ใช้งานไม่ได้-ทิ้งร้าง! ป.ป.ช.แม่ฮ่องสอนลุยตรวจอีก 3 จุดโซล่าร์เซลล์ กอ.รมน.ภ 3
https://www.isranews.org/article/isranews/95796-isranews-876.html
เปิดภาพชุด ป.ป.ช.แม่ฮ่องสอน สนธิกำลังร่วม ตร.-จนท.ฝ่ายปกครอง มท. ลงพื้นที่ตรวจโซล่าร์เซลล์ กอ.รมน.ภาค 3 อีก 3 จุด พื้นที่ ต.เสาหิน พบใช้งานไม่ได้ตั้งแต่ต้น 2 แห่ง ใช้งานได้ตอนแรกพังทีหลัง 1 แห่ง ส่วนใหญ่ถูกปล่อยทิ้งร้าง
.................................
จากกรณี พ.ต.ท.ดร.
ศิระปรุฬห์ ปวเรศจิรวงศ์ ผอ.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำ จ.แม่ฮ่องสอน บูรณาการกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สะเรียง เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรแม่สะเรียง และ สวท.แม่สะเรียง เข้าตรวจสอบโครงการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในหน่วยงานภาครัฐ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 (กอ.รมน.ภาค 3) ซึ่งเป็นงานติดตั้งระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์แก้ปัญหาภัยแล้งพร้อมระบบกรองน้ำ ทั้งหมด 6 แห่ง ในพื้นที่ ต.แม่เหาะ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน โดยพบว่า สามารถใช้งานได้เพียงแค่ 1 จุด ส่วนที่เหลือมีลักษณะหญ้าปกคลุม รกร้าง ไม่มีผู้ดูแลนั้น (อ่านประกอบ :
มีหญ้าปกคลุม-รกร้าง! ป.ป.ช.แม่ฮ่องสอน ลุยสอบโซลาร์เซลล์แม่เหาะ 6 แห่ง ใช้งานได้ 1 จุด)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2564 พ.ต.ท.ดร.ศิระปรุฬห์ ปวเรศจิรวงศ์ ผอ.สำนักงาน ป.ป.ช.แม่ฮ่องสอน นำเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. สนธิกำลังร่วมกับตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่โซล่าร์เซลล์ของ กอ.รมน.ภาค 3 ที่ยังเหลืออีก 6 จุด อย่างไรก็ดีเบื้องต้นในวันนี้ตรวจสอบได้เพียง 3 จุด เนื่องจากเส้นทางเข้าพื้นที่ค่อนข้างยากลำบาก และทุรกันดารอย่างมาก โดยในวันที่ 9 ก.พ. 2564 จะตรวจอีก 3 จุดที่เหลือ จึงเสร็จสิ้น และเตรียมสรุปสำนวนส่งสำนักงาน ป.ป.ช.ส่วนกลางต่อไป
แหล่งข่าวจากสำนักงาน ป.ป.ช.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า จากการตรวจสอบพื้นที่โซล่าร์เซลล์ กอ.รมน.ภาค 3 จำนวน 3 จุดวันนี้อยู่ในพื้นที่ ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน โดยโซล่าร์เซลล์ที่ติดตั้งบริเวณบ้านสลาเซียงตอง พบว่า ใช้งานไม่ได้ตั้งแต่แรกถึงปัจจุบัน เช่นเดียวกับบ้านโพซอ ที่พบว่า ไม่มีแผงโซล่าร์เซลล์เชื่อมต่อกับระบบเครื่องกรองน้ำทำให้ใช้งานไม่ได้ ส่วนบ้านแม่เจ ตอนแรกเมื่อติดตั้งใหม่ ๆ สามารถใช้การได้ แต่ช่วงหลังกลับใช้งานไม่ได้ และไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปดูแลซ่อมแซม โดยสภาพพื้นที่ทั้ง 3 จุดส่วนใหญ่ถูกปล่อยทิ้งรกร้าง มีหญ้าขึ้น (ดูภาพประกอบ)
แหล่งข่าว กล่าวด้วยว่า สำหรับเอกชนผู้ชนะโครงการในพื้นที่ 3 จุดดังกล่าว คือเอกชนรายเดียวกับที่เป็นผู้ชนะโครงการโซล่าร์เซลล์ 6 จุดแรกใน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ทั้งนี้โครงการโซล่าร์เซลล์ กอ.รมน.ภาค 3 มีจำนวนทั้งสิ้น 20 จุด อยู่ใน จ.แม่ฮ่องสอน 12 จุด และ จ.ตาก 8 จุด
อนึ่ง สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโครงการโซล่าร์เซลล์แม่เหาะของ กอ.รมน.ภาค 3 ในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยเอกชนผู้ชนะการประกวดราคาคือ บริษัท เอเอส เอ็นเทค จำกัด ก่อนหน้านี้เอกชนรายดังกล่าว เคยปรากฎชื่อเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานภาครัฐในรอบ 7 ปีหลังสุด (2558-2564) อย่างน้อย 156 โครงการ รวมวงเงินกว่า 417 ล้านบาท
