สวัสดีค่ะ เรามีเรื่องอยากจะมาขอคำแนะนำหรือความคิดเห็นจากเพื่อนๆ พี่น้องชาวพันทิป
แต่ก่อนอื่นเราคงต้องขอเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ทุกท่านได้รับรู้ก่อนว่ามันมีที่มาที่ไปอย่างไร
เราอายุ 24 ค่ะ เรียนจบทำงานแล้ว ส่วนแฟนเราอายุ 25 เราสองคนเริ่มคบกันมาตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคมของปีที่แล้ว
แฟนเราเป็นคนหน้าตาดีค่ะ จัดว่าหล่อเลยทีเดียว ส่วนเราเป็นผู้หญิงผิวขาวหน้าหมวย ดูรวมๆแล้วก็ธรรมดา
แรกๆ ที่คบกันเราก็แอบกังวลนิดหน่อยกลัวจะเจอคนเจ้าชู้ แต่เท่าที่สังเกตดูเขาก็ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง ทำอะไรตรวจสอบได้ตลอด แถมยังเป็นคนขี้หึง อารมณ์รุนแรงพอสมควร
ขนาดเราดูซีรีส์เกาหลีแล้วชมพระเอกว่าหล่อเขาก็ยังแสดงออกชัดเจนว่าไม่พอใจ เราก็เลยไว้ใจเขาในที่สุดค่ะ
จนมาช่วงเดือนธันวาคมของปีที่ผ่านมา เรากลับไปหาพ่อแม่ที่ต่างจังหวัด แฟนก็โทรมาบอกว่าจะไปงานวันเกิดเพื่อน คืนนี้คงไม่ได้เฟสไทม์หาเพราะคงเมาแล้วกลับดึก
(ปกติเวลาไม่ได้อยู่ด้วยกันเรากับแฟนจะเฟสไทม์คุยกันก่อนนอนทุกคืนค่ะ) เราก็โอเค ไม่ได้ห้ามอะไรแค่บอกให้เค้าระวังตัวอย่าเมามากเพราะต้องขับรถกลับเอง
คืนนั้นด้วยความที่เป็นห่วงเขา เราเลยโทรไปหาอีกทีก่อนเข้านอนช่วงเกือบๆ ตีสามเพื่อดูว่าเขาถึงบ้านปลอดภัยไหม แต่เขาไม่รับสายค่ะ เราโทรซ้ำไปอีกสามรอบ จนรอบที่สี่ถึงมีคนรับ เป็นเสียงผู้หญิง
คนที่รับสายบอกว่าเป็นเพื่อนสมัยมัธยมของแฟนเรา ตอนนี้แฟนเราเมามาก เค้าเลยขับรถมาส่งที่คอนโด เราเองก็ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรค่ะ เพราะอีกฝ่ายตอนพูดก็ทักทายเราดีว่าเป็นแฟนเจมส์ใช่ไหม?(แฟนเราชื่อเจมส์)
ไม่ต้องห่วงเขาจะไปส่งเจมส์ให้ เราก็ขอบคุณเค้าแล้วก็วางสายไปค่ะ
หลังจากวันนั้น พอเรากลับมากรุงเทพ ทุกอย่างก็ดูปกติ จนกระทั่งวันหนึ่งเรานัดแฟนทานมื้อค่ำที่ร้านประจำ พอใกล้ถึงเวลานัดแฟนก็โทรมาบอกว่าเพื่อนเค้าขอมาด้วย
เราก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร เพื่อนแฟนเราคนนี้ชื่อดาค่ะ พอได้คุยกันตอนนั่งทานข้าวเราถึงได้รู้ว่าดาคือคนที่รับสายเราคืนนั้น ดาเป็นคนคุยเก่ง ดูเป็นผู้หญิงคล่องตัว
