บทบาทคนไทยในโลกกว้าง : ผู้สมัครของไทยใน International Law Commission
โดย ณัฐภาณุ นพคุณ รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ทวิตเตอร์ @NatapanuN
คนไทยมีบทบาทในด้านต่างๆ ในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในด้านธุรกิจที่มีการบุกเบิกไปลงทุนหรือสำรวจ ถือได้ว่า คนไทยก้าวไปไกล แต่ท่านผู้อ่านทราบไหมว่า คนไทยมีบทบาทในองค์การหรือเวทีระหว่างประเทศมาช้านาน เช่นในสหประชาชาติ วันนี้ ผู้เขียนขอเล่าถึงการสมัครของผู้แทนไทยในหนึ่งเวที
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยเชื่อมั่นว่า กฎหมายระหว่างประเทศเป็นเสาหลักที่สำคัญในการรักษาสันติภาพของโลกและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ รัฐบาลไทยจึงได้เข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิกในองค์การระหว่างประเทศต่าง ๆ รวมทั้งเสนอผู้สมัครของไทยเข้ารับเลือกตั้งในตำแหน่งสำคัญในองค์การระหว่างประเทศ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ รัฐบาลไทยจึงได้เสนอชื่อ ดร. วิลาวรรณ มังคละธนะกุล อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้สมัครของไทยในตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมาธิการกฎหมายระหว่างประเทศ (International Law Commission – ILC) วาระปี 2566 - 2570 โดยการเลือกตั้งจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๔ ระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ ๗๖ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
คณะกรรมาธิการกฎหมายระหว่างประเทศ จัดตั้งขึ้นเมื่อปี ๒๔๙๐ เพื่อสนับสนุนการทำงานของ
สมัชชาสหประชาชาติด้านการประมวลและพัฒนากฎหมายระหว่างประเทศ โดยเป็นผู้ยกร่างอนุสัญญากรุงเวียนนา
ว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญา อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางทูตและกงสุล ธรรมนูญก่อตั้งศาลอาญาระหว่างประเทศ และร่างข้อบทว่าด้วยความรับผิดของรัฐ ซึ่งเป็นหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่ประเทศต่าง ๆ ยึดถือในการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างกัน นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการกฎหมายระหว่างประเทศยังได้ยกร่างข้อบท
เรื่องการคุ้มครองบุคคลในกรณีภัยพิบัติ ซึ่งเป็นการวางหลักเกณฑ์เรื่องความร่วมมือระหว่างประเทศในการให้
ความช่วยเหลือและคุ้มครองประชาชนเมื่อเกิดเหตุภัยธรรมชาติหรือภัยคุกคามต่าง ๆ
การที่ผู้สมัครของไทยได้ดำรงตำแหน่งสำคัญในเวทีด้านกฎหมายระหว่างประเทศเช่นนี้ จะเป็นประโยชน์ ทั้งต่อประเทศไทยและภูมิภาคโดยรวม เพราะจะเป็นโอกาสให้ประเทศไทยได้มีสิทธิมีเสียงในการกำหนดทิศทางการพัฒนาและวางมาตรฐานของกฎหมายระหว่างประเทศและขับเคลื่อนกลไกทางด้านกฎหมายระหว่างประเทศที่ไทยให้ความสำคัญหรือเป็นประโยชน์ต่อภูมิภาคและประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ
ทั้งนี้ ดร. วิลาวรรณฯ เห็นว่า คณะกรรมาธิการกฎหมายระหว่างประเทศควรให้ความสำคัญกับหัวข้อที่เป็นประเด็นห่วงกังวลและเร่งด่วนของประชาคมระหว่างประเทศ อาทิ หลักการประติบัติที่เป็นธรรม
และเท่าเทียมต่อนักลงทุน การเพิ่มสูงขึ้นของน้ำทะเล และกฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์โรคระบาด ซึ่งเป็นประเด็นที่ประเทศไทยให้ความสำคัญมากเช่นกัน หากได้รับเลือกตั้ง ดร. วิลาวรรณฯ จะเป็นนักกฎหมายระหว่างประเทศสตรีคนแรกของไทยและอาเซียนที่ได้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว
การเสนอชื่อผู้สมัครสตรีในตำแหน่งสำคัญเช่นนี้ ยังเป็นการแสดงจุดยืนของไทยที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมบทบาทของสตรีในเวทีระหว่างประเทศซึ่งสะท้อนถึงการให้คุณค่าต่อความเสมอภาคและความเท่าเทียมทางเพศของประเทศไทยด้วย
