Ep.7 : โบกรถ 7 วัน 6 คืน จากกรุงมอสโก-ทบิลิซี-อิสตันบูล (รัสเซีย-จอร์เจีย-ตุรกี) กว่า 3,000 กิโลเมตร *ตอนที่1*

หลังจากนั่งรถไฟที่แสนยาวนาน 5 วัน 4 คืน 
กว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง เล่นเอาผมปวดตูดแล้วปวดตูดอีก อย่างไรก็ตามมันคุ้มค่ามากสำหรับการรอคอย เพราะรถไฟขบวนนี้พาผมเดินทางมาครึ่งโลกแล้ว "กรุงมอสโก"

- ตามอ่านกระทู้ย้อนหลัง -

Ep.6 : 5 วัน 4 คืน บนเส้นทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย ไม่ปวดตูดก็ให้มันรู้ไป!!
และหากเพื่อนๆอยากทราบ
เรื่องราวและข้อมูลการเดินทางของผมแบบ
ละเอียดยิบ สามารถเข้าไปอ่านย้อนหลังได้ใน
เฟสบุ๊คเพจ : หาตังค์เที่ยวรอบโลก
หรือคลิ๊กลิ้งเพจได้เลยครับ

        เส้นทางรถไฟทรานส์ไซบีเรียวิ่งผ่าน 4 โซนเวลาของโลก ผ่านทุ่งหญ้าสเตปป์ ผ่านทะเลสาบไบข่าน ผ่านผืนป่าอันกว้างใหญ่ไพศาล ผ่านหมู่บ้านเล็กๆสีสันน่ารักๆ ผ่านเมืองเล็กเมืองน้อยมากมาย ผ่านหลากหลายประเทศในทวีปเอเชีย จนตอนนี้ผมเดินทางมาถึงขอบสุดทางด้านทิศตะวันตกของแผ่นดินเอเชีย "กรุงมอสโก"
         ผมท่องเที่ยวอยู่ในกรุงมอสโกประมาณ 4 วัน 3 คืน จากนั้นผมเดินทางไปยังชนบทห่างไกลจากกรุงมอสโกประมาณ 300 กิโลเมตร เพื่อเข้าไปทำงานแลกที่พักและอาหารฟรี ซึ่งทำให้ผมมีเวลาได้คลุคลีอยู่กับ คนรัสเซีย อีกทั้งได้มีเวลาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตและโมเมนท์ดีๆไว้ในความทรงจำ 
          หลังจาก 15 วันกับการใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆท่ามกลางผืนป่าล้อมรอบ ผมออกเดินทางกลับเข้าสู่ใจกลางกรุงมอสโกอีกครั้ง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับแผนการณ์โบกรถในเช้าวันรุ่งขึ้น

          คงไม่มีประสบการณ์การเดินทางครั้งไหนที่จะน่าตื่นเต้นและน่าหวาดเสียวเท่าครั้งนี้อีกแล้ว ความบ้าระห่ำที่สุดในชีวิตเกิดขึ้นหลังจากได้แรงบันดาลใจจากเพื่อนชาวเยอรมัน การตัดสินใจในครั้งนี้จะต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายกับตัวผมเองได้ตลอดเวลา ไม่มีใครช่วยผมได้นอกจากโชคชะตาและทักษะการเอาตัวรอดของผมเอง

          เพื่อนชาวเยอรมันที่เคยใช้ชีวิตสั้นๆร่วมกันในชนบทของรัสเซีย ได้ถ่ายทอดเทคนิคและวิธีการโบกรถให้ผมโดยละเอียด เขาแนะนำให้ผมรู้จักกับเว็บไซต์โบกรถ www.hitchwiki.org ซึ่งสามารถให้ความช่วยเหลือเรื่องเส้นทางในการโบกรถ อีกทั้งยังช่วยวางแผนการโบกรถจากกรุงมอสโควไปยังประเทศจอร์เจียได้อีกด้วย เช่น ควรเลือกเส้นทางไหนจึงจะดีที่สุด? ต้องแวะค้างคืนที่ไหนบ้าง? ถือเป็นเว็บไซต์ที่มีประโยชน์มากเลยทีเดียว
               จริงๆผมวางแผนที่จะโบกรถตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แผนของผมคือโบกรถในยุโรป แต่หลังจากได้ฟังเรื่องเล่าการเดินทางด้วยการโบกรถจากประเทศเยอรมณี-ชายแดนรัสเซียของเพื่อนชาวเยอรมันคนนี้ ผมรู้สึกได้ถึงแรงกระเพื่อมบางอย่างที่เข้ากระแทกไปยังจิตใจของผม มันรู้สึกอึกเหิ่มขึ้นมาทันทีจนอยากจะเริ่มโบกรถตั้งแต่ตอนนี้เลย