เธอบอกว่าเป็นเพื่อนกับแฟนเรามาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม แต่เราสังเกตว่าระหว่างร่วมโต๊ะกันส่วนมากจะมีแค่เรากับดาที่พูด แฟนเราจะเอาแต่นั่งนิ่งเงียบอย่างเดียว
ตอนสั่งอาหาร เราสั่งปลากระพงนึ่งมะนาวที่แฟนเราเคยบอกว่าชอบ ดารีบห้ามแล้วบอกกับเราว่าเจมส์ไม่ชอบกินปลา เราก็งง เพราะมากี่ครั้งเราสั่งจานนี้แฟนก็บอกว่าอร่อย
เราก็บอกดาไปว่าเจมส์ก็ชอบกินเมนูนี้นะ ดาหันไปถามแฟนเราค่ะว่าเดี๋ยวนี้กินปลาได้แล้วเหรอ แฟนเรามองหน้าเราแล้วตอบแบบอ้อมแอ้มว่าก็ไม่ได้ชอบกินเท่าไหร่
เราอึ้งไปค่ะ พูดอะไรไม่ออก แล้วตลอดมื้ออาหารนั้นดาจะพยายามแสดงออกว่าเธอรู้จักแฟนเราดีกว่าเราตลอด ไม่ว่าจะเรื่องอาหาร ความชอบ เธอทำให้เรารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนนอก
แต่เราก็อดทนและพยายามคิดในแง่ดีว่าคงไม่มีอะไร เธอก็คงเป็นคนนิสัยแบบนี้ ไม่ได้มีเจตนาร้าย
หลังจากวันนั้นเรากับแฟนเจอกันน้อยลง แฟนมักจะอ้างเรื่องงานอยู่เสมอ เราเองก็วุ่นวายกับงานตัวเองด้วยก็เลยไม่ได้ไปติดใจสงสัยอะไร คิดแค่ว่าโตๆกันแล้วก็ควรให้เวลากัน เพราะต่างคนก็ต่างมีภาระ ว่างเมื่อไหร่ค่อยเจอก็ได้
แต่ถึงจะนัดเจอกันเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้ว พอถึงเวลาแฟนก็จะขอยกเลิกนัดอยู่ร่ำไป นัดกันสิบครั้งจะมีแต่ครั้งสองครั้งที่ได้เจอ
จนกระทั่งวันหนึ่งแฟนเรามาบอกว่าจะต้องไปภูเก็ตเรื่องงานช่วงสุดสัปดาห์ เราก็ไม่ได้ถามอะไรมากค่ะ แต่คืนนั้นพอเราเข้าไปดูไอจีของแฟน เขาอัพโหลดวีดีโอตอนกินอาหารมื้อค่ำ เราก็ยังเข้าไปเม้นว่าร้านสวยจัง
พักนึงก็มีคนมาเม้นต่อเป็นอีโมจิรูปหัวใจ เราก็เลยกดเข้าไปดู เป็นไอจีของดาค่ะ ซึ่งตอนแรกก็ไม่มีอะไรน่าสงสัย จนกระทั่งเรากดเข้าไปดูสตอรี่ของอีกฝ่าย เราถึงเห็นว่าทั้งสองคนอยู่ร้านเดียวกัน สตอรี่ของดาคือเหมือนพยายามจะไม่ถ่ายให้ติดแฟนเราตรงๆ
แต่เราจำนาฬิกาข้อมือของแฟนที่เราเป็นคนซื้อให้ได้ค่ะ ตอนนั้นหัวเรามึนไปหมด คิดอะไรไม่ออก แต่ก็ยังคิดในแง่ดีว่าทั้งสองเป็นเพื่อนกันมานาน คงไม่มีอะไรหรอก ก็คงเรื่องงานจริงๆถึงไปด้วยกัน
