เนื่องจากกระทู้ๆหนึ่งเมื่อ
วานนี้ เกี่ยวกับเรื่อง
อยากให้วง BNK48 ทำเพลงออรินอล(แต่งเอง) สักที
ดิฉันก็นั่งอ่านไป ยิ้มไปทั้งวัน มีบางคห.ที่เห็นด้วย และก็มีบางคห.ที่อยากเข้าไปโต้แย้ง
แต่เถียงกันไป ก็น่าจะยาว วันนี้เลยขอมาเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้
ตาม
ความเห็นส่วนตัวของดิฉัน ใครที่มีความเห็นต่างกันในหัวข้อใดๆ
ก็สามารถแสดงความคิดเห็นกันเข้ามาได้ค่ะ ยินดีรับฟังเสมอ
เข้าใจตรงกันแบบนี้ก่อน !!!
คำว่า
อยากได้เพลงแต่งเอง ในที่นี้หมายถึง
เพลงหลักใช่ไหม ?
ถึงได้ไม่อยากให้นำเพลง ost. หรือเพลง โฆษณามาร่วมพูดถึงด้วย
แต่ก็ต้องเข้าใจแบบนี้เหมือนกัน ว่าทั้งหมดนี้ล้วนเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
และก็ยังชี้ให้เห็นว่า
" นี่ไง ได้ทำเพลงแต่งเองแล้ว แต่มันก็ใช่ว่ามันจะประสบความสำเร็จ "
ในแง่องค์ประกอบเพลง ต้องยอมรับว่ามันดีกว่าเพลงแปลในยุคหลังๆจริง
แต่ถ้าเทียบกับยุคแรกเริ่มหรือช่วงพีคของวง (ด้านดนตรี )
ก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ (แต่ถ้าคุณบอกว่า ชอบเพลงแต่งเองมากกว่า อันนี้เป็นรสนิยมส่วนตัวแล้วล่ะค่ะ )
ที่นี้มาดูข้อเท็จจริงระหว่าง เพลงแปล VS เพลงแต่ง กันบ้างดีกว่า
(ย้ำอีกครั้ง ว่าเป็นคหสต. เห็นต่าง
ได้ )
ต้นสังกัดไม่ให้ทำเพลงแต่งเอง ?
- ถ้าเป็นช่วงต้นปี 2018 อาจจะคิดแบบนี้อยู่
แต่ย่างเข้าปี 2021 ความเชื่อนี้มันน่าจะถูกปัดตกไปได้นานแล้ว
เพราะก็มีหลักฐานชี้ให้เห็นมากมาย ว่าวงแทบจะได้อิสระเกือบ 100%
ในการดำเนินงานจากทางต้นสังกัด ถ้า
เขาอยากจะทำเพลงเอง
สามารถขอได้อยู่แล้ว ถ้ามีลู่ทางที่ดีพอ และสุดท้าย
คงต้องย้อนกลับมามองว่า ถ้าลงทุนขอไป
อะไร ? คือผลลัพธ์ที่จะได้กลับมา และคุ้มค่ากับการลงทุนนั้นๆหรือเปล่า ?
คิดว่าถ้าเงื่อนไขมันดี และไม่ส่งผลเสียต่อแบนด์
ทางต้นสังกัดเขาก็ให้อยู่แล้วละค่ะ เขาไม่ได้ใจหินขนาดนั้นหรอก
เพราะสุดท้ายธุรกิจก็ต้องดำเนินไปด้วยผลประโยชน์ร่วมอยู่ดี
เพลงแต่งเองต้องเป็นเพลงหลักเท่านั้น ?