บทบาทคนไทยในโลกกว้าง : ผู้สมัครของไทยใน International Law Commission
โดย ณัฐภาณุ นพคุณ รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ทวิตเตอร์ @NatapanuN
คนไทยมีบทบาทในด้านต่างๆ ในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในด้านธุรกิจที่มีการบุกเบิกไปลงทุนหรือสำรวจ ถือได้ว่า คนไทยก้าวไปไกล แต่ท่านผู้อ่านทราบไหมว่า คนไทยมีบทบาทในองค์การหรือเวทีระหว่างประเทศมาช้านาน เช่นในสหประชาชาติ วันนี้ ผู้เขียนขอเล่าถึงการสมัครของผู้แทนไทยในหนึ่งเวที
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยเชื่อมั่นว่า กฎหมายระหว่างประเทศเป็นเสาหลักที่สำคัญในการรักษาสันติภาพของโลกและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ รัฐบาลไทยจึงได้เข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิกในองค์การระหว่างประเทศต่าง ๆ รวมทั้งเสนอผู้สมัครของไทยเข้ารับเลือกตั้งในตำแหน่งสำคัญในองค์การระหว่างประเทศ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ รัฐบาลไทยจึงได้เสนอชื่อ ดร. วิลาวรรณ มังคละธนะกุล อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้สมัครของไทยในตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมาธิการกฎหมายระหว่างประเทศ (International Law Commission – ILC) วาระปี 2566 - 2570 โดยการเลือกตั้งจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๔ ระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ ๗๖ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
คณะกรรมาธิการกฎหมายระหว่างประเทศ จัดตั้งขึ้นเมื่อปี ๒๔๙๐ เพื่อสนับสนุนการทำงานของ
สมัชชาสหประชาชาติด้านการประมวลและพัฒนากฎหมายระหว่างประเทศ โดยเป็นผู้ยกร่างอนุสัญญากรุงเวียนนา
ว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญา อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางทูตและกงสุล ธรรมนูญก่อตั้งศาลอาญาระหว่างประเทศ และร่างข้อบทว่าด้วยความรับผิดของรัฐ ซึ่งเป็นหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่ประเทศต่าง ๆ ยึดถือในการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างกัน นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการกฎหมายระหว่างประเทศยังได้ยกร่างข้อบท
เรื่องการคุ้มครองบุคคลในกรณีภัยพิบัติ ซึ่งเป็นการวางหลักเกณฑ์เรื่องความร่วมมือระหว่างประเทศในการให้
ความช่วยเหลือและคุ้มครองประชาชนเมื่อเกิดเหตุภัยธรรมชาติหรือภัยคุกคามต่าง ๆ
การที่ผู้สมัครของไทยได้ดำรงตำแหน่งสำคัญในเวทีด้านกฎหมายระหว่างประเทศเช่นนี้ จะเป็นประโยชน์ ทั้งต่อประเทศไทยและภูมิภาคโดยรวม เพราะจะเป็นโอกาสให้ประเทศไทยได้มีสิทธิมีเสียงในการกำหนดทิศทางการพัฒนาและวางมาตรฐานของกฎหมายระหว่างประเทศและขับเคลื่อนกลไกทางด้านกฎหมายระหว่างประเทศที่ไทยให้ความสำคัญหรือเป็นประโยชน์ต่อภูมิภาคและประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ
ทั้งนี้ ดร. วิลาวรรณฯ เห็นว่า คณะกรรมาธิการกฎหมายระหว่างประเทศควรให้ความสำคัญกับหัวข้อที่เป็นประเด็นห่วงกังวลและเร่งด่วนของประชาคมระหว่างประเทศ อาทิ หลักการประติบัติที่เป็นธรรม
และเท่าเทียมต่อนักลงทุน การเพิ่มสูงขึ้นของน้ำทะเล และกฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์โรคระบาด ซึ่งเป็นประเด็นที่ประเทศไทยให้ความสำคัญมากเช่นกัน หากได้รับเลือกตั้ง ดร. วิลาวรรณฯ จะเป็นนักกฎหมายระหว่างประเทศสตรีคนแรกของไทยและอาเซียนที่ได้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว
การเสนอชื่อผู้สมัครสตรีในตำแหน่งสำคัญเช่นนี้ ยังเป็นการแสดงจุดยืนของไทยที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมบทบาทของสตรีในเวทีระหว่างประเทศซึ่งสะท้อนถึงการให้คุณค่าต่อความเสมอภาคและความเท่าเทียมทางเพศของประเทศไทยด้วย