เราเริ่มรู้สึกแปลกๆ แต่ด้วยความไว้ใจเลยไม่คิดจะถามหรือคาดคั้นอะไรกับแฟน จนกระทั่งเมื่อปลายเดือนมกราที่ผ่านมา ทุกอย่างก็มาถึงจุดที่เราไม่อาจจะหลอกตัวเองได้อีก
เรื่องของเรื่องคือวันนั้นเราต้องใช้ไอแพดเพื่อพรีเซนต์งาน แล้วไอแพดของเราแฟนยืมไปตั้งแต่เมื่อต้นเดือน วันนั้นเป็นวันธรรมดาเราก็คิดว่าแฟนคงจะออกไปทำงานแล้ว ก็เลยถือวิสาสะเข้าไปเอาไอแพดที่คอนโดของเขาเอง
เรามีคีย์การ์ดและกุญแจห้องเขาค่ะ เขาก็มีของเราเช่นกัน พอไปถึงไขประตูห้องเข้าไป เราก็แปลกใจว่าทำไมแอร์ถึงเปิดทิ้งเอาไว้ พอเข้าไปที่ห้องนอนก็เจอแฟนยังนอนอยู่
ตอนแรกเราคิดว่าเขาไม่สบายเลยลาหยุด แต่พอมองไปที่ถังขยะข้างเตียง เราเจอเศษซองถุงยางกับถุงยางใช้แล้วทิ้งอยู่ในนั้น วินาทีนั้นเราหน้าชาตัวชา ทำอะไรไม่ถูกเลยค่ะ เราเอากระเป๋าถือฟาดแฟนที่นอนหลับอยู่จนเขาสะดุ้งตื่นขึ้นมา
เขายังไม่สวมเสื้อผ้าเลยด้วยซ้ำ เราร้องไห้แล้วถามว่าเขาทำแบบนี้ได้ยังไง เขาก็ไม่ยอมพูดอะไรเอาแต่บอกให้เราใจเย็นๆ เราถามว่าเขานอนกับใครเมื่อคืนนี้ เขาก็ไม่ยอมพูด
เรายิ่งโกรธค่ะ เราควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้วตอนนั้น สุดท้ายเราก็ออกมาทิ้งเค้าไว้ที่คอนโด เค้าพยายามโทรหาแต่เราไม่รับสาย เรายังไม่พร้อมจะคุยกับเขาตอนนั้น
เย็นวันนั้นดาโทรมาหาเราและเล่าทุกอย่าง ดาบอกว่าแฟนเราหลงรักเธอมาตั้งแต่สมัยเรียน แต่ตอนนั้นเธอปฏิเสธเขาไป จนกระทั่งงานวันเกิดพอไปส่งแฟนเราที่คอนโด ด้วยความเมาทุกอย่างก็เลยเถิดไปจนมีอะไรกัน
หลังจากวันนั้นทั้งสองก็แอบติดต่อพบเจอกันมาตลอด แฟนเราพยายามจะสานสัมพันธ์กับดา จนกระทั่งเมื่ออาทิตย์ก่อนแฟนเราก็บอกกับดาว่าถ้ายอมตกลงคบกัน เขาจะเลิกกับเราแล้วมาเริ่มต้นกับดาทันที
ดาบอกว่าที่โทรมาเพราะไม่อยากให้เราต้องโง่มากไปกว่านี้ ดาบอกว่าเธอเองก็อยากจะให้โอกาสเจมส์ แต่เจมส์ก็ดูลำบากใจที่จะบอกเลิกเรา เธอเลยอยากจะให้เราเป็นฝ่ายถอยไปเอง
เราวางสายจากดาไป แฟนเราก็มาหาถึงที่คอนโด เราเล่าให้เค้าฟังทุกอย่างว่าดาโทรมาบอกอะไรบ้าง เค้าอึ้งไปพักหนึ่งก่อนจะบอกว่าเค้าจะไม่เลิกกับเรา ขอให้เราให้โอกาสเค้า เราเลยบอกเค้าไปว่าถ้าเราให้โอกาส แล้วเค้าจะเลิกติดต่อกับดาได้ไหม?
