ฝันหวาน (Sweet Dream) 27


.

               “ทำอะไรคะตัวเอง” เมธีกระโดดขึ้นเตียงนอน หลังจากนั่งเล่นเกมฟุตบอลได้พักหนึ่ง เห็นเธอง่วนอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์นานแล้วเหมือนกัน แกล้งเอาหน้ามามุดกับใบหน้าและลำคอของพรนภา ได้แกล้งเธอสนุกดี

                “โอย! พี่เมธีอ่ะ นภากำลังโหลดโทนแต่งรูปอยู่ ก็เลยดูไม่ทันเลยอันเมื่อกี้” พรนภาขมวดคิ้ว ทำหน้าบึ้งให้กับเขา ทำไมเมธีต้องมาขัดจังหวะด้วย เพราะการดาวน์โหลดโทนภาพมันต้องจำภาพที่โหลดมา ค่อยกดเซฟอีกครั้ง มันจะไม่ใช่ปัญหาเลยถ้าแค่มันมีภาพสองภาพ แต่นี่เป็นสิบ ๆ โทนภาพ เธอจำไม่ได้ว่าเซฟโทนภาพไหนไปบ้างแล้ว จึงทำให้หงุดหงิดอยู่ไม่น้อย คนแก่บางทีก็เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง “ก็เลยไม่รู้เลยว่าภาพไหนเมื่อกี้”

               “เอ้า ขอโทษค่ะ ไหนดูหน่อย โทนภาพอะไร ทำไมต้องหงุดหงิดเค้าขนาดนั้น” การที่โดนพรนภาหงุดหงิดใส่ ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรแก่เขาเลย น่ารักไปอีกแบบเวลาเธออยู่ในอารมณ์นี้ และสะใจที่แกล้งได้สำเร็จ เพราะเขารู้วิธีง้อเมียคราวลูกดี ว่าง้อแบบไหนแล้วสำเร็จน่ะสิ

               “ก็นี่ไง เนี่ย! นภาต้องเปิดไฟล์ในไดรฟ์ใช่มั้ย มันก็จะขึ้นโทนภาพให้ดู มันต้องใช้ความจำภาพไง แล้วเซฟไปไว้ในแอพไลค์รูมอ่ะ ต้องจำภาพเอา แล้วมันมีตั้งหลายภาพ โทนเมื่อกี้ไม่ได้ดูเลยเพราะพี่เมธีแกล้งนภาไง แล้วเป็นภาพไหนก็ไม่รู้เนี่ย”

               เธอเสียใจจริง ๆ มันเสียใจแบบเสียดาย อุตส่าห์ลงทุนซื้อโทนแต่งภาพมา มันต้องได้ทุกโทน จะขาดทุนลืมโทนใดโทนหนึ่งไม่ได้เชียว ลืมไปอันเดียวก็ขาดทุนย่อยยับแล้ว คนแก่นี่ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย เล่นเกมอยู่ดี ๆ แล้วนึกยังไงกระโดดขึ้นเตียงมาแกล้งเธอ พรนภาแสดงอารมณ์ออกทางสีหน้า ขมวดคิ้วมองบนทำหน้าบึ้งให้

               “เอ๋า พี่ขอโทษค่ะ โทนเดียวเองไม่เป็นไรหรอก เฮ้ยเดี๋ยวก่อน! อย่าบอกว่าเสียเงินนะ” แกล้งทำเป็นมองหน้า จ้องหน้าเอาคำตอบ เอาคืนบ้างดีกว่า

               “ไม่กี่บาทเอง” จากหน้าบึ้งกลายเป็นฉีกยิ้มกว้างให้ทันที เห็นมั้ยล่ะได้ผลจริง ๆ แค่นี้พรนภาก็หายงอนเป็นปลิดทิ้ง “สองร้อยบาท ได้ร้อยห้าสิบโทน เอาไว้แต่งรูปเราไงเวลาไปเที่ยว สวยนะนี่ไง” ไม่พูดเฉย พรนภานำรูปที่คลุมโทนแล้วส่งให้เขาดู ก็สวยดีตามสไตล์วัยรุ่นนั่นแหละ แอบยิ้มให้กับความแสบของภรรยา เมื่อกี้ยังจะเอาเรื่องเขาอยู่เลย พอแบบนี้ล่ะเปลี่ยนเป็นคนละคน

               “ลงทุนขนาดนั้นเลย ไปชูชัชกันมั้ยคะ พี่ไก่แนะนำมา แถวผาแดงอ่ะ” พรนภาทำท่าตกใจ ทำตาโตกับคำพูดของตนเองอย่างตลก ทำให้ต้องหัวเราะออกมาอย่างเขิน ๆ  “น้องจะตกใจทำไมเนี่ย เด็ก ๆ ที่ทำงานพี่เค้าแนะนำมา เค้าเห็นเราชอบไปร้านแบบนั้นไง” ทั้งพูดทั้งหัวเราะ พร้อมหอมแก้มไปฟอดใหญ่อย่างชื่นใจ

               “ก็ต้องตกใจสิ นี่นภาไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย!“ ยังทำหน้าตื่นเต้นไม่หยุด ล้อพี่เมธีเล่นก็สนุกดีเหมือนกัน “ปกตินะคุณเมธีเคยชวนก่อนที่ไหนล่ะ มีแต่นภาชวน ถึงจะตามใจพาไปทุกที่ก็เหอะ” ใกล้แล้ว ๆ เมธีใกล้จะเป็นสามีในอุดมคติของเธอแล้ว อีกนิดเดียวเท่านั้น การตามใจให้เลยเต็มร้อย การถ่ายภาพสวยก็ให้เต็มร้อย เหลือแค่ชวนเที่ยวก่อนนี่แหละ ตั้งแต่คบกันมาเพิ่งเคยได้ยินคำเอื้อนเอ่ยชวนก่อน ที่ผ่านมาเธอทั้งนั้น

               “ฮือ! รักจังเลยค่ะ โอยน้อคนชวนก่อนกะบ่ได้ เห็นว่ากะดาย” พร้อมหัวเราะและมุดหน้าเข้ามาหอมแก้มเธออีกฟอดแบบหมั่นไส้ก็มิปาน ที่โดนล้อ “พี่ดูรูปพี่ไก่ เขาไปกับสามีเขาน่ะ สวยดี วิวสวย คิดว่านภาคงชอบ พี่ก็เลยชวนไง”

              พรนภาหันมานั่งจ้องเขาแบบปลื้มใจมาก นี่สิสามีที่เธอต้องการ เพราะเธอชอบเที่ยว ชอบทานกาแฟ ชานม และชอบลองร้านใหม่ ๆ เสมอถ้ามีโอกาส “ขอบคุณนะคะ แต่ว่าไม่ไปดีกว่า ชูชัชนภารู้จักอยู่ พี่ออร์ดี้ก็ไปมาแล้ว มันเป็นร้านอาหาร นภาไม่ชอบไปร้านอาหารอ่ะ ร้านเล็ก ๆ เองนะ วิวสวยจริง แต่ว่าเอาไว้ก่อนน้อ เราไปร้านกาแฟที่ปั๊มน้ำมันดีกว่า”

               วันนี้เธอรู้สึกขี้เกียจแปลก ๆ อีกอย่างไม่ใช่ร้านนมปั่นด้วย ไม่ใช่ร้านกาแฟ มันเป็นร้านอาหารที่เพิ่มกาแฟปั่นเข้ามาเฉย ๆ  “ปะไปร้านกาแฟที่ปั๊มน้ำมันกัน แต่ว่าไปปั๊มทางบ้านพี่ออนะคะ เค้ายังพอให้นั่งได้ไง ปั๊มใกล้คอนโดเราเค้าเก็บโต๊ะหมด”

               “ค่ะ กล้องพร้อม ชุดพร้อม ชุด! ใส่ชุดนี้เหรอ โทนแต่งรูปพร้อมแล้วนะ ฮา นภาเอ้ย!” เมธีประชดให้แบบขำ ๆ นึกเอ็นดูในตัวภรรยาเด็ก บางครั้งก็เหมือนลูกสาวดี ๆ นี่เอง พรนภากับลูกชายของเขาอายุห่างกันเพียงสิบสี่ปีเท่านั้น พรนภาสวมเสื้อทีมแมนยูและกางเกงยีนส์ ซึ่งเป็นทีมฟุตบอลที่เขาไม่ปลื้มนัก

