คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
แบบสรุปผลการดำเนินงาน (F45)
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
(หน่วย : พันบาท)
งบการเงิน
ไตรมาสที่ 1
สอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม
ปี 2563 2562
กำไร (ขาดทุน) (3,441,979) 7,334,715
ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นข
องบริษัทใหญ่ *
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (0.24) 0.51
ต่อหุ้น (บาท)
ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน
ไม่มีเงื่อนไขและมีข้อสังเกต/เรื่องอื่น
หมายเหตุ
*สำหรับงบการเงินรวม
โปรดดูงบการเงินฉบับเต็มประกอบ ก่อนการตัดสินใจลงทุน
"ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ พร้อมกันนี้บริษัทได้จัดส่งงบการเงิน
ฉบับเต็มผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์เรียบร้อยแล้ว"
ลงลายมือชื่อ ___________________________
( นายสมบูรณ์ น้อยน้ำคำ )
รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานบัญชีและการเงิน)
ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
(หน่วย : พันบาท)
งบการเงิน
ไตรมาสที่ 1
สอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม
ปี 2563 2562
กำไร (ขาดทุน) (3,441,979) 7,334,715
ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นข
องบริษัทใหญ่ *
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (0.24) 0.51
ต่อหุ้น (บาท)
ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน
ไม่มีเงื่อนไขและมีข้อสังเกต/เรื่องอื่น
หมายเหตุ
*สำหรับงบการเงินรวม
โปรดดูงบการเงินฉบับเต็มประกอบ ก่อนการตัดสินใจลงทุน
"ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ พร้อมกันนี้บริษัทได้จัดส่งงบการเงิน
ฉบับเต็มผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์เรียบร้อยแล้ว"
ลงลายมือชื่อ ___________________________
( นายสมบูรณ์ น้อยน้ำคำ )
รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานบัญชีและการเงิน)
ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ
แสดงความคิดเห็น
AOT โบรกฯ คาด Q1 ขาดทุนแค่ 3.1 พันลบ. , ประเมินกลับมาฟื้นปี 65
อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับไตรมาส 4/63 ที่ขาดทุนสุทธิ 3,728 ล้านบาท ผลประกอบการดีขึ้น เนื่องจากมีปัจจัยบวกจากรายได้ฟื้นตัว 15% ตามสถานการณ์ธุรกิจการบินเส้นทางบินในประเทศฟื้นตัวดีขึ้น (ก่อนจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดรอบใหม่กลางเดือน ธ.ค.63) และไตรมาสก่อนหน้ามีค่าใช้จ่ายพิเศษ 461 ล้านบาท แต่ไตรมาสนี้ไม่มี
สำหรับไตรมาส 2/64 (ม.ค.-มี.ค.64) คาดว่าผลประกอบการจะยังขาดทุนต่อเนื่อง โดยประเมินว่าจะขาดทุนสุทธิเพิ่มเป็น 3,750 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์ธุรกิจการบินในประเทศที่ได้รับผลกระทบการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ฉุดปริมาณผู้โดยสารในประเทศกลับมาหดตัวโดยเดือน ม.ค.2564 ลดลง 81% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และลดลง 30% เมื่อเทียบกับ ธ.ค.2563
**คาดกลับมาฟื้นปี 2565
ฝ่ายวิจัยฯ ได้ปรับประมาณการผลขาดทุนสุทธิปี 2564 (ต.ค.63-ก.ย.64) เพิ่มเป็น 9,617 ล้านบาท จากเดิมคาดขาดทุน 8,893 ล้านบาท จากผลกระทบโควิด-19 ระลอกใหม่ฉุดรายได้ อย่างไรก็ตาม ได้ปรับเพิ่มกำไรสุทธิปี 2565-2566 ขึ้น 63% และ 12% ตามลำดับ เนื่องจาก AOT มีแนวโน้มบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดีกว่าคาดจากบริษัทมีเป้าหมายลดต้นทุนลง 20-30% ทำให้ฝ่ายวิจัยปรับลดต้นทุนลง 20-21% ดังนั้นจึงคาดว่าในปี 2565-2566 ผลประกอบการจะฟื้นตัวเป็นกำไร 13,231 ล้านบาท และ 30,285 ล้านบาทตามลำดับ จากปริมาณผู้โดยสารคาดฟื้นตัว
133% และ 39% ตามลำดับ ประกอบกับปี 2566 จะได้ประโยชน์เริ่มกลับมาเก็บ Minimum Guarantee สัมปทาน Duty free จาก King Power
กลยุทธ์การลงทุน ได้ปรับคำแนะนำเป็น Neutral จากเดิม Reduce และปรับไปใช้ราคาเป้าหมายของปี 2565 (สิ้นสุด ก.ย.65) ที่ 64.50 บาทต่อหุ้น จากเดิมราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 55.50 บาท ประเมินว่าธุรกิจการบินเริ่มมีพัฒนาการดีขึ้นจากการฉีดวัคซีนให้ประชากรทั่วโลก เชื่อว่าตลาดมองข้ามผลประกอบการขาดทุนในปี 2564 ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังคงคาดผลประกอบการจะฟื้นตัวค่อยเป็นค่อยไป และคาดเริ่มกลับมามีกำไรในไตรมาส 4/64
https://www.thunhoon.com/article/235425