เขานิ่งไปค่ะเหมือนคิดหนัก แต่ก็บอกว่าคงเลิกติดต่อไปเลยไม่ได้เพราะยังไงก็เป็นเพื่อนคบกันมานาน แต่สัญญาว่าจะไม่มีอะไรกับดาอีก เขาทั้งสัญญาทั้งสาบานสารพัด ถึงกับกราบเท้าเราขอโอกาสเริ่มใหม่
เราฟังไปก็ร้องไห้ไป เรารักเขามาก อาจฟังดูโง่แต่ถึงขนาดนี้แล้วเราก็ยังแอบอยากจะให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมอยู่ เราควรทำยังไงดีคะ ถ้ายอมคืนดีกับแฟน เราจะทำยังไงได้บ้างให้มั่นใจว่าเขาจะไม่กลับไปมีความสัมพันธ์แบบนั้นกับดาอีก
หรือเราควรจะเลิกกับเขาให้เด็ดขาดไปเลย
เมื่อเพื่อนแฟนกลายมาเป็นมือที่สาม เราควรทำยังไงต่อดีคะ
แต่ก่อนอื่นเราคงต้องขอเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ทุกท่านได้รับรู้ก่อนว่ามันมีที่มาที่ไปอย่างไร
เราอายุ 24 ค่ะ เรียนจบทำงานแล้ว ส่วนแฟนเราอายุ 25 เราสองคนเริ่มคบกันมาตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคมของปีที่แล้ว
แฟนเราเป็นคนหน้าตาดีค่ะ จัดว่าหล่อเลยทีเดียว ส่วนเราเป็นผู้หญิงผิวขาวหน้าหมวย ดูรวมๆแล้วก็ธรรมดา
แรกๆ ที่คบกันเราก็แอบกังวลนิดหน่อยกลัวจะเจอคนเจ้าชู้ แต่เท่าที่สังเกตดูเขาก็ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง ทำอะไรตรวจสอบได้ตลอด แถมยังเป็นคนขี้หึง อารมณ์รุนแรงพอสมควร
ขนาดเราดูซีรีส์เกาหลีแล้วชมพระเอกว่าหล่อเขาก็ยังแสดงออกชัดเจนว่าไม่พอใจ เราก็เลยไว้ใจเขาในที่สุดค่ะ
จนมาช่วงเดือนธันวาคมของปีที่ผ่านมา เรากลับไปหาพ่อแม่ที่ต่างจังหวัด แฟนก็โทรมาบอกว่าจะไปงานวันเกิดเพื่อน คืนนี้คงไม่ได้เฟสไทม์หาเพราะคงเมาแล้วกลับดึก
(ปกติเวลาไม่ได้อยู่ด้วยกันเรากับแฟนจะเฟสไทม์คุยกันก่อนนอนทุกคืนค่ะ) เราก็โอเค ไม่ได้ห้ามอะไรแค่บอกให้เค้าระวังตัวอย่าเมามากเพราะต้องขับรถกลับเอง
คืนนั้นด้วยความที่เป็นห่วงเขา เราเลยโทรไปหาอีกทีก่อนเข้านอนช่วงเกือบๆ ตีสามเพื่อดูว่าเขาถึงบ้านปลอดภัยไหม แต่เขาไม่รับสายค่ะ เราโทรซ้ำไปอีกสามรอบ จนรอบที่สี่ถึงมีคนรับ เป็นเสียงผู้หญิง
คนที่รับสายบอกว่าเป็นเพื่อนสมัยมัธยมของแฟนเรา ตอนนี้แฟนเราเมามาก เค้าเลยขับรถมาส่งที่คอนโด เราเองก็ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรค่ะ เพราะอีกฝ่ายตอนพูดก็ทักทายเราดีว่าเป็นแฟนเจมส์ใช่ไหม?(แฟนเราชื่อเจมส์)
ไม่ต้องห่วงเขาจะไปส่งเจมส์ให้ เราก็ขอบคุณเค้าแล้วก็วางสายไปค่ะ
หลังจากวันนั้น พอเรากลับมากรุงเทพ ทุกอย่างก็ดูปกติ จนกระทั่งวันหนึ่งเรานัดแฟนทานมื้อค่ำที่ร้านประจำ พอใกล้ถึงเวลานัดแฟนก็โทรมาบอกว่าเพื่อนเค้าขอมาด้วย
