สวัสดีค่ะ กระทู้นี้ เป็นการระบาย และการอยากสอบถาม เพื่อนๆพี่ๆน้อง ในวัยทำงานเดียวกันนะคะ อยากทราบทุกความเห็นจริงๆ
ตอนนี้เรา อายุ 26ปี เพิ่งตกงานไปตอนปีที่แล้วช่วงโควิด-19 ค่ะ เราหางานใหม่ ได้แถวๆบ้าน (เราไม่เคยทำงานไกลบ้านค่ะ)
เราได้งานใหม่ เป็นแอดมินประสานงาน ทำงานกับเจ้านายโดยตรง เจ้านาย ทำธุรกิจหลายอย่าง และมีลูกน้องหลายที่
ข้อตกลงการทำงานตอนแรก คือเราประสานงานให้กับช่าง ทำใบเสนอราคา เปิดบิล (บิลเงินสดธรรมดา) และออกใบสั่งซื้อ บ้าง ในกรณีช่างสั่งของ และคอยดูบัญชีเงิน ตามยอดเงินที่ไปติดตั้งงาน ประสานงานกับลูกค้า และออกบิลส่งของ (เจ้านายทำธุรกิจส่งของให้ห้างดังด้วยค่ะ) และหยุดทุกนักขัตฯ ซึ่งแรกๆ ไม่มีอะไรโอเคมาก เข้างาน 08.30-17.00 น. มีบางวันที่เรากลับช้าบ้าง กลับตรงบ้างอยู่กับที่แฟนจะมารับกี่โมง แต่หลังๆ เริ่มมีคำพูด ว่าทำไมกลับเร็วตรงเป๊ะๆ บางวันกลับช้าก็จะมีคำพูดว่ากลับช้าจัง บลาๆ ที่เรารู้สึกไม่โอเค และเราสังเกตุว่า งานมันเริ่มไม่เป็นอย่างที่ตกลง
ด้วยความที่ เจ้านายทำธุรกิจหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ " ร้านอาหาร " ซึ่งปกติ ร้านอาหารจะอยู่อีกที่ค่ะ แต่ไม่ไกลกันมาก ที่ร้านอาหาร หมดสัญญาเช่า ทางเจ้านายเล็งเห็นว่า ที่ออฟฟิศ มีหลายคูหา เลยมาเปิดที่เดียวกัน ตอนแรกไม่มีอะไรน่าห่วงค่ะ แต่พอเปิดจริงๆ เกิดปัญหา คนไม่พอ เพราะที่ร้านอาหารคนออกบ่อยมาก บ่อยจนงงว่าคนทำไมออกเยอะ จนเรามารู้จากคนที่ออกไปแล้วค่ะ
คนที่ลาออกมาเล่าทุกเรื่องให้ฟัง และเล่ายันคนที่เคยทำงานตำแหน่งเราคนเก่า เล่าประมาณว่า วันหยุด ไม่ให้แอดมินคนเก่าหยุด วันหยุดประจำสัปดาห์ นักขัติฯก็ห้ามหยุด ต้องทำงานเกินหน้าที่ไปมากมาย เป็นแอดมิน แต่ต้องไปส่งของ ทำของเอง ทั้งขายกาแฟ แปะฉลากสินค้า ขายอาหารให้ด้วย งานแอดมินก็ต้องทำ ตอนแรกเราไม่ค่อยเชื่อนะคะ แต่เราไปรื้อเอกสารเก่า จึงเห็นว่า เออจริงนะ เค้าไปส่งจริง ส่งรถของตัวเองด้วย ไม่ใช่รถของทางบริษัทแต่อย่างใด ได้แต่ค่าน้ำมัน เราก็เก็บข้อมูลและไม่พูดอะไรออกไปเลย
พอมาเปิดร้านอาหารจริงๆ ก่อนเปิด1วัน ได้ประชุม และบอกว่า เราต้องไปช่วยร้านอาหาร ช่วยเสิร์ฟ หรือเข้าไปเตรียมของในครัว (ถ้าจำเป็น) ตอนนั้นใจแป้วเลยค่ะ เพราะต้องเหนื่อยแน่เลย หลังจากวันนั้น เจ้านายให้เรามาช่วย 3วัน จันทร์, พุธ, ศุกร์ ให้เราเอาแลปท๊อปมาทำงานที่ร้านอาหารเลย ไม่ต้องเดินไปเดินมาที่ออฟฟิศ (ร้านอาหารกับส่วนออฟฟิศห่างแค่ประตูกั้น) ซึ่งเราแทบไม่ได้ทำงานตัวเองเลยค่ะ ทำแต่งานร้านอาหารอย่างเดียว