เราคบกับแฟนได้ 1 ปี กว่า ๆ แล้วค่ะ ช่วงที่คบกันแรก ๆ แฟนก็พาไปเจอพ่อแม่ที่บ้าน พ่อแม่เขาดูชอบเรามาก จนแม่เขาเอาดวงเรากับลูกชายเขาไปดู กับทั้งซินแส (บ้านแฟนเป็นคนจีน) และร่างทรง (ร่างทรงประจำตระกูล) ซึ่งซินแสบอกว่าเราดวงชงกับแฟน ชงแบบจีนที่เรียกว่า "พั่วง้วย" หรือเดือนแตกสลาย ซึ่งถ้าแต่งงานจะทำให้คู่ครองล่มจม เป็นชงเดือนเกิด และซินแสบอกว่าไม่มีวิธีแก้ ซึ่งจริง ๆ มันมีนะ แต่แม่เขาก็ไม่ได้คิดหาวิธีแก้ เพราะคิดว่าเลิกกันง่ายกว่าและเขาอยากให้เราเลิกกัน แต่เราหาข้อมูลแล้วค่ะ มีหลายคนที่โดนเรื่องชงแบบนี้เหมือนเรา และซินแสหลายคนก็ไม่เอาการชงแบบนี้มาพูดถึงอีกแล้ว เพราะมันไม่แฟร์มาก ๆ สำหรับคนที่โดนชงแบบนี้
ส่วนร่างทรงก็ทำนายว่า เรากับแฟน คือ คู่กรรม จะคบกันอย่างมีความสุขมาก ๆ แค่ 2 ปี ก็จะมีเหตุให้ต้องเลิกกันไปแล้วก็บอกว่าเป็นเราที่ไม่ดี ไปมีคนอื่นก่อน เพราะรอไม่ได้ และแฟนเราจะเสียคนไปเลย ซึ่งตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้สุขมาก ๆ แบบที่เขาทักมาหรอก หนักไปทางกังวล หรือทุกข์ใจกันมากกว่า ว่าสุดท้ายจะได้แต่งงานกันไหม เราเข้าใจเรื่องความเชื่อนะ มันเป็นเรื่อง Sensitive มาก จะไปกล่าวหาว่าคนไหว้ต้นไม้คือคนบ้า มันก็ไม่ได้ เพราะมันคือความเชื่อความศรัทธาของเขา เราเลยเลือกที่จะเดินหน้าคบกับแฟนต่อ อย่างน้อย ๆ ก็อยากพิสูจน์ให้เห็นว่ามันจะเป็นไปตามคำทำนาย 2 ปีที่ว่าไหม
แล้วคือตั้งแต่วันที่แม่เขาไปดูดวงกับทั้ง 2 เจ้านี้ ก็ห้ามเราเข้าบ้าน และบอกแฟนเราว่า รู้ว่าคบแล้วต้องเลิกกันก็เลิกกันซะตอนนี้เถอะ ซึ่งแฟนเราก็ไม่ยอมและยืนยันจะคบเราต่อ แม่เขาก็ไม่ได้ขัด แต่ก็ไม่ได้ยินดี
เราอายุห่างกับแฟน 9 เดือน และแฟนเราอยู่เป็นโสดมานาน 8-9 ปีก่อนที่จะมาคบเรา เขาเลยไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้แฟนเราชัดเจนและจริงจังกับเรามาก ด้วยความอายุ 30 กันแล้ว เขาคิดเรื่องอนาคต และเรื่องแต่งงาน ก็เลยจับมือเดินหน้าสู้กันต่อ เราพยามทำตัวให้ปกติ ซื้อของไปฝาก ตรุษจีนก็ฝากส้มไปไหว้ เทศกาลก็ส่งข้อความไปหา แม่เขาก็ตอบมาแค่ขอบคุณสั้น ๆ แต่ก็เคยนัดแม่เขาออกมาทานข้าวข้างนอกบ้าน เขาก็ยอมมานะคะ แต่พอกลับไปก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราก็กลับมาเป็นคนไม่มีตัวตนเหมือนเดิม