- เห็นด้วย แต่ไม่ทั้งหมด
จะเพลงหลัก เพลงรอง สุดท้ายเพลงดีๆมันก็คือ
เพลงดี
แต่ที่เห็นด้วยเป็นเพราะการโปรโมท ของทั้ง 2 ซิงเกิ้ล (หลัก/รอง) มีความต่างกันพอสมควร
อย่างที่รู้ๆกันว่าบริษัทนี้ไม่เก่งเรื่องการจับปลาสองมือ (ทำอะไรหลายๆอย่าง ) แต่ก็ดันชอบทำ
ทำให้เวลาจะทำอะไรทุกๆครั้ง มันมักจะมีงานหนึ่ง
ดรอปกว่าอีกงานหนึ่งเสมอ ซึ่งงานที่ดรอปมักเป็นงานที่
แฟนๆต่างบ่นเสียดายเป็นส่วนใหญ่ซะด้วย
ต้องย้อนกลับไปตั้งคำถามแล้วล่ะว่า จะทำยังไงให้ทุกๆงาน
มันดีได้ ในแบบที่มันควรจะเป็น (ที่ต้องใช้คำนี้ เพราะมันจะมีคนมาแย้งว่า
" ถ้าโปรโมทดี เท่ากัน จะมีเซมบัสซึไว้ทำไม ? "
น่าตลกร้าย ที่ดิฉันก็คิดแบบนี้เหมือนกัน )
แต่ก็ยังยืนยันว่าพื้นฐานเพลงรองตอนนี้ดรอปกว่าที่ควรเป็นไปมาก
เป็นอีกหนึ่งโจทย์ที่ต้องหาทางแก้ไข
ปัญหาของการทำเพลงเอง ของ BNK48 ?
- สุดท้ายแล้ว เรามาดูปัญหาการทำเพลงแต่งเอง
ขอวงกันบ้างดีกว่า ซึ่งขอตัดเหตุผลที่ว่า
แฟนคลับไม่ชอบ อฟช.ไม่มั่นใจ ต้นสังกัดไม่ให้ ออกไปก่อนนะคะ
- บุคลากรไม่เพียงพอ
ถ้าต้องการจะทำเพลงเองแบบจริงจัง จะต้องมีความพร้อมในด้านนี้ก่อน
ซึ่งค่ายใหญ่ๆก็ล้วนมีบุคลากรในด้านนี้มากมาย เราก็มีนะ
ครูเอ๊ะ ครูแมน ชิไฮนินปิ๋มไง
(กลุ่มเดียวกับที่ทุกคนบอกว่าแปลเนื้อไม่สมูทนั่นแหละ)
ที่นี้พอมาให้ครูๆ มาแต่งเพลงให้ มันก็จะออกมาประมาณสไตล์ละอองฟอง
คิดว่าคงมีคนชอบ แต่ก็คงไม่ใช่ทุกคนอยู่ดี
ที่นี้พอบอกให้ไปจ้างคนอื่นซิ จ้างใครล่ะ ?
นักแต่งเพลงส่วนใหญ่ เขาก็มีเรทราคามาตราฐานกันทั้งนั้น
อฟช.จะกล้าสู้หรือเปล่า ?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อย่างครูทั้ง 3 ท่าน ก็ไม่ใช่ว่าท่านไม่เก่ง เลยค่าตัวไม่แพง
แต่อฟช.มองเห็นคุณค่าในการจ่ายระยะยาว
เพราะไม่ใช่แค่ให้มาแต่งหรือแปลเพลงเพียงอย่างเดียว
แต่ยังเป็นครูสอนร้องเพลงให้เด็กๆในวงอีกด้วย
และถ้าจ้างใครแล้ว ก็อาจต้องจ้างไปตลอด
ไม่งั้นเพลงจะเปลี่ยนเอกลักษณ์ไปเรื่อยๆ ไม่เป็นที่จดจำ
ทั้งยังอาจต้องจ้างนักคิดท่าเต้นเพิ่มอีก เพราะเพลงส่วนใหญ่ที่ใช้กัน
ท่าเต้นก็แทบจะ copy paste วงพี่กันมาอยู่แล้ว
- ระยะเวลา Process ที่นานขึ้น
ต้องยอมรับอย่างหนึ่ง ว่าวงเรามีเพลงออกมาถี่กว่าชาวบ้านในวงการเพลงเขา
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการใช้เพลงแปล ทำให้ลดขั้นตอนต่างๆ
ลงไปให้ง่ายยิ่งขึ้น ที่นี้ถ้าอยากทำเพลงเองขึ้นมา
แฟนคลับอาจต้องรอนานขึ้นอีก เร็วสุดอาจได้แค่ปีละ 2 ซิงเกิล
คุณจะรอกันได้หรือเปล่า ?
- เพลงที่แฟนคลับอยากได้ ขัดกับความเป็นวงไอดอล
คนไทยมีรสนิยมเพลงแนว Pop หรือไม่ก็ K-Pop ไปเลย
Pop ก็จะเน้นร้อง ไม่ใช้คนเยอะ
ส่วน K-Pop ก็จะเพิ่มคนขึ้นมาอีกหน่อย แล้วเน้นไปที่เพอร์ฟอร์ฯ ของเมมแต่ละคนแทน
ซึ่งมันไม่ใช่แนวไอดอล !!!