เหนื่อยมากกกกกกกกกกกกกกก บางวันเราก็ต้องทำงานเราด้วย เพราะต้องคอยตามใบเสนอราคาลูกค้า ตามช่าง ตามออเดอร์ ซึ่งเจ้านายบ่นหนักมาก ว่า "มาช่วยกันก่อนงานอื่นอะทีหลัง เอางานที่ได้ตังก่อน" แม่เจ้า งงมากจ้า เราได้แต่ อิหยังว่ะนี่ เพราะตกลงกันไม่ใช่แบบนี้ และที่พีคคือ ให้เราไปล้างจาน เพราะคนขาด ล้างคือล้างทั้งวัน ทั้งวันจริงๆ วันนั้นที่เราล้างจาน เรารอแฟนมารับกลับบ้าน แฟนมารับช้าค่ะ เรานั่งเล่นมือถือ รอเวลา เจ้านายเดินมาพูดใส่เรา ว่า "แฟนยังไม่มารับหรอ ทำไมไม่มีน้ำใจไปช่วยฝั่งร้านอาหารบ้างหละ มัวแต่มาเล่นมือถือ ดีจริงๆ" มาถามหาน้ำใจกับเราค่ะ ว่าซ่านนนน งึดเลย เราเดินขาแทบลาก เวลาเลิกงานแท้ๆ ยังต้องไปช่วยหรอ พอหลังจากวันนั้น เราลงประกาศหางาน ก็มีคนมาสมัคร และทางร้านก็รับเลย ซื่งเราโล่งมากกก โล่งใจสุดๆ 5555
หลังจาก การทำงานที่ร้านอาหาร และคนครบแล้ว ก็ใกล้วันตรุษจีน เราขอลากิจ 1วัน วันที่11/2/64 ซึ่งเราขอไปไหว้ตรุษจีนกับครอบครัว ซึ่งร้านอาหารหยุด2วัน วันที่ 10-11/2/64 ซึ่งก่อนหยุด เราวางแผนว่า เราจะไม่รับงานวันที่ 11 เลย เราอยากให้ช่างเราได้หยุดบ้าง (ช่างไม่มีวันหยุดนะคะ ทำงาน 365วัน ถ้วน แต่ส่วนมากวันอาทิตย์ เราจะไม่ดิวงานวันนั้น ให้ช่างได้พักผ่อน แต่ถ้างานต่อเนื่องจริงๆ จะให้ทำวันหยุดค่ะ) เราลา เราโดนหักตังนะคะ และเราได้นัดแฟนนัดแม่ไว้ เขียนใบลาอะไรเสร็จสรรพ พอกลับมาวันที่ 12 เราได้คุยกับเจ้านาย ว่าวันที่ 26/2/64 ตรงกับวันหยุดนักขัตฯ จะหยุดค่ะ เพราะเราทำงานแบบพนักงานออฟฟิศ เรามีวันหยุดตามนี้ ซึ่งช่างหรือคนอื่น รับรู้ค่ะ แต่พอเราพูด กลับมีคำพูดสวนมาว่า " จะเอาทุกเทศกาลเลยหรอ งานศพแม่เพื่อนก็ไป ตรุษจีนก็ไหว้ นี่จะไปทำบุญใหญ๋อีก เกินไปหรือเปล่า ไม่ต้องหยุดหรอก มาทำงาน" (งานศพแม่เพื่อน เราไปหลังเลิกงานค่ะ ไม่ได้ลาไปอะไรทั้งนั้น)
ที่ระบายมาข้างต้น ยังไม่รวมนิสัยที่แย่ๆ อีกหลายๆอย่าง ด่าเหมารวมในไลน์กรุ๊บมั้ง ไม่เคยให้กำลังใจลูกน้อง จ้องแต่จะหักตังอย่างเดียวอีกนะคะ เยอะแยะไปหมด บางอย่างเราปล่อยได้เราปล่อยนะคะ ถือว่าเราเป็นลูกน้อง จนลูกน้องแทบทุกคน ไม่รับสายแกเลยเวลาแกโทรหา ถ้ารับเร็วก็จะถาม ทำอะไรทำไมรับเร็ว และไม่ให้ใช้มือถือในเวลางาน อันนี้เราพอรู้บ้าง แต่สั่งงานในไลน์อย่างเดียวค่ะ 55555 งงจัง
เราหางานใหม่รอแล้วค่ะ ไม่รอให้อะไรแย่ลงไปกว่านี้ ไม่อยากมานั่งทุกข์ใจเรื่องไม่เป็นเรื่อง เราจะลองคุยกับเจ้านายอีกที ถ้าไม่เป็นไปอย่างที่หวัง เราลาออกค่ะ
ขอบคุณที่รับฟังนะคะ
ใครเคยเจอเจ้านายประเภทนี้บ้าง!!??
