นางแบบสาวเมียนมาร่วมชุมนุม ต้านรัฐประหารหน้ายูเอ็น
https://www.dailynews.co.th/politics/823205
ชาวเมียนมารวมตัวชุมนุมต้านรัฐประหาร หน้าองค์การสหประชาติ วันที่ 2 นางแบบสาว Phuu Pwint Khaing ร่วมด้วย ลั่นขอเป็นตัวแทนสื่อให้นานาชาติได้รู้
เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่หน้าองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ถนนราชดำเนินนอก กลุ่มชาวเมียนมาชายหญิงที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยประมาณ 50 คน เดินทางมาชุมนุมต่อต้านการก่อรัฐประหารของกองทัพเมียนมาร ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้แสดงสัญลักษณ์พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของเมียนมาหรือ เอ็นแอลดี (NLD) และภาพนางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา ซึ่งอยู่ระหว่างถูกควบคุมตัวโดยรัฐบาลทหาร พร้อมเรียกร้องให้ปล่อยตัวนาง
ซูจี และคืนประชาธิปไตยให้ประเทศเมียนมา โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง ดูแลความสงบเรียบร้อย
ด้าน นาย
ไซ นักธุรกิจชาวเมียนมา ตัวแทนชุมนุมเมียนมาในประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังยื่นหนังสือถึงยูเอ็นไปเมื่อวานนี้ (2 ก.พ.) ต้องการแสดงออกว่า ไม่เอากับการรัฐประหารครั้งนี้ อีกทั้งประชาชนที่อยู่ในเมียนมา พูดถึงอะไรไม่ได้ตอนนี้ พวกตนจึงมาเป็นตัวแทน อย่างไรก็ตาม ที่เมียนมาไม่ได้นิ่งเฉย ถึงออกมาบนถนนกันไม่ได้ แต่ก็ยังเคลื่อนไหวทางออนไลน์อยู่ พวกตนขอมาใช้พื้นที่ของประเทศไทย เพราะที่เมียนมาไม่มีสิทธิพื้นฐานของมนุษย์ที่แสดงออกได้ ตนได้สื่อสารกับพี่น้องชาวเมียนมาที่มาวันนี้ว่า จะทำกิจกรรมอย่างสงบเรียบร้อย เมื่อเสร็จแล้วก็จะแยกย้ายกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การชุมนุมวันนี้ มีนางแบบสาวชาวเมียนมา ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "
Phuu Pwint Khaing" หรือชื่อไทยว่า "
พลอย" เดินทางเข้าร่วมด้วย โดยเจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่า ที่คนเมียนมาในไทยต้องออกมาชุมนุมต่อเนื่อง เพราะขณะนี้คนเมียนมาที่คัดค้านการรัฐประหารไม่สามารถออกมาชุมนุมแสดงออกใดๆได้ คนเมียนมาในต่างประเทศจึงต้องออกมารวมตัวกันเป็นตัวแทนเพื่อสื่อออกไปให้นานาชาติได้ทราบ ทั้งนี้ ภายหลังการจัดกิจกรรมดังกล่าวเสร็จสิ้น ผู้ชุมนุมต่างแยกย้ายกันเดินทางกลับอย่างสงบ.
ภาคเอกชนแนะรัฐจัด “วัคซีนพาสปอร์ต” ให้คนไทยบินไปตปท.
https://www.matichon.co.th/economy/news_2561729
ภาคเอกชนแนะรัฐจัด “วัคซีนพาสปอร์ต” ให้คนไทยบินไปตปท.
