9 เหตุผล ที่คุณทำธุรกิจครั้งแรก พังไม่เป็นท่า มีอะไรบ้าง

           หลายคนต้องการจะทำธุรกิจ อาจเพราะเห็นคนอื่นทำ และคิดว่า แค่มีเงินทุน ก็สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจได้ โดยที่ไม่มี และไม่ได้คำนึงถึงคุณสมบัติอื่น ๆ เลย ฉะนั้นพอเริ่มต้นทำได้สักหน่อยก็ต้องปิดตัวลง ไปไม่รอด 
 

           การทำธุรกิจส่วนตัว เป็นความใฝ่ฝันของหลาย ๆ คน   แต่ต้องเข้าใจและยอมรับก่อนว่า บางครั้งเส้นทางสายธุรกิจไม่ใช่เป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างที่คาดฝัน เพราะกว่าที่จะผ่านไปถึงจุดที่เรียกได้ว่า “สำเร็จ” หรือพูดง่าย ๆ เลย ก็คือ ประสบความสำเร็จ ก็อาจเจออุปสรรคจนทำให้ธุรกิจของคุณสะดุดจนถึงขั้นปิดกิจการได้ในที่สุด
 
 
และ สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ธุรกิจครั้งแรกต้องเจ๊ง จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกัน
 
1.ไม่มีที่ปรึกษาที่ดี
       การหาที่ปรึกษาที่ดี ไม่ใช่การปรึกษาเพื่อนร่วมงาน หรือใครก็ได้ที่อยู่รอบข้าง ที่ไม่เคยทำธุรกิจมาก่อน และแน่นอนว่า เมื่อไม่เคยทำธุรกิจ ก็ต้องไม่มีประสบการณ์ด้านนี้ เลยทำให้นอกจากจะขาดแนวทางที่ดี ยังขาดการเข้าใจปัญหาที่ถูกต้องอีกด้วย
 

2.ใช้เงินคนอื่นลงทุน
       สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้เจ๊ง เพราะการเอาเงินคนอื่นมาลง นั่นคือสิ่งที่จะทำให้มองไม่เห็นคุณค่าของเงิน ไม่รู้ว่าสิ่งที่เอามาลงนั้นมีมูลค่าขนาดไหน ถ้าจะให้เปรียบก็คล้ายกับอยากได้ของบางอย่างที่มีราคาแพง แต่พ่อแม่ซื้อ ให้ กับเก็บเงินซื้อเอง มูลค่ามันแตกต่างกันอยู่แล้ว
 

3.ไม่มีเวลา
       มีภาระ หน้าที่รับผิดชอบหลายอย่าง มีลูก ดูแลพ่อแม่  ย้ายบ้าน ย้ายที่ทำงาน การไม่มีเวลาดูแลธุรกิจเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ ที่จะทำธุรกิจเติบโตไปได้  เดี๋ยวนี้เห็นคนที่ไม่มีเวลา ไม่ได้ใช้เวลาอย่างเต็มที่ในการทำธุรกิจ และค่อย ๆ เจ๊งไปมีค่อนข้างเยอะ บริหารจัดการเวลามีน้อยมาก ๆ เมื่อเทียบกับภาระ เลยกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้เจ๊งไปเลย
 

4.ลอกเลียนแบบ
       ถ้าเราเลือกทำธุรกิจ “ตามคนอื่น” ใครเขาทำไรดีก็แห่กันไป ใครทำไรรวยก็แห่กันไป โดยไม่ได้พิจารณาความสามารถตัวเองว่าทำได้ไหม คิดแค่ว่าคนอื่นทำได้เราก็ทำได้  แต่ความเป็นจริงมันมีรายละเอียดมากกว่านั้น ควรคิดให้ดีอย่างรอบคอบเสียก่อน ถ้าไม่อยากพังตั้งแต่เริ่มต้น
 
