สรุป เรื่องของน้อง แนท กับออฟฟิเชียลคือ แบบนี้เราเข้าใจถูกใช่ไหม

1 ออฟฟิเชียลยื่นสัญญาฉบับใหม่ให้ เมมเบอร์ทุกคนเซ็น ทุกคนก็เซ็นโดยโอเคกับสัญญา
2 น้องแนทไม่ยอมเซ็นเพราะคิดว่าเป็นสัญญาที่เอาเปรียบบวกกับเรื่องที่ออฟฟิเชียล ปฏิเสธงาน แล้วยื่นคำขอแกรด
3 ออฟฟิเชียลคิดน้อยไป เลยตอบกลับจดหมายให้แกรดได้ โดยคิดว่า น้องแนทจะมาทำข้อตกลงหลังแกรด
4 เมื่อน้องแนทได้จดหมายตอบกลับการแกรดของออฟฟิเชียลแล้วก็คิดว่าได้ออกจากบริษัท อย่างเป็นทางการแล้ว
5 ออฟฟิเชียลไม่ยอม ต้องการให้น้องแนทมาเซ็นสัญญาหลังแกรดอีก เนื้อหาประมาณว่า ห้ามรับงานหรือถ้ารับต้องแบ่ง ออฟฟิเชียล
6 คราวนี้ น้องแนทไม่ยอมเซ็นเพราะคิดว่าการแกรดนั้นสมบูรณ์แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปเซ็นสัญญาให้ตัวเองเสียเปรียบอีก
7 เกิดการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของทั้งสองฝ่านจนเริ่มสาดสีเทสีใส่กันตกลงกันไม่จบ
8 ออฟฟิเชียล ได้ทำการฟ้อง เรียกค่าฉีกสัญญา 600000 บาท ฟ้อง ขอsns คืน แล้วฟ้องหมิ่น
9 ศาลตัดสิน ให้น้องแนท จ่ายค่าฉีกสัญญา หนึ่งแสน บาทเพราะศาลคิดว่า 600000 มันเกินจริง สั่งให้คืน sns กับ บริษัท แล้วยกฟ้อง คดี หมิ่น
10 น้องแนท ยอมรับการคืนเงิน 100000 บาท เพราะคิดว่าเป็นธรรมแล้ว ส่วน sns นั้น ทางน้องแนท ขออุทธรณ์เพราะคิดว่ายังไม่เป็นทำสำหรับตัวเอง
11 น้องแนทและทางครอบครัว มีหลักฐานแล้วคิดว่า ตัวเองได้ส่วนแบ่ง ตอนทำงานนั้นไม่เป็นธรรมจิงจะขอ ฟ้องหลับออฟฟิเชียล เพื่อเรียกเงินส่วนนี้คืน
12 ต่อไปก็คงต้องรอศาลตัดสินว่าจะเป็นยังไง

ที่เราพิมพ์ไปนี่เราเข้าใจถูกใช่มะ ถ้าเราเข้าใจถูก เราว่ามันก็ไม่ได้มีใครลังแกใครนะ ก็แค่ ทั้งสองฝั่งมาเรียกร้อง ปกป้องสิทธิประโยชน์ ของตัวเอง 
ไม่เห็นจะมีพ่อแม่รักแกฉันตรงไหน

เมมลังแกบริษัท หรือ บริษัทรังแกเมม อะไรเลย เราว่าก็รู้กันแฟๆนะผิดถูกให้ศาสจัดการ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
1 ออฟฟิเชียลยื่นสัญญาฉบับใหม่ให้ เมมเบอร์ทุกคนเซ็น ทุกคนก็เซ็นโดยโอเคกับสัญญา
<<< ทุกคนเซ็นครับ แต่ไม่ได้แปลว่าทุกคนโอเคแต่แรก

2 น้องแนทไม่ยอมเซ็นเพราะคิดว่าเป็นสัญญาที่เอาเปรียบบวกกับเรื่องที่ออฟฟิเชียล ปฏิเสธงาน แล้วยื่นคำขอแกรด
<<< น้องแนทไม่ยอมเซ็นเพราะสัญญาใหม่ขัดกับสิ่งที่ผู้บริหารเคยใช้หว่านล้อมเมมเบอร์รุ่น 2 กับผู้ปกครองครับ
        น้องไม่ได้ปฏิเสธงานแต่ตรงกันข้าม
        คำขอแกรดนั่นมีเหตุอีกอย่างเพิ่มเข้ามาตอนปลายปีครับ เรื่องสัญญาไม่ใช่ฟางเส้นสุดท้าย

