เกริ่นก่อนนะคะว่าไม่ได้จะว่าดิสเครดิตใครใดๆทั้งสิ้น แค่อยากมาเล่าประสบการณ์ที่เจอมากับตัวค่ะ
เราเลี้ยงหมามา10กว่าปีแล้วค่ะ ที่บ้านเลี้ยง เป็นหมาพันธ์ไทย เมื่อช่วงเดือนธันวาที่ผ่านมา เรารู้สึกได้ว่าหมามีท้องที่ใหญ่ขึ้นและนมเต่งค่ะ ตอนแรกสงสัยว่าท้องหรือเปล่า แต่ก็กังวลเพราะหมาไม่เคยท้องมาก่อนเลยพาหมาไปหาหมอที่คลินิก เพราะกลัวเค้าท้องขึ้นมาจริงๆแล้วจะคลอดเองไม่ได้ หมอคลำๆดูไม่เจอลูกเลยให้ตรวจเลือดและรอผลค่ะ หมอบอกว่าอาการเค้าเหมือนจะเป็นมดลูกอักเสบ เราก็ตกใจค่ะ เพราะเค้าดูร่าเริงมากๆกินอาหารได้เยอะ ดูภายนอกแล้วไม่น่าจะป่วย (แต่สัตว์พูดกับเราไม่ได้อ่ะเนอะ) และเราไม่อยากให้เค้าผ่าตัด เพราะว่าเคยมีประสบการณ์ เลี้ยงหมาตัวเมียไม่ได้ทำหมันเค้าป่วยเป็นมดลูกอักเสบ (มีหนองออกมาจากน้องสาว)หมอที่รักษาตอนนั้นบอกว่าฉีดยาไปก็เท่านั้น ช่วยระยะสั้นๆเท่านั้น ยังไงก็ต้องผ่าตัดถึงจะปลอดภัย เราก็เชื่อค่ะ แต่พอไปผ่าตัดแล้วเค้ากลับมาไม่ฟื้นค่ะ เพราะอายุเค้าก็ค่อนข้างเยอะแล้ว ฝังใจมาถึงทุกวันนี้ค่ะ ( แต่ก็เป็นบทเรียนว่าควรที่จะทำหมันหมาตัวเมียแทนการฉีดยาคุม เพราะจะทำให้หมาไม่เป็นมดลูกอักเสบในระยะยาวได้ มันเป็นความผิดเราเอง)
ตัวที่เราเลี้ยงปัจจุบันนี้ ก็มีอายุเยอะแล้วค่ะ เราเลยไม่ได้พาเค้าไปทำหมันอีก เลี่ยงการฉีดยาคุมเท่านั้น แล้วที่บ้านเราก็ไม่อยากให้ผ่าตัดค่ะ แต่การผ่าตัดเป็นสิ่งสำคัญทีที่จะช่วยหมาให้รอดชีวิตได้ เราก็ยอมค่ะ เพราะถ้าไม่ผ่าตัดมดลูกอักเสบมากๆเป็นหนองมา ก็อาจจะติดเชื้อในกระแสเลือดได้
แต่ที่บ้านเราไม่สบายใจที่จะให้น้องผ่า ที่กังวลเป็นเพราะน้องอายุเยอะแล้ว แล้วเราก็ไม่อยากให้คนที่บ้านไม่สบายใจเลยคิดว่าถ้าเอ็กซะเรย์ให้เห็นไปเลย จะดีกว่า เพราะคลินิกนี้หมอไม่ได้อัลตร้าซาวหรือเอ็กซเรย์ และถ้าน้องป่วยเป็นมดลูกอักเสบจริงๆก็ต้องผ่าตัดค่ะ เราผ่าตัดแน่นอน ถึงค่ารักษาจะแพง แต่ก็ไม่อยากให้เค้าต้องทรมาณแม้ค่ารักษาจะเเพงก็ตาม เราเลยลองเปลี่ยนคลินิกตามที่เพื่อนและหลายๆคนแนะนำ โดยพาไปเอ็กซเรย์ที่คลินิกที่มีเครื่องมือหลายๆอย่าง ทั้งเครื่องเอ็กซเรย์แล็บตรวจเลือด
ผลปรากฏว่า น้องหมาไม่ได้เป็นอะไรเลยค่ะ หมอบอกว่าน้องอ้วนเฉยๆ ฟิล์มเอ็กซเรย์ก็ปรากฏว่ามีไขมันเยอะค่ะ แต่ไม่พบว่ามดลูกอักเสบหรือเป็นหนองใดๆเลย หมออธิบายให้ฟังและชี้ให้ดูว่าถ้ามีมดลูกอักเสบ มันจะดันกับลำไส้ออกมาแบบนี้ๆ หมอบอกให้ควบคุมอาหารไม่อย่างนั้นหมาเราจะเหนื่อยง่ายและมีโรคตามมาอีกมาก
