พัคชอนอู ให้สัมภาษณ์หลังเกมส์วันนี้กับความรุนแรงในอดีต

12 ปีแห่งฝันร้ายของพัคชอนอูกับการตกเป็นเหยื่อความรุนแรง  

พัคชอนอู ผู้เล่นทีม Kepco ได้ออกมาให้สัมภาษณ์หลังเกมส์การแข่งขันว่า  วันนี้ต้องการพาทีมเอาชนะมาก เพื่อที่จะได้มาให้สัมภาษณ์นักข่าว แต่ประเด็นหลักวันนี้กลับไม่ใช่ผลการแข่งขัน  แต่เป็นอดีตอันโหดร้ายที่ได้กลับมาหลอกหลอนพัคชอนอูอีกครั้ง
.
.
.

ย้อนไปเมื่อปี 2009  ณ แคมป์ทีมชาติ  พัคชอนอูได้ถูกโค้ชทีมชาติขณะนั้นทำร้าย (โค้ชอีซังยอล - ปัจจุบันคุมสโมสรเคบีสตาร์)  พัคชอนอูได้รับบาดเจ็บทั้งรอยฟกช้ำบนใบหน้าและร่างกายจากการถูกชกและเตะ  โดยสาเหตุเกิดมาจากโค้ชไม่ชอบการกระทำของพัคชอนอู แต่ภายหลังแจ้งว่าเป็นการป้องกันตัว  
.
.
.
แต่เรื่องไม่เป็นไปอย่างนั้น มีผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งมุนซองมิน  ทั้งฮันซอนซู โดยพัคชอนอูถึงขั้นนำภาพถ่ายและผลการตรวจร่างกายมายืนยัน  สุดท้ายทางสมาคมสั่งปลดโค้ชซังยอลและแบนไป 2 ปี  ส่วนพัคชอนอูเลิกเล่นทีมชาติไปพักใหญ่  
.
.
.
2 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก ปี 2011 โค้ชซังยอลพ้นโทษแบนและกลับเข้าสู่วงการวอลเลย์บอลอีกครั้ง  แถมยังทำงานให้กับสมาคมวอลเลย์บอลอีกต่างหาก  ทำเอาคนงงกันไปหมด  หลังจากนั้นปี 2012 ก็เริ่มกลับมาเป็นโค้ชคุมให้ทีมโรงเรียนมัธยม และในปี 2020 กลับมาคุมทีมสโมสรเคบีสตาร์
.
.
.
พัคชอนอูที่เงียบมาตลอด แต่ถึงขั้นฟิวส์ขาดเมื่อได้ยินโค้ชซังยอลให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องความรุนแรงว่า "ผมแนะนำให้กับนักกีฬารุ่นน้องเกี่ยวกับเรื่องความรุนแรงว่า ถ้าคุณเป็นผู้กระทำ  มันมีราคาที่ต้องจ่าย ในฐานะรุ่นพี่ ผมพยายามจะเป็นแบบอย่างให้กับรุ่นน้องและผมกำลังทำอยู่"  ประโยคนี้เองทำให้พัคชอนอูถึงกับต้องโพสท์อินสตาแกรมส่วนตัวว่า "รู้สึกเหมือนกับว่าเลือดไหลเวียนกลับตาลปัตร"  ด้วยความโกรธที่เห็นโค้ชอีซังยอลเหมือนจะไม่พูดถึงกรณีตัวเอง แต่กลับยังกล้าไปสอนเรื่องความรุนแรงกับผู้อื่นทั้งๆที่ตัวเองก็เคยทำ
.
.
.
หลังเกมส์แข่งขัน  ชอนอูสัมภาษณ์ว่า "เมื่อเช้าผมได้ยินคำสัมภาษณ์ของโค้ชอีซังยอลและมันทำให้ผมมือสั่นไปทั้งวัน  มันยากแม้กระทั่งตั้งแต่ผมได้ยินว่าเขาจะกลับมาเป็นโค้ชอีกครั้ง ผมพยายามจะอดทนแต่หลังจากเห็นบทสัมภาษณ์นี้ผมรับไม่ได้"
.
.
.
พัคชอนอูกล่าวอีกว่า "ผมไม่ได้ต้องการคำขอโทษ  ผมถอนข้อร้องเรียนของผมด้วยซ้ำแม้ว่าเหตุการณ์นั้น ผมเคยนึกถึงมันและหวังว่าเขาจะกลับตัวเป็นคนดี แต่ผมได้ยินมาว่า  ถ้าวันนั้นเหตุการณ์ไม่เกิดขึ้นกับผม  เค้าอาจจะไปลงกับผู้เล่นคนอื่นแทน"  ชอนอูเล่าต่ออีก  "โค้ชอีซังยอลขึ้นชื่อเรื่องนี้ตั้งแต่สมัยมัธยม เมื่อทีมแพ้จะมีผู้เล่นบางคนกลับมาพร้อมกับรอยแดงบนใบหน้า  คนเหล่านั้นเป็นเพื่อนของผม  บางคนถึงกับเป็นลมและบางคนต้องลาออกไปเพราะบาดเจ็บแก้วหู  นี่คือความพลั้งมือเหรอ  เป็นอารมณ์ชั่ววูบเหรอ  มันไม่น่าเชื่อ"
.
.
.
โค้ชอีซังยอลต้องการเข้าพบและขอโทษกับพัคชอนอูแต่ถูกปฏิเสธ  "12 ปีผ่านไป ผมอยากจะบอกอีกครั้งว่าที่ผมออกมาพูด ไม่ใช่เพราะผมต้องการคำขอโทษ ทุกครั้งที่ไปสนามแข่ง ไม่อยากเจอกับโค้ชอีซังยอล ไม่อยากจะมองเห็นเสียด้วยซ้ำ  ผมไม่ต้องการคำขอโทษและไม่ต้องการพบหน้าเขาเลยแม้แต่น้อย  ถ้าเขาเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ผมจะยังรู้สึกแบบนี้มั้ย ถ้าเขาเป็นกลายผู้นำที่ดีแล้วผมจะยังรู้สึกแบบนี้เหรอครับ"  
.
.
.
ปล.1  บทความนี้แอดมินแปลมาจากข่าวภาษาเกาหลี-อังกฤษ-ไทย  อาจมีบางคำหรือบางข้อความตกหล่น ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าก่อน  
ลิงค์ต้นทางสำหรับข่าวนี้  -  https://sports.news.naver.com/news.nhn?oid=003&aid=0010352384
.
.

*แปลโดยเพจ Korea men volleyball Thaifans
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่