สวัสดีครับ ผมเป็นครูอยู่แถวชายขอบจังหวัดหนึ่งทางภาคอีสาน บรรจุมาประมาณสามปีแล้วครับ โรงเรียนผมเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ที่โรงเรียนมีครูเจ็ดคน มีนักเรียนประมาณแปดสิบคน ผมสอนชั้นป.๖ ผมเป็นครูผู้ชายเพียงคนเดียวที่ต้องทำแทบทุกอย่าง นักเรียนแถวนี้ส่วนใหญ่ยากจน บางคนอาศัยอยู่กับญาติ บางคนมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เด็กบางส่วนที่จบไปก็ไม่ได้ศึกษาต่อ บางคนต้องขาดเรียนออกไปทำงานรับจ้าง มีเด็กคนนึงเป็นชาวลาว อาศัยอยู่กับพ่อ พ่อป่วยเป็นโรคไต บางวันหลังเลิกเรียนผมก็ต้องออกไปเยี่ยม ไปดูแลเวลาน้องเขาฉีดยาให้พ่อ ต้องเอาหนังสือ แบบฝึกหัดไปสอนด้วย แต่เรื่องเหล่านี้ผมเต็มใจช่วยนะ
แต่ที่หนักสุดคือบางคนไปเป็นเด็กส่งยา เพราะสภาพแวดล้อมแถวนั้นคือ เด็กที่จบไป ส่วนหนึ่งไม่ได้ศึกษาต่อ ต้องเร่ร่อน รับจ้างกับพ่อแม่ อาศัยเรียนต่อกศน.เอา บ้างก็ติดยาเสพติด บางวันพอไม่มีที่ไปก็มาชักชวนให้เด็กในโรงเรียนออกไปเป็นพวก ไม่ก็มาทะเลาะดักตีกันหลังเลิกเรียน ครูอย่างเราก็เข้าไปห้าม บางครั้งโดนเด็กเหล่านี้ด่าหยาบคายกลับมา รู้สึกเจ็บปวดใจมาก เวลาเห็นลูกศิษย์ของตัวเองที่เคยอบรมพร่ำสอน ต้องจบออกไปแล้วไปติดยาทำสิ่งผิดกฏหมาย ผมพยายามออกเยี่ยมบ้านนักเรียนบ่อยๆ เพื่อติดตามพฤติกรรมและสอดส่องดูแลความเป็นอยู่ของนักเรียน ติดต่อหานักสังคมสงเคราะห์ของจังหวัด หาทุนจากที่ต่าง ๆ หาที่เรียนต่อให้กับนักเรียน เพราะไม่อยากให้พวกเค้าเหล่านี้มีชีวิตความเป็นอยู่แบบไม่มีอนาคต
ชีวิตทุกวันนี้บางครั้งมีความสุขนะ เราได้ทำหน้าที่ที่เรารัก ได้เห็นพัฒนาการของพวกเค้า แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ได้เห็นเค้าเติบโต แต่อีกใจนึงก็รู้สึกท้อแท้เหลือเกิน อาจจะเป็นเพราะเราคาดหวังกับพวกเขาไว้ ว่าอย่างน้อย ๆ การได้เรียนหนังสือ ได้มีวิชาความรู้ติดตัว จะทำให้อนาคตพวกเค้ามีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ วันนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เราร้องไห้ต่อหน้านักเรียน ทั้งอบรมไป ร้องไห้ไป เหตุเพราะเด็กวัยรุ่นที่จบไปมาทำร้ายเด็กเราตอนพักกินข้าว ซึ่งทั้งสองก็เคยเป็นลูกศิษย์เรามาก่อน เรารู้สึกเศร้า รู้สึกแย่ เราอยากให้พวกเค้ามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้ มีอนาคตที่สดใส ไม่ต้องมามีชีวิตวน ๆ อยู่แค่นี้
ปล. แท็กผิดยังไง กราบขอโทษขออภัยด้วยนะครับ
รู้สึกท้อใจในการเป็นครู
ชีวิตทุกวันนี้บางครั้งมีความสุขนะ เราได้ทำหน้าที่ที่เรารัก ได้เห็นพัฒนาการของพวกเค้า แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ได้เห็นเค้าเติบโต แต่อีกใจนึงก็รู้สึกท้อแท้เหลือเกิน อาจจะเป็นเพราะเราคาดหวังกับพวกเขาไว้ ว่าอย่างน้อย ๆ การได้เรียนหนังสือ ได้มีวิชาความรู้ติดตัว จะทำให้อนาคตพวกเค้ามีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ วันนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เราร้องไห้ต่อหน้านักเรียน ทั้งอบรมไป ร้องไห้ไป เหตุเพราะเด็กวัยรุ่นที่จบไปมาทำร้ายเด็กเราตอนพักกินข้าว ซึ่งทั้งสองก็เคยเป็นลูกศิษย์เรามาก่อน เรารู้สึกเศร้า รู้สึกแย่ เราอยากให้พวกเค้ามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้ มีอนาคตที่สดใส ไม่ต้องมามีชีวิตวน ๆ อยู่แค่นี้