เราคิดว่าชีวิตเราเหมือนละครเลยอะ เราเหมือนเรณูในเรื่องกรงกรรม แต่เราแค่ไม่มีโอกาสได้พิสูจน์ให้เขาเห็นว่าเราเป็นคนยังไง เราถูกปิดประตูตายตั้งแต่เขาห้ามเราเข้าบ้าน มันใหญ่โตไปถึงขั้นแฟนเราห้ามพูดถึงเราด้วยอะ ทุกวันนี้คบกันเหมือนหลบ ๆ ซ่อน ๆ ซึ่งในเมื่อแฟนเราตัดสินใจขอเลือกคบเราต่อ ถ้าแม่เขาเปิดใจ ให้เข้าตามตรอกออกตามประตู หรือคบกันอยู่ในสายตาก็คงดี อย่างน้อย ๆ เราก็ยังพอมีโอกาสได้พิสูจน์ตัวเองมากกว่าการรอให้ระยะเวลาเป็นตัวพิสูจน์ ที่บ้านเราไม่รู้เรื่องนี้เลยนะ แม่เราเอ็นดูแฟนเรามากๆ ถ้าแม่เรารู้ก็คงเสียใจ และให้เราเลิกกับแฟนแน่ ๆ แต่ก็ยังดีพ่อแฟนเอ็นดูเราแอบ Support เราตลอด โดยที่ไม่ให้แม่แฟนรู้ พ่อแฟนเหมือนสามีแม่ย้อยในเรื่องกรงกรรมเลย เขาเอ็นดูเราเหมือนที่เอ็นดูเรณู แต่เขาก็อยู่ในสถานะคนกลางและค่อนไปทางต้องอยู่ข้างแม่เขาเลยแสดงออกอะไรมากไม่ได้ มันก็ดีที่อย่างน้อยเรายังมีแต้มบุญตรงนี้
แฟนเราเป็นลูกชายคนกลาง แต่ถูกเลี้ยงดูมาให้เหมือนเป็นพี่ชายคนโต เพราะพี่ชายป่วย เขาเลยเป็นคนเดียวในบ้านที่ถูกพ่อแม่ตั้งความหวังมาตั้งแต่เด็ก ๆ เราคิดว่าส่วนหนึ่งที่เขาไม่โอเคกับเรา บวกกับเรื่องดวงที่ถูกทักมาแบบนั้น ก็เพราะเขาคงหวงลูกชาย กลัวโดนแย่งความรัก หรือกลัวว่าวันหนึ่งจะพึ่งพาลูกไม่ได้อีก เขาพูดกับแฟนเราบ่อยมาก ว่าทำอะไรให้นึกถึงครอบครัวด้วยนะ ซึ่งสำหรับแฟนเรา ครอบครัวเขาคือที่ 1 มาตลอด เราคบเขาเพราะเขารักครอบครัวนี่แหละ หรืออาจจะด้วยความเชื่อที่รุ่นอากง อาม่า ที่เขาสั่งเสียกันมาว่าถ้าลูกหลานเจอใครที่ดวงชงกันก็ให้ห้ามและเขาก็คงอยากให้ลูกเขาได้ผู้หญิงแบบที่เขาคิดไว้มากกว่า ไม่งั้นเขาคงหาทางแก้ หาวิธีแก้ช่วยแล้ว แต่เราไปดูดวงเองหรือแยกกับแฟนไปดู คือ ดีหมดเลยนะ ดวงเรากับแฟนคือดวงอุปถัมภ์กันด้วยซ้ำ ไปดูกันมาไม่ต่ำกว่า 10 ที่ ทุกศาสตร์ไทย จีน ไม่มีหมอดูคนไหนบอกว่าดวงเรากับแฟนไม่ดีเลยอะ
จริง ๆ ที่มาตั้งกระทู้วันนี้แค่อยากระบายเฉย ๆ เรานอยด์ และรู้สึกว่าแม่เขาใจร้ายกับเราจัง เราไม่เคยทำตัวไม่ดี ไม่เคยทำนิสัยแย่ ๆ ใส่เขาเลย แต่ถูกตัดสินเป็นคนไม่ดีเพราะแค่เรื่องดวง จากหมอดู ซินแส หรือร่างทรงที่เขาเชื่อ ซึ่งแม่เขาจะไม่ดูดวงกับคนอื่น นอกจาก 2 ที่นี้ดูเป็นประจำมามากกว่า 20 ปีแล้วอะ ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงให้ไปดูกับคนอื่น เราเคยมีแฟนแต่ไม่เคยแม่แฟนคนไหนรังเกียจเราเลยนะ เอ็นดู และยินดีต้อนรับเราทุกคน ขนาดเลิกกันไปแล้วแม่แฟนเก่ายังติดต่อถามไถ่ตลอด เราเลยช็อคมาก ๆ ที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับเรา
ซึ่งในวันที่เราตัดสินใจเดินหน้าคบกับแฟนต่อ เราคุยกันว่าก็ต้องทำตัวกันให้ดี แฟนเคยเลิกงานกลับบ้านเร็วยังไงก็ต้องทำแบบนั้น ครอบครัวยังมาเป็นอันดับหนึ่งก่อนเหมือนเดิม พากันเข้าวัดทำบุญ ส่วนมนต์นั่งสมาธิกันเพื่อความสบายใจ ทุกวันนี้คือไปวัดบ่อยกว่าไปเที่ยวห้างเสียอีก
เรากับแฟนรักกันมาก เรายังอยู่ตรงนี้เพราะแฟน เขาเป็นคนกลางที่เจอเรื่องหนักกว่าเรา คนหนึ่งก็แม่ อีกคนก็คือผู้หญิงที่รักมาก เราเลยยังอยู่ตรงนี้ข้าง ๆ เขา เราสงสารและเห็นใจเขานะ เขาถูกครอบครัวกดดันและฝากความหวังมาตลอดชีวิต พอเราเข้ามา เรากลายเป็นที่พึ่งพิงเดียว เป็นที่ระบาย เป็นบ้านของใจให้เขา เขาเคยบอกเราว่าถ้าต้องเลิกกัน เขาคงอยู่ไม่ได้ เขาขอร้องให้เราอยู่ต่อ และสู้กับเรื่องนี้ไปด้วยกัน เราเลยไม่อยากทิ้งเขาไปไหน ณ วันนี้เราคิดว่าเราจะสู้ต่อแหละ ยังไม่คิดจะยอมแพ้ตอนนี้ มันอาจจะมองดูเหมือนว่าเรารักตัวเองไม่มากพอ หรือไม่ใจเด็ดพอที่จะเดินออกมา แต่มันก็เป็นทางเลือกของเราที่เราคิกว่าเรายังไหวอยู่ เป็นกำลังใจ และเอาใจช่วยเราให้ผ่านเรื่องยาก ๆ นี้ไปด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
แม่แฟนไม่ชอบเรา เพราะเชื่อเรื่องดวง
ส่วนร่างทรงก็ทำนายว่า เรากับแฟน คือ คู่กรรม จะคบกันอย่างมีความสุขมาก ๆ แค่ 2 ปี ก็จะมีเหตุให้ต้องเลิกกันไปแล้วก็บอกว่าเป็นเราที่ไม่ดี ไปมีคนอื่นก่อน เพราะรอไม่ได้ และแฟนเราจะเสียคนไปเลย ซึ่งตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้สุขมาก ๆ แบบที่เขาทักมาหรอก หนักไปทางกังวล หรือทุกข์ใจกันมากกว่า ว่าสุดท้ายจะได้แต่งงานกันไหม เราเข้าใจเรื่องความเชื่อนะ มันเป็นเรื่อง Sensitive มาก จะไปกล่าวหาว่าคนไหว้ต้นไม้คือคนบ้า มันก็ไม่ได้ เพราะมันคือความเชื่อความศรัทธาของเขา เราเลยเลือกที่จะเดินหน้าคบกับแฟนต่อ อย่างน้อย ๆ ก็อยากพิสูจน์ให้เห็นว่ามันจะเป็นไปตามคำทำนาย 2 ปีที่ว่าไหม