ลองคิดว่าถ้าซิงหลักต่อไป มีสมาชิกเซมเหลือแค่ 5-6 คนจะเป็นยังไง ? (ขนาด 16 คนยังจะตีกันตายแล้ว )
หรือซิงต่อไป เปลี่ยนมาทำเพลงร้องแบบสายซับ มปร. โดยให้แบ่งท่อนกันร้อง 16-21 คน ?
สุดท้ายมันก็ชี้ชัดอยู่ดี ว่ารูปแบบวง มันทำมาเพื่อ
เพลงแนวไอดอลเท่านั้น
และทำไมเพลงแนวอื่นๆ ถึงเป็นได้เพียงแค่เพลง
ยูนิต
ที่สุดรั้นจะบอก " มันต้องได้ซิน่า " ก็ไม่ได้มีอะไรการันตี
ว่าลงทุนทำแล้วมันจะออกมาเวิร์ค หรือประสบความสำเร็จ
นักธุรกิจผู้มองผลประโยชน์เป็นสำคัญ เขาไม่ตัดสินใจทำอะไรที่เสี่ยงเกินความจำเป็นหรอกค่ะ
จริงๆก็ คิดว่าอฟช.เขาก็อยากลุยตลาดเพลงทั่วไปมากขึ้นนั่นล่ะนะ
ถึงได้ลองเชิง ปล่อยยูนิตต่างๆออกมา แต่จากทรัพยากรในมือ
บวกกับ feedback ที่ได้รับ ก็ยังไม่เพียงพอ ให้กล้าตัดสินใจเปลี่ยนมาทำ เป็นงานหลักได้สักที
สุดท้ายมันก็บริษัทเขา แนะนำได้ แต่อย่าไปคาดหวังอะไรให้มากเลย
ถ้าไม่ชอบ ก็ไม่ต้องตาม ถ้ามีสิ่งที่ชอบค่อยกลับมาใหม่ (ดิฉันก็ทำแบบนี้อยู่)
เพราะทั้งหมดนี้ก็จะกลายเป็นข้อมูล ให้เขาใช้ในการทำวงในอนาคตต่อไปเรื่อยๆ
แม้ในช่วงที่ไม่มีรุ่นบุกเบิกอยู่แล้วก็ตาม.
ตอบคำถามเกี่ยวกับ เพลงแปล VS เพลงแต่งเอง " ตามความเห็นส่วนตัว "
อยากให้วง BNK48 ทำเพลงออรินอล(แต่งเอง) สักที
ดิฉันก็นั่งอ่านไป ยิ้มไปทั้งวัน มีบางคห.ที่เห็นด้วย และก็มีบางคห.ที่อยากเข้าไปโต้แย้ง
แต่เถียงกันไป ก็น่าจะยาว วันนี้เลยขอมาเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้
ตามความเห็นส่วนตัวของดิฉัน ใครที่มีความเห็นต่างกันในหัวข้อใดๆ
ก็สามารถแสดงความคิดเห็นกันเข้ามาได้ค่ะ ยินดีรับฟังเสมอ
เข้าใจตรงกันแบบนี้ก่อน !!!
คำว่าอยากได้เพลงแต่งเอง ในที่นี้หมายถึงเพลงหลักใช่ไหม ?
ถึงได้ไม่อยากให้นำเพลง ost. หรือเพลง โฆษณามาร่วมพูดถึงด้วย
แต่ก็ต้องเข้าใจแบบนี้เหมือนกัน ว่าทั้งหมดนี้ล้วนเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
และก็ยังชี้ให้เห็นว่า " นี่ไง ได้ทำเพลงแต่งเองแล้ว แต่มันก็ใช่ว่ามันจะประสบความสำเร็จ "
ในแง่องค์ประกอบเพลง ต้องยอมรับว่ามันดีกว่าเพลงแปลในยุคหลังๆจริง
แต่ถ้าเทียบกับยุคแรกเริ่มหรือช่วงพีคของวง (ด้านดนตรี )
ก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ (แต่ถ้าคุณบอกว่า ชอบเพลงแต่งเองมากกว่า อันนี้เป็นรสนิยมส่วนตัวแล้วล่ะค่ะ )
ที่นี้มาดูข้อเท็จจริงระหว่าง เพลงแปล VS เพลงแต่ง กันบ้างดีกว่า
(ย้ำอีกครั้ง ว่าเป็นคหสต. เห็นต่างได้ )
ต้นสังกัดไม่ให้ทำเพลงแต่งเอง ?
