่งนี้ ใช้งบประมาณในการก่อสร้างเพียง 8 แสนกว่าบาท
โดยไม่ใช้งบของทางราชการ ใช้เวลาก่อสร้างราว 3 เดือนกว่า โดยได้ทำการวางเสาเอก
ในวันที่ 20 เม.ย. 2554 และทำการก่อสร้างเสร็จสิ้นเปิดใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 5 ส.ค. 2554
ที่มา : https://mgronline.com/travel/detail/9580000025684



ทางขวามือมีบันไดลงไปกระต็อบในนา มีมุมให้นั่งถ่ายรูปกับหุ่นไล่กา





บรรยากาศดี อากาศเย็นสบาย ถือถุงของใส่บาตรที่ซื้อใน 7-11 เมื่อคืนเดินไปไม่รีบ



ผ่านซุ้มประตูไม้ไผ่ 
ป้ายบนประตูเป็นภาษาไทใหญ่ ไม่มีคำแปล



ซุ้มประตูที่ 2 ก่อนขึ้นสะพานข้ามลำน้ำแม่สะงา











7.13 น.มีพระเดินมาหนึ่งองค์พร้อมกับลูกศิษย์วัดและองครักษ์สี่ขา





"มาจากไหนหรือโยม?"
"มาจากรุงเทพฯ เจ้าค่ะ พาเพื่อนสิงคโปร์มาเที่ยว วันนี้มีพระมารูปเดียวหรือเจ้าคะ?"
"พอดีที่วัดมีพระมาอบรมสัมนา พระในวัดจึงไม่ว่าง แต่กลัวชาวบ้านรอตักบาตร จึงเดินมารูปเดียว"





แม้ที่เหลือจะนับถือคริสต์ แต่ก็ร่วมตักบาตรด้วย









ตักบาตรพระสมความตั้งใจแล้วออกเดินต่อไป



7.18 น.ถึงปลายสะพานซูตองเป้ ใช้เวลาแบบเดินสบาย ๆ  22 นาที

ชื่อสินค้า:   ซูตองเป้ ภูโคลน บ้านรักไทย
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่