หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
ราคะ โทสะ โมหะ VS ราคะ พยาบาท วิตก อัสมิมานะ
กระทู้คำถาม
ศาสนาพุทธ
พระไตรปิฎก
"เจริญอสุภะเพื่อละราคะ
เจริญเมตตาเพื่อละโทสะ
เจริญปัญญาเพื่อละโมหะ"
อีกพระสูตร
"พึงเจริญอสุภะเพื่อละราคะ
พึงเจริญเมตตาเพื่อละพยาบาท
พึงเจริญอานาปานสติเพื่อตัดวิตก
พึงเจริญอนิจจสัญญาเพื่อเพิกถอนอัสมิมานะ"
ทำไมพระสูตรหลังนี้จึงมีความเยอะกว่า พระสูตรแรกครับ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
เปิดธรรมที่ถูกปิด ผู้มีเพื่อนดี พึงหวังความเจริญได้
พุทธวจน ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีเพื่อนดี พึงหวังข้อนี้ได้ คือ ตนจักเป็นผู้มีศีล จักสำรวมระวังในปาติโมกข์ ถึงพร้อมด้วยอาจาระและโคจร มีปกติเห็นภัยในโทษเพียงเล็กน้อย สมาทานศึกษาอยู่
อนิจจังสังขารไม่เที่ยง
บทสรุป เนโสหมสฺมิ(นั่นไม่ใช่เป็นเรา) แล้วเราคือ?
เนโสหมสฺมิ(นั่นไม่ใช่เป็นเรา) มสฺมิ เป็นคำที่ผสมแล้วซึ่งมาจากคำว่า อสฺมิ บทว่า อสฺมิ ได้แก่ การถือว่าเรามีอยู่ (อัสมิมานะ). ดังนั้นคำว่า อสฺมิ จึงแปลว่า (เรา) บทวิเคราะห์ พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑
สมาชิกหมายเลข 4128431
อุจเฉททิฏฐิ คือ ความเห็นว่าเมื่อตายแล้วจะสูญสิ้นไปทั้งหมด
อุจเฉททิฏฐิ คือ ความเห็นว่าเมื่อตายแล้วจะสูญสิ้นไปทั้งหมด ไม่มีการเวียนว่ายตายเกิดในภพอื่นอีก เป็นมิจฉาทิฏฐิ “เอาความสูญ” นั้นไปเทียบกับนิพพาน แล้วเข้าใจว่านิพพานคือความสูญสิ้นแบบไม่มีอะไ
สมาชิกหมายเลข 2748147
ทานูปปัตติสูตร : ว่าด้วย ได้รับผลที่เกิดจากการให้ทานตามความปรารถนา
ทานูปปัตติสูตร : ว่าด้วย ผลที่เกิดจากการให้ทาน . ดูกรภิกษุทั้งหลาย เหตุเกิดขึ้นแห่งทาน ๘ ประการนี้ ๘ ประการ เป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ ให้ทาน คือ ข้าว น้ำ ผ้า ยาน ดอกไม้ ของหอม เครื่
สมาชิกหมายเลข 3051058
การทำตนและสิ่งอื่นให้เป็นที่รัก หรือทำให้เป็นทุกข์ จาก มุมมองของพระพุทธศาสนาในยุคต้น (สร้างกับ เอไอ)
บทนำ คำถามที่ว่า "บุคคลกระทำตนและผู้อื่นให้เป็นที่รักได้อย่างไร หรือนำพาตนและผู้อื่นให้ประสบทุกข์ได้อย่างไร" เป็นแก่นแท้ของจริยศาสตร์สากล และเป็นประเด็นสำคัญที่พระพุทธศาสนาในยุคต้นได้ให้คำตอ
สมาชิกหมายเลข 8933017
บ่มวิมุต ถอนอัสมิมานะ สำเร็จมรรค
เมฆิยะ ! เมื่อภิกษุเป็นผู้มีมิตรดี สหายดี เพื่อนดี, ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่เธอพึงหวังได้ คือจักเป็นผู้มีศีล ฯลฯ, จักได้โดยง่ายซึ่งธรรมกถา ฯลฯ, จักเป็นผู้ปรารถความเพียร ฯลฯ, จักเป็นผู้มีปัญญา ฯลฯ. เมฆิยะ
สมาชิกหมายเลข 1115445
เพราะ หมดความหลงผิด จึงมีความเพียรพยายามถูก ต้อง
สวัสดีครับ มาอีกแล้ว ธรรมใดๆ เกิดขึ้นเหราะเหตุ ดับเพราะเหตุดับ มาแชร์เทคนิค ปฎิบัติธรรมครับ 1. สำรวจ ความเห็นตนเอง มา จากเหตุใด จะได้ค้นต้นตอได้ว่า มาจากอวิชชา หรือวิชชา 2. เพราะมีสัญญาจึงมีคำพูด สัญญ
แทคเองครับ
เจริญ "ภาวนา ๖" ละเสนียด
"เสนียด" คือ พยาบาท ๑ วิหิงสา ๑ อรติ ๑ ปฏิฆะ ๑ ราคะ ๑ และอัสมิมานะ๑ เสนียด ทำให้จิตใจเศร้าหมอง เป็นทุกข์ ละเสนียดเสียได้ จิตใจจะผ่องใส มีความสุข เราสามารถเจริญภาวนา ๖ เพื่อละเสนียด
saengdaed
ไฟ ๓ กองนี้ ๓ กองเป็นไฉน(พระสูตร)
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ไฟ ๓ กองนี้ ๓ กองเป็นไฉน คือ ไฟคือราคะ ๑ ไฟคือโทสะ ๑ ไฟคือโมหะ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ไฟ ๓ กองนี้แล ฯ ไฟคือราคะ ย่อมเผาสัตว์ผู้กำหนัดแล้วหมกมุ่นแล้วในกามทั้งหลาย ส่วนไฟคือโทสะ ย่
สมาชิกหมายเลข 3208017
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ศาสนาพุทธ
พระไตรปิฎก
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
ราคะ โทสะ โมหะ VS ราคะ พยาบาท วิตก อัสมิมานะ
เจริญเมตตาเพื่อละโทสะ
เจริญปัญญาเพื่อละโมหะ"
อีกพระสูตร
"พึงเจริญอสุภะเพื่อละราคะ
พึงเจริญเมตตาเพื่อละพยาบาท
พึงเจริญอานาปานสติเพื่อตัดวิตก
พึงเจริญอนิจจสัญญาเพื่อเพิกถอนอัสมิมานะ"
ทำไมพระสูตรหลังนี้จึงมีความเยอะกว่า พระสูตรแรกครับ