- ถ้าเป็นช่วงต้นปี 2018 อาจจะคิดแบบนี้อยู่
แต่ย่างเข้าปี 2021 ความเชื่อนี้มันน่าจะถูกปัดตกไปได้นานแล้ว
เพราะก็มีหลักฐานชี้ให้เห็นมากมาย ว่าวงแทบจะได้อิสระเกือบ 100%
ในการดำเนินงานจากทางต้นสังกัด ถ้าเขาอยากจะทำเพลงเอง
สามารถขอได้อยู่แล้ว ถ้ามีลู่ทางที่ดีพอ และสุดท้าย
คงต้องย้อนกลับมามองว่า ถ้าลงทุนขอไป
อะไร ? คือผลลัพธ์ที่จะได้กลับมา และคุ้มค่ากับการลงทุนนั้นๆหรือเปล่า ?
คิดว่าถ้าเงื่อนไขมันดี และไม่ส่งผลเสียต่อแบนด์
ทางต้นสังกัดเขาก็ให้อยู่แล้วละค่ะ เขาไม่ได้ใจหินขนาดนั้นหรอก
เพราะสุดท้ายธุรกิจก็ต้องดำเนินไปด้วยผลประโยชน์ร่วมอยู่ดี
เพลงแต่งเองต้องเป็นเพลงหลักเท่านั้น ?
- เห็นด้วย แต่ไม่ทั้งหมด
จะเพลงหลัก เพลงรอง สุดท้ายเพลงดีๆมันก็คือเพลงดี
แต่ที่เห็นด้วยเป็นเพราะการโปรโมท ของทั้ง 2 ซิงเกิ้ล (หลัก/รอง) มีความต่างกันพอสมควร
อย่างที่รู้ๆกันว่าบริษัทนี้ไม่เก่งเรื่องการจับปลาสองมือ (ทำอะไรหลายๆอย่าง ) แต่ก็ดันชอบทำ
ทำให้เวลาจะทำอะไรทุกๆครั้ง มันมักจะมีงานหนึ่ง
ดรอปกว่าอีกงานหนึ่งเสมอ ซึ่งงานที่ดรอปมักเป็นงานที่
แฟนๆต่างบ่นเสียดายเป็นส่วนใหญ่ซะด้วย
ต้องย้อนกลับไปตั้งคำถามแล้วล่ะว่า จะทำยังไงให้ทุกๆงาน
มันดีได้ ในแบบที่มันควรจะเป็น (ที่ต้องใช้คำนี้ เพราะมันจะมีคนมาแย้งว่า
" ถ้าโปรโมทดี เท่ากัน จะมีเซมบัสซึไว้ทำไม ? "
น่าตลกร้าย ที่ดิฉันก็คิดแบบนี้เหมือนกัน )
แต่ก็ยังยืนยันว่าพื้นฐานเพลงรองตอนนี้ดรอปกว่าที่ควรเป็นไปมาก
เป็นอีกหนึ่งโจทย์ที่ต้องหาทางแก้ไข
ปัญหาของการทำเพลงเอง ของ BNK48 ?
- สุดท้ายแล้ว เรามาดูปัญหาการทำเพลงแต่งเอง
ขอวงกันบ้างดีกว่า ซึ่งขอตัดเหตุผลที่ว่า แฟนคลับไม่ชอบ อฟช.ไม่มั่นใจ ต้นสังกัดไม่ให้ ออกไปก่อนนะคะ
- บุคลากรไม่เพียงพอ
ถ้าต้องการจะทำเพลงเองแบบจริงจัง จะต้องมีความพร้อมในด้านนี้ก่อน
ซึ่งค่ายใหญ่ๆก็ล้วนมีบุคลากรในด้านนี้มากมาย เราก็มีนะ ครูเอ๊ะ ครูแมน ชิไฮนินปิ๋มไง
(กลุ่มเดียวกับที่ทุกคนบอกว่าแปลเนื้อไม่สมูทนั่นแหละ)
ที่นี้พอมาให้ครูๆ มาแต่งเพลงให้ มันก็จะออกมาประมาณสไตล์ละอองฟอง
คิดว่าคงมีคนชอบ แต่ก็คงไม่ใช่ทุกคนอยู่ดี
ที่นี้พอบอกให้ไปจ้างคนอื่นซิ จ้างใครล่ะ ?