เราเสียค่าเอ็กซเรย์ 500 บาท และพาหมากลับบ้าน เราดีใจมากๆเลยที่หมาเราไม่เป็นอะไร แต่ว่าหมอก็ให้สังเกตอาการเรื่อยๆ เพราะน้องก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นได้ในอนาคตได้ แต่ตอนนี้ไม่พบเท่านั้น
อยากเตือนเพื่อนๆว่าหากไม่มั่นใจในการรักษาโรคของสุนัข ให้ศึกษาข้อมูลหลายๆด้านก่อน อย่าเพิ่งรีบด่วนตัดสินใจ ถึงแม้เราจะกระวนกระวายมากพอรู้ว่าหมาเป็นมดลูกอักเสบจากการยืนยันจากคลินิกแรก เราเลยโทรไปสอบถามคลินิกหลายๆที่ จนมาเจอคลินิกที่เราพาน้องไปเอ็กซเรย์ ผู้ช่วยหมออธิบายรายละเอียดให้เราฟังทางโทรศัพท์ประมาณ 15 นาทีได้ บอกให้พาน้องไปดูก่อน เราจึงตัดสินใจเปลี่ยนคลินิกมาที่นี่แทน การเลือกคลินิกที่เชื่อถือได้ เครื่องมือครบหรือรีวิวดียิ่งดี เพราะถ้าด่วนสรุป และผ่าตัดโดยที่หมาไม่ได้เป็นอะไร เราว่าหมาเราต้องเสี่ยงไม่ฟื้นแน่ๆ ด้วยอายุที่เยอะพอสมควร และหากใครเลี้ยงก็ควรพาเค้าไปทำหมันก่อนจะสายไปนะคะ โดยปรึกษาหมอ (หากหมาไม่เป็นแม่พันธ์) เค้าจะได้อยู่กับเราไปนานๆ ลดความเสี่ยงในการเป็นมดลูกอักเสบมะเร็งและหลายโรคที่จะตามมาอีกด้วยค่ะ
อุทาหรณ์คนเลี้ยงสุนัข!! การทำหมันและโรคมดลูกอักเสบ
เราเลี้ยงหมามา10กว่าปีแล้วค่ะ ที่บ้านเลี้ยง เป็นหมาพันธ์ไทย เมื่อช่วงเดือนธันวาที่ผ่านมา เรารู้สึกได้ว่าหมามีท้องที่ใหญ่ขึ้นและนมเต่งค่ะ ตอนแรกสงสัยว่าท้องหรือเปล่า แต่ก็กังวลเพราะหมาไม่เคยท้องมาก่อนเลยพาหมาไปหาหมอที่คลินิก เพราะกลัวเค้าท้องขึ้นมาจริงๆแล้วจะคลอดเองไม่ได้ หมอคลำๆดูไม่เจอลูกเลยให้ตรวจเลือดและรอผลค่ะ หมอบอกว่าอาการเค้าเหมือนจะเป็นมดลูกอักเสบ เราก็ตกใจค่ะ เพราะเค้าดูร่าเริงมากๆกินอาหารได้เยอะ ดูภายนอกแล้วไม่น่าจะป่วย (แต่สัตว์พูดกับเราไม่ได้อ่ะเนอะ) และเราไม่อยากให้เค้าผ่าตัด เพราะว่าเคยมีประสบการณ์ เลี้ยงหมาตัวเมียไม่ได้ทำหมันเค้าป่วยเป็นมดลูกอักเสบ (มีหนองออกมาจากน้องสาว)หมอที่รักษาตอนนั้นบอกว่าฉีดยาไปก็เท่านั้น ช่วยระยะสั้นๆเท่านั้น ยังไงก็ต้องผ่าตัดถึงจะปลอดภัย เราก็เชื่อค่ะ แต่พอไปผ่าตัดแล้วเค้ากลับมาไม่ฟื้นค่ะ เพราะอายุเค้าก็ค่อนข้างเยอะแล้ว ฝังใจมาถึงทุกวันนี้ค่ะ ( แต่ก็เป็นบทเรียนว่าควรที่จะทำหมันหมาตัวเมียแทนการฉีดยาคุม เพราะจะทำให้หมาไม่เป็นมดลูกอักเสบในระยะยาวได้ มันเป็นความผิดเราเอง)