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่โรงแรมคอนราด เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ นาย
สุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) ประกอบด้วย ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ประจำเดือนกุมภาพันธ์ ว่า ที่ประชุมกกร.ต้องการให้รัฐบาลเร่งรัดการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) ให้กับคนไทยโดยเร็ว ควรกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ
ใครที่ฉีดแล้วจะมีการออกวัคซีนพาสปอร์ตเพื่อใช้ในการเดินทางไปต่างประเทศ เชื่อว่าวัคซีนพาสปอร์ต จะมีความจำเป็นใช้กันทั่วโลกในอนาคตจากนี้ เพื่อความเข้มงวดในการควบคุมการแพร่ระบาด
“
ปัจจุบันการใช้จ่ายในประเทศยังน่าห่วง วัคซีนโควิด คือ เงื่อนไขสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยตลอดปี 2564 นอกจากมาตรการต่างๆที่รัฐบาลทยอยออกมา โดยจะมีส่วนในการฟื้นฟูสถานการณ์ท่องเที่ยว ต่างชาติที่เข้ามาในไทยต้องมีวัคซีนพาสปอร์ตเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนไทย” นาย
สุพันธุ์กล่าว
นาย
สุพันธุ์ กล่าวว่า ปัจจุบันทั่วโลกมีการฉีดวัคซีนแล้วประมาณ 100 ล้านโดส ขณะที่ไทยควรมีแผนชัดเจนทั้งลำดับการฉีดก่อนหลัง การกระจายวัคซีนในกลุ่มต่างๆ กกร.ยังต้องการให้รัฐบาลฉีดวัคซีนให้กับต่างชาติและต่างด้าวที่ทำงานประเทศไทย ทางเอกชนยินดีออกค่าใช้จ่ายเองให้กับลูกจ้างเอง แต่ขอให้รัฐมีมาตรการทางภาษีออกมาสนับสนุนด้วย
นาย
สุพันธุ์ กล่าวว่า อยากให้รัฐวางแผนเรื่องบุคลากรทางการแพทย์ให้พร้อมสำหรับการฉีดวัคซีนโควิด หากไทยวางแผนฉีดในช่วงครึ่งปีหลัง 2564 (กรกฎาคม-ธันวาคม) จำนวน 60 ล้านโดส เพื่อประชากร 30 ล้านคน เดือนละ 10 ล้านโดส จะตกวันละ 3 แสนโดส หากฉีดวันละ 12 ชั่วโมงเท่ากับว่าใน 1 ชั่วโมงจะมีการฉีดวัคซีนประมาณ 2.6 หมื่นโดส ปริมาณการฉีดดังกล่าวรัฐบาลมีบุคลากรทางการแพทย์เพียงพอหรือไม่ เรื่องนี้เป็นอีกโจทย์ที่รัฐบาลต้องวางแผน
หมอธีระชี้โควิดไม่กระจอก ภัยคุกคามโลกหนักที่สุดในรอบ 102 ปี
https://www.tnnthailand.com/content/70320
หมอธีระ โพสต์เฟซบุ๊กย้ำเตือนโควิดสุดอันตราย เป็นภัยคุกคามโลกหนักที่สุดในรอบ 102 ปี ห่วงเพื่อนบ้านมาเลเซียระบาดระลอก 2 ยาวนาน
วันนี้ ( 4 ก.พ. 64 )รศ.นพ.
ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความเกี่ยวกับสถานการณ์ โควิด-19 ประจำวันระบุว่า
“สถานการณ์ทั่วโลก 4 กุมภาพันธ์ 2564 สาธารณรัฐเช็คเป็นประเทศที่ 20 ของโลก ที่ติดเชื้อเกินล้านคน คาดว่าเนเธอร์แลนด์จะเป็นประเทศที่ 21 ภายในอีก 3-4 วัน เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 513,411 คน ขยับขึ้นมาเลยห้าแสนอีกครั้ง หลังจากดูจะลดลงไปช่วงหนึ่ง รวมแล้วตอนนี้ 104,764,563 คน ตายเพิ่มอีก 14,772 คน ยอดตายรวม 2,273,567 คน
อเมริกา ทะลุ 27 ล้านไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อวานติดเชิ้อเพิ่ม 127,101 คน รวม 27,112,245 คน ตายเพิ่มอีก 4,120 คน ยอดตายรวม 460,644 คน
อินเดีย ติดเพิ่ม 12,703 คน รวม 10,790,909 คน