ขณะที่โครงการโซล่าร์เซลล์ของ กอ.รมน.ภาค 3 พื้นที่อื่น ๆ สำนักข่าวอิศราอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกมานำเสนออย่างต่อเนื่อง
ททท.มึน! รายได้ช่วงตรุษจีนวูบเหลือ 602 ล้านบาท ไม่มีต่างชาติ-คนไทยยังไร้อารมณ์เที่ยว
https://www.thansettakij.com/content/money_market/467215
ททท.มึน รายได้ท่องเที่ยวตรุษจีนวูบเหลือ 602 ล้านบาท ไม่มีต่างชาติ-คนไทยยังไร้อารมณ์เที่ยว
ททท.มึนรายได้ตรุษจีนวูบ – นาย
ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศของคนไทยในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2564 ของวันหยุดยาวกรณีพิเศษ ระหว่างวันที่ 12-14 ก.พ. 2564 ทั้งในส่วนของพื้นที่ที่ ททท. จัดงานได้แก่ กรุงเทพมหานครฯ ที่งดการจัดกิจกรรมเหลือเพียงการประดับไฟตลอดเส้นถนนเยาวราช และการสนับสนุนการจัดงานตรุษจีนในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ รวมทั้งส่วนของหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่เป็นผู้จัดงาน โดยจำนวนวันในการจัดงานแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่
ทั้งนี้ บรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2564 ไม่คึกคัก และมีการใช้จ่ายค่อนข้างประหยัดกว่าปีที่ผ่านมา โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 15% มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 235,000 คน-ครั้ง ไม่มีชาวต่างประเทศเลย โดยมีรายได้ 602 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเทศกาลตรุษจีนของปีที่ผ่านมามีรายได้จากการท่องเที่ยวของคนไทย 3,528 ล้านบาท ยิ่งเมื่อรวมกับรายได้ของชาวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวไทยในช่วงตรุษจีนในปี 2563 ด้วยแล้ว มีรายได้จากการท่องเที่ยว 8,641 ล้านบาท จึงเห็นได้ว่าผลจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ที่ไม่เพียงกระทบต่อความเชื่อมั่น ความปลอดภัยของประชาชน ทำให้ต้องงดหรือชะลอการเดินทางท่องเที่ยว แต่ยังฉุดให้เศรษฐกิจทุกภาคส่วนกลับมาซบเซาอีกครั้ง ส่งผลต่อรายได้ที่ลดลงและหนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น ประชาชนส่วนใหญ่ระมัดระวังการใช้จ่ายค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดในหลายๆ พื้นที่มีแนวโน้มลดลง และภาครัฐมีมาตรการผ่อนคลายพื้นที่ ทำให้ 60 จังหวัดเมืองหลัก-เมืองรอง มีความพร้อมรองรับการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน 65.38% แต่เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่มั่นใจ ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว กำลังซื้อของนักท่องเที่ยวมีจำกัด ดังนั้นการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีนจึงน่าจะเป็นการเดินทางระยะใกล้ และเน้นกิจกรรมตามวิถีแห่งศรัทธาด้วยการไหว้พระ/เทพเจ้า ขอพร และแก้ปีชงเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตตามความเชื่อของคนไทยเชื้อสายจีน อาทิ วัดมังกรกมลาวาส (กรุงเทพมหานคร) วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ (นนทบุรี) วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม (ชลบุรี) เจ้าแม่กวนอิมปากน้ำโพ (นครสวรรค์)
