คงไม่ต้องร่ายยาวมากนักกับความเป็นมาของเรื่อง "โลกทั้งใบให้นายคนเดียว" ในทุกเวอร์ชั่น เชื่อว่าแฟน ๆ คงได้ติดตามรับชมอย่างใจจดใจจ่ออยู่แล้ว
สำหรับเวอร์ชั่นล่าสุดที่เพิ่งจบไปหมาด ๆ ก็ถือว่าไม่ขี้ริ้วขี้เหร่แต่อย่างใด เป็นซีรีส์ที่ดูมีมาตรฐานและความเป็นสากลได้เป็นอย่างดี แม้จะออกมาไม่เป็นที่ประหลาดใจอย่างที่ใครบางคนอยากเห็น
เราต้องขอชื่นชมทีมงานทุกคนที่ร่วมสร้างผลงานชิ้นนี้จนเป็นที่เอ่ยขานกันเกรียวกราว โดยเฉพาะ "ดร.โด่ง" ที่กลับมาทำงานตามถนัดอย่างทรหดอดทน
แม้ว่าเนื้อหาและสิ่งต่าง ๆ ที่ปรากฏในเรื่องจะดีเด่นสักเพียงใด แต่เราเองก็ละเลยไม่ได้ที่จะขอติสักเล็กน้อย จากที่เรารับชมตั้งแต่ตอนต้นจนถึงตอนจบซึ่งใช้เวลาออกอากาศอย่างเต็มอิ่มร่วมชั่วโมงครึ่ง
การแสดงของนักแสดงหลักทั้งสองรุ่นรวมถึงนักแสดงสมทบถือว่าสอบผ่าน โดยเฉพาะ "เม่น" เล่นออกมาได้อย่างน่ารักน่าหยิกที่สุด กระทั่งฉากไคลแมกซ์ที่ต้องมาเป็นตัวประกันแทนที่จะเป็นนางเอกเหมือนทั่วไปก็ตีบทได้สุดยอด เห็นใบหน้าหวาน ๆ ของน้องชายคนนี้แล้วนึกถึง ไชยา มิตรชัย ขึ้นทันที
ส่วน "เต๋า สมชาย" ที่มารับบทเป็นตัวโกงก็รักษาระดับการแสดงอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ภาพที่ออกมาค่อย ๆ เด่นขึ้นจนถึงฉากที่ต้องตายซึ่งน่าจดจำเป็นที่สุด
ทางด้านนางเอกคือ "ป้อน" เท่าที่เราดูมายังขาด ๆ ทางอารมณ์ไปบ้าง โดยเฉพาะตอนที่เธอเข้าฉากพร้อมพูดประโยคเด็ดของเรื่องว่า "เราไม่ได้รักใครง่าย ๆ อย่างที่นายคิดหรอกนะ" ยังติด ๆ ขัด ๆ หรือไม่กลมกลืนเท่าที่ควร แต่พอมาถึงฉากสุดท้ายของเรื่องซึ่งอยู่ในอู่ซ่อมรถโรงใหญ่ก็พาให้เราหายกังวลไปเลย
แต่ส่วนที่ทำเอาแฟน ๆ ซีรีส์เสียดายอย่างมาก เห็นจะเป็นการปรากฏตัวของ "นุก สุทธิดา" ที่มาเป็นคุณแม่ของพระเอกภายหลังจากที่คุณพ่อลาลับไปแล้ว กลับไม่ดึงดูดมากพอ ไม่เห็นการอยู่ร่วมกันระหว่างพ่อกับแม่ที่แท้จริง เห็นแต่ไปมีสามีคนอื่น เธอโผล่แค่ตอนเดียว ไม่โผล่ฉากจบ ทั้งที่ไม่ใช่ดารารับเชิญ
ส่วนคุณพ่อหน้าตี๋ของป้อนก็ตีบทอีกทั้งสำเนียงได้จับใจเอามาก ๆ แต่พอถึงฉากที่ป้อนจะไปเรียนต่อเมืองนอกกลับทำให้เรารู้สึกห่าง ๆ ไปบ้าง เหมือนกับว่าเขาทำบึ้งตึง ไม่มีอารมณ์ร่วม ฉากจบของเรื่องก็ไม่มาแสดงความรักความผูกพัน จึงมีเพียง "ไม้-เม่น-ป้อน" เท่านั้นที่มาลงเอยในฉากสุดท้าย
เราจึงขอสรุปได้ว่า ถึงแม้ซีรีส์ "โลกทั้งใบให้นายคนเดียว" ยังมีบางจุดที่ขาดหายแต่ก็ทำได้อย่างเข้าถึงหัวจิตหัวใจพอดี เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าถ้า "ช่อง 8" จะนำเสนอซีรีส์ไทยเรื่องต่อไปให้ชมกันอีกก็จะต้องทำผลงานให้ดูสนิทใจกว่านี้ หรือให้เต็มอรรถรสกันจะ ๆ เลย มีหวังส่งไปประกวดระดับโลกยิ่งดี
ขอขอบคุณผู้ร่วมสร้างสรรค์ผลงานทุกท่านที่ทำให้เราปลื้มใจอย่างมีความสุข สู้ ๆ กันต่อไปนะช่อง 8...สวัสดี.
