วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภา วันแห่งความรัก
หิมะเริ่มตกมาแบบซอฟๆตั้งแต่เมื่อคืน สวยจังอยู่มาตั้งนานเพิ่งเห็นหิมะเยอะออกไปเล่นดีกว่า จะปั้นตุ๊กตาหิมะแบบไหนดีนะ โดเรมอนไหม ยังชะล่าใจ รถยังขับได้สบาย ขับไปซื้อปาท่องโก๋ดีกว่า
พร้อมแวะซูปเปอร์ซื้อของไว้กินทั้งอาทิตย์
วันจันทร์ที่ 15
5.00 น เอะทำไมห้องหนาวงะ ตื่นเลย ฮีทไม่ติดเหรอ ไปเปิดฮีทดีกว่า อ้าวเปิดไม่ติด ไม่เป็นไร เปิดไฟหัวเตียงก่อน เอะ ทำไมไฟไม่ติดงะ งง ชั่งมันนอนต่อ
8.00 น ตื่นละ ถึงเวลาทำงาน เอะทำไมยังหนาวอยู่ เพื่อนร่วมงานส่งเมสเสจหารัวๆ ไม่สนอาบหน้าล้างหน้า กินข้าวเสร็จ แล้วดูเมสเสจดีกว่า
"ตอนนี้เป็นไงบ้าง มีไฟมั้ย"
งง ก็มีทุกอย่างนะ ทำไมถามแปลกโทรไปหาดีกว่า ทำไมโทรไม่ออก อ้าวมือถือไม่มีสัญญาณ ณ บัดนี้
สัญญาณมือถือได้ตายไปแล้ว
แต่wifi ยังใช้ได้อยู่ เลยคุยด้วย whatapp แต่สปีดเนตเต่ามาก ถึงรู้ว่า ประชากรมากมายขาดน้ำและไฟ ในวันที่อุณหภูมิ ติดลบ 13
บ้างคนตายไปแล้วด้วยงานเข้าแล้วทำไงดี นั่งทำงานไปก่อน ยังไงเราก็มีน้ำ ไฟนี่หว่า
มองไปข้างนอกทุกอย่างขาวหมด หิมะหนาเป็นปึก
มันไม่ใช้แล้ว เปิดทีวี ถึงรู้ว่าทั้งเมืองวินาศสันตโร ทุกอย่างปิดหมด ถนนไม่มีไฟจราจรรถชนกับยาวเหยียดเพราะไม่มีที่กวาดหิมะ คนตายกันสนั่น
หิมะก็ยังตกต่อไป
วันอังคารที่ 16
อรุณเบิกฟ้า นกกาโบยบิน ออกหากินร่าเริงแจ่มใส ปัง ไม่ใช่สักอย่าง
เช้านี้ไฟฟ้าได้ตีจากอ้อมอกข้าพเจ้าไปเรียบร้อย หนาวจัง พูดเป็นไอเลย แต่พี่ลูกเกตบอกว่า เราต้อง strong
แค่ไม่มีไฟฟ้าเราไม่กลัวหรอก 55

เรายังมีน้ำและเปิดเตาแก๊สได้ที่ทำงานหยุดหมด ทุกอย่างเป็นอัมพาต ไม่ต้องทำงานมันแล้วเว้ย จิบน้ำอุ่นก็หายหนาวอยู่ หลอกตัวเองไปงั้น
ลืมนึกไปว่าแล้วรถข้าพเจ้าละ ตอนนี้ไม่กลายเป็นน้ำแข็งแล้วหรือ ยังไงก็ต้องรีบเคลียร์ก่อนไม่งั้นรถพังแน่
สภาพรถดังในรูป กว่าจะเคลียร์ได้ มือชาไปหมด หนาวสุดๆ ลานจอดรถก็กลายไปลานไอซ เดินแปปล้ม เดินแปปล้ม
วันนี้ไฟฟ้ากลับมาตอนเย็น แบบมาๆหายๆ พร้อมกับน้ำที่ไหลออกเป็นหยด ไม่อาบน้ำแปรงฟันมันแล้ว นอนเลย
