ทายาทตำนานเชลซี บุรุษนักสู้มีแขนข้างเดียว มุ่งมั่นจนได้เป็นนักมวยไทยอาชีพ

ชีวิตเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะเป็นได้แม้ร่างกายจะไม่สมบูรณ์ก็ตาม ... เจค พีค็อก ลูกชายของ เกวิน พีค็อก ตำนานกองกลาง เชลซี และ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ซึ่งเกิดมามีแขนเดียว แต่มีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าจนกลายเป็นนักมวยไทยอาชีพ



" เจคเกิดมามีแขนซ้ายเพียงข้างเดียวเท่านั้น แต่เขาไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กไร้ความสามารถเลย และมองว่าแค่มีโอกาสน้อยกว่าคนอื่นเนื่องจากร่างกายไม่ครบ 32 กระนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่สามารถทำอะไรอย่างที่คนปกติทำได้"

พีค็อกจูเนียร์ ไม่เคยหวาดกลัวที่จะทำอะไรทั้งนั้น โดยเขามีความกล้าที่จะว่ายน้ำ, เล่นฟุตบอล, ฝึกคาราเต้ และลงแข่งชิงแชมป์โลก ปัจจุบันเขาเป็นเจ้าของยิมที่ชื่อว่า คาลการี่ ซึ่งตั้งชื่อตามคำว่า "Dunamis" ที่เป็นรากศัพท์ภาษากรีกที่แปลว่า "พลัง, อำนาจ หรือความสามารถ"



เหตุผลสำคัญที่ทำให้ เจค ก้าวข้ามขีดจำกัดของร่างกายก็คือการได้รับความดูแลเอาใจใส่จาก พีค็อก และ อแมนด้า พ่อแม่ของเขาที่พร้อมเป็นกำลังใจให้กับทุกๆ การกระทำที่เขาทำมาตลอด "แม่กับพ่อของผมเป็นคนที่สุดวิเศษที่สุด พวกท่านไม่รู้ว่าผมจะเกิดมามีแขนข้างเดียว"

"แน่นอนว่ามันทำให้พวกท่านช็อกมากๆ แต่พวกท่านไม่เคยเลี้ยงผมแบบตามใจ พวกท่านไม่ห้ามผมจากความพยายามทำหลายๆ สิ่ง ผมเติบโตมาด้วยการทำอะไรหลายๆ อย่างด้วยตัวเอง และผมไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีข้อจำกัดอะไรทั้งนั้น"



อดีตเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ วัย 27 ปี เพิ่งจะได้เป็นพ่อคนเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากที่ภรรยาของเขาคลอดทายาทตัวน้อยเพศชาย และตั้งชื่อว่า ชาร์ลี  โดยนี่คือช่วงเวลาที่สุดพิเศษสำหรับ เจค ก่อนที่เขาจะขึ้นชกมวยไทยอาชีพไฟต์ที่ 5 ที่เชเยนน์ ในไวโอมิ่ง 

ขณะเดียวกันการชกครั้งนี้จะเป็นไฟต์แรกของเขาที่จะมีการถ่ายทอดผ่านเครือข่ายของ UFC Fight Pass ซึ่งสามารถเข้าชมได้ถึง 174 ประเทศ และมีผู้คนเข้ามากดซับสไครเบอร์จำนวน 250,000 รายเลยทีเดียว สำหรับไฟต์นี้เขาต้องขับรถไกลถึง 900 ไมล์ หรือประมาณ 1,448 กิโลเมตร ใช้เวลา 15 ชั่วโมง ก่อนที่โชคชะตาจะเล่นตลกเมื่อเขาดันได้รับบาดเจ็บซะก่อน

ในความโชคร้ายก็มีความโชคดีสำหรับ คริสต้า ภรรยาขของเขา เพราะทำให้เธอไม่ต้องดูตามลำพังในช่วงเวลาที่กำลังจะคลอดลูก แต่ในขณะเดียวกันก็ถือเป็นโชคดีของคู่แข่งด้วย เพราะ เจค ใช้ความพิการของเขามาเป็นข้อได้เปรียบในการชกมวย "ผมไม่สามารถปล่อยหมัดในรูปแบบปกติได้ ฉะนั้นผมต้องทำหลายๆ สิ่งที่แตกต่าง วิถีในการชกของผมจึงเป็นเรื่องที่แตกต่างจากปกติที่คู่ชกของผมเคยเจอมา"

"ผมจะใช้ขาเยอะมากเพื่อที่จะได้เข้าไปคลุกวงใน และเมื่อผมได้ระยะการชก ผมจะใส่เต็มเหนี่ยวด้วยมือขวา ผมสามารถใช้มันเป็นหมัดแย็บ หรือจะใช้ตีศอกก็ได้ และเมื่ออยู่ในระยะเป้าหมายผมจะซัดเต็มแรงทันที สมองของผมเป็นสิ่งที่ช่วยผมทั้งในการเป็นนักมวย และในการเป็นเทรนเนอร์ด้วย"