บราซิล ติดเพิ่ม 66,080 คน รวม 9,296,945 คน จะแตะสิบล้านภายในเดือนนี้
รัสเซีย ติดเพิ่ม 16,474 คน รวม 3,901,204 คน
สหราชอาณาจักร ติดเพิ่มอีก 19,202 คน รวม 3,871,825 คน ต่ำกว่าสองหมื่นคนเป็นวันที่สามติดต่อกัน ยอดตายรวมขณะนี้ 109,335 คน
อันดับ 6-10 เป็น ฝรั่งเศส ตุรกี อิตาลี สเปน และเยอรมัน ส่วนใหญ่ติดกันหลายพันถึงหลายหมื่นต่อวัน
แถบอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างโคลอมเบีย เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงอิหร่าน บังคลาเทศ อิสราเอล อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น
มาเลเซียสถานการณ์ดูน่าเป็นห่วงมาก ตั้งแต่กลางเดือนมกราคมจนถึงปัจจุบันเฉลี่ยแล้วติดราว 4,000 คนต่อวัน ประเมินแล้วระลอกสองนี้ยาวนานกว่าค่าเฉลี่ยและค่ามัธยฐานของประเทศที่ระบาดซ้ำ (2 เท่าของของเดิม) ลักษณะการระบาดมีแนวโน้มจะยาวนานอย่างน้อยหกเดือน (3 เท่าของของเดิม)
ทั้งนี้โค้งการระบาดอาจเป็นไปในลักษณะคล้ายโมร็อคโค (ระลอกสองที่ยาวนาน) หรือสาธารณรัฐเช็ค (ระลอกสองต่อด้วยระลอกสาม) คงต้องเอาใจช่วยให้เค้าคุมโรคได้โดยเร็ว
แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็ยังมีติดเชื้อเพิ่มต่อเนื่องแบบทรงตัว เมียนมาร์ เกาหลีใต้ และไทย ติดเพิ่มหลายร้อย ส่วนจีน ฮ่องกง เวียดนาม และสิงคโปร์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
เวียดนามติดเชื้อเพิ่มหลายสิบคนต่อวัน ต่อเนื่องมา 7 วันแล้ว
วิเคราะห์สถานการณ์บ้านเรา
ยืนยันอีกครั้งว่า "โรคนี้ไม่กระจอก" ครับ แต่เป็นภัยคุกคามที่หนักที่สุดในรอบ 102 ปีของโลก ไม่งั้นคงไม่ติดกันไปถึง 104 ล้านคน และตายไปกว่า 2.2 ล้านคนทั่วโลกเช่นนี้
การที่เราเห็นเขียวเหลืองส้มแดงในปัจจุบันนั้น แม้จะเป็นข้อมูลชี้ให้เห็นว่าการระบาดไม่ได้แพร่ติดเชื้อกันไปทั่วทุกคนทั้งประเทศ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าระบาดซ้ำครั้งนี้รุนแรงกว่าเดิม เพราะเหตุใดลองไปคิดวิเคราะห์กันตามข้อมูลหลักฐานที่มี
อย่าลืมว่าจำนวนการตรวจต่อวันของเรานั้นน้อยกว่าประเทศอื่นๆ อย่างมาก เพราะข้อจำกัดด้านต่างๆ อย่างที่เราทราบกันดี
ดังนั้น สิ่งที่ประชาชนอย่างพวกเราจะทำได้คือ ป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัด เชื่อในสิ่งที่ควรเชื่อ ทำในสิ่งที่ควรทำ ใช้ความรู้ที่ถูกต้อง เป็นแสงส่องนำทาง ระลึกไว้เสมอว่า วิกฤติโรคระบาดเช่นนี้ ต้องใช้สติ ปัญญา หลักเหตุและผล มาเพื่อตัดสินใจเชื่อและปฏิบัติ
บทเรียนในอดีตที่ผ่านมามีมากมายหลายเรื่อง ชีวิตของเราทุกคน เราทุกคนต้องช่วยกันปกป้อง ใส่หน้ากากเสมอ ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างคนอื่นหนึ่งเมตรลดละเลี่ยงการกินดื่มในร้าน ซื้อกลับจะปลอดภัยกว่าคอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบายให้รีบไปตรวจรักษา ”
https://www.facebook.com/thiraw/posts/10221780088123899
JJNY : นางแบบเมียนมาร่วมชุมนุม│แนะจัดวัคซีนพาสปอร์ต│หมอธีระชี้โควิดไม่กระจอก│พท.บอกอย่าทำการเมืองแบบโบราณ│ปชป.เดือดพปชร.