วันพุธ 17
ไฟหายอีกแล้ว ไม่เป็นไรล้างหน้าก่อน เอะ ทำไมไม่มีน้ำ รีบเปิดมือถือ สรุปพระแม่คงคาก็ตีจากข้าพเจ้าไปอีกราย สรุปน้ำไม่มี ไฟไม่มากันค่อนเมือง
แล้วห้องน้ำทำไง ตอนนี้ชักโครกคือไอเทมสุดท้าย เปรียบเป็นไม้ตาย น้ำมีค่าดังทอง
กดได้ครั้งเดียวเท่านั้นนับจากนี้ โอ๊ย ถ่ายเบาโอเค แต่ถ่ายหนักนี่อะดิ
พอมีน้ำกินอยู่ แต่ว่าไปเหลือสองขวดเอง แล้วจะอยู่ยังไง เอาวะ ชีวิตมันต้องรอด ไม่อยากขับรถก็ต้องขับ
ว่าด้วยเรื่องการขับรถบนลานไอส์
ข้าพเจ้าอยู่บอสตันมาก่อนเลยพอรู้ เราต้องขับช้าๆ อย่าเหยียบเบรคแรง ไม่งั้นล้อหมุนแน่ ระหว่างขับไปซุปเปอร์ก็จะเจอซากอารยธรรมจากเพื่อนร่วมทางมากมายบางท่านล้อหมุนฟรี แล้วก็ค้างมันอย่างนั้น บางท่านรถตกไหล่ทางจมกองหิมะ ได้แต่ยืนไว้อาลัย

ซุปเปอร์ทั้งเมืองปิดหมด เปิดอยู่ 2ที่ เมื่อไปถึง ให้ภาพเล่าเรื่องแล้วกัน
กลับบ้านมาด้วยของเท่าที่เห็นคืนนี้ไม่มีน้ำ แต่ไฟมีแบบมาๆหายๆ
วันพฤหัส 18
วันที่สามที่ไม่มีน้ำ อยู่ไม่ได้แล้ว ตัวข้าพเจ้าตอนนี้ทั้งมันทั้งเค็ม น้ำกินก็ไม่มี อย่าคิดถึงชักโครก สภาพไม่น่าภิรมยแทบอ้วก
แต่ก็มีข่าวดีที่วัดไทยออสติน มีทั้งน้ำและไฟ หลังจากที่ทางวัดอยู่กับแสงเทียนมาสามวันติด ทางวัดได้ประกาศให้ความช่วยเหลือคนไทยทุกคน ข้าพเจ้ารีบตรงไปที่วัดทันที พร้อมกับขวดเปล่ามากมาย เอาน้ำกลับมาให้มากที่สุด
แวปแรกที่อาบน้ำสดชื่นมาก พระอาจาร์ย ช่วยกรอกน้ำแล้วยังให้ของกินมาเพียบ ขอกราบขอบคุณอย่างสูงครับ Wat Pah Siddhattharam
แต่ขามาไม่มีอะไร แต่ขากลับรถออกจากวัดไม่ได้
ติดน้ำแข็งล้อหมุนฟรี ทั้งพระทั้งโยมช่วยกันก็ไม่ดีขึ้นแต่อยู่ดีดี เหมือนมีเจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วย
มีรถกระบะคันใหญ่ขับเข้ามาจอด พร้อมช่วยลากรถให้ ไม่น่าเชื่อฝรั่งที่ไม่รู้จักมาช่วยแล้วก็สำเร็จ ข้าพเจ้าถึงออกจากกองหิมะนั้นได้
ตอนนี้ถึงที่พักโดยสวัสดิภาพ แต่น้ำก็ยังไม่มา ไฟก็ติดๆดับๆ
ไม่รู้ถึงเมื่อไหร่
555 ต่อไปเอาไงดี รูปของผมเองและเอามาจากข่าว ว่าจะถ่ายรูปแต่หนาวเกิน
