'เยล'การ์ด3นิ้วหนีไม่รอด! จนมุมตร.ขณะเผ่นเตลิดเปิดเปิงไปกบดานลพบุรี
วันศุกร์ ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2564, 18.23 น.
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 29 ม.ค.64 เจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ลำสนธิ จังหวัดลพบุรี จับกุมตัวนายมงคล หรือ เยล อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 124/2 ม.3 ต.เขาน้อย อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังถูกออกหมายจับในข้อหาแจ้งความเท็จ และหนีทหาร โดยจับกุมได้ที่จับกุมได้ที่บริเวณหน้า สภ.ลำสนธิ หมู่ 1 ต.ลำสนธิ อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี ขณะผู้ต้องหาหลบหนีคดีเพื่อเดินทางไปยังบ้านคนรู้จักที่จ.ลพบุรี ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จนกระทั่งในเวลา 16.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมือง สมุทรปราการ ได้ร่วมกันคุมตัวนายมงคล หรือเยล เดินกลับมาถึง สภ.เมืองสมุทรปราการ เป็นที่เรียบร้อยโดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุกป้องกันและปราบปราม สภ.เมือง สมุทรปราการ กว่า 30 นายคอยรักษาความสงบและเสาธง โดยเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวมาส่งให้ พ.ต.ท.ไวยกูล กิจเพชร พนักงานสอบสวน สภ.เมือง สมุทรปราการ เจ้าของคดีเป็นผู้สอบปากคำโดยมีทนายความติดตามมาร่วมรับฟังการสอบสวนด้วย
ด้าน พ.ต.อ.เติมรัศม์ จินดาวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ กล่าวว่า ในวันนี้หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมือง สมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ลำสนธิ จังหวัดลพบุรี ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายมงคล หรือเยล ได้ เราก็นำตัวกลับมาทำการสอบสวน โดยทางผู้ต้องหาเองก็มีทนายความมาร่วมรับฟังการสอบสวนด้วย 2 คน และทางผู้ต้องหาเองก็ขอให้ปากน้ำเป็นการส่วนตัวจึงต้องให้สื่อมวลชนถอยออกมาเพราะเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ และยังไม่ทราบข้อมูลอะไรมาก
"ส่วนที่ไปจับกุมตัวได้ที่จังหวัดลพบุรี นั้นทางตัวผู้ต้องหาเองได้บอกว่าไปหาคนรู้จัก แต่ไม่พบ ซึ่งในวันนี้คงต้องควบคุมตัวนายมงคล หรือเยลไว้ที่โรงลพัก สภ.เมืองสมุทรปราการ ก่อนและในวันพรุ่งนี้จะได้ประสานเจ้าหน้าที่ทหารรัฐธรรมนูญมารับตัวไปส่งฟ้องที่ศาลทหารกรุงเทพ ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากนายมงคล ยังเป็นผู้ต้องหาหลบหนีราชการทหารอีกคดีหนึ่งด้วย"พ.ต.อ.เติมรัศม์ กล่าว
ข่าวแจ้งว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังสอบปากคำนายมงคล คาดว่าจะส่งตัวไปศาลทหารตามหมายจับหนีราชการทหารวันพรุ่งนี้ ( 30 ม.ค.) ขณะที่ทางทนายเตรียมทำเรื่องเพื่อขอประกันตัว แต่พนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวเนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมหลบหนี
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา นายมงคล พร้อมด้วยทนายความเดินเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการว่า ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 4-5 คนอุ้มขึ้นรถตู้ไปตั้งแต่เวลา 23.00 น.ของวันที่ 16 ม.ค. บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ 7-11 ปากซอยจัดสรรเสนาะ ถ.พุทธรักษา ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ และถูกปล่อยตัวบริเวณปากซอยเทศบาลบางปู 49 ทางเข้าการเคหะสมุทรปราการ เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 17 ม.ค.
แต่จากการสืบสวนสอบสวนปรากฏว่าเหตุดังกล่าวไม่มีจริง เป็นการกุเรื่องของนายมงคล ทางพนักงานสอบสวนสภ.เมืองสมุทรปราการจึงได้ส่งหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวน เพื่อสอบปากคำและแจ้งข้อหาแจ้งความเท็จ แต่ปรากฏว่านายมงคลไม่เดินทางมาตามที่แจ้งไว้ และไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้มีเหตุเกรงว่าจะหลบหนี จึงได้ขออนุญาตศาลทหารกรุงเทพออกหมายจับเนื่องจากนายมงคลเป็นทหารกองประจำการที่หนีราชการ จึงถือว่ายังเป็นทหารอยู่
https://www.naewna.com/local/549069
หมดอนาคต! หิ้ว'3 อาชีวะฟันเฟือง'มือปาบึ้มฝากขัง แจ้งข้อหาหนักพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน
วันศุกร์ ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2564, 16.01 น.
สน.ปทุมวันหิ้ว 3 อาชีวะซิ่งจยย.โยนบึ้มใส่ตร.ย่านจามจุรีสแควร์ ขณะควบคุมฝูงชนฝากขังศาล เเจ้งข้อหาหนักพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน พร้อมค้านประกัน
เมื่อเวลา 11.00 น.เศษ วันที่ 29 ม.ค.64 ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้ควบคุมตัว นายพรชัย ประกาพวงอายุ 24 ปี นายณัฐสุต ศิริอัฐ อายุ 20 ปี และนายวีรยุทธ สัมฤทธิ์เรืองศรี อายุ 30 ปี ผู้ต้องหา คดีปาระเบิดย่านจสมจุรีสแควร์ มายื่นคำร้องขอฝากขัง ครั้งเเรกเป็นเวลา 12 วันตั้งเเต่วันที่ 29 ม.ค.-9 ก.พ.64
โดยคำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อเวลา 17.45 น.วันที่ 16 ม.ค.64 ขณะที่ ส.ต.ท.ชาคริต พินิจ และส.ต.ต. อรรถพล จั่นชมนาค ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้มาปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชนที่บริเวณแยกสามย่าน โดยมีการประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมเลิกการชุมนุมและมีการกระชับพื้นที่เพื่อให้เลิกชุมนุมขณะที่ ส.ต.ท.ชาคริต และ ส.ต.อ.อรรถพล ทำการกระชับพื้นที่ไปตามถนนพระราม 4 มุ่งหน้าแยกอังรีดูนังต์ และเมื่อมาถึงบริเวณหน้าทางขึ้นอาคารจามจุรีสแควร์ฝังติดริมฟุตบาทถนนพระราม 4ขาออกนอกเมือง (มุ่งหน้าแยกคลองเตย) ได้มีการระเบิดเกิดขึ้นจำนวน ๑ ครั้งเป็นเหตุให้ส.ต.ท.ชาคริตได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดเป็นแผลบริเวณมือข้างซ้ายและศีรษะด้านซ้าย, ส่วนส.ต.อ. อรรถพล ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดเป็นแผลบริเวณมือข้างซ้ายหัวเข่าด้านขวาและสะเก็ดระเบิดยังไปโดนนายภุชงค์ สุขเสนา ผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้จัดการอาคารจามจุรีสแควร์ที่ยืนอยู่บริเวณดังกล่าวได้รับบาดเจ็บเป็นแผลบริเวณฝ่ามือขวาและใต้ท้องแขนขวาและนายธนกร วงศปัญญา ผู้สื่อข่าว The Standard ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาซ้ายเป็นแผลหลังจากเกิดเหตุผู้บาดเจ็บรักษาอาการที่รพ.ตำรวจและมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ จากการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทราบว่ากรณีดังกล่าวนั้นคนร้ายก่อเหตุโดยใช้รถจยย.เป็นพาหนะขณะเกิดเหตุขับขี่อยู่บนสะพานไทย-ญี่ปุ่น (มุ่งหน้าแยกคลองเตย) และคนร้ายได้ขว้างวัตถุระเบิดจากบนสะพานฯ ลงมาและขับขี่หลบหนีมุ่งหน้าถ.สาทร มีผู้กระทำความผิดจำนวน 3 คนโดยแบ่งหน้าที่กันกระทำความผิดดังนี้ 1.นายพรชัย ประกาพวง เป็นผู้ซ้อนท้ายรถ จยย.และไปผู้ขว้างวัตถุระบิดในวันเกิดเหตุ 2.นายวีรยุทธ สัมฤทธิ์เรืองศรีอายุ 30 ปีเป็นผู้ขับรถ จยย.โดยมีนายพรชัยซ้อนท้ายก่อนเกิดเหตุ (ก่อนขึ้นสะพานไทย-ญี่ปุ่น) ขณะเกิดเหตุและหลบหนี ออกจากที่เกิดเหตุ 3.นายณัฐสุต ศิริอัฐ อายุ 20ปีเป็นผู้ขับรถ จยย.โดยมีนายพรชัย ซ้อนท้ายในช่วงก่อนเกิดเหตุ (ก่อนที่นายพรชัย จะเปลี่ยนไปซ้อนท้ายรถจยย.ที่มีนายวีรยุทธเป็นผู้ขับขี่)
พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งสามจากศาลอาญากรุงเทพใต้ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีไปอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านไม่มีเลขที่ซอยเรวดี 24 ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี จึงได้นำหมายจับเข้าแสดงและจับกุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
โดบพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมให้กับผู้ต้องหาทราบว่า การกระทำดังกล่าวของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐาน“ ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่หรือเพราะเหตุที่จะกระทำหรือได้กระทำการตามหน้าที่ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น, ร่วมกันพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร, ร่วมกันทำซื้อมีใช้สั่งนำเข้าค้าหรือจำหน่ายด้วยประการใด ๆ ซึ่งวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้
เหตุเกิดที่บริเวณหน้าห้างจามจุรีสแควร์ถนนพระราม 4 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวันกรุงเทพมหานคร โดยในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ
การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288,289,221,371 พ.ร.บ.อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิดดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา38,55ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 80 และ 83
พนักงานสอบสวนจะต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีก 5 ปากรอผลตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร จึงขอฝากขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างการสอบสวน
ท้ายคำร้อง ขอคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูงเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 3 มือปาบึ้มสารภาพสิ้นไส้ เป็นกลุ่มอาชีวะฟันเฟือง เคยร่วมม็อบราษฏรหลายครั้ง )
https://www.naewna.com/local/549014
3 มือปาบึ้มสารภาพสิ้นไส้ เป็นกลุ่มอาชีวะฟันเฟือง เคยร่วมม็อบราษฏรหลายครั้ง
วันศุกร์ ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2564, 15.05 น.
https://www.naewna.com/local/548987
ความจริงเท่านั้นที่จะจัดการคนทำผิดได้
คนพวกไหนที่ทำความผิดเช่นนี้
ตำรวจต้องสอบสวนนำความจริงมาขยาย และส่งฟ้องศาลเอาผิดคนทำผิด
ประชาชนคนไทยทุกคนต้องการความจริงค่ะ
💠มาลาริน/ขอบคุณตำรวจทำความจริงให้ปรากฎค่ะ....จับคนกุข่าวได้แล้ว จับมือปาบึ้มได้แล้ว
วันศุกร์ ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2564, 18.23 น.
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 29 ม.ค.64 เจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ลำสนธิ จังหวัดลพบุรี จับกุมตัวนายมงคล หรือ เยล อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 124/2 ม.3 ต.เขาน้อย อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังถูกออกหมายจับในข้อหาแจ้งความเท็จ และหนีทหาร โดยจับกุมได้ที่จับกุมได้ที่บริเวณหน้า สภ.ลำสนธิ หมู่ 1 ต.ลำสนธิ อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี ขณะผู้ต้องหาหลบหนีคดีเพื่อเดินทางไปยังบ้านคนรู้จักที่จ.ลพบุรี ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จนกระทั่งในเวลา 16.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมือง สมุทรปราการ ได้ร่วมกันคุมตัวนายมงคล หรือเยล เดินกลับมาถึง สภ.เมืองสมุทรปราการ เป็นที่เรียบร้อยโดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุกป้องกันและปราบปราม สภ.เมือง สมุทรปราการ กว่า 30 นายคอยรักษาความสงบและเสาธง โดยเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวมาส่งให้ พ.ต.ท.ไวยกูล กิจเพชร พนักงานสอบสวน สภ.เมือง สมุทรปราการ เจ้าของคดีเป็นผู้สอบปากคำโดยมีทนายความติดตามมาร่วมรับฟังการสอบสวนด้วย
ด้าน พ.ต.อ.เติมรัศม์ จินดาวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ กล่าวว่า ในวันนี้หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมือง สมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ลำสนธิ จังหวัดลพบุรี ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายมงคล หรือเยล ได้ เราก็นำตัวกลับมาทำการสอบสวน โดยทางผู้ต้องหาเองก็มีทนายความมาร่วมรับฟังการสอบสวนด้วย 2 คน และทางผู้ต้องหาเองก็ขอให้ปากน้ำเป็นการส่วนตัวจึงต้องให้สื่อมวลชนถอยออกมาเพราะเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ และยังไม่ทราบข้อมูลอะไรมาก
"ส่วนที่ไปจับกุมตัวได้ที่จังหวัดลพบุรี นั้นทางตัวผู้ต้องหาเองได้บอกว่าไปหาคนรู้จัก แต่ไม่พบ ซึ่งในวันนี้คงต้องควบคุมตัวนายมงคล หรือเยลไว้ที่โรงลพัก สภ.เมืองสมุทรปราการ ก่อนและในวันพรุ่งนี้จะได้ประสานเจ้าหน้าที่ทหารรัฐธรรมนูญมารับตัวไปส่งฟ้องที่ศาลทหารกรุงเทพ ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากนายมงคล ยังเป็นผู้ต้องหาหลบหนีราชการทหารอีกคดีหนึ่งด้วย"พ.ต.อ.เติมรัศม์ กล่าว
ข่าวแจ้งว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังสอบปากคำนายมงคล คาดว่าจะส่งตัวไปศาลทหารตามหมายจับหนีราชการทหารวันพรุ่งนี้ ( 30 ม.ค.) ขณะที่ทางทนายเตรียมทำเรื่องเพื่อขอประกันตัว แต่พนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวเนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมหลบหนี
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา นายมงคล พร้อมด้วยทนายความเดินเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการว่า ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 4-5 คนอุ้มขึ้นรถตู้ไปตั้งแต่เวลา 23.00 น.ของวันที่ 16 ม.ค. บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ 7-11 ปากซอยจัดสรรเสนาะ ถ.พุทธรักษา ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ และถูกปล่อยตัวบริเวณปากซอยเทศบาลบางปู 49 ทางเข้าการเคหะสมุทรปราการ เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 17 ม.ค.
แต่จากการสืบสวนสอบสวนปรากฏว่าเหตุดังกล่าวไม่มีจริง เป็นการกุเรื่องของนายมงคล ทางพนักงานสอบสวนสภ.เมืองสมุทรปราการจึงได้ส่งหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวน เพื่อสอบปากคำและแจ้งข้อหาแจ้งความเท็จ แต่ปรากฏว่านายมงคลไม่เดินทางมาตามที่แจ้งไว้ และไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้มีเหตุเกรงว่าจะหลบหนี จึงได้ขออนุญาตศาลทหารกรุงเทพออกหมายจับเนื่องจากนายมงคลเป็นทหารกองประจำการที่หนีราชการ จึงถือว่ายังเป็นทหารอยู่
https://www.naewna.com/local/549069
วันศุกร์ ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2564, 16.01 น.
สน.ปทุมวันหิ้ว 3 อาชีวะซิ่งจยย.โยนบึ้มใส่ตร.ย่านจามจุรีสแควร์ ขณะควบคุมฝูงชนฝากขังศาล เเจ้งข้อหาหนักพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน พร้อมค้านประกัน
เมื่อเวลา 11.00 น.เศษ วันที่ 29 ม.ค.64 ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้ควบคุมตัว นายพรชัย ประกาพวงอายุ 24 ปี นายณัฐสุต ศิริอัฐ อายุ 20 ปี และนายวีรยุทธ สัมฤทธิ์เรืองศรี อายุ 30 ปี ผู้ต้องหา คดีปาระเบิดย่านจสมจุรีสแควร์ มายื่นคำร้องขอฝากขัง ครั้งเเรกเป็นเวลา 12 วันตั้งเเต่วันที่ 29 ม.ค.-9 ก.พ.64
โดยคำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อเวลา 17.45 น.วันที่ 16 ม.ค.64 ขณะที่ ส.ต.ท.ชาคริต พินิจ และส.ต.ต. อรรถพล จั่นชมนาค ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้มาปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชนที่บริเวณแยกสามย่าน โดยมีการประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมเลิกการชุมนุมและมีการกระชับพื้นที่เพื่อให้เลิกชุมนุมขณะที่ ส.ต.ท.ชาคริต และ ส.ต.อ.อรรถพล ทำการกระชับพื้นที่ไปตามถนนพระราม 4 มุ่งหน้าแยกอังรีดูนังต์ และเมื่อมาถึงบริเวณหน้าทางขึ้นอาคารจามจุรีสแควร์ฝังติดริมฟุตบาทถนนพระราม 4ขาออกนอกเมือง (มุ่งหน้าแยกคลองเตย) ได้มีการระเบิดเกิดขึ้นจำนวน ๑ ครั้งเป็นเหตุให้ส.ต.ท.ชาคริตได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดเป็นแผลบริเวณมือข้างซ้ายและศีรษะด้านซ้าย, ส่วนส.ต.อ. อรรถพล ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดเป็นแผลบริเวณมือข้างซ้ายหัวเข่าด้านขวาและสะเก็ดระเบิดยังไปโดนนายภุชงค์ สุขเสนา ผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้จัดการอาคารจามจุรีสแควร์ที่ยืนอยู่บริเวณดังกล่าวได้รับบาดเจ็บเป็นแผลบริเวณฝ่ามือขวาและใต้ท้องแขนขวาและนายธนกร วงศปัญญา ผู้สื่อข่าว The Standard ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาซ้ายเป็นแผลหลังจากเกิดเหตุผู้บาดเจ็บรักษาอาการที่รพ.ตำรวจและมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ จากการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทราบว่ากรณีดังกล่าวนั้นคนร้ายก่อเหตุโดยใช้รถจยย.เป็นพาหนะขณะเกิดเหตุขับขี่อยู่บนสะพานไทย-ญี่ปุ่น (มุ่งหน้าแยกคลองเตย) และคนร้ายได้ขว้างวัตถุระเบิดจากบนสะพานฯ ลงมาและขับขี่หลบหนีมุ่งหน้าถ.สาทร มีผู้กระทำความผิดจำนวน 3 คนโดยแบ่งหน้าที่กันกระทำความผิดดังนี้ 1.นายพรชัย ประกาพวง เป็นผู้ซ้อนท้ายรถ จยย.และไปผู้ขว้างวัตถุระบิดในวันเกิดเหตุ 2.นายวีรยุทธ สัมฤทธิ์เรืองศรีอายุ 30 ปีเป็นผู้ขับรถ จยย.โดยมีนายพรชัยซ้อนท้ายก่อนเกิดเหตุ (ก่อนขึ้นสะพานไทย-ญี่ปุ่น) ขณะเกิดเหตุและหลบหนี ออกจากที่เกิดเหตุ 3.นายณัฐสุต ศิริอัฐ อายุ 20ปีเป็นผู้ขับรถ จยย.โดยมีนายพรชัย ซ้อนท้ายในช่วงก่อนเกิดเหตุ (ก่อนที่นายพรชัย จะเปลี่ยนไปซ้อนท้ายรถจยย.ที่มีนายวีรยุทธเป็นผู้ขับขี่)
พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งสามจากศาลอาญากรุงเทพใต้ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีไปอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านไม่มีเลขที่ซอยเรวดี 24 ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี จึงได้นำหมายจับเข้าแสดงและจับกุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
โดบพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมให้กับผู้ต้องหาทราบว่า การกระทำดังกล่าวของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐาน“ ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่หรือเพราะเหตุที่จะกระทำหรือได้กระทำการตามหน้าที่ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น, ร่วมกันพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร, ร่วมกันทำซื้อมีใช้สั่งนำเข้าค้าหรือจำหน่ายด้วยประการใด ๆ ซึ่งวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้
เหตุเกิดที่บริเวณหน้าห้างจามจุรีสแควร์ถนนพระราม 4 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวันกรุงเทพมหานคร โดยในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ
การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288,289,221,371 พ.ร.บ.อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิดดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา38,55ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 80 และ 83
พนักงานสอบสวนจะต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีก 5 ปากรอผลตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร จึงขอฝากขังผู้ต้องหาไว้ระหว่างการสอบสวน
ท้ายคำร้อง ขอคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูงเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 3 มือปาบึ้มสารภาพสิ้นไส้ เป็นกลุ่มอาชีวะฟันเฟือง เคยร่วมม็อบราษฏรหลายครั้ง )
https://www.naewna.com/local/549014
วันศุกร์ ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2564, 15.05 น.
https://www.naewna.com/local/548987
ความจริงเท่านั้นที่จะจัดการคนทำผิดได้
คนพวกไหนที่ทำความผิดเช่นนี้
ตำรวจต้องสอบสวนนำความจริงมาขยาย และส่งฟ้องศาลเอาผิดคนทำผิด
ประชาชนคนไทยทุกคนต้องการความจริงค่ะ