นอกจากนี้ จากการวิเคราะห์การพูดคุยในสังคมออนไลน์ จาก Google Trends (ระหว่างวันที่ 30 ม.ค.-6 ก.พ. 2564) เกี่ยวกับการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2564 พบว่า จังหวัดที่โดดเด่นมีการพูดถึงค่อนข้างมาก คือ นครนายก ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวระยะใกล้ใช้เวลาเดินทางไม่นาน เหมาะกับการเดินทางแบบกลุ่มครอบครัว และเน้นทำกิจกรรมในแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เพื่อลดการใช้จ่ายในกิจกรรมท่องเที่ยว
โควิด-19 อเมริกา-ทั่วโลกมีแนวโน้มดีขึ้น อว.ชี้ เริ่มเห็นแสงสว่าง ปลายอุโมงค์
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_2568574
โควิด-19 อเมริกา-ทั่วโลกมีแนวโน้มดีขึ้น อว.ชี้ เริ่มเห็นแสงสว่าง ปลายอุโมงค์
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ ศ.นพ.
สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) รายงานผลการประมวลข้อมูลเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ทั่วโลกมีสัญญานแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ต่อวัน จำนวนผู้ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และจำนวนผู้ป่วยเสียชีวิตต่อวันก็ลดลงด้วย โดยในหลายประเทศซึ่งมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมานั้น ในปัจจุบันพบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อได้ทรงตัวและเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะเกิดจากการผ่านจุดสูงสุดของฤดูหนาวไปแล้ว ผ่านพ้นช่วงเทศกาลปลายปีที่มีโอกาสการแพร่เชื้อจำนวนมาก หรืออาจจะเกิดจากผลของการใช้วัคซีนในวงกว้างในหลายประเทศ
ศ.นพ.
สิริฤกษ์ กล่าวว่า ทั้งนี้สถานการณ์การระบาดในระลอกที่ 3 ของสหรัฐอเมริกา มีแนวโน้มดีขึ้นชัดเจน โดยได้ผ่านช่วงที่มีความรุนแรงสูงสุดในช่วงต้นเดือนมกราคม 2564 มาแล้ว และภาพโดยรวมดีขึ้นในทุกมิติ ทั้งจากจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันที่ค่อยๆ ลดลงตั้งแต่ในช่วงปลายเดือนมกราคม 2564 เป็นต้นมา และจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลก็มีแนวโน้มลดลงเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามในช่วงสัปดาห์นี้โรงพยาบาลยังคงต้องรับภาระหนักในการดูแลผู้ป่วย ซึ่งยังคงอยู่ในระดับสูงมาก นอกจากนี้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเริ่มมีแนวโน้มที่จำนวนผู้เสียชีวิตต่อวันลดลงเล็กน้อย
ปลัดอว. กล่าวว่า เมื่อเทียบกับ 2 สัปดาห์ก่อน พบว่า จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ต่อวัน ลดลง 30% จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ลดลง 24% จำนวนผู้เสียชีวิตต่อวัน ลดลง 5% ทั้งนี้ประธานาธิบดีไบเดน ได้ประกาศเป้าหมายการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ได้ถึง 100 ล้านโดสภายใน 100 วันของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งได้เพิ่มเป้าหมายการฉีดวัคซีนให้ได้ถึง 1.5 ล้านโดสต่อวัน ในขณะนี้ได้คาดการณ์จำนวนผู้ที่ฉีดวัคซีนจากแนวโน้มดังกล่าวว่าเมื่อครบ 100 วันจะมีผู้ได้รับวัคซีนรวมกันแล้วกว่า 147 ล้านโดส นอกจากนี้ ยังคงต้องติดตามว่าสถานการณ์การระบาดในสหรัฐอเมริกาจะสามารถกลับสู่ภาวะปกติได้ภายในปี 2564 จากผลของวัคซีนหรือไม่ หรือไวรัสจะมีการกลายพันธุ์ใหม่ๆ จนวัคซีนไม่สามารถป้องกันได้
JJNY : ใช้ไม่ได้-ทิ้งร้าง!โซล่าร์เซลล์กอ.รมน.│ททท.มึน!รายได้ตรุษจีนวูบ│โควิดทั่วโลกแนวโน้มดีขึ้น│เมียนมาชุมนุมตึงเครียด
https://www.isranews.org/article/isranews/95796-isranews-876.html
.................................