https://www.dailynews.co.th/politics/823205
ชาวเมียนมารวมตัวชุมนุมต้านรัฐประหาร หน้าองค์การสหประชาติ วันที่ 2 นางแบบสาว Phuu Pwint Khaing ร่วมด้วย ลั่นขอเป็นตัวแทนสื่อให้นานาชาติได้รู้
เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่หน้าองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ถนนราชดำเนินนอก กลุ่มชาวเมียนมาชายหญิงที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยประมาณ 50 คน เดินทางมาชุมนุมต่อต้านการก่อรัฐประหารของกองทัพเมียนมาร ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้แสดงสัญลักษณ์พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของเมียนมาหรือ เอ็นแอลดี (NLD) และภาพนางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา ซึ่งอยู่ระหว่างถูกควบคุมตัวโดยรัฐบาลทหาร พร้อมเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางซูจี และคืนประชาธิปไตยให้ประเทศเมียนมา โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง ดูแลความสงบเรียบร้อย
ด้าน นายไซ นักธุรกิจชาวเมียนมา ตัวแทนชุมนุมเมียนมาในประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังยื่นหนังสือถึงยูเอ็นไปเมื่อวานนี้ (2 ก.พ.) ต้องการแสดงออกว่า ไม่เอากับการรัฐประหารครั้งนี้ อีกทั้งประชาชนที่อยู่ในเมียนมา พูดถึงอะไรไม่ได้ตอนนี้ พวกตนจึงมาเป็นตัวแทน อย่างไรก็ตาม ที่เมียนมาไม่ได้นิ่งเฉย ถึงออกมาบนถนนกันไม่ได้ แต่ก็ยังเคลื่อนไหวทางออนไลน์อยู่ พวกตนขอมาใช้พื้นที่ของประเทศไทย เพราะที่เมียนมาไม่มีสิทธิพื้นฐานของมนุษย์ที่แสดงออกได้ ตนได้สื่อสารกับพี่น้องชาวเมียนมาที่มาวันนี้ว่า จะทำกิจกรรมอย่างสงบเรียบร้อย เมื่อเสร็จแล้วก็จะแยกย้ายกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การชุมนุมวันนี้ มีนางแบบสาวชาวเมียนมา ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Phuu Pwint Khaing" หรือชื่อไทยว่า "พลอย" เดินทางเข้าร่วมด้วย โดยเจ้าตัวให้สัมภาษณ์ว่า ที่คนเมียนมาในไทยต้องออกมาชุมนุมต่อเนื่อง เพราะขณะนี้คนเมียนมาที่คัดค้านการรัฐประหารไม่สามารถออกมาชุมนุมแสดงออกใดๆได้ คนเมียนมาในต่างประเทศจึงต้องออกมารวมตัวกันเป็นตัวแทนเพื่อสื่อออกไปให้นานาชาติได้ทราบ ทั้งนี้ ภายหลังการจัดกิจกรรมดังกล่าวเสร็จสิ้น ผู้ชุมนุมต่างแยกย้ายกันเดินทางกลับอย่างสงบ.
ภาคเอกชนแนะรัฐจัด “วัคซีนพาสปอร์ต” ให้คนไทยบินไปตปท.
https://www.matichon.co.th/economy/news_2561729
ภาคเอกชนแนะรัฐจัด “วัคซีนพาสปอร์ต” ให้คนไทยบินไปตปท.
