สังคมเมืองไทยเราชอบบังคับให้คนทำตัวไม่ดี

จากข่าวที่ผู้สูงอายุถูกเรียกเงินเบี้ยคนชราที่รัฐจ่ายซ้ำซ้อนกับเงินบำนาญคืนจนเป็นข่าวดัง มีผู้คนวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานา จนผู้สูงอายุบางท่านต้องรวบรวมเงินที่สะสมไว้นำไปส่งคืนก็มี บางท่านที่ฐานะลำบากก็โอดครวญว่ารัฐมาเรียกคืนแบบนี้ทำให้เดือดร้อนจะไปหาเงินจากไหนมาคืน จนผลปรากฏว่ารัฐบาลประกาศมาว่าเงินที่จ่ายเกินไปนั้นไม่ต้องคืนก็ได้หากรับมาโดยสุจริต ทำให้ผู้ที่กังวลอยู่นั้นก็สบายใจหมดภาระไป ส่วนผู้ที่รวมรวมนำเงินมาคืนแล้วก็ดีแล้วถือว่าแล้วกันไปรัฐก็ไม่คืนเงินที่เอามาชำระคืนให้ เช่นนี้คนที่เป็นคนดีมีจิตสำนึกกลับกลายเป็นเสียประโยชน์

ต่อมามีอีกข่าวที่เริ่มฮือฮาเข้ามาอีก สำหรับผู้ที่เป็นหนี้บัตรเครดิตแล้วไม่ได้ชำระจนดอกเบี้ยและเงินต้นงอกเงยมากขึ้นจนเกินกำลังที่จะชำระได้ ก็มีโครงการขึ้นมาอีกว่าสำหรับผู้ที่เป็นหนี้ในลักษณะดังกล่าว สามารถชำระแค่เพียงเงินต้นได้โดยไม่คิดดอกเบี้ย เช่นนี้คนที่มีระเบียบวินัยรับผิดชอบที่ชำระหนี้มาอย่างดีก็ท้อแท้เสียใจ 

ดังตัวอย่างทั้งสองที่กล่าวมาผู้ที่ทำตัวเป็นคนดีมีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ กลับเป็นผู้ที่เสียประโยชน์ไม่ได้รับความดีความชอบแต่อย่างใดแต่กลับท้อแท้สิ้นหวัง เจ็บใจ

ส่วนผู้ที่ไร้ระเบียบวินัย ไม่มีความรับผิดชอบ จะได้รับการเยียวยาดูแล

ดังนั้นถ้าจะอยู่ในสังคมเช่นนี้ เราต้องไม่เป็นคนดีมีระเบียบควรทำตัวให้เหมือนคนส่วนใหญ่จึงจะได้รับการดูแลและได้สิทธิพิเศษกว่าปกติ สังคมแบบนี้แปลกๆนะ