 
5.เจอเรื่องไม่คาดฝัน
       สถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้ ก็เห็น ๆ กันอยู่ ว่าวุ่นวายแค่ไหน ไหนจะคู่แข่งมาเปิดแข่ง หุ้นส่วนทะเลาะกันบ้าง ลูกน้องไม่ดูแลร้าน ลูกค้าไม่พอใจแล้วโวยวาย เป็นต้น สาเหตุเหล่านี้เป็นสาเหตุที่ล้วนได้ชื่อว่าไม่คาดฝันทั้งนั้น ทำให้มีโอกาสเจ๊งได้สูง
6.เลือกคนไม่ถูก ใช้คนไม่เป็น
       คัดเลือกคนไม่เหมาะกับงาน อาจจะเป็นญาติพี่น้อง เพื่อนที่อยู่รอบข้าง เอาแบบช่วย ๆ กัน แต่ไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นแน่นอน  แต่ช่วยกันทำให้ทุกอย่างแย่ลง เพราะแต่ละคนก็ไม่มีความรู้ ทำไรไม่เป็นสักอย่าง รอแต่คำสั่ง หรือแนะนำอะไรก็ไม่ได้ ธุรกิจขาดทิศทาง ขาดคนทำงาน แล้วแบบนี้ธุรกิจจะไปรอดได้ยังไง
 

7.แผนไม่มี หน้าที่ไม่ชัด
       จะทำอะไรในแต่ละวันก็ยังไม่รู้ ต้องทำอะไรในแต่ละเดือน แต่ละคนต้องทำหน้าที่ ทำส่วนไหนบ้าง เป้าหมายรายได้ รายปีเป็นอย่างไร ไม่มีการวางแผนอะไรเลย ปล่อยไปตามน้ำ  ถ้าขนาดนี้เตรียมตัวมีเฮ พังไม่เป็นท่ากันเลยแน่นอน
 

8.อีโก้แรง
       การเป็นมนุษย์เงินเดือนคุณจะง้อหรือไม่ง้อลูกค้าก็ได้ บริษัทคือส่วนเสียหาย ไม่ใช่พนักงาน แต่การทำธุรกิจส่วนตัวครั้งแรกจำเป็นที่ต้องง้อลูกค้าอย่างมหาศาล ตราบใดที่รายได้ยังไม่คงที่ การหยิ่งเลือกที่จะไม่ง้อลูกค้า หรือไม่สนใจลูกค้า ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำอย่างยิ่ง
 

9.หมดแรงก่อนถึงเป้าหมาย
          ด้วยหลาย ๆ เหตุผล ความขี้เกียจ ความไม่สม่ำเสมอ ท้อแท้ หมดแรง หลาย ๆ คนทำธุรกิจด้วยความอยากทำ พอทำแล้วก็เกิดความขี้เกียจแล้วพาลไม่อยากทำ  จริง ๆ ถ้าคุณรักในสิ่งที่คุณทำ คุณจะไม่มีวันขี้เกียจ เหตุผลเดียวที่คุณยังคงขี้เกียจ แสดงว่าคุณยังไม่มีเป้าหมายชีวิตที่อยากไปให้ถึงนั่นเอง คนที่มีชีวิตที่ดีคือคนที่สู้แล้วไม่ยอมแพ้แล้วไปให้สุด
 
 
 
         
           คุณได้เห็นแล้วว่า มีปัจจัยอะไรบ้าง ที่จะทำให้การ เริ่มต้น ธุรกิจของคุณประสบกับความล้มเหลว ก่อนที่จะเริ่มธุรกิจ คุณต้องรู้ว่าจะทำให้สินค้าหรือบริการแตกต่างจากคู่แข่งอย่างไร ทำอย่างไรที่จะขายสินค้าได้ ทำอย่างไรให้สินค้าเป็นที่ต้องการของลูกค้า และต้องพัฒนาคุณภาพสินค้าของคุณให้ดีกว่าคู่แข่งด้วย 
 

            เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ? สำหรับใครที่คิดว่า สาเหตุที่กล่าวมา เหมาะที่สุดที่จะทำให้ธุรกิจล้มเหลวได้ง่าย ตอนนี้คุณพอจะมีไอเดียในการจะไปต่อได้แล้วรึยัง ? ซึ่งคุณสามารถแชร์ไอเดียได้นะครับหรือพูดคุยกันได้ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจที่มีปัญหาและหาแนวทางแก้ไข หรือกับอะไรก็ตามแต่.... คุณสามารถคอมเมนต์มาด้านล่างนี้ได้เลย ผมยินดีรับฟังครับ


วรัทภพ รชตนามวงษ์