ตอนนี้เรา อายุ 26ปี เพิ่งตกงานไปตอนปีที่แล้วช่วงโควิด-19 ค่ะ เราหางานใหม่ ได้แถวๆบ้าน (เราไม่เคยทำงานไกลบ้านค่ะ)
เราได้งานใหม่ เป็นแอดมินประสานงาน ทำงานกับเจ้านายโดยตรง เจ้านาย ทำธุรกิจหลายอย่าง และมีลูกน้องหลายที่
ข้อตกลงการทำงานตอนแรก คือเราประสานงานให้กับช่าง ทำใบเสนอราคา เปิดบิล (บิลเงินสดธรรมดา) และออกใบสั่งซื้อ บ้าง ในกรณีช่างสั่งของ และคอยดูบัญชีเงิน ตามยอดเงินที่ไปติดตั้งงาน ประสานงานกับลูกค้า และออกบิลส่งของ (เจ้านายทำธุรกิจส่งของให้ห้างดังด้วยค่ะ) และหยุดทุกนักขัตฯ ซึ่งแรกๆ ไม่มีอะไรโอเคมาก เข้างาน 08.30-17.00 น. มีบางวันที่เรากลับช้าบ้าง กลับตรงบ้างอยู่กับที่แฟนจะมารับกี่โมง แต่หลังๆ เริ่มมีคำพูด ว่าทำไมกลับเร็วตรงเป๊ะๆ บางวันกลับช้าก็จะมีคำพูดว่ากลับช้าจัง บลาๆ ที่เรารู้สึกไม่โอเค และเราสังเกตุว่า งานมันเริ่มไม่เป็นอย่างที่ตกลง
ด้วยความที่ เจ้านายทำธุรกิจหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ " ร้านอาหาร " ซึ่งปกติ ร้านอาหารจะอยู่อีกที่ค่ะ แต่ไม่ไกลกันมาก ที่ร้านอาหาร หมดสัญญาเช่า ทางเจ้านายเล็งเห็นว่า ที่ออฟฟิศ มีหลายคูหา เลยมาเปิดที่เดียวกัน ตอนแรกไม่มีอะไรน่าห่วงค่ะ แต่พอเปิดจริงๆ เกิดปัญหา คนไม่พอ เพราะที่ร้านอาหารคนออกบ่อยมาก บ่อยจนงงว่าคนทำไมออกเยอะ จนเรามารู้จากคนที่ออกไปแล้วค่ะ
คนที่ลาออกมาเล่าทุกเรื่องให้ฟัง และเล่ายันคนที่เคยทำงานตำแหน่งเราคนเก่า เล่าประมาณว่า วันหยุด ไม่ให้แอดมินคนเก่าหยุด วันหยุดประจำสัปดาห์ นักขัติฯก็ห้ามหยุด ต้องทำงานเกินหน้าที่ไปมากมาย เป็นแอดมิน แต่ต้องไปส่งของ ทำของเอง ทั้งขายกาแฟ แปะฉลากสินค้า ขายอาหารให้ด้วย งานแอดมินก็ต้องทำ ตอนแรกเราไม่ค่อยเชื่อนะคะ แต่เราไปรื้อเอกสารเก่า จึงเห็นว่า เออจริงนะ เค้าไปส่งจริง ส่งรถของตัวเองด้วย ไม่ใช่รถของทางบริษัทแต่อย่างใด ได้แต่ค่าน้ำมัน เราก็เก็บข้อมูลและไม่พูดอะไรออกไปเลย
พอมาเปิดร้านอาหารจริงๆ ก่อนเปิด1วัน ได้ประชุม และบอกว่า เราต้องไปช่วยร้านอาหาร ช่วยเสิร์ฟ หรือเข้าไปเตรียมของในครัว (ถ้าจำเป็น) ตอนนั้นใจแป้วเลยค่ะ เพราะต้องเหนื่อยแน่เลย หลังจากวันนั้น เจ้านายให้เรามาช่วย 3วัน จันทร์, พุธ, ศุกร์ ให้เราเอาแลปท๊อปมาทำงานที่ร้านอาหารเลย ไม่ต้องเดินไปเดินมาที่ออฟฟิศ (ร้านอาหารกับส่วนออฟฟิศห่างแค่ประตูกั้น) ซึ่งเราแทบไม่ได้ทำงานตัวเองเลยค่ะ ทำแต่งานร้านอาหารอย่างเดียว เหนื่อยมากกกกกกกกกกกกกกก บางวันเราก็ต้องทำงานเราด้วย