วิจารณ์ฉากจบซีรีส์ "โลกทั้งใบให้นายคนเดียว"
สำหรับเวอร์ชั่นล่าสุดที่เพิ่งจบไปหมาด ๆ ก็ถือว่าไม่ขี้ริ้วขี้เหร่แต่อย่างใด เป็นซีรีส์ที่ดูมีมาตรฐานและความเป็นสากลได้เป็นอย่างดี แม้จะออกมาไม่เป็นที่ประหลาดใจอย่างที่ใครบางคนอยากเห็น
เราต้องขอชื่นชมทีมงานทุกคนที่ร่วมสร้างผลงานชิ้นนี้จนเป็นที่เอ่ยขานกันเกรียวกราว โดยเฉพาะ "ดร.โด่ง" ที่กลับมาทำงานตามถนัดอย่างทรหดอดทน
แม้ว่าเนื้อหาและสิ่งต่าง ๆ ที่ปรากฏในเรื่องจะดีเด่นสักเพียงใด แต่เราเองก็ละเลยไม่ได้ที่จะขอติสักเล็กน้อย จากที่เรารับชมตั้งแต่ตอนต้นจนถึงตอนจบซึ่งใช้เวลาออกอากาศอย่างเต็มอิ่มร่วมชั่วโมงครึ่ง
การแสดงของนักแสดงหลักทั้งสองรุ่นรวมถึงนักแสดงสมทบถือว่าสอบผ่าน โดยเฉพาะ "เม่น" เล่นออกมาได้อย่างน่ารักน่าหยิกที่สุด กระทั่งฉากไคลแมกซ์ที่ต้องมาเป็นตัวประกันแทนที่จะเป็นนางเอกเหมือนทั่วไปก็ตีบทได้สุดยอด เห็นใบหน้าหวาน ๆ ของน้องชายคนนี้แล้วนึกถึง ไชยา มิตรชัย ขึ้นทันที
ส่วน "เต๋า สมชาย" ที่มารับบทเป็นตัวโกงก็รักษาระดับการแสดงอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ภาพที่ออกมาค่อย ๆ เด่นขึ้นจนถึงฉากที่ต้องตายซึ่งน่าจดจำเป็นที่สุด
ทางด้านนางเอกคือ "ป้อน" เท่าที่เราดูมายังขาด ๆ ทางอารมณ์ไปบ้าง โดยเฉพาะตอนที่เธอเข้าฉากพร้อมพูดประโยคเด็ดของเรื่องว่า "เราไม่ได้รักใครง่าย ๆ อย่างที่นายคิดหรอกนะ" ยังติด ๆ ขัด ๆ หรือไม่กลมกลืนเท่าที่ควร แต่พอมาถึงฉากสุดท้ายของเรื่องซึ่งอยู่ในอู่ซ่อมรถโรงใหญ่ก็พาให้เราหายกังวลไปเลย
แต่ส่วนที่ทำเอาแฟน ๆ ซีรีส์เสียดายอย่างมาก เห็นจะเป็นการปรากฏตัวของ "นุก สุทธิดา" ที่มาเป็นคุณแม่ของพระเอกภายหลังจากที่คุณพ่อลาลับไปแล้ว กลับไม่ดึงดูดมากพอ ไม่เห็นการอยู่ร่วมกันระหว่างพ่อกับแม่ที่แท้จริง เห็นแต่ไปมีสามีคนอื่น เธอโผล่แค่ตอนเดียว ไม่โผล่ฉากจบ ทั้งที่ไม่ใช่ดารารับเชิญ
ส่วนคุณพ่อหน้าตี๋ของป้อนก็ตีบทอีกทั้งสำเนียงได้จับใจเอามาก ๆ แต่พอถึงฉากที่ป้อนจะไปเรียนต่อเมืองนอกกลับทำให้เรารู้สึกห่าง ๆ ไปบ้าง เหมือนกับว่าเขาทำบึ้งตึง ไม่มีอารมณ์ร่วม ฉากจบของเรื่องก็ไม่มาแสดงความรักความผูกพัน จึงมีเพียง "ไม้-เม่น-ป้อน" เท่านั้นที่มาลงเอยในฉากสุดท้าย
เราจึงขอสรุปได้ว่า ถึงแม้ซีรีส์ "โลกทั้งใบให้นายคนเดียว" ยังมีบางจุดที่ขาดหายแต่ก็ทำได้อย่างเข้าถึงหัวจิตหัวใจพอดี เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าถ้า "ช่อง 8" จะนำเสนอซีรีส์ไทยเรื่องต่อไปให้ชมกันอีกก็จะต้องทำผลงานให้ดูสนิทใจกว่านี้ หรือให้เต็มอรรถรสกันจะ ๆ เลย มีหวังส่งไปประกวดระดับโลกยิ่งดี
ขอขอบคุณผู้ร่วมสร้างสรรค์ผลงานทุกท่านที่ทำให้เราปลื้มใจอย่างมีความสุข สู้ ๆ กันต่อไปนะช่อง 8...สวัสดี.