ิ        แต่ในรัสเซียไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ จากการสอบถามเพื่อนชาวเยอรมันเขาบอกว่า แทบไม่มีใครกล้าโบกรถในรัสเซียเลย เขากับเพื่อนอีกหนึ่งคนยอมแพ้ตั้งแต่ชายแดนรัสเซียแล้ว เนื่องจากยืนโบกอยู่ 5 ชั่วโมงโดยที่ไม่มีใครจอดรับสักคน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนที่นี่ค่อนข้างไม่เป็นมิตร ถ้าเขาไม่รู้จักคุณมาก่อน คงเป็นเรื่องยากที่เขาจะให้คุณโดยสารรถไปด้วย อีกอย่างหนึ่งคือประเทศรัสเซียค่อนข้างอันตรายเพราะขึ้นชื่อเรื่องของมาเฟีย

          จะยังไงก็ช่างแต่ตอนนี้ไม่ทันแล้วครับ ใจมันไปแล้ว ผมออกเดินทางเข้าสู่กรุงมอสโกมาแล้วเมื่อวานนี้ วันนี้ผมต้องเริ่มต้นแผนการทั้งหมดที่วางเอาไว้ โดยเริ่มจากเก็บเต้นท์ที่นำมากางนอนในป่ากลางกรุงมอสโกก่อน จากนั้นแบกเป้เดินไปยังถนนทางหลวงที่จะมุ่งหน้าไปยังเมืองปลายทางของวันนี้ให้ได้ 

          การหาทำเลที่ดีในการโบกรถ มันยากพอๆกับการโบกรถเลยนะ เพราะใช่ว่าจะโบกรถได้ทุกที่ ยิ่งคุณโบกรถในเมืองนี่แล้วใหญ่เลย โอกาสที่จะมีคนจอดรับคุณแทบเป็นศูนย์ อย่าลืมว่าคนที่อยู่ในเมืองส่วนใหญ่ก็จะมีบ้านอยู่ในเมืองนี่แหละ ขับรถวนไปวนมาอยู่ในเมือง อีกทั้งในเมืองมีรถโดยสารสาธารณะเยอะแยะมากมาย เช่น รถแท็กซี่ รถเมล์ รถไฟ ทำไมคุณไม่ไปใช้บริการรถเหล่านั้นหล่ะ "นี่คือความคิดของชาวเมือง"

         ดังนั้นเทคนิคแรกที่ใช้ในการโบกรถคือ หาเส้นทางหลวงที่จะไปยังเมืองปลายทางให้เจอ จากนั้นทำยังไงก็ได้เพื่อนำตัวคุณเองออกจากเมืองแต่ยังคงอยู่บนเส้นทางหลวงไปยังเมืองปลายทาง รอยต่อระหว่างจุดเข้าเมืองและออกจากเมืองถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ดีในการโบกรถ

         ถ้าจะให้ดีกว่านี้ พยายามมองหาจุดที่มีพื้นที่จอดรถ จุดที่รถวิ่งไม่เร็วมากนัก จุดที่ไม่เป็นเนินสูงๆต่ำๆ จุดจอดแวะพักรถ เช่น ปั้มน้ำมัน คาเฟ่ ร้านสะดวกซื้อ เป็นต้น การเริ่มต้นการโบกรถในตรงจุดแวะพักรถถือเป็นโอกาสดีในการเสนอตัวเพื่อขอความช่วยเหลือตรงๆ 