เราก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร เพื่อนแฟนเราคนนี้ชื่อดาค่ะ พอได้คุยกันตอนนั่งทานข้าวเราถึงได้รู้ว่าดาคือคนที่รับสายเราคืนนั้น ดาเป็นคนคุยเก่ง ดูเป็นผู้หญิงคล่องตัว
เธอบอกว่าเป็นเพื่อนกับแฟนเรามาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม แต่เราสังเกตว่าระหว่างร่วมโต๊ะกันส่วนมากจะมีแค่เรากับดาที่พูด แฟนเราจะเอาแต่นั่งนิ่งเงียบอย่างเดียว
ตอนสั่งอาหาร เราสั่งปลากระพงนึ่งมะนาวที่แฟนเราเคยบอกว่าชอบ ดารีบห้ามแล้วบอกกับเราว่าเจมส์ไม่ชอบกินปลา เราก็งง เพราะมากี่ครั้งเราสั่งจานนี้แฟนก็บอกว่าอร่อย
เราก็บอกดาไปว่าเจมส์ก็ชอบกินเมนูนี้นะ ดาหันไปถามแฟนเราค่ะว่าเดี๋ยวนี้กินปลาได้แล้วเหรอ แฟนเรามองหน้าเราแล้วตอบแบบอ้อมแอ้มว่าก็ไม่ได้ชอบกินเท่าไหร่
เราอึ้งไปค่ะ พูดอะไรไม่ออก แล้วตลอดมื้ออาหารนั้นดาจะพยายามแสดงออกว่าเธอรู้จักแฟนเราดีกว่าเราตลอด ไม่ว่าจะเรื่องอาหาร ความชอบ เธอทำให้เรารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนนอก
แต่เราก็อดทนและพยายามคิดในแง่ดีว่าคงไม่มีอะไร เธอก็คงเป็นคนนิสัยแบบนี้ ไม่ได้มีเจตนาร้าย
หลังจากวันนั้นเรากับแฟนเจอกันน้อยลง แฟนมักจะอ้างเรื่องงานอยู่เสมอ เราเองก็วุ่นวายกับงานตัวเองด้วยก็เลยไม่ได้ไปติดใจสงสัยอะไร คิดแค่ว่าโตๆกันแล้วก็ควรให้เวลากัน เพราะต่างคนก็ต่างมีภาระ ว่างเมื่อไหร่ค่อยเจอก็ได้
แต่ถึงจะนัดเจอกันเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้ว พอถึงเวลาแฟนก็จะขอยกเลิกนัดอยู่ร่ำไป นัดกันสิบครั้งจะมีแต่ครั้งสองครั้งที่ได้เจอ
จนกระทั่งวันหนึ่งแฟนเรามาบอกว่าจะต้องไปภูเก็ตเรื่องงานช่วงสุดสัปดาห์ เราก็ไม่ได้ถามอะไรมากค่ะ แต่คืนนั้นพอเราเข้าไปดูไอจีของแฟน เขาอัพโหลดวีดีโอตอนกินอาหารมื้อค่ำ เราก็ยังเข้าไปเม้นว่าร้านสวยจัง
พักนึงก็มีคนมาเม้นต่อเป็นอีโมจิรูปหัวใจ เราก็เลยกดเข้าไปดู เป็นไอจีของดาค่ะ ซึ่งตอนแรกก็ไม่มีอะไรน่าสงสัย จนกระทั่งเรากดเข้าไปดูสตอรี่ของอีกฝ่าย เราถึงเห็นว่าทั้งสองคนอยู่ร้านเดียวกัน สตอรี่ของดาคือเหมือนพยายามจะไม่ถ่ายให้ติดแฟนเราตรงๆ
แต่เราจำนาฬิกาข้อมือของแฟนที่เราเป็นคนซื้อให้ได้ค่ะ ตอนนั้นหัวเรามึนไปหมด คิดอะไรไม่ออก แต่ก็ยังคิดในแง่ดีว่าทั้งสองเป็นเพื่อนกันมานาน คงไม่มีอะไรหรอก ก็คงเรื่องงานจริงๆถึงไปด้วยกัน
เราเริ่มรู้สึกแปลกๆ แต่ด้วยความไว้ใจเลยไม่คิดจะถามหรือคาดคั้นอะไรกับแฟน จนกระทั่งเมื่อปลายเดือนมกราที่ผ่านมา ทุกอย่างก็มาถึงจุดที่เราไม่อาจจะหลอกตัวเองได้อีก