               “ค่ะ ชุดนี้แหละ วันนี้นภารักแมนยู อิอิ”

               “ขิวแท้วะ ขิวแมนยูเว้ย”

               “ซาง! ชิ” ทำหน้าประชดประชันให้ โดนมะเหงกของเมธีไปเบา ๆ หนึ่งที พร้อมเสียงหัวเราะลั่นห้องอย่างมีความสุข ทั้งเขาและเธอ บางครั้งก็เล่นแบบลืมอายุของเมธีไปเลย มันก็มีความสุขดี สุขแบบที่เธออธิบายไม่ถูกเหมือนกัน

                 สาย ๆ เมธีพาเธอขับรถมายังปั๊มน้ำมัน ที่มีร้านกาแฟอยู่ประจำปั๊มทุกสาขา คนดูเงียบ ๆ เพราะไม่ใช่เสาร์อาทิตย์ เป็นร้านขนาดใหญ่ ตกแต่งร้านได้สวยงามมาก มีมุมให้ถ่ายภาพเยอะ พวกเธอเคยมาร้านนี้ก่อนที่โควิดจะระบาด มีโต๊ะให้นั่ง มีมุมให้ถ่ายรูปสวย ๆ ทั้งนั้น วันนี้เก็บไปหมดแล้ว ยังดีที่ยังเหลือมุมพอให้เก็บภาพ

               พวกเธอสองคนเดินเข้ามาภายในร้าน ยืนคู่กันหน้าเคาน์เตอร์ เมธียืนซ้อนด้านหลังเธอ มองดูเมนูบนผนังด้านหลังของพนักงาน

               “ลาเต้ปั่นหวานปกติค่ะ พี่เมธีอ่ะ” พรนภาหันไปถามเมธีที่ยืนด้านหลัง เพื่อจะสั่งให้

                 “อ่า เอามอคค่าเย็นค่ะ เอ้ย! ครับ มอคค่าเย็นครับ หวานน้อยครับ” พร้อมยิ้มให้พรนภาที่กำลังมองหน้าตนเองอยู่ ก่อนจะรีบจ่ายตังค์ไป แล้วเดินมาหาที่นั่ง

                  พรนภาก็ไม่ได้พูดอะไร และไม่ได้มีท่าทีเปลี่ยนไปด้วย เธอไม่ชอบให้เขาพูดค่ะกับผู้หญิงคนไหน ยกเว้นเธอคนเดียว พรนภาพาเขาเดินมานั่งแบบเงียบ ๆ เขามองหน้าเธอยิ้มให้อย่างนึกรู้สึกผิด เพราะรู้ดีว่าเธอไม่ชอบ และจริงจัง ทำไมนะตนเองถึงลืมได้ขนาดนี้ ก็รู้ว่าพรนภาไม่ชอบก็ยังจะลืม

                 “พี่เมธีเป็นอะไร ทำไมดูเงียบ ๆ “ เธอรู้เพราะเมื่อสักครู่ตอนสั่งออเดอร์เธอฟังทัน ไม่อยากมีเรื่อง เรื่องแค่นี้เอง อีกอย่างเมธีก็ไม่ได้ตั้งใจจะพูดด้วย แค่หลุดพูดออกมาเฉย ๆ ดูจากการที่เขารีบเปลี่ยนคำใหม่ในทันที ยังนึกดีใจและขอบคุณด้วยซ้ำที่เมธีแคร์ความรู้สึกของเธอ แคร์เธอ

               “น้องโกรธพี่มั้ยเมื่อกี้ที่พี่เอ่อ พูดค่ะ” สีหน้าและแววตาของเขาดูเป็นกังวลมาก แค่นี้มันก็ทำให้เธอสุขใจแล้ว และนึกตลกอยู่ในที

                “ไม่โกรธค่ะ เพราะนภารู้ว่าพี่เมธีไม่ได้ตั้งใจ” พวกเธอสองคนนั่งคุยกันรอกาแฟที่สั่ง พวกเธอเลือกนั่งโต๊ะมุมที่จัดคล้ายบาร์ร้านเหล้า ทางร้านจัดระยะห่างพอประมาณในการนั่ง ตามนโยบายป้องกันโควิด แต่มันก็ยังพอคุยกันรู้เรื่อง “แต่ถ้าครั้งไหนตั้งใจพูดนะ โดนแน่” ทำสายตาดุจริงจังเข้าให้