รีวิว พายุหิมะถล่มออสติน มีครบทุกรส โดยเฉพาะเค็ม
หิมะเริ่มตกมาแบบซอฟๆตั้งแต่เมื่อคืน สวยจังอยู่มาตั้งนานเพิ่งเห็นหิมะเยอะออกไปเล่นดีกว่า จะปั้นตุ๊กตาหิมะแบบไหนดีนะ โดเรมอนไหม ยังชะล่าใจ รถยังขับได้สบาย ขับไปซื้อปาท่องโก๋ดีกว่า
พร้อมแวะซูปเปอร์ซื้อของไว้กินทั้งอาทิตย์
วันจันทร์ที่ 15
5.00 น เอะทำไมห้องหนาวงะ ตื่นเลย ฮีทไม่ติดเหรอ ไปเปิดฮีทดีกว่า อ้าวเปิดไม่ติด ไม่เป็นไร เปิดไฟหัวเตียงก่อน เอะ ทำไมไฟไม่ติดงะ งง ชั่งมันนอนต่อ
8.00 น ตื่นละ ถึงเวลาทำงาน เอะทำไมยังหนาวอยู่ เพื่อนร่วมงานส่งเมสเสจหารัวๆ ไม่สนอาบหน้าล้างหน้า กินข้าวเสร็จ แล้วดูเมสเสจดีกว่า
"ตอนนี้เป็นไงบ้าง มีไฟมั้ย"
งง ก็มีทุกอย่างนะ ทำไมถามแปลกโทรไปหาดีกว่า ทำไมโทรไม่ออก อ้าวมือถือไม่มีสัญญาณ ณ บัดนี้
สัญญาณมือถือได้ตายไปแล้ว
แต่wifi ยังใช้ได้อยู่ เลยคุยด้วย whatapp แต่สปีดเนตเต่ามาก ถึงรู้ว่า ประชากรมากมายขาดน้ำและไฟ ในวันที่อุณหภูมิ ติดลบ 13
บ้างคนตายไปแล้วด้วยงานเข้าแล้วทำไงดี นั่งทำงานไปก่อน ยังไงเราก็มีน้ำ ไฟนี่หว่า
มองไปข้างนอกทุกอย่างขาวหมด หิมะหนาเป็นปึก
มันไม่ใช้แล้ว เปิดทีวี ถึงรู้ว่าทั้งเมืองวินาศสันตโร ทุกอย่างปิดหมด ถนนไม่มีไฟจราจรรถชนกับยาวเหยียดเพราะไม่มีที่กวาดหิมะ คนตายกันสนั่น
หิมะก็ยังตกต่อไป
วันอังคารที่ 16
อรุณเบิกฟ้า นกกาโบยบิน ออกหากินร่าเริงแจ่มใส ปัง ไม่ใช่สักอย่าง
เช้านี้ไฟฟ้าได้ตีจากอ้อมอกข้าพเจ้าไปเรียบร้อย หนาวจัง พูดเป็นไอเลย แต่พี่ลูกเกตบอกว่า เราต้อง strong
แค่ไม่มีไฟฟ้าเราไม่กลัวหรอก 55
เรายังมีน้ำและเปิดเตาแก๊สได้ที่ทำงานหยุดหมด ทุกอย่างเป็นอัมพาต ไม่ต้องทำงานมันแล้วเว้ย จิบน้ำอุ่นก็หายหนาวอยู่ หลอกตัวเองไปงั้น
ลืมนึกไปว่าแล้วรถข้าพเจ้าละ ตอนนี้ไม่กลายเป็นน้ำแข็งแล้วหรือ ยังไงก็ต้องรีบเคลียร์ก่อนไม่งั้นรถพังแน่
สภาพรถดังในรูป กว่าจะเคลียร์ได้ มือชาไปหมด หนาวสุดๆ ลานจอดรถก็กลายไปลานไอซ เดินแปปล้ม เดินแปปล้ม
วันนี้ไฟฟ้ากลับมาตอนเย็น แบบมาๆหายๆ พร้อมกับน้ำที่ไหลออกเป็นหยด ไม่อาบน้ำแปรงฟันมันแล้ว นอนเลย