เพราะต้องคอยตามใบเสนอราคาลูกค้า ตามช่าง ตามออเดอร์ ซึ่งเจ้านายบ่นหนักมาก ว่า "มาช่วยกันก่อนงานอื่นอะทีหลัง เอางานที่ได้ตังก่อน" แม่เจ้า งงมากจ้า เราได้แต่ อิหยังว่ะนี่ เพราะตกลงกันไม่ใช่แบบนี้ และที่พีคคือ ให้เราไปล้างจาน เพราะคนขาด ล้างคือล้างทั้งวัน ทั้งวันจริงๆ วันนั้นที่เราล้างจาน เรารอแฟนมารับกลับบ้าน แฟนมารับช้าค่ะ เรานั่งเล่นมือถือ รอเวลา เจ้านายเดินมาพูดใส่เรา ว่า "แฟนยังไม่มารับหรอ ทำไมไม่มีน้ำใจไปช่วยฝั่งร้านอาหารบ้างหละ มัวแต่มาเล่นมือถือ ดีจริงๆ" มาถามหาน้ำใจกับเราค่ะ ว่าซ่านนนน งึดเลย เราเดินขาแทบลาก เวลาเลิกงานแท้ๆ ยังต้องไปช่วยหรอ พอหลังจากวันนั้น เราลงประกาศหางาน ก็มีคนมาสมัคร และทางร้านก็รับเลย ซื่งเราโล่งมากกก โล่งใจสุดๆ 5555
หลังจาก การทำงานที่ร้านอาหาร และคนครบแล้ว ก็ใกล้วันตรุษจีน เราขอลากิจ 1วัน วันที่11/2/64 ซึ่งเราขอไปไหว้ตรุษจีนกับครอบครัว ซึ่งร้านอาหารหยุด2วัน วันที่ 10-11/2/64 ซึ่งก่อนหยุด เราวางแผนว่า เราจะไม่รับงานวันที่ 11 เลย เราอยากให้ช่างเราได้หยุดบ้าง (ช่างไม่มีวันหยุดนะคะ ทำงาน 365วัน ถ้วน แต่ส่วนมากวันอาทิตย์ เราจะไม่ดิวงานวันนั้น ให้ช่างได้พักผ่อน แต่ถ้างานต่อเนื่องจริงๆ จะให้ทำวันหยุดค่ะ) เราลา เราโดนหักตังนะคะ และเราได้นัดแฟนนัดแม่ไว้ เขียนใบลาอะไรเสร็จสรรพ พอกลับมาวันที่ 12 เราได้คุยกับเจ้านาย ว่าวันที่ 26/2/64 ตรงกับวันหยุดนักขัตฯ จะหยุดค่ะ เพราะเราทำงานแบบพนักงานออฟฟิศ เรามีวันหยุดตามนี้ ซึ่งช่างหรือคนอื่น รับรู้ค่ะ แต่พอเราพูด กลับมีคำพูดสวนมาว่า " จะเอาทุกเทศกาลเลยหรอ งานศพแม่เพื่อนก็ไป ตรุษจีนก็ไหว้ นี่จะไปทำบุญใหญ๋อีก เกินไปหรือเปล่า ไม่ต้องหยุดหรอก มาทำงาน" (งานศพแม่เพื่อน เราไปหลังเลิกงานค่ะ ไม่ได้ลาไปอะไรทั้งนั้น)
ที่ระบายมาข้างต้น ยังไม่รวมนิสัยที่แย่ๆ อีกหลายๆอย่าง ด่าเหมารวมในไลน์กรุ๊บมั้ง ไม่เคยให้กำลังใจลูกน้อง จ้องแต่จะหักตังอย่างเดียวอีกนะคะ เยอะแยะไปหมด บางอย่างเราปล่อยได้เราปล่อยนะคะ ถือว่าเราเป็นลูกน้อง จนลูกน้องแทบทุกคน ไม่รับสายแกเลยเวลาแกโทรหา ถ้ารับเร็วก็จะถาม ทำอะไรทำไมรับเร็ว และไม่ให้ใช้มือถือในเวลางาน อันนี้เราพอรู้บ้าง แต่สั่งงานในไลน์อย่างเดียวค่ะ 55555 งงจัง
เราหางานใหม่รอแล้วค่ะ ไม่รอให้อะไรแย่ลงไปกว่านี้ ไม่อยากมานั่งทุกข์ใจเรื่องไม่เป็นเรื่อง เราจะลองคุยกับเจ้านายอีกที ถ้าไม่เป็นไปอย่างที่หวัง เราลาออกค่ะ
ขอบคุณที่รับฟังนะคะ