แล้วคือตั้งแต่วันที่แม่เขาไปดูดวงกับทั้ง 2 เจ้านี้ ก็ห้ามเราเข้าบ้าน และบอกแฟนเราว่า รู้ว่าคบแล้วต้องเลิกกันก็เลิกกันซะตอนนี้เถอะ ซึ่งแฟนเราก็ไม่ยอมและยืนยันจะคบเราต่อ แม่เขาก็ไม่ได้ขัด แต่ก็ไม่ได้ยินดี
เราอายุห่างกับแฟน 9 เดือน และแฟนเราอยู่เป็นโสดมานาน 8-9 ปีก่อนที่จะมาคบเรา เขาเลยไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้แฟนเราชัดเจนและจริงจังกับเรามาก ด้วยความอายุ 30 กันแล้ว เขาคิดเรื่องอนาคต และเรื่องแต่งงาน ก็เลยจับมือเดินหน้าสู้กันต่อ เราพยามทำตัวให้ปกติ ซื้อของไปฝาก ตรุษจีนก็ฝากส้มไปไหว้ เทศกาลก็ส่งข้อความไปหา แม่เขาก็ตอบมาแค่ขอบคุณสั้น ๆ แต่ก็เคยนัดแม่เขาออกมาทานข้าวข้างนอกบ้าน เขาก็ยอมมานะคะ แต่พอกลับไปก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราก็กลับมาเป็นคนไม่มีตัวตนเหมือนเดิม
เราคิดว่าชีวิตเราเหมือนละครเลยอะ เราเหมือนเรณูในเรื่องกรงกรรม แต่เราแค่ไม่มีโอกาสได้พิสูจน์ให้เขาเห็นว่าเราเป็นคนยังไง เราถูกปิดประตูตายตั้งแต่เขาห้ามเราเข้าบ้าน มันใหญ่โตไปถึงขั้นแฟนเราห้ามพูดถึงเราด้วยอะ ทุกวันนี้คบกันเหมือนหลบ ๆ ซ่อน ๆ ซึ่งในเมื่อแฟนเราตัดสินใจขอเลือกคบเราต่อ ถ้าแม่เขาเปิดใจ ให้เข้าตามตรอกออกตามประตู หรือคบกันอยู่ในสายตาก็คงดี อย่างน้อย ๆ เราก็ยังพอมีโอกาสได้พิสูจน์ตัวเองมากกว่าการรอให้ระยะเวลาเป็นตัวพิสูจน์ ที่บ้านเราไม่รู้เรื่องนี้เลยนะ แม่เราเอ็นดูแฟนเรามากๆ ถ้าแม่เรารู้ก็คงเสียใจ และให้เราเลิกกับแฟนแน่ ๆ แต่ก็ยังดีพ่อแฟนเอ็นดูเราแอบ Support เราตลอด โดยที่ไม่ให้แม่แฟนรู้ พ่อแฟนเหมือนสามีแม่ย้อยในเรื่องกรงกรรมเลย เขาเอ็นดูเราเหมือนที่เอ็นดูเรณู แต่เขาก็อยู่ในสถานะคนกลางและค่อนไปทางต้องอยู่ข้างแม่เขาเลยแสดงออกอะไรมากไม่ได้ มันก็ดีที่อย่างน้อยเรายังมีแต้มบุญตรงนี้
แฟนเราเป็นลูกชายคนกลาง แต่ถูกเลี้ยงดูมาให้เหมือนเป็นพี่ชายคนโต เพราะพี่ชายป่วย เขาเลยเป็นคนเดียวในบ้านที่ถูกพ่อแม่ตั้งความหวังมาตั้งแต่เด็ก ๆ เราคิดว่าส่วนหนึ่งที่เขาไม่โอเคกับเรา บวกกับเรื่องดวงที่ถูกทักมาแบบนั้น ก็เพราะเขาคงหวงลูกชาย กลัวโดนแย่งความรัก หรือกลัวว่าวันหนึ่งจะพึ่งพาลูกไม่ได้อีก เขาพูดกับแฟนเราบ่อยมาก ว่าทำอะไรให้นึกถึงครอบครัวด้วยนะ ซึ่งสำหรับแฟนเรา ครอบครัวเขาคือที่ 1 มาตลอด เราคบเขาเพราะเขารักครอบครัวนี่แหละ หรืออาจจะด้วยความเชื่อที่รุ่นอากง อาม่า ที่เขาสั่งเสียกันมาว่าถ้าลูกหลานเจอใครที่ดวงชงกันก็ให้ห้ามและเขาก็คงอยากให้ลูกเขาได้ผู้หญิงแบบที่เขาคิดไว้มากกว่า ไม่งั้นเขาคงหาทางแก้ หาวิธีแก้ช่วยแล้ว แต่เราไปดูดวงเองหรือแยกกับแฟนไปดู คือ ดีหมดเลยนะ ดวงเรากับแฟนคือดวงอุปถัมภ์กันด้วยซ้ำ ไปดูกันมาไม่ต่ำกว่า 10 ที่ ทุกศาสตร์ไทย จีน ไม่มีหมอดูคนไหนบอกว่าดวงเรากับแฟนไม่ดีเลยอะ
จริง ๆ ที่มาตั้งกระทู้วันนี้แค่อยากระบายเฉย ๆ เรานอยด์ และรู้สึกว่าแม่เขาใจร้ายกับเราจัง เราไม่เคยทำตัวไม่ดี ไม่เคยทำนิสัยแย่ ๆ ใส่เขาเลย แต่ถูกตัดสินเป็นคนไม่ดีเพราะแค่เรื่องดวง จากหมอดู ซินแส หรือร่างทรงที่เขาเชื่อ ซึ่งแม่เขาจะไม่ดูดวงกับคนอื่น นอกจาก 2 ที่นี้ดูเป็นประจำมามากกว่า 20 ปีแล้วอะ ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงให้ไปดูกับคนอื่น เราเคยมีแฟนแต่ไม่เคยแม่แฟนคนไหนรังเกียจเราเลยนะ เอ็นดู และยินดีต้อนรับเราทุกคน ขนาดเลิกกันไปแล้วแม่แฟนเก่ายังติดต่อถามไถ่ตลอด เราเลยช็อคมาก ๆ ที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับเรา
ซึ่งในวันที่เราตัดสินใจเดินหน้าคบกับแฟนต่อ เราคุยกันว่าก็ต้องทำตัวกันให้ดี แฟนเคยเลิกงานกลับบ้านเร็วยังไงก็ต้องทำแบบนั้น ครอบครัวยังมาเป็นอันดับหนึ่งก่อนเหมือนเดิม พากันเข้าวัดทำบุญ ส่วนมนต์นั่งสมาธิกันเพื่อความสบายใจ ทุกวันนี้คือไปวัดบ่อยกว่าไปเที่ยวห้างเสียอีก
เรากับแฟนรักกันมาก เรายังอยู่ตรงนี้เพราะแฟน เขาเป็นคนกลางที่เจอเรื่องหนักกว่าเรา คนหนึ่งก็แม่ อีกคนก็คือผู้หญิงที่รักมาก เราเลยยังอยู่ตรงนี้ข้าง ๆ เขา เราสงสารและเห็นใจเขานะ เขาถูกครอบครัวกดดันและฝากความหวังมาตลอดชีวิต พอเราเข้ามา เรากลายเป็นที่พึ่งพิงเดียว เป็นที่ระบาย เป็นบ้านของใจให้เขา เขาเคยบอกเราว่าถ้าต้องเลิกกัน เขาคงอยู่ไม่ได้ เขาขอร้องให้เราอยู่ต่อ และสู้กับเรื่องนี้ไปด้วยกัน เราเลยไม่อยากทิ้งเขาไปไหน ณ วันนี้เราคิดว่าเราจะสู้ต่อแหละ ยังไม่คิดจะยอมแพ้ตอนนี้ มันอาจจะมองดูเหมือนว่าเรารักตัวเองไม่มากพอ หรือไม่ใจเด็ดพอที่จะเดินออกมา แต่มันก็เป็นทางเลือกของเราที่เราคิกว่าเรายังไหวอยู่ เป็นกำลังใจ และเอาใจช่วยเราให้ผ่านเรื่องยาก ๆ นี้ไปด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