วันพุธ 17
ไฟหายอีกแล้ว ไม่เป็นไรล้างหน้าก่อน เอะ ทำไมไม่มีน้ำ รีบเปิดมือถือ สรุปพระแม่คงคาก็ตีจากข้าพเจ้าไปอีกราย สรุปน้ำไม่มี ไฟไม่มากันค่อนเมือง
แล้วห้องน้ำทำไง ตอนนี้ชักโครกคือไอเทมสุดท้าย เปรียบเป็นไม้ตาย น้ำมีค่าดังทอง
กดได้ครั้งเดียวเท่านั้นนับจากนี้ โอ๊ย ถ่ายเบาโอเค แต่ถ่ายหนักนี่อะดิ
พอมีน้ำกินอยู่ แต่ว่าไปเหลือสองขวดเอง แล้วจะอยู่ยังไง เอาวะ ชีวิตมันต้องรอด ไม่อยากขับรถก็ต้องขับ
ว่าด้วยเรื่องการขับรถบนลานไอส์
ข้าพเจ้าอยู่บอสตันมาก่อนเลยพอรู้ เราต้องขับช้าๆ อย่าเหยียบเบรคแรง ไม่งั้นล้อหมุนแน่ ระหว่างขับไปซุปเปอร์ก็จะเจอซากอารยธรรมจากเพื่อนร่วมทางมากมายบางท่านล้อหมุนฟรี แล้วก็ค้างมันอย่างนั้น บางท่านรถตกไหล่ทางจมกองหิมะ ได้แต่ยืนไว้อาลัย
ซุปเปอร์ทั้งเมืองปิดหมด เปิดอยู่ 2ที่ เมื่อไปถึง ให้ภาพเล่าเรื่องแล้วกัน
กลับบ้านมาด้วยของเท่าที่เห็นคืนนี้ไม่มีน้ำ แต่ไฟมีแบบมาๆหายๆ
วันพฤหัส 18
วันที่สามที่ไม่มีน้ำ อยู่ไม่ได้แล้ว ตัวข้าพเจ้าตอนนี้ทั้งมันทั้งเค็ม น้ำกินก็ไม่มี อย่าคิดถึงชักโครก สภาพไม่น่าภิรมยแทบอ้วก
แต่ก็มีข่าวดีที่วัดไทยออสติน มีทั้งน้ำและไฟ หลังจากที่ทางวัดอยู่กับแสงเทียนมาสามวันติด ทางวัดได้ประกาศให้ความช่วยเหลือคนไทยทุกคน ข้าพเจ้ารีบตรงไปที่วัดทันที พร้อมกับขวดเปล่ามากมาย เอาน้ำกลับมาให้มากที่สุด
แวปแรกที่อาบน้ำสดชื่นมาก พระอาจาร์ย ช่วยกรอกน้ำแล้วยังให้ของกินมาเพียบ ขอกราบขอบคุณอย่างสูงครับ Wat Pah Siddhattharam
แต่ขามาไม่มีอะไร แต่ขากลับรถออกจากวัดไม่ได้
ติดน้ำแข็งล้อหมุนฟรี ทั้งพระทั้งโยมช่วยกันก็ไม่ดีขึ้นแต่อยู่ดีดี เหมือนมีเจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วย
มีรถกระบะคันใหญ่ขับเข้ามาจอด พร้อมช่วยลากรถให้ ไม่น่าเชื่อฝรั่งที่ไม่รู้จักมาช่วยแล้วก็สำเร็จ ข้าพเจ้าถึงออกจากกองหิมะนั้นได้
ตอนนี้ถึงที่พักโดยสวัสดิภาพ แต่น้ำก็ยังไม่มา ไฟก็ติดๆดับๆ
ไม่รู้ถึงเมื่อไหร่
555 ต่อไปเอาไงดี รูปของผมเองและเอามาจากข่าว ว่าจะถ่ายรูปแต่หนาวเกิน