3 ออฟฟิเชียลคิดน้อยไป เลยตอบกลับจดหมายให้แกรดได้ โดยคิดว่า น้องแนทจะมาทำข้อตกลงหลังแกรด
<<< ไม่ใช่คิดน้อยไปครับ แต่คิดเองเออเอง

4 เมื่อน้องแนทได้จดหมายตอบกลับการแกรดของออฟฟิเชียลแล้วก็คิดว่าได้ออกจากบริษัท อย่างเป็นทางการแล้ว
<<< ปกติก็ต้องคิดแบบนั้นครับ

5 ออฟฟิเชียลไม่ยอม ต้องการให้น้องแนทมาเซ็นสัญญาหลังแกรดอีก เนื้อหาประมาณว่า ห้ามรับงานหรือถ้ารับต้องแบ่ง ออฟฟิเชียล
<<< เนื้อหาก็เดาว่าประมาณนั้น ตรงนี้อยากให้ลองหาโพสท์เก่าของคุณพ่อน้องแคนแคนมาอ่านประกอบด้วย

6 คราวนี้ น้องแนทไม่ยอมเซ็นเพราะคิดว่าการแกรดนั้นสมบูรณ์แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปเซ็นสัญญาให้ตัวเองเสียเปรียบอีก
<<< ตรงนี้เป็นสามัญสำนึกทั่วไปของการทำสัญญา อะไรที่ตัวเองไม่ได้เซ็นก็ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ

7 เกิดการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของทั้งสองฝ่านจนเริ่มสาดสีเทสีใส่กันตกลงกันไม่จบ
<<< เรียกว่าเข้าใจไม่ตรงกันถึงจะถูก และไม่ได้มีแค่สองฝ่ายครับ พวกผสมโรงนี่เพียบ

8 ออฟฟิเชียล ได้ทำการฟ้อง เรียกค่าฉีกสัญญา 600000 บาท ฟ้อง ขอsns คืน แล้วฟ้องหมิ่น
<<< ไม่ใช่ค่าฉีกสัญญาครับ เป็นค่าฝึกสอน ที่เหลือตามนั้นเลย

9 ศาลตัดสิน ให้น้องแนท จ่ายค่าฉีกสัญญา หนึ่งแสน บาทเพราะศาลคิดว่า 600000 มันเกินจริง สั่งให้คืน sns กับ บริษัท แล้วยกฟ้อง คดี หมิ่น
<<< ถูก

10 น้องแนท ยอมรับการคืนเงิน 100000 บาท เพราะคิดว่าเป็นธรรมแล้ว ส่วน sns นั้น ทางน้องแนท ขออุทธรณ์เพราะคิดว่ายังไม่เป็นทำสำหรับตัวเอง
<<< บรรดา online content ทั้งหลายที่ทำในนามของสมาชิก BNK48 ก็เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของ iAM ครับ ตรงนี้เข้าใจตรงกันทั้งสองฝ่าย
แต่ศาลตีความรวมไปถึงตัวบัญชีเองด้วย

11 น้องแนทและทางครอบครัว มีหลักฐานแล้วคิดว่า ตัวเองได้ส่วนแบ่ง ตอนทำงานนั้นไม่เป็นธรรมจิงจะขอ ฟ้องหลับออฟฟิเชียล เพื่อเรียกเงินส่วนนี้คืน
<<< จากคำพิพากษาวันนี้คิดว่าแนวทางต่อสู้ของคดีอาจจะต้องเปลี่ยน