เรื่องของเรื่องคือวันนั้นเราต้องใช้ไอแพดเพื่อพรีเซนต์งาน แล้วไอแพดของเราแฟนยืมไปตั้งแต่เมื่อต้นเดือน วันนั้นเป็นวันธรรมดาเราก็คิดว่าแฟนคงจะออกไปทำงานแล้ว ก็เลยถือวิสาสะเข้าไปเอาไอแพดที่คอนโดของเขาเอง
เรามีคีย์การ์ดและกุญแจห้องเขาค่ะ เขาก็มีของเราเช่นกัน พอไปถึงไขประตูห้องเข้าไป เราก็แปลกใจว่าทำไมแอร์ถึงเปิดทิ้งเอาไว้ พอเข้าไปที่ห้องนอนก็เจอแฟนยังนอนอยู่
ตอนแรกเราคิดว่าเขาไม่สบายเลยลาหยุด แต่พอมองไปที่ถังขยะข้างเตียง เราเจอเศษซองถุงยางกับถุงยางใช้แล้วทิ้งอยู่ในนั้น วินาทีนั้นเราหน้าชาตัวชา ทำอะไรไม่ถูกเลยค่ะ เราเอากระเป๋าถือฟาดแฟนที่นอนหลับอยู่จนเขาสะดุ้งตื่นขึ้นมา
เขายังไม่สวมเสื้อผ้าเลยด้วยซ้ำ เราร้องไห้แล้วถามว่าเขาทำแบบนี้ได้ยังไง เขาก็ไม่ยอมพูดอะไรเอาแต่บอกให้เราใจเย็นๆ เราถามว่าเขานอนกับใครเมื่อคืนนี้ เขาก็ไม่ยอมพูด
เรายิ่งโกรธค่ะ เราควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้วตอนนั้น สุดท้ายเราก็ออกมาทิ้งเค้าไว้ที่คอนโด เค้าพยายามโทรหาแต่เราไม่รับสาย เรายังไม่พร้อมจะคุยกับเขาตอนนั้น
เย็นวันนั้นดาโทรมาหาเราและเล่าทุกอย่าง ดาบอกว่าแฟนเราหลงรักเธอมาตั้งแต่สมัยเรียน แต่ตอนนั้นเธอปฏิเสธเขาไป จนกระทั่งงานวันเกิดพอไปส่งแฟนเราที่คอนโด ด้วยความเมาทุกอย่างก็เลยเถิดไปจนมีอะไรกัน
หลังจากวันนั้นทั้งสองก็แอบติดต่อพบเจอกันมาตลอด แฟนเราพยายามจะสานสัมพันธ์กับดา จนกระทั่งเมื่ออาทิตย์ก่อนแฟนเราก็บอกกับดาว่าถ้ายอมตกลงคบกัน เขาจะเลิกกับเราแล้วมาเริ่มต้นกับดาทันที
ดาบอกว่าที่โทรมาเพราะไม่อยากให้เราต้องโง่มากไปกว่านี้ ดาบอกว่าเธอเองก็อยากจะให้โอกาสเจมส์ แต่เจมส์ก็ดูลำบากใจที่จะบอกเลิกเรา เธอเลยอยากจะให้เราเป็นฝ่ายถอยไปเอง
เราวางสายจากดาไป แฟนเราก็มาหาถึงที่คอนโด เราเล่าให้เค้าฟังทุกอย่างว่าดาโทรมาบอกอะไรบ้าง เค้าอึ้งไปพักหนึ่งก่อนจะบอกว่าเค้าจะไม่เลิกกับเรา ขอให้เราให้โอกาสเค้า เราเลยบอกเค้าไปว่าถ้าเราให้โอกาส แล้วเค้าจะเลิกติดต่อกับดาได้ไหม?
เขานิ่งไปค่ะเหมือนคิดหนัก แต่ก็บอกว่าคงเลิกติดต่อไปเลยไม่ได้เพราะยังไงก็เป็นเพื่อนคบกันมานาน แต่สัญญาว่าจะไม่มีอะไรกับดาอีก เขาทั้งสัญญาทั้งสาบานสารพัด ถึงกับกราบเท้าเราขอโอกาสเริ่มใหม่
เราฟังไปก็ร้องไห้ไป เรารักเขามาก อาจฟังดูโง่แต่ถึงขนาดนี้แล้วเราก็ยังแอบอยากจะให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมอยู่ เราควรทำยังไงดีคะ ถ้ายอมคืนดีกับแฟน เราจะทำยังไงได้บ้างให้มั่นใจว่าเขาจะไม่กลับไปมีความสัมพันธ์แบบนั้นกับดาอีก
หรือเราควรจะเลิกกับเขาให้เด็ดขาดไปเลย