        ผมใช้เวลาเดินไปยังถนนทางหลวงนอกเมืองประมาณ 2 ชั่วโมง กว่าจะถึงทำเลที่เหมาะสมไม่ใช่เรื่องง่าย อีกทั้งเป้ที่หนัก 30 กิโลบนหลังผมอีก เดินกันขาลากครับพี่น้อง  ทำเลแรกที่ผมเลือกคือปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งบนถนนทางหลวง ซึ่งคิดว่าที่นี่น่าจะเวิร์คที่สุด 
         ผมเริ่มจากการเดินเข้าไปในปั้มน้ำมัน จากนั้นเล็งร้านสะดวกซื้อร้านหนึ่งเอาไว้ ซึ่งมีคนเดินไปมาหน้าร้านอย่างพลุกพล่าน จากนั้นรวบรวมความกล้าและความหน้าด้านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ คว้าแผ่นกระดาษลังที่อยู่ในกระเป๋าเป้ออกมา ตวัดปากกาลงบนกระดาษ "Voronezh"

         เมื่อได้ชื่อเมืองที่จะไปทั้งภาษารัสเซียและภาษาอังกฤษ ผมเดินเข้าไปถามผู้คนที่เดินไปมาหน้าร้านสะดวกซื้อทันที พร้อมทั้งยกแผ่นชื่อเมืองที่จะไปให้เขาดูด้วย ความหน้าด้านทำให้ผมเดินเข้าไปถามทุกคนโดยไม่เลือกหน้า บอกตามตรงว่าแรกๆเขินมากแต่พอทำไปสักแปบรู้สึกความเขินหายไป 

          หน้าด้านขอความช่วยเหลือก็แล้ว แต่ทุกคนกลับตอบปฎิเสธ งานนี้ไม่ได้หมูอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ เมื่อเทคนิคนี้ใช้ไม่ได้ผล ผมจึงต้องเปลี่ยนยุทธวิธีในการขอความช่วยเหลือใหม่ จริงๆมันจำใจมากกว่าเพราะหน้าร้านสะดวกซื้อเขาปฎิเสธผมทุกคน 

             ผมเปลี่ยนมายังจุดขาออกจากปั้มน้ำมัน เพราะคิดว่าช่วงที่คนขับกำลังขับรถออกน่าจะเป็นจังหวะดีที่คนขับสามารถมองเห็นเด็กบ้ายืนโบกรถอยู่ เมื่อเขามองเห็นก็น่าจะจอดรับผมทันที 

              เเค่คิดหน่ะมันง่าย 3 ชั่วโมงกว่าแล้วกับการโบกรถโดยที่ไม่มีใครจอดรับเลยสักคน แต่ยังดีที่มีรอยยิ้มจากคนขับบ้าง ถือเป็นกำลังใจที่ดีที่ทำให้ผมฮึ๊ดสู้ต่อไป 

              14.30 น. 5 ชั่วโมงผ่านไปก็ยังไม่มีใครจอดรับสักที ผมเริ่มชักจะรู้สึกถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นหลังจากยืนนานท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็นของรัสเซีย ความหนาวเริ่มคลืบคลานเข้าสู่ภายใน มันเริ่มเสียวๆตรงหัวใจ "เราจะตายไม่ได้นะบอกกับตัวเอง ฮ่าๆๆ"

              ท่องไว้ในใจ "ต้องยิ้มๆ ไม่เหนื่อยๆ" ทั้งๆที่ความเป็นจริงคือเหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว เพื่อนผมบอกไว้ว่า "ใครเขาจะกล้ารับคนที่หน้าตาบึ้งตึงหล่ะจริงมั้ย? การยิ้มให้คนขับเป็นการเพิ่มโอกาสที่คนขับจะตัดสินใจจอดรับเรา" ยิ้มจนเหงือกแห้งแล้วครับพี่
           
               16.00 น. เกือบ 7 ชั่วโมงในการโบกรถโดยที่ไม่มีใครจอดรับสักคน อาการเริ่มไม่ค่อยดีเพราะร่างกายเริ่มมีอาการเหน็บชา อากาศเริ่มดิ่งลดลงเข้าสู่อุณหภูมิเลขตัวเดียวอีกทั้งมีลมแรงเข้ามาปะทะตัวตลอดเวลา ยิ่งเพิ่มระดับความหนาวยะเยือกเข้าสู่ร่างกาย ผมได้แต่ท่องว่า "ตรูจะตายไม่ได้ๆ ฮ่าๆๆ" 