                “ค๊าบ! กลัวแล้ว ดุจัง” ในที่สุดเขาก็ยิ้มออกมาได้สักที มันปลื้มใจ มันมีความสุขมาก ๆ ที่มีใครสักคนแคร์ความรู้สึกของเรา ที่เมธีแคร์ความรู้สึกของเธอ เขาจะรู้มั้ยนะแค่เรื่องเล็กน้อยที่ทำให้ แต่ว่ามันทำให้คนที่ได้รับมีความสุขมหาศาล

                 “นภาจำไว้นะ อะไรที่นภาไม่มีความสุขเมธีคนนี้จะไม่ทำเด็ดขาด” พร้อมยกมือขึ้นมาวางบนศรีษะของเธออย่างเอ็นดู และจริงใจ เขารักเธอมาก รักจนไม่อยากทำให้เธอเสียใจแม้แต่นิดเดียว

               “คิวที่ 39 กาแฟได้แล้วค่ะ” เสียงพนักงานเรียกให้ไปรับกาแฟ พรนภาอาสาไปรับมาเสิร์ฟให้เอง

                “กาแฟมาแล้วค่า” ยื่นมอคค่าและลาเต้ของตนเองให้เมธีนำมาวางบนโต๊ะ แล้วจากนั้นตนเองก็ขึ้นนั่งบนเก้าอี้เช่นเดิม ไม่ได้จะนั่งทาน ทว่าจะนั่งเก็บภาพมากกว่า

               “พี่เมธีถ่ายรูปให้นภาหน่อย” เช่นเคย ไม่ว่าไปที่ไหน ๆ เมธีจะต้องเป็นตากล้องให้กับเธอ ตากล้องส่วนตัวที่แสนดีและรักที่สุด

                 “เอามุมนี้เหรอ พี่ว่ามุมดอกกล้วยไม้สีขาวสวยกว่าสีแดงนะ “

               “งั้นเหรอคะ เอามุมดอกกล้วยไม้สีขาวตามที่พี่เมธีบอกก็ได้ค่ะ” จากนั้นก็นั่งให้เมธีถ่ายรูปให้ แค่รูปสองรูปก็พอ ถ่ายรูปคู่กับดอกกล้วยไม้สีขาว สวยมาก อยากนำไปปลูกไว้ที่บ้านของเธอที่ต่างจังหวัดมาก “สักรูปมั้ยคะ”

                 “ไม่ค่ะ” เมธีปฏิเสธ วันนี้เธอไม่ขัดใจเขา ไม่อยากถ่ายรูปก็ไม่แอบถ่ายเหมือนทุกครั้ง เพราะมุมมันไม่สวยด้วย ถ้าไปร้านกาแฟสวย ๆ มีเหรอเขานะปฏิเสธเธอได้สำเร็จแบบนี้

               “พี่เมธีกลับกันปะ นภาไม่ได้จะมานั่งอ่ะ ไปถ่ายรูปตรงนั้นกัน” ที่มาวันนี้เธอไม่ได้กะจะมานั่งให้ครบชั่วโมงเน็ตฟรีที่ได้เช่นทุกครั้งที่มา สองคนเดินออกจากร้านมายังหน้าร้าน ที่มีตัวหนังสือเขียนชื่อร้านเอาไว้ตัวใหญ่มาก พรนภายืนให้เมธีถ่ายรูปของตนให้จนพอใจ แล้วพวกเธอก็เดินทางกลับ วันนี้หยุด อยากพักผ่อน ไม่อยากจะไปไหนเลยจริง ๆ

               “มาแค่นี้เหรอคะ วันนี้แปลกแฮะ พรนภาไม่อยากไปไหน” โดนเมธีประชดเข้าให้แบบเบา ๆ ขณะนั่งรถกลับคอนโด ปั๊มน้ำมันปั๊มที่มาอยู่ห่างกับที่พักของพวกเธอไกลพอสมควร

               “เอ๋า นภาดูรูปของพี่ออแล้วไม่อยากไปอ่ะ มันสวยนะ แต่มันยังไม่โดนใจ” เธอรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ

               “อ่อ งั้นเอาไว้หาที่ ๆ โดนใจจริง ๆ ค่อยไปกันก็ได้ค่ะ พี่ทำให้นภาได้เสมอ ไปไหนไปกัน “ หันมามองภรรยาคราวลูกสุดที่รัก นับวันก็ยิ่งรักมากขึ้นทุกวัน ไม่อยากห่างไปไหนเลย แม้แต่ทำงานถ้าทำได้

                “ค่ะ” หันมาตอบพร้อมฉีกยิ้มให้เมื่อได้ฟังคำตอบที่ถูกใจ ไปไหนไปกันนี่แหละ พรนภาชอบมาก! เพราะเธอชอบเที่ยวเป็นต้นทุนอยู่แล้ว ยิ่งได้สามีเข้าใจแบบนี้ก็ยิ่งมีความสุขไปอีก

                ขอบคุณโลกที่เหวี่ยงเขามาเจอกับเธอ ขอบคุณอุปสรรคที่ทำให้เขาสองคนล้มเหลวกับรักครั้งแรก และได้มาเจอกัน เป็นชีวิตคู่ ชีวิตรักที่ลงตัวมาก แม้อายุจะห่างกันเป็นรอบก็ตาม ก็ไม่ใช่ปัญหาของสองคนที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน...

               “ยังแต่งรูป คลุมโทนรูปยังไม่เสร็จอีกเหรอคะ พี่อยากกอดแล้วเนี่ย” ภายในห้องพัก พอมาถึงพรนภาก็ไม่สนใจอะไร กระโดดขึ้นเตียง นอนแต่งรูปที่เพิ่งถ่ายมาเมื่อสักครู่ที่ร้านกาแฟนั้น ผ่านไปพักใหญ่แล้วก็ยังทำไม่เสร็จสักที

               “ยังค่า พี่เมธีไปเตะบอลรอเลยไป วันนี้ยอมให้ลิพูลชนะก็ได้” เพราะความอยากแต่งรูปจึงไล่เขาไปเล่นเกม และยอมให้ทีมรักของเขาชนะก็ได้ ปกติยอมที่ไหน เวลาเมธีเล่นเธอก็ต้องนั่งดูด้วย ไม่ยอมให้เมธีเล่นทีมของตัวเองแพ้หรอก ทว่านาทีนี้ยอมไปก่อน

               “ไม่เอาอ่ะ อยากนอนกอดคน เมื่อไหร่จะเสร็จ” ไม่เพียงพูดเฉย ๆ  ขึ้นมานอนบนเตียงข้าง ๆ เธอด้วย นอนมองเธอแต่งรูปก่อนลงโซเชี่ยล พร้อมหัวเราะออกมาเบา ๆ  นึกตลกผู้หญิงเนี่ยนะ เรื่องมากจริง ๆ ถ่ายรูปมาแล้วก็ต้องมาแต่งรูปก่อนลงอีก “สวยแล้ว! โทนนี้สวยแล้วค่ะ”

               “จริงอ่ะ!” พรนภาหันไปถาม ดีเหมือนกันมีคนช่วยดู

             “พี่บอกว่าสวย มันก็ต้องสวยสิคะ เนี่ยโทนนี้สวย” พูดไปอย่างนั้นเอง อยากให้พรนภาทำเสร็จเร็ว ๆ เขาจะได้นอนกอดให้ชื่นใจ

               “ก็ได้ค่ะ สวยก็สวย “ เธอยอมทำตามที่เมธีบอก ใช้โทนตามที่เมธีเลือกให้ ก็สวยอย่างที่เขาพูดจริง ๆ นั่นแหละ พอลงรูปปุ๊บ ไม่ทันได้วางโทรศัพท์ เมธีก็รวบรัดกอดตัวเธอไว้แน่น เธอก็ปล่อยให้เขากอดตามใจ อบอุ่นดี มีความสุขด้วย

               เสียงทีวีเปิดขับกล่อมพวกเธอ ให้นอนฝันหวาน ฝันลึกซึ้งไปไหนต่อไหนกันอย่างมีความสุข เรื่องโทนแต่งรูปที่ยังดาวน์โหลดมาไม่หมด เธอก็ไม่สนใจมันแล้ว ตอนนี้ขอมีความสุขกับเมธีไปก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง

จบบท...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่