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่โรงแรมคอนราด เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) ประกอบด้วย ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ประจำเดือนกุมภาพันธ์ ว่า ที่ประชุมกกร.ต้องการให้รัฐบาลเร่งรัดการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) ให้กับคนไทยโดยเร็ว ควรกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ
ใครที่ฉีดแล้วจะมีการออกวัคซีนพาสปอร์ตเพื่อใช้ในการเดินทางไปต่างประเทศ เชื่อว่าวัคซีนพาสปอร์ต จะมีความจำเป็นใช้กันทั่วโลกในอนาคตจากนี้ เพื่อความเข้มงวดในการควบคุมการแพร่ระบาด
“ปัจจุบันการใช้จ่ายในประเทศยังน่าห่วง วัคซีนโควิด คือ เงื่อนไขสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยตลอดปี 2564 นอกจากมาตรการต่างๆที่รัฐบาลทยอยออกมา โดยจะมีส่วนในการฟื้นฟูสถานการณ์ท่องเที่ยว ต่างชาติที่เข้ามาในไทยต้องมีวัคซีนพาสปอร์ตเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนไทย” นายสุพันธุ์กล่าว
นายสุพันธุ์ กล่าวว่า ปัจจุบันทั่วโลกมีการฉีดวัคซีนแล้วประมาณ 100 ล้านโดส ขณะที่ไทยควรมีแผนชัดเจนทั้งลำดับการฉีดก่อนหลัง การกระจายวัคซีนในกลุ่มต่างๆ กกร.ยังต้องการให้รัฐบาลฉีดวัคซีนให้กับต่างชาติและต่างด้าวที่ทำงานประเทศไทย ทางเอกชนยินดีออกค่าใช้จ่ายเองให้กับลูกจ้างเอง แต่ขอให้รัฐมีมาตรการทางภาษีออกมาสนับสนุนด้วย
นายสุพันธุ์ กล่าวว่า อยากให้รัฐวางแผนเรื่องบุคลากรทางการแพทย์ให้พร้อมสำหรับการฉีดวัคซีนโควิด หากไทยวางแผนฉีดในช่วงครึ่งปีหลัง 2564 (กรกฎาคม-ธันวาคม) จำนวน 60 ล้านโดส เพื่อประชากร 30 ล้านคน เดือนละ 10 ล้านโดส จะตกวันละ 3 แสนโดส หากฉีดวันละ 12 ชั่วโมงเท่ากับว่าใน 1 ชั่วโมงจะมีการฉีดวัคซีนประมาณ 2.6 หมื่นโดส ปริมาณการฉีดดังกล่าวรัฐบาลมีบุคลากรทางการแพทย์เพียงพอหรือไม่ เรื่องนี้เป็นอีกโจทย์ที่รัฐบาลต้องวางแผน
หมอธีระชี้โควิดไม่กระจอก ภัยคุกคามโลกหนักที่สุดในรอบ 102 ปี
https://www.tnnthailand.com/content/70320
หมอธีระ โพสต์เฟซบุ๊กย้ำเตือนโควิดสุดอันตราย เป็นภัยคุกคามโลกหนักที่สุดในรอบ 102 ปี ห่วงเพื่อนบ้านมาเลเซียระบาดระลอก 2 ยาวนาน
วันนี้ ( 4 ก.พ. 64 )รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความเกี่ยวกับสถานการณ์ โควิด-19 ประจำวันระบุว่า
“สถานการณ์ทั่วโลก 4 กุมภาพันธ์ 2564 สาธารณรัฐเช็คเป็นประเทศที่ 20 ของโลก ที่ติดเชื้อเกินล้านคน คาดว่าเนเธอร์แลนด์จะเป็นประเทศที่ 21 ภายในอีก 3-4 วัน เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 513,411 คน ขยับขึ้นมาเลยห้าแสนอีกครั้ง หลังจากดูจะลดลงไปช่วงหนึ่ง รวมแล้วตอนนี้ 104,764,563 คน ตายเพิ่มอีก 14,772 คน ยอดตายรวม 2,273,567 คน
อเมริกา ทะลุ 27 ล้านไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อวานติดเชิ้อเพิ่ม 127,101 คน รวม 27,112,245 คน ตายเพิ่มอีก 4,120 คน ยอดตายรวม 460,644 คน
