บทที่ 3 Dr. David Sinclair – Why We Age and Why We Don’t Have To
https://www.facebook.com/HackYourAgeThailand/posts/107620791097617
หากพูดถึงวิธีการชะลอการแก่ของมนุษย์และสัตว์ทดลอง เราจะพบว่ามี research ที่พูดถึงเรื่องนี้มาอย่างช้านาน แต่หากพูดการย้อนอายุขัยแล้ว ในอดีตแทบไม่มีการพูดเรื่องนี้เลยจนเรามองว่าเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ จนผมได้ฟัง Dr. David Sinclair ซึ่งเป็น Professor จาก Harvard Medical School พูดใน Talks at Google เมื่อวันที่ 23 Sep 2019 (1 ปีที่ผ่านมานี่เอง) ฟังได้ที่ link นี้ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=9nXop2lLDa4&t=1034s
ผมขอสรุปสิ่งที่ Dr. David Sinclair ที่กล่าวใน Google Talk ดังนี้นะครับ
• Dr. Sinclair เปิดตัวด้วยคำถามว่าทำไม เราจึงไม่นิยาม “ความแก่” ว่าเป็นโรคชนิดหนึ่ง ซึ่งเรามีนิยามของการเป็น “โรค” ว่าคือการที่บุคคลเจ็บป่วยหรือสูญเสียความสามารถบางอย่าง ซึ่งตรงนี้ Dr. Sinclair มีความเห็นว่าเราควรจะนิยาม “ความแก่” ว่าคือ “โรค” ชนิดนึง แล้วหาหนทางจัดการหรือว่ารักษามันนั่นเอง
• จากนั้นก็ถามผู้ฟังว่า ใครอยากมีอายุยืนยาวบ้างเช่น 80 ปี, 120 ปี หรือ ตลอดไป ซึ่งก็มีหลายๆคนยกมือ แต่พอถามว่าใครอยากที่จะมีชีวิตที่มีความสุข มีสุขภาพที่ดีเหมือนตอนนี้เมื่อเราอายุ 120 ปีบ้าง ปรากฏว่าคนส่วนใหญ่ต้องการเช่นนี้ Dr. Sinclair จึงบอกว่าที่เราต้องการไม่ใช่เพื่อยืดอายุเรา แต่เพื่อทำยังไงให้เรายังมีชีวิตและสุขภาพที่ดีเมื่อยามเราแก่ต่างหาก
• ปัจจุบันมนุษย์เราพอมีความรู้แล้วว่าอะไรทำให้เราแก่ รวมไปถึงว่าทำอย่างไรที่จะทำให้เราแก่ช้าลง ซึ่งในอดีตเราคิดว่า Oxidation ทำให้เกิดความแก่ แต่ปัจจุบัน เราพบว่าการทาน Antioxidant ไม่ได้มีผลอะไรกับความแก่ของมนุษย์เลย
• ขัอมูลเก่าคือสิ่งที่ทำให้มนุษย์แก่นั้นเกิดจากการที่เราสูญเสียตัวตนของ Gene (lose genetic information) แต่ Dr. Sinclair อธิบายว่า Genome เป็น Digital Information ซึ่งไม่สูญเสียตัวตนง่ายๆ แต่ในทางกลับกัน Epigenome ที่เป็นตัวกำหนดว่าเซลล์ควรจะทำงานอย่างไร (เป็นเซลล์ตับ ,เซลล์สมอง, หรือทำหน้าที่อื่นๆ) ซึ่งเป็น Analog Information ที่สูญเสียการทำงานเมื่อเซลล์แบ่งตัวไปเรื่อยๆนั่นเองที่ทำให้มนุษย์เราแก่ตัวลง