ตัวที่เราเลี้ยงปัจจุบันนี้ ก็มีอายุเยอะแล้วค่ะ เราเลยไม่ได้พาเค้าไปทำหมันอีก เลี่ยงการฉีดยาคุมเท่านั้น แล้วที่บ้านเราก็ไม่อยากให้ผ่าตัดค่ะ แต่การผ่าตัดเป็นสิ่งสำคัญทีที่จะช่วยหมาให้รอดชีวิตได้ เราก็ยอมค่ะ เพราะถ้าไม่ผ่าตัดมดลูกอักเสบมากๆเป็นหนองมา ก็อาจจะติดเชื้อในกระแสเลือดได้
แต่ที่บ้านเราไม่สบายใจที่จะให้น้องผ่า ที่กังวลเป็นเพราะน้องอายุเยอะแล้ว แล้วเราก็ไม่อยากให้คนที่บ้านไม่สบายใจเลยคิดว่าถ้าเอ็กซะเรย์ให้เห็นไปเลย จะดีกว่า เพราะคลินิกนี้หมอไม่ได้อัลตร้าซาวหรือเอ็กซเรย์ และถ้าน้องป่วยเป็นมดลูกอักเสบจริงๆก็ต้องผ่าตัดค่ะ เราผ่าตัดแน่นอน ถึงค่ารักษาจะแพง แต่ก็ไม่อยากให้เค้าต้องทรมาณแม้ค่ารักษาจะเเพงก็ตาม เราเลยลองเปลี่ยนคลินิกตามที่เพื่อนและหลายๆคนแนะนำ โดยพาไปเอ็กซเรย์ที่คลินิกที่มีเครื่องมือหลายๆอย่าง ทั้งเครื่องเอ็กซเรย์แล็บตรวจเลือด
ผลปรากฏว่า น้องหมาไม่ได้เป็นอะไรเลยค่ะ หมอบอกว่าน้องอ้วนเฉยๆ ฟิล์มเอ็กซเรย์ก็ปรากฏว่ามีไขมันเยอะค่ะ แต่ไม่พบว่ามดลูกอักเสบหรือเป็นหนองใดๆเลย หมออธิบายให้ฟังและชี้ให้ดูว่าถ้ามีมดลูกอักเสบ มันจะดันกับลำไส้ออกมาแบบนี้ๆ หมอบอกให้ควบคุมอาหารไม่อย่างนั้นหมาเราจะเหนื่อยง่ายและมีโรคตามมาอีกมาก
เราเสียค่าเอ็กซเรย์ 500 บาท และพาหมากลับบ้าน เราดีใจมากๆเลยที่หมาเราไม่เป็นอะไร แต่ว่าหมอก็ให้สังเกตอาการเรื่อยๆ เพราะน้องก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นได้ในอนาคตได้ แต่ตอนนี้ไม่พบเท่านั้น
อยากเตือนเพื่อนๆว่าหากไม่มั่นใจในการรักษาโรคของสุนัข ให้ศึกษาข้อมูลหลายๆด้านก่อน อย่าเพิ่งรีบด่วนตัดสินใจ ถึงแม้เราจะกระวนกระวายมากพอรู้ว่าหมาเป็นมดลูกอักเสบจากการยืนยันจากคลินิกแรก เราเลยโทรไปสอบถามคลินิกหลายๆที่ จนมาเจอคลินิกที่เราพาน้องไปเอ็กซเรย์ ผู้ช่วยหมออธิบายรายละเอียดให้เราฟังทางโทรศัพท์ประมาณ 15 นาทีได้ บอกให้พาน้องไปดูก่อน เราจึงตัดสินใจเปลี่ยนคลินิกมาที่นี่แทน การเลือกคลินิกที่เชื่อถือได้ เครื่องมือครบหรือรีวิวดียิ่งดี เพราะถ้าด่วนสรุป และผ่าตัดโดยที่หมาไม่ได้เป็นอะไร เราว่าหมาเราต้องเสี่ยงไม่ฟื้นแน่ๆ ด้วยอายุที่เยอะพอสมควร และหากใครเลี้ยงก็ควรพาเค้าไปทำหมันก่อนจะสายไปนะคะ โดยปรึกษาหมอ (หากหมาไม่เป็นแม่พันธ์) เค้าจะได้อยู่กับเราไปนานๆ ลดความเสี่ยงในการเป็นมดลูกอักเสบมะเร็งและหลายโรคที่จะตามมาอีกด้วยค่ะ