อินเดีย ติดเพิ่ม 12,703 คน รวม 10,790,909 คน
บราซิล ติดเพิ่ม 66,080 คน รวม 9,296,945 คน จะแตะสิบล้านภายในเดือนนี้
รัสเซีย ติดเพิ่ม 16,474 คน รวม 3,901,204 คน
สหราชอาณาจักร ติดเพิ่มอีก 19,202 คน รวม 3,871,825 คน ต่ำกว่าสองหมื่นคนเป็นวันที่สามติดต่อกัน ยอดตายรวมขณะนี้ 109,335 คน
อันดับ 6-10 เป็น ฝรั่งเศส ตุรกี อิตาลี สเปน และเยอรมัน ส่วนใหญ่ติดกันหลายพันถึงหลายหมื่นต่อวัน
แถบอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างโคลอมเบีย เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงอิหร่าน บังคลาเทศ อิสราเอล อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น
มาเลเซียสถานการณ์ดูน่าเป็นห่วงมาก ตั้งแต่กลางเดือนมกราคมจนถึงปัจจุบันเฉลี่ยแล้วติดราว 4,000 คนต่อวัน ประเมินแล้วระลอกสองนี้ยาวนานกว่าค่าเฉลี่ยและค่ามัธยฐานของประเทศที่ระบาดซ้ำ (2 เท่าของของเดิม) ลักษณะการระบาดมีแนวโน้มจะยาวนานอย่างน้อยหกเดือน (3 เท่าของของเดิม)
ทั้งนี้โค้งการระบาดอาจเป็นไปในลักษณะคล้ายโมร็อคโค (ระลอกสองที่ยาวนาน) หรือสาธารณรัฐเช็ค (ระลอกสองต่อด้วยระลอกสาม) คงต้องเอาใจช่วยให้เค้าคุมโรคได้โดยเร็ว
แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็ยังมีติดเชื้อเพิ่มต่อเนื่องแบบทรงตัว เมียนมาร์ เกาหลีใต้ และไทย ติดเพิ่มหลายร้อย ส่วนจีน ฮ่องกง เวียดนาม และสิงคโปร์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
เวียดนามติดเชื้อเพิ่มหลายสิบคนต่อวัน ต่อเนื่องมา 7 วันแล้ว
วิเคราะห์สถานการณ์บ้านเรา
ยืนยันอีกครั้งว่า "โรคนี้ไม่กระจอก" ครับ แต่เป็นภัยคุกคามที่หนักที่สุดในรอบ 102 ปีของโลก ไม่งั้นคงไม่ติดกันไปถึง 104 ล้านคน และตายไปกว่า 2.2 ล้านคนทั่วโลกเช่นนี้
การที่เราเห็นเขียวเหลืองส้มแดงในปัจจุบันนั้น แม้จะเป็นข้อมูลชี้ให้เห็นว่าการระบาดไม่ได้แพร่ติดเชื้อกันไปทั่วทุกคนทั้งประเทศ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าระบาดซ้ำครั้งนี้รุนแรงกว่าเดิม เพราะเหตุใดลองไปคิดวิเคราะห์กันตามข้อมูลหลักฐานที่มี
อย่าลืมว่าจำนวนการตรวจต่อวันของเรานั้นน้อยกว่าประเทศอื่นๆ อย่างมาก เพราะข้อจำกัดด้านต่างๆ อย่างที่เราทราบกันดี
ดังนั้น สิ่งที่ประชาชนอย่างพวกเราจะทำได้คือ ป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัด เชื่อในสิ่งที่ควรเชื่อ ทำในสิ่งที่ควรทำ ใช้ความรู้ที่ถูกต้อง เป็นแสงส่องนำทาง ระลึกไว้เสมอว่า วิกฤติโรคระบาดเช่นนี้ ต้องใช้สติ ปัญญา หลักเหตุและผล มาเพื่อตัดสินใจเชื่อและปฏิบัติ
บทเรียนในอดีตที่ผ่านมามีมากมายหลายเรื่อง ชีวิตของเราทุกคน เราทุกคนต้องช่วยกันปกป้อง ใส่หน้ากากเสมอ ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างคนอื่นหนึ่งเมตรลดละเลี่ยงการกินดื่มในร้าน ซื้อกลับจะปลอดภัยกว่าคอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบายให้รีบไปตรวจรักษา ”
https://www.facebook.com/thiraw/posts/10221780088123899