จากกรณี พ.ต.ท.ดร.ศิระปรุฬห์ ปวเรศจิรวงศ์ ผอ.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำ จ.แม่ฮ่องสอน บูรณาการกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สะเรียง เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรแม่สะเรียง และ สวท.แม่สะเรียง เข้าตรวจสอบโครงการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในหน่วยงานภาครัฐ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 (กอ.รมน.ภาค 3) ซึ่งเป็นงานติดตั้งระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์แก้ปัญหาภัยแล้งพร้อมระบบกรองน้ำ ทั้งหมด 6 แห่ง ในพื้นที่ ต.แม่เหาะ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน โดยพบว่า สามารถใช้งานได้เพียงแค่ 1 จุด ส่วนที่เหลือมีลักษณะหญ้าปกคลุม รกร้าง ไม่มีผู้ดูแลนั้น (อ่านประกอบ : มีหญ้าปกคลุม-รกร้าง! ป.ป.ช.แม่ฮ่องสอน ลุยสอบโซลาร์เซลล์แม่เหาะ 6 แห่ง ใช้งานได้ 1 จุด)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2564 พ.ต.ท.ดร.ศิระปรุฬห์ ปวเรศจิรวงศ์ ผอ.สำนักงาน ป.ป.ช.แม่ฮ่องสอน นำเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. สนธิกำลังร่วมกับตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่โซล่าร์เซลล์ของ กอ.รมน.ภาค 3 ที่ยังเหลืออีก 6 จุด อย่างไรก็ดีเบื้องต้นในวันนี้ตรวจสอบได้เพียง 3 จุด เนื่องจากเส้นทางเข้าพื้นที่ค่อนข้างยากลำบาก และทุรกันดารอย่างมาก โดยในวันที่ 9 ก.พ. 2564 จะตรวจอีก 3 จุดที่เหลือ จึงเสร็จสิ้น และเตรียมสรุปสำนวนส่งสำนักงาน ป.ป.ช.ส่วนกลางต่อไป
แหล่งข่าวจากสำนักงาน ป.ป.ช.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า จากการตรวจสอบพื้นที่โซล่าร์เซลล์ กอ.รมน.ภาค 3 จำนวน 3 จุดวันนี้อยู่ในพื้นที่ ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน โดยโซล่าร์เซลล์ที่ติดตั้งบริเวณบ้านสลาเซียงตอง พบว่า ใช้งานไม่ได้ตั้งแต่แรกถึงปัจจุบัน เช่นเดียวกับบ้านโพซอ ที่พบว่า ไม่มีแผงโซล่าร์เซลล์เชื่อมต่อกับระบบเครื่องกรองน้ำทำให้ใช้งานไม่ได้ ส่วนบ้านแม่เจ ตอนแรกเมื่อติดตั้งใหม่ ๆ สามารถใช้การได้ แต่ช่วงหลังกลับใช้งานไม่ได้ และไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปดูแลซ่อมแซม โดยสภาพพื้นที่ทั้ง 3 จุดส่วนใหญ่ถูกปล่อยทิ้งรกร้าง มีหญ้าขึ้น (ดูภาพประกอบ)
แหล่งข่าว กล่าวด้วยว่า สำหรับเอกชนผู้ชนะโครงการในพื้นที่ 3 จุดดังกล่าว คือเอกชนรายเดียวกับที่เป็นผู้ชนะโครงการโซล่าร์เซลล์ 6 จุดแรกใน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ทั้งนี้โครงการโซล่าร์เซลล์ กอ.รมน.ภาค 3 มีจำนวนทั้งสิ้น 20 จุด อยู่ใน จ.แม่ฮ่องสอน 12 จุด และ จ.ตาก 8 จุด
ขณะที่โครงการโซล่าร์เซลล์ของ กอ.รมน.ภาค 3 พื้นที่อื่น ๆ สำนักข่าวอิศราอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกมานำเสนออย่างต่อเนื่อง
ททท.มึน! รายได้ช่วงตรุษจีนวูบเหลือ 602 ล้านบาท ไม่มีต่างชาติ-คนไทยยังไร้อารมณ์เที่ยว
https://www.thansettakij.com/content/money_market/467215