               ยอมรับเลยว่าการโบกรถเป็นประเภทการเดินทางที่เหนื่อยมากที่สุดของทริปนี้ มันไม่ใช่แค่คำว่าเหนื่อยเท่านั้น แต่มีทั้งความกังวล ความกดดัน สภาพอากาศหนาวเย็น ฝุ่นควันมลพิษ ความคาดหวังต่างๆ ทุกอย่างปะดังปะดาเข้ามารุมล้อมอยู่ในหัวเต็มไปหมด เชื่อมั้ยว่าหลังจากการโบกรถ 4 ชั่วโมงผ่านไป ผมต้องคอยสะกดจิตตัวเองตลอดเวลา บางครั้งถึงขั้นหลอกสมองตัวเอง ถ้าไม่ทำแบบนั้นผมคงยอมแพ้ไปตั้งนานแล้ว ผมคงไม่สามารถยืนโบกอยู่ได้จนถึงตอนนี้หรอก "7 ชั่วโมงครึ่งที่แสนทรหด"
          
               ขอบ่นกับตัวเองแปบ "นี่เราจะโบกรถล้มเหลวตั้งแต่ครั้งแรกเลยหรอ? ถ้าหากครั้งแรกล้มเหลว กำลังใจในการโบกรถครั้งต่อไปคงลดหายลงไปแน่เลย คล้ายๆกับการเสียขวัญ ภาษาใต้เรียก หราบ ดังนั้นผมจะสู้ต่อไปทาเคชิ คืนนี้ผมจะไม่ยอมนอนที่นี่เด็ดขาด ตรูจะไปนอนที่ Voronezh"

               16.45 น. ด้วยความเชื่อมั่นว่าวันนี้ผมจะได้นอนที่เมือง Voronezh มีเสียงเรียกจากผู้ชายคนหนึ่งจากด้านหลั

             "Hey, What are you doing?(สวัสดี,คุณกำลังทำอะไรอยู่ครับเนี่ย?)"

             "Hitchhiking!! You know?(โบกรถ!! คุณรู้จักมั้ย?)"

             "Of course, but It's a crazy things for here. Nobody do like this(รู้จักแน่นนอน แต่มันเป็นเรื่องบ้ามากเลยนะสำหรับที่นี่ ไม่มีใครเขาทำแบบนี้กันหรอก)"

             เขาบอกให้ผมรอตรงนี้สักครู่และเดินเข้าไปยังร้านสะดวกซื้อ จากนั้นเดินกลับออกมาพร้อมถาดใบหนึ่ง  โดยภายในถาดมีแก้วกาแฟอยู่สองแก้ว "I give you (ผมให้คุณ)" เขายื่นกาแฟมาให้ผมหนึ่งแก้ว ด้วยความซาบซึ้งผมขอบคุณเขาไปยกใหญ่เลย

             ผู้ชายคนนี้พาผมไปส่งแค่เพียง 20 กิโลเมตรเท่านั้น จากจุดใหม่ผมต้องใช้เวลาโบกรถต่ออีกประมาณ 3 ชั่วโมง จึงจะมีลุงคนหนึ่งจอดรับผมและพาผมไปส่งถึงเมือง Voronezh 
             01.30 น. คุณลุงขับรถพาผมมาส่งถึงเมือง Voronezh ในสภาพที่ผมง่วงนอนยิ้ม เมื่อลงจากรถคุณลุงแล้ว ผมรีบเดินหาทำเลดีๆในการกางเต้นท์นอน ท่ามกลางความมืดมิดผมเจอป่าเล็กๆแห่งหนึ่งข้างถนน ไม่รอช้ารีบควักไฟฉายออกมาจากในเป้ รัดตรงศีรษะ พร้อมกางเต้นท์นอน!!
 

            สรุปการโบกรถจากมอสโก-กรุงทบิลิซี (รัสเซีย-จอร์เจีย) 4 วัน 3 คืน
วันที่1 : Moscow - Voronezh โบกรถ 10 ชั่วโมง
วันที่2 : Voronezh - Rostov-on-Don โบกรถ 4 ชั่วโมงครึ่ง
วันที่3 : Rostov-on-Don - Vladikavkaz  โบกรถ 12 ชั่วโมง
วันที่4 : Vladikavkaz - Tbilisi, Georgia โบกรถ 3 ชั่วโมง



 - โปรดติดตามตอนต่อไป -
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่