"เพราะผมเกิดมามีแค่มือเดียว ผมจึงมักจะคิดนอกกรอบอยู่เสมอ และนั่นเป็นเรื่องปกติซึ่งมันทำให้ผมสามารถเอาชนะหลายๆ คนด้วยการทำหลายๆ สิ่งจนทำให้พวกเขาต้องพบกับความยากลำบากในการชกแต่ละไฟต์"



 เจค มีความกล้าหาญในแบบนักกีฬา และยังเป็นคนที่น่าเลื่อมใสศรัทธาที่สามารถข้ามผ่านความพิการของตัวเอง โดยสิ่งที่ทำให้ เจค เข็มแข็งมาจากการเลี้ยงดูที่ดีเยี่ยมของ พีค็อก อดีตนักฟุตบอลอาชีพระดับตำนานของ เชลซี และ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ก่อนจะหันไปเป็นนักเทศน์ในศาสนาคริสต์

ศาสนาจารย์เกวิน ซึ่งพ่อของเขา, คีธ เป็นตำนานนักฟุตบอลสโมสรชาร์ลตัน แอธเลติก โดยลงเล่นให้กับทีมมากกว่า 500 แมตช์ กล่าวการเลี้ยงดู เจค และ เอวา ลูกสาวให้เติบโตมาเป็นคนมีคุณภาพว่า "เจค เป็นลูกชายคนแรกของครอบครัวเรา และเขาเป็นยอดนักสู้ตอนที่คลอดออกมา" 

"หมอจำเป็นต้องใช้คีมหนีบเขาออกมา และก็เห็นมีสายสะดือพันรอบคอของเขาสองชั้น จากนั้นผมก็มองเห็นเขามีแขนข้างเดียว ซึ่งมันทำให้หัวใจของผมร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม เราตัดสินใจที่จะไม่เลี้ยงลูกของเราแบบพะเน้าพะนอ เพราะชีวิตมันเต็มไปด้วยความทุกข์ยาก และยากลำบาก"

"ถ้าคุณคอยเป็นโล่กำบังให้กับลูกของคุณด้วยเหตุผลที่เขาพิการ หลังจากนั้นพวกเขาจะต้องพบกับหายนะกับประสบการณ์ครั้งแรกเมื่อต้องออกจากเกาะป้องกันของคุณ เราปล่อยให้ เจค ได้ทำทุกๆ อย่าง และเขาจะได้เรียนรู้ทุกเรื่องตามแนวทางของตัวเอง"



"วันหนึ่งผมได้ดูเขาชกกับเด็กซึ่งตัวใหญ่กว่า และเก่งกว่าเขา เจครู้ว่าเขาต้องเจอกันอะไร แต่เขาไม่เคยหยุดที่จะพยายาม ผมบอกเขาระหว่างที่เดินทางกลับบ้านว่าการชกครั้งนี้แสดงให้พ่อได้เห็นอะไรมากมายเกี่ยวกับความกล้าของลูก และความมุ่งมั่นทุ่มเท มากกว่าเรื่องชัยชนะ ผมรู้ได้ทันทีว่าเขารู้สึกดีกับสิ่งนี้" พีค็อก ระบุ

ช่วงที่ศึกษาระดับมหาวิทยาลัย เจค ไม่เคยถูกมองว่าเป็นคนแขนเดียวไร้ความสามารถ และเขาไม่เคยปล่อยให้สิ่งนี้มาจำกัดตัวเองไม่ว่าเวลาอยู่ในหรือนอกสังเวียน แต่สิ่งที่ทำให้ พีค็อก ภูมิใจมากที่สุดก็คือเรื่องการอ่อนน้อมถ่อมตนของลูกชาย และสปิริตนักสู้ของเขา



"เจค อยากให้ผู้คนพูดถึงเขาในฐานะนักมวยที่เก่ง ไม่ใช่นักมวยแขนเดียว แต่ความจริงก็คือเขามีแขนเดียว และนั่นมันเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ ผมรู้ว่า เจค เป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายๆ คน และเขายังเป็นแรงบันดาลใจในชีวิตของผมด้วย เขาไม่อยากที่จะทำตัวโดดเด่น แต่เราทุกคนภูมิใจในตัวเขา" ตำนานแข้งดังชาวอังกฤษ กล่าว

สิ่งที่ เจค แสดงให้เห็นเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า เมื่อคุณเกิดมาไม่สมบูรณ์ แต่คุณสามารถสร้างชีวิตตัวเองให้สมบูรณ์ได้ด้วยความมุ่งมั่น และตั้งใจ  

credit : www.siamsport.co.th
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่