ททท.มึน รายได้ท่องเที่ยวตรุษจีนวูบเหลือ 602 ล้านบาท ไม่มีต่างชาติ-คนไทยยังไร้อารมณ์เที่ยว
ททท.มึนรายได้ตรุษจีนวูบ – นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศของคนไทยในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2564 ของวันหยุดยาวกรณีพิเศษ ระหว่างวันที่ 12-14 ก.พ. 2564 ทั้งในส่วนของพื้นที่ที่ ททท. จัดงานได้แก่ กรุงเทพมหานครฯ ที่งดการจัดกิจกรรมเหลือเพียงการประดับไฟตลอดเส้นถนนเยาวราช และการสนับสนุนการจัดงานตรุษจีนในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ รวมทั้งส่วนของหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่เป็นผู้จัดงาน โดยจำนวนวันในการจัดงานแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่
ทั้งนี้ บรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2564 ไม่คึกคัก และมีการใช้จ่ายค่อนข้างประหยัดกว่าปีที่ผ่านมา โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 15% มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 235,000 คน-ครั้ง ไม่มีชาวต่างประเทศเลย โดยมีรายได้ 602 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเทศกาลตรุษจีนของปีที่ผ่านมามีรายได้จากการท่องเที่ยวของคนไทย 3,528 ล้านบาท ยิ่งเมื่อรวมกับรายได้ของชาวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวไทยในช่วงตรุษจีนในปี 2563 ด้วยแล้ว มีรายได้จากการท่องเที่ยว 8,641 ล้านบาท จึงเห็นได้ว่าผลจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ที่ไม่เพียงกระทบต่อความเชื่อมั่น ความปลอดภัยของประชาชน ทำให้ต้องงดหรือชะลอการเดินทางท่องเที่ยว แต่ยังฉุดให้เศรษฐกิจทุกภาคส่วนกลับมาซบเซาอีกครั้ง ส่งผลต่อรายได้ที่ลดลงและหนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น ประชาชนส่วนใหญ่ระมัดระวังการใช้จ่ายค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดในหลายๆ พื้นที่มีแนวโน้มลดลง และภาครัฐมีมาตรการผ่อนคลายพื้นที่ ทำให้ 60 จังหวัดเมืองหลัก-เมืองรอง มีความพร้อมรองรับการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน 65.38% แต่เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่มั่นใจ ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว กำลังซื้อของนักท่องเที่ยวมีจำกัด ดังนั้นการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีนจึงน่าจะเป็นการเดินทางระยะใกล้ และเน้นกิจกรรมตามวิถีแห่งศรัทธาด้วยการไหว้พระ/เทพเจ้า ขอพร และแก้ปีชงเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตตามความเชื่อของคนไทยเชื้อสายจีน อาทิ วัดมังกรกมลาวาส (กรุงเทพมหานคร) วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ (นนทบุรี) วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม (ชลบุรี) เจ้าแม่กวนอิมปากน้ำโพ (นครสวรรค์)
