หนีจากมิจฉา มาหา สัมมา?

ซึ่งเป็นความเห็นผิดนั้นพระพุทธเจ้าได้สอนไว้แล้ว อดีต อัตตา ก็มีอยู่ ปัจจุบันก็มีอยู่ อนาคตก็มีอยู่ คือผู้มีมิจฉาฑิฏฐิ อดีต อัตตา ก็มีอยู่ ปัจจุบันก็มีอยู่ อนาคตก็จะไม่มีอยู่ คือผู้มีสัมมาฑิฏฐิ เพราะได

มีเหตุจึงวนเวียนในสังสารวัฏ ดั่งติดในเขาวงกต ดับเหตุ:จิตใจเห็นไตรลักษณ์ หลุดจากเขาวงกต จบ ธรรมมีแค่เนี๊ยเอง

สติปัฏฐาน เพื่อให้เป็นผู้รู้ทันในวิญญาน6 ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เพื่อให้เป็น คือ อริยะบุคคลตามลำดับชั้น เป็นอย่างไม่มีผู้เป็น รู้ทันในวิญญาน6ได้แล้วจะหยุดตรงนั้นคือไม่ปรุงแต่งต่อ กลับมาอยู่กับผู้รู้

อุจเฉททิฏฐิ คือ ความเห็นว่าเมื่อตายแล้วจะสูญสิ้นไปทั้งหมด ไม่มีการเวียนว่ายตายเกิดในภพอื่นอีก เป็นมิจฉาทิฏฐิ “เอาความสูญ” นั้นไปเทียบกับนิพพาน แล้วเข้าใจว่านิพพานคือความสูญสิ้นแบบไม่มีอะไ

ไม่รู้ ไม่เข้าใจ อะไรคือ ผัสสะ เจตนา 9ล9 อ่านตำราไปก็งงเต๊ก ยิ่งอ่านยิ่งงงเป็นหางว่าว ด้วยไม่รู้ ไม่กระจ่างในเหตุตั้งแต่ต้น เรื่มจาก ทำไมต้องมี ตัวรู้ ตัวถูกรู้ ให้กับขณะแห่งสติปัฐฐาน

วิญญาณขันธ์พิจารณารูปขันธ์,เวทนาขันธ์,สัญญาขันธ์,สังขารขันธ์เป็นอนิจจัง,ทุกขัง,อนัตตาได้ แล้วอะไรพิจารณาวิญญาณขันธ์ถ้าไม่ใช่จิต

สมาธิที่ดี ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และปัญญา ที่สมดุล ไม่โง่ ไม่หลง

คนที่เจริญสติปัฏฐาน4 แบบหลง คือไม่รู้จักว่าโพธิปัฏขิยธรรมคืออะไร มีหน้าที่อย่างไร ไม่รู้ว่าสติปัฏฐาน4 มาจากไหน สติปัฏฐาน4 ต้องมีธรรมะอะไรช่วยเกื้อหนุน หลับหูหลับตา นึกแต่สติ หลงแล้ว สติไม่ต้องไปนึก นึ