• Dr. Sinclair แสดงตัวอย่างที่ เค้าและทีมงานทำให้หนูทดลองแก่ตัวลงโดยการ scratch epigenome และวัดอายุของหนูทดลองโดยใช้ biological clock ที่สร้างโดย Dr. Steve Horvath ซึ่งเป็นวิธีวัดอายุที่ใช้ machine learning algorithm ที่แม่นยำ ทำการวัด DNA Methylation ซึ่ง Dr. Sinclair กล่าวว่าหากว่าเราสามารถทำให้หนูแก่ตัวลงได้ ทำไมเราน่าจะสามารถทำกลับกันคือทำให้ Biological age goes backward หรือย้อนวัยได้นั่นเอง
• Dr. Sinclair เสนอ ทฤษฎี information theory of aging โดยกล่าวถึง information theory of communication ที่มีการส่งและรับข้อมูลโดยมี observer ซึ่ง Dr. Sinclair เชื่อว่าเราสามารถหาเจ้าตัว observer ในร่างกายเราเพื่อเป็นกุญแจย้อนวัยของเรา โดยได้กล่าวถึง Dr. Yamanaka ที่ได้รางวัล Nobel price จากการสร้างสเต็มเซลล์โดยนำเซลล์ผิวหนังในร่างกายมนุษย์มาลบ DNA Methylation (ศัพท์เทคนิคนิดนึงนะครับ) จาก genome ทำให้เซลล์กลายเป็นสเต็มเซลล์และพัฒนาไปเป็นเซลล์อะไรก็ได้ ซึ่ง process นี้ได้ใช้ Yamanaka factor 4 ตัวคือ O, S, K และ M จากนั้น Dr. Sinclair และทีมงานชื่อ Yuancheng Lu ได้นำเอา O, S, K ไป reset เจ้าตัว observer ในร่างกายได้สำเร็จ โดยได้ทดลองกับเซลล์ประสาทตาของหนูที่แก่ทำให้เซลล์ประสาทตากลับมาหนุ่มและมองเห็นอีกครั้ง!!! ซึ่งการทดลองกับมนุษย์น่าจะใช้เวลาอีกสักพัก
• หากต้องรอการทดลองดังกล่าวอีกนาน แล้วในขณะนี้ เรามารถทำอะไรได้บ้าง? Dr. Sinclair กล่าวถึงโมเลกุลที่ชื่อว่า NMN (ย่อจาก Nicotinamide Mononucleotide) ซึ่งได้แสดงผลการทดลองให้ดูว่า หนูทดลองที่กิน NMN สามารถวิ่งได้เร็วและนานกว่าหนูที่ไม่ได้กิน NMN อย่างมาก ซึ่ง Dr. Sinclair ได้กล่าวว่า NMN จะไปเพิ่มปริมาณสารที่เรียกว่า NAD+ ที่จำเป็นต่อร่างกายมนุษย์ (NAD+ จะลดลงไปประมาณครึ่งนึงเมื่อเราอายุ 50 ปี เมื่อเทียบกับตอนเราอายุ 20 ต้นๆ)
• สุดท้าย Dr. Sinclair กล่าวถึงคุณพ่อของเค้าซึ่งอายุ 70 ปีปลายๆ แต่ยังมีสุขภาพที่ดี โดยดูแลตัวเอง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทานอาหารแบบ IF (Intermittent Fasting) และก็ทาน NMN ด้วย ซึ่งคุณพ่อของ Dr. Sinclair เพิ่งเริ่มอาชีพใหม่ในอายุ 70 กว่าปี เดินทางไปรอบโลก ปีนเขา พายเรือ ใช้ชีวิตแบบ adventure ได้สบาย (Dr. Sinclair กล่าวว่าคุณพ่อมีความฟิตมากกว่าตัวเขาซึ่งอายุ 50 ปีด้วยซ้ำ)
สิ่งที่ Dr. Sinclair ค้นพบ เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมากทีเดียวที่สามารถย้อนอายุของเซลล์ประสาทตาของหนูทดลองได้ ได้แต่หวังว่าเราจะสามารถทดลองกับมนุษย์ได้ในเร็ววันครับ
#HackYourAge