นอกจากนี้ จากการวิเคราะห์การพูดคุยในสังคมออนไลน์ จาก Google Trends (ระหว่างวันที่ 30 ม.ค.-6 ก.พ. 2564) เกี่ยวกับการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2564 พบว่า จังหวัดที่โดดเด่นมีการพูดถึงค่อนข้างมาก คือ นครนายก ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวระยะใกล้ใช้เวลาเดินทางไม่นาน เหมาะกับการเดินทางแบบกลุ่มครอบครัว และเน้นทำกิจกรรมในแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เพื่อลดการใช้จ่ายในกิจกรรมท่องเที่ยว
โควิด-19 อเมริกา-ทั่วโลกมีแนวโน้มดีขึ้น อว.ชี้ เริ่มเห็นแสงสว่าง ปลายอุโมงค์
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_2568574
โควิด-19 อเมริกา-ทั่วโลกมีแนวโน้มดีขึ้น อว.ชี้ เริ่มเห็นแสงสว่าง ปลายอุโมงค์
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) รายงานผลการประมวลข้อมูลเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ทั่วโลกมีสัญญานแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ต่อวัน จำนวนผู้ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และจำนวนผู้ป่วยเสียชีวิตต่อวันก็ลดลงด้วย โดยในหลายประเทศซึ่งมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมานั้น ในปัจจุบันพบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อได้ทรงตัวและเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะเกิดจากการผ่านจุดสูงสุดของฤดูหนาวไปแล้ว ผ่านพ้นช่วงเทศกาลปลายปีที่มีโอกาสการแพร่เชื้อจำนวนมาก หรืออาจจะเกิดจากผลของการใช้วัคซีนในวงกว้างในหลายประเทศ
ศ.นพ.สิริฤกษ์ กล่าวว่า ทั้งนี้สถานการณ์การระบาดในระลอกที่ 3 ของสหรัฐอเมริกา มีแนวโน้มดีขึ้นชัดเจน โดยได้ผ่านช่วงที่มีความรุนแรงสูงสุดในช่วงต้นเดือนมกราคม 2564 มาแล้ว และภาพโดยรวมดีขึ้นในทุกมิติ ทั้งจากจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันที่ค่อยๆ ลดลงตั้งแต่ในช่วงปลายเดือนมกราคม 2564 เป็นต้นมา และจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลก็มีแนวโน้มลดลงเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามในช่วงสัปดาห์นี้โรงพยาบาลยังคงต้องรับภาระหนักในการดูแลผู้ป่วย ซึ่งยังคงอยู่ในระดับสูงมาก นอกจากนี้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเริ่มมีแนวโน้มที่จำนวนผู้เสียชีวิตต่อวันลดลงเล็กน้อย
ปลัดอว. กล่าวว่า เมื่อเทียบกับ 2 สัปดาห์ก่อน พบว่า จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ต่อวัน ลดลง 30% จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ลดลง 24% จำนวนผู้เสียชีวิตต่อวัน ลดลง 5% ทั้งนี้ประธานาธิบดีไบเดน ได้ประกาศเป้าหมายการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ได้ถึง 100 ล้านโดสภายใน 100 วันของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งได้เพิ่มเป้าหมายการฉีดวัคซีนให้ได้ถึง 1.5 ล้านโดสต่อวัน ในขณะนี้ได้คาดการณ์จำนวนผู้ที่ฉีดวัคซีนจากแนวโน้มดังกล่าวว่าเมื่อครบ 100 วันจะมีผู้ได้รับวัคซีนรวมกันแล้วกว่า 147 ล้านโดส นอกจากนี้ ยังคงต้องติดตามว่าสถานการณ์การระบาดในสหรัฐอเมริกาจะสามารถกลับสู่ภาวะปกติได้ภายในปี 2564 จากผลของวัคซีนหรือไม่ หรือไวรัสจะมีการกลายพันธุ์ใหม่ๆ จนวัคซีนไม่สามารถป้องกันได้