ที่แฟนคุณพูดแบบนั้น เพราะเค้ากำลังคิดว่า อำนาจเกี่ยวกับการเงินของคุณ มันขึ้นอยู่กับพ่อและแม่
คุณทำงาน แต่ไม่มีเงินเดือน
อยากใช้อะไร ต้องขอพ่อแม่

แล้วถ้าพ่อแม่ไม่ให้เงินมาใช้ เพราะไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่คุณกำลังจะใช้ล่ะ จะทำยังไง

เช่น ถ้าแฟนคุณอยากให้คุฯมาร่วมลงทุน หรือซื้อเรือนหอ หรือซื้ออะไรก็แล้วแต่
แต่พ่อแม่คุณไม่เห็นด้วย อาจจะไม่ให้เงินมาเลย หรือให้มาน้อยกว่าที่ต้องการ
คุณจะทำยังไง

แฟนคุณมองเห็นถึงปัญหานี้ล่วงหน้า เลยมองว่า ตัวคุณไม่มีอนาคต
เพราะคุณไม่สามารถตัดสินใจอะไรเกี่ยวกับการเงินได้
ต้องรอให้พ่อและแม่เป็นฝ่ายอนุมัติการตัดสินใจ เพื่อให้คุณมาใช้

นี่ผมวิเคราะห์จากข้อมูลเท่าที่มีนะครับ

ส่วนปัญหาอื่นๆ ผมมองว่า คุณควรมองทุกอย่างให้เป็นระบบที่ถูกต้อง

ทำงานกับที่บ้าน ไม่ใช่เรื่องผิดครับ ถ้าคุณทำแล้วกิจการรุ่งเรือง ตัวคุณมีความสุข ยิ่งเป็นเรื่องดีครับ
แต่ต้องคิดเป็นระบบ ไม่ใช่รูปแบบกงสีแบบโบราณ
ตัวคุณต้องได้เงินเดือนตามสมควรแก่ตำแหน่ง ในฐานะลูกจ้างของบริษัท

ลองคิดง่ายๆ ถ้าคุณไม่ทำงานกับที่บ้าน
แล้วพ่อแม่คุณ ต้องหาคนอื่นมาทำงานแทนคุณ เค้าก็ต้องจ่ายค่าแรงเป็นเงินเดือนเช่นกัน

แต่ถ้าบอกว่า พ่อแม่ไม่ต้องจ้างคนอื่น ทำกันเองได้
เป็นผมก็จะไปหางานนอกทำ ได้เงินเพิ่มอีกด้วย ไม่ดีกว่าหรือ

แต่นี่ไม่ใช่ประเด็นครับ

ทำความเข้าใจกับแฟนและชีวิตให้ถ่องแท้ครับ แล้วจะได้แก้ไขปัญหาได้ถูกจุด

เหมือนตั้งกระทู้แค่เพื่อให้คนมาตอบแล้วตัวเองจะได้เถียงอวดรวยอะ 😒 แฟนจขกท.บอกว่าไม่มีอนาคตเพราะนิสัยหรือเปล่าคะ

แฟน จขกท. ใช้คำผิดนะ กับคำว่า "ไม่มีอนาคต"
เพราะที่จริง จขกท. อนาคตดีมากเลยนะ เพราะกิจการทางบ้านก็เข้าขั้นมหาเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง
ร่ำรวยชนิดนี้ ถ้าปล่อยให้ จกขท. ที่เป็นลูกชายไปทำงานที่อื่นแล้วได้เงินเดือนเป็นแสน ก็ยังสู้ทำกับครอบครัวไม่ได้

แต่ที่นี้ในความหมายที่แฟนต้องการจะบอกคือ การไม่มีอิสรภาพในการใช้เงิน
เงินมีเยอะแต่ไม่ได้ถูกนำมาใช้จ่ายให้สมดุลในฐานะแฟน แม้แค่ใช้จ่ายในเรื่องเล็กน้อย ก็ต้องผ่านการบอกให้รับรู้กับทางบ้าน
คาดว่า แฟนน่าจะมีอะไรน้อยใจอยู่นะ คือไม่ได้ไปเที่ยว ไปกินด้วยให้มีความสูขบ้างมากกว่านี้ ทั้ง ๆ ที่แฟนก็เงิน แต่ได้ใช้เท่ากับมีแฟนที่ไม่ค่อยมีเงิน
มันก็วกมาประเด็นที่ว่า ขนาดเรื่องใช้เงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยกัน ยังไม่สามารถทำร่วมกันได้เลย แล้วเรื่องที่จะนำเงินมาสร้างงาน สร้างอนาคตด้วยกันหล่ะ อยู่ที่ไหน ยังต้องคอยขอ คอยบอกทุกรายการกับทางบ้านต่อไปอีกแบบนี้เหรอ จนแม้จะแต่งงานกันไป มีลูกแล้วก็ยังต้องใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปเหรอ อำนาจการตัดสินใจในการสร้างครอบครัวด้วยกัน หรืออยากจะนำเงินมาเริ่มต้นลงทุนทำกิจการด้วยกันตามความต้องการ ก็คงเป็นไปไม่ได้เลย

ทีนี้ในมุมมองของพ่อแม่ จขกท. นะ  คือเขายังไม่ไว้วางใจ คุณทั้ง 2 คน ว่าจะมีความสามารถหรือความตั้งใจในการสร้างอนาคคด้วยกัน ยังต้องมีการพิสูจน์ให้เขาเชื่อใจก่อน ถึงจะได้ความเชื่อมั่นตรงนี้ไป
เลยเป็นที่มาของการที่ "แฟนบอกว่าเราไม่มีอนาคต เรื่องแต่งงาน ชีวิตคู่"
นั่นเพราะ แฟน จขกท. ยังไม่เข้าตา กับ ทางครอบครัวนะ
เค้าเลยยังไม่มีการพูดถึงอนาคตในการแต่งงานของทั้งคู่
ซึ่งรวมไปถึงการที่จะยกทุนก้อนหนึ่งให้ไปตั้งตัว หรือ ยกกิจการของที่บ้านให้ไปทำต่อ

ส่วนคำถามที่ จขกท. ถามว่า "ทำยังไงให้แฟนหมดเป็นกังวลเรื่องอนาคตดี"
ก็ให้ จขกท. คุยกับแฟนในประเด็นว่า "แทนที่จะมาคิด มากังวลแต่ว่า เมื่อไหร่จะได้รับการไว้วางใจ ให้พูดถึงอนาคตของทั้งสองจากครอบครัว"
ให้เปลี่ยนมาเป็น มาคิด มามองว่า ตอนนี้ เราทั้ง 2 วางตัวให้ครอบครัวเห็นคุณค่าได้หรือยัง?
ให้ครอบครัวได้เห็นถึง ความสามารถ ความตั้งใจ ความจริงใจที่สร้างตัว สร้างฐานะ หรือแม้แต่จะสืบทอดกิจการของครอบครัวได้หรือไม่
ถ้าทำตรงนี้ได้ดีให้ครอบครัวได้เห็น เค้าก็จะเป็นฝ่ายพูดถึงอนาคต เรื่องแต่งงาน ชีวิตคู่ ที่ แฟน จขกท. ต้องการเห็นเอง!