นักแต่งเพลงส่วนใหญ่ เขาก็มีเรทราคามาตราฐานกันทั้งนั้น
อฟช.จะกล้าสู้หรือเปล่า ?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และถ้าจ้างใครแล้ว ก็อาจต้องจ้างไปตลอด
ไม่งั้นเพลงจะเปลี่ยนเอกลักษณ์ไปเรื่อยๆ ไม่เป็นที่จดจำ
ทั้งยังอาจต้องจ้างนักคิดท่าเต้นเพิ่มอีก เพราะเพลงส่วนใหญ่ที่ใช้กัน
ท่าเต้นก็แทบจะ copy paste วงพี่กันมาอยู่แล้ว
- ระยะเวลา Process ที่นานขึ้น
ต้องยอมรับอย่างหนึ่ง ว่าวงเรามีเพลงออกมาถี่กว่าชาวบ้านในวงการเพลงเขา
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการใช้เพลงแปล ทำให้ลดขั้นตอนต่างๆ
ลงไปให้ง่ายยิ่งขึ้น ที่นี้ถ้าอยากทำเพลงเองขึ้นมา
แฟนคลับอาจต้องรอนานขึ้นอีก เร็วสุดอาจได้แค่ปีละ 2 ซิงเกิล
คุณจะรอกันได้หรือเปล่า ?
- เพลงที่แฟนคลับอยากได้ ขัดกับความเป็นวงไอดอล
คนไทยมีรสนิยมเพลงแนว Pop หรือไม่ก็ K-Pop ไปเลย
Pop ก็จะเน้นร้อง ไม่ใช้คนเยอะ
ส่วน K-Pop ก็จะเพิ่มคนขึ้นมาอีกหน่อย แล้วเน้นไปที่เพอร์ฟอร์ฯ ของเมมแต่ละคนแทน
ซึ่งมันไม่ใช่แนวไอดอล !!!
ลองคิดว่าถ้าซิงหลักต่อไป มีสมาชิกเซมเหลือแค่ 5-6 คนจะเป็นยังไง ? (ขนาด 16 คนยังจะตีกันตายแล้ว )
หรือซิงต่อไป เปลี่ยนมาทำเพลงร้องแบบสายซับ มปร. โดยให้แบ่งท่อนกันร้อง 16-21 คน ?
สุดท้ายมันก็ชี้ชัดอยู่ดี ว่ารูปแบบวง มันทำมาเพื่อเพลงแนวไอดอลเท่านั้น
และทำไมเพลงแนวอื่นๆ ถึงเป็นได้เพียงแค่เพลงยูนิต
ที่สุดรั้นจะบอก " มันต้องได้ซิน่า " ก็ไม่ได้มีอะไรการันตี
ว่าลงทุนทำแล้วมันจะออกมาเวิร์ค หรือประสบความสำเร็จ
นักธุรกิจผู้มองผลประโยชน์เป็นสำคัญ เขาไม่ตัดสินใจทำอะไรที่เสี่ยงเกินความจำเป็นหรอกค่ะ
จริงๆก็ คิดว่าอฟช.เขาก็อยากลุยตลาดเพลงทั่วไปมากขึ้นนั่นล่ะนะ
ถึงได้ลองเชิง ปล่อยยูนิตต่างๆออกมา แต่จากทรัพยากรในมือ
บวกกับ feedback ที่ได้รับ ก็ยังไม่เพียงพอ ให้กล้าตัดสินใจเปลี่ยนมาทำ เป็นงานหลักได้สักที
สุดท้ายมันก็บริษัทเขา แนะนำได้ แต่อย่าไปคาดหวังอะไรให้มากเลย
ถ้าไม่ชอบ ก็ไม่ต้องตาม ถ้ามีสิ่งที่ชอบค่อยกลับมาใหม่ (ดิฉันก็ทำแบบนี้อยู่)
เพราะทั้งหมดนี้ก็จะกลายเป็นข้อมูล ให้เขาใช้ในการทำวงในอนาคตต่อไปเรื่อยๆ
แม้ในช่วงที่ไม่มีรุ่นบุกเบิกอยู่แล้วก็ตาม.