#DavidSinclair
Dr. David Sinclair – Why We Age and Why We Don’t Have To
https://www.facebook.com/HackYourAgeThailand/posts/107620791097617
หากพูดถึงวิธีการชะลอการแก่ของมนุษย์และสัตว์ทดลอง เราจะพบว่ามี research ที่พูดถึงเรื่องนี้มาอย่างช้านาน แต่หากพูดการย้อนอายุขัยแล้ว ในอดีตแทบไม่มีการพูดเรื่องนี้เลยจนเรามองว่าเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ จนผมได้ฟัง Dr. David Sinclair ซึ่งเป็น Professor จาก Harvard Medical School พูดใน Talks at Google เมื่อวันที่ 23 Sep 2019 (1 ปีที่ผ่านมานี่เอง) ฟังได้ที่ link นี้ครับ https://www.youtube.com/watch?v=9nXop2lLDa4&t=1034s
ผมขอสรุปสิ่งที่ Dr. David Sinclair ที่กล่าวใน Google Talk ดังนี้นะครับ
• Dr. Sinclair เปิดตัวด้วยคำถามว่าทำไม เราจึงไม่นิยาม “ความแก่” ว่าเป็นโรคชนิดหนึ่ง ซึ่งเรามีนิยามของการเป็น “โรค” ว่าคือการที่บุคคลเจ็บป่วยหรือสูญเสียความสามารถบางอย่าง ซึ่งตรงนี้ Dr. Sinclair มีความเห็นว่าเราควรจะนิยาม “ความแก่” ว่าคือ “โรค” ชนิดนึง แล้วหาหนทางจัดการหรือว่ารักษามันนั่นเอง
• จากนั้นก็ถามผู้ฟังว่า ใครอยากมีอายุยืนยาวบ้างเช่น 80 ปี, 120 ปี หรือ ตลอดไป ซึ่งก็มีหลายๆคนยกมือ แต่พอถามว่าใครอยากที่จะมีชีวิตที่มีความสุข มีสุขภาพที่ดีเหมือนตอนนี้เมื่อเราอายุ 120 ปีบ้าง ปรากฏว่าคนส่วนใหญ่ต้องการเช่นนี้ Dr. Sinclair จึงบอกว่าที่เราต้องการไม่ใช่เพื่อยืดอายุเรา แต่เพื่อทำยังไงให้เรายังมีชีวิตและสุขภาพที่ดีเมื่อยามเราแก่ต่างหาก
• ปัจจุบันมนุษย์เราพอมีความรู้แล้วว่าอะไรทำให้เราแก่ รวมไปถึงว่าทำอย่างไรที่จะทำให้เราแก่ช้าลง ซึ่งในอดีตเราคิดว่า Oxidation ทำให้เกิดความแก่ แต่ปัจจุบัน เราพบว่าการทาน Antioxidant ไม่ได้มีผลอะไรกับความแก่ของมนุษย์เลย
• ขัอมูลเก่าคือสิ่งที่ทำให้มนุษย์แก่นั้นเกิดจากการที่เราสูญเสียตัวตนของ Gene (lose genetic information) แต่ Dr. Sinclair อธิบายว่า Genome เป็น Digital Information ซึ่งไม่สูญเสียตัวตนง่ายๆ แต่ในทางกลับกัน Epigenome ที่เป็นตัวกำหนดว่าเซลล์ควรจะทำงานอย่างไร (เป็นเซลล์ตับ ,เซลล์สมอง, หรือทำหน้าที่อื่นๆ) ซึ่งเป็น Analog Information ที่สูญเสียการทำงานเมื่อเซลล์แบ่งตัวไปเรื่อยๆนั่นเองที่ทำให้มนุษย์เราแก่ตัวลง
• Dr. Sinclair แสดงตัวอย่างที่ เค้าและทีมงานทำให้หนูทดลองแก่ตัวลงโดยการ scratch epigenome และวัดอายุของหนูทดลองโดยใช้ biological clock ที่สร้างโดย Dr. Steve Horvath ซึ่งเป็นวิธีวัดอายุที่ใช้ machine learning algorithm ที่แม่นยำ ทำการวัด DNA Methylation ซึ่ง Dr. Sinclair กล่าวว่าหากว่าเราสามารถทำให้หนูแก่ตัวลงได้ ทำไมเราน่าจะสามารถทำกลับกันคือทำให้ Biological age goes backward หรือย้อนวัยได้นั่นเอง
• Dr. Sinclair เสนอ ทฤษฎี information theory of aging โดยกล่าวถึง information theory of communication ที่มีการส่งและรับข้อมูลโดยมี observer ซึ่ง Dr. Sinclair เชื่อว่าเราสามารถหาเจ้าตัว observer ในร่างกายเราเพื่อเป็นกุญแจย้อนวัยของเรา โดยได้กล่าวถึง Dr. Yamanaka ที่ได้รางวัล Nobel price จากการสร้างสเต็มเซลล์โดยนำเซลล์ผิวหนังในร่างกายมนุษย์มาลบ DNA Methylation (ศัพท์เทคนิคนิดนึงนะครับ) จาก genome ทำให้เซลล์กลายเป็นสเต็มเซลล์และพัฒนาไปเป็นเซลล์อะไรก็ได้ ซึ่ง process นี้ได้ใช้ Yamanaka factor 4 ตัวคือ O, S, K และ M จากนั้น Dr. Sinclair และทีมงานชื่อ Yuancheng Lu ได้นำเอา O, S, K ไป reset เจ้าตัว observer ในร่างกายได้สำเร็จ โดยได้ทดลองกับเซลล์ประสาทตาของหนูที่แก่ทำให้เซลล์ประสาทตากลับมาหนุ่มและมองเห็นอีกครั้ง!!! ซึ่งการทดลองกับมนุษย์น่าจะใช้เวลาอีกสักพัก
• หากต้องรอการทดลองดังกล่าวอีกนาน แล้วในขณะนี้ เรามารถทำอะไรได้บ้าง? Dr. Sinclair กล่าวถึงโมเลกุลที่ชื่อว่า NMN (ย่อจาก Nicotinamide Mononucleotide) ซึ่งได้แสดงผลการทดลองให้ดูว่า หนูทดลองที่กิน NMN สามารถวิ่งได้เร็วและนานกว่าหนูที่ไม่ได้กิน NMN อย่างมาก ซึ่ง Dr. Sinclair ได้กล่าวว่า NMN จะไปเพิ่มปริมาณสารที่เรียกว่า NAD+ ที่จำเป็นต่อร่างกายมนุษย์ (NAD+ จะลดลงไปประมาณครึ่งนึงเมื่อเราอายุ 50 ปี เมื่อเทียบกับตอนเราอายุ 20 ต้นๆ)
• สุดท้าย Dr. Sinclair กล่าวถึงคุณพ่อของเค้าซึ่งอายุ 70 ปีปลายๆ แต่ยังมีสุขภาพที่ดี โดยดูแลตัวเอง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทานอาหารแบบ IF (Intermittent Fasting) และก็ทาน NMN ด้วย ซึ่งคุณพ่อของ Dr. Sinclair เพิ่งเริ่มอาชีพใหม่ในอายุ 70 กว่าปี เดินทางไปรอบโลก ปีนเขา พายเรือ ใช้ชีวิตแบบ adventure ได้สบาย (Dr. Sinclair กล่าวว่าคุณพ่อมีความฟิตมากกว่าตัวเขาซึ่งอายุ 50 ปีด้วยซ้ำ)
สิ่งที่ Dr. Sinclair ค้นพบ เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมากทีเดียวที่สามารถย้อนอายุของเซลล์ประสาทตาของหนูทดลองได้ ได้แต่หวังว่าเราจะสามารถทดลองกับมนุษย์ได้ในเร็ววันครับ
#HackYourAge
#DavidSinclair