12 ต่อไปก็คงต้องรอศาลตัดสินว่าจะเป็นยังไง
<<< sure
ความคิดเห็นที่ 15
เรื่องเปลี่ยนสัญญากลางคันผมว่าไม่แค่แนทคนเดียวหรอก  อย่างน้อยๆก็สามคนที่แกรดไล่เรี่ยกัน  แต่หลายๆคนชั่งน้ำหนักแล้วได้ไม่คุ้มเสียที่จะงัดกับ อฟช.  ที่ถือไพ่เหนือกว่าเค้าเลยยอมๆกันไป  ยอมแบบไม่พอใจนั่นแหละ  มีแค่แนทกับอุ้มที่ไม่ยอม  แต่มีแนทคนเดียวเท่านั้นที่ยอมปะฉะดะ

เมื่อแกรดแล้วก็ต้องน้อมรับสัญญาฉบับเก่า  โดยเงื่อนไขมีแค่ห้ามรับงานที่เป็นคู่แข่ง  ซึ่งคงหมายถึงห้ามเข้าสังกัดใหม่  ห้ามเข้าวงไอดอล  เป็นหลัก  แต่ไม่ได้ห้ามงานเพลงกับฟรีเซนเตอร์หรือไงหว่า? ทำไมเพลงจีบก่อนผิดไหมออกมาได้  แถมน้องถ่ายงานพรีเซนเตอร์ยับ  IAM  ไม่ตามฟ้องด้วย  แสดงว่าไม่ผิดสัญญา

เรื่องสัญญาที่ต้องเซ็นหลังแกรดไม่มี  ไม่ควรต้องมีการเซ็นอะไรหลังแกรดด้วย  ศาลก็ตัดสินตามนั้นคือแนทเป็นอิสระนับแต่ยื่นความประสงค์ขอแกรดแล้ว  นายจ้างไม่มีสิทธิไม่ให้แกรดด้วยซ๊ำ แต่มีสิทธิเรียกค่าเสียหาย   ซึ่งก็ตามนั้น  แนทต้องจ่ายหนึ่งแสน  ซึ่งการที่ศาลไม่ให้ตามจำนวนที่ IAM ร้องขอแสดงว่าฝ่ายแนทพิสูจน์ให้ศาลเชื่อได้ว่ามันแพงไป  เพราะอะไรก็แล้วแต่  แต่คงไม่ใช่สงสารแนทหรอก  ซึ่งก็น่าแปลกทำไมศาลถึงคิดว่าแพง  อันนี้คงมีเบื้องลึกเบื้องหลังแน่ๆ  (ซึ่งเท่าที่รู้ อฟช. มันก็ดองงานแนทจริงๆนั่นแหละ  ศาลอาจเอามาพิจารนาด้วย)

เดาว่า  อฟช. เปลี่ยนใจทีหลัง  เพราะมีคนพร้อมฉกไปแถมป้อนงานให้ทันที  จึงพยายามดึงเกมส์  อ้างว่าต้องมีเซ็นสัญญาหลังแกรดด้วย  ออกไม่ได้  ห้ามรับงานนะ  บลาๆๆ ซึ่งศาลก็ตัดสินแล้วว่าไม่จริง  ออกแล้ว  รับงานได้ตราบเท่าที่ไม่ผิดสัญญา

ส่วนเรื่องไอจี  มันมีข้อขัดแย้งอยู่ว่า  IG เป็นของส่วนบุคคล  จะยกให้คนอื่นได้ไง?  แล้วถ้ามี IG ใหม่จะมีปัญหาไอจีหาย  หรือ varify ไม่ได้หรือไม่?  พ่อแนทคงอยากวัด  》 ศาลตัดสินให้สัญญาต้องเป็นสัญญา  แนทต้องคืนไอจี  แต่ก็ยังไม่เคลียร์ว่าสัญญาที่ขัดกับกฎของไอจี  จะเอายังไง  คงต้องอุทรณ์เพื่อขอให้ศาลเคลียร์ให้อีกครั้ง  เดาว่าจะให้ IAM ลบห้ามดอง  เพื่อให้แนทได้มีบัญชีใหม่โดยสมบูรณ์

ส่วนเรื่องหมิ่นประมาท  แนทไม่ผิดอยู่แล้ว  คุยส่วนตัวไม่ใช่สาธารณะ  คำพูดกำกวมใช่ว่าจะแปลความได้ 100% ตามที่ อฟช. กล่าวหา  ถ้าจะเอาชนะ อฟช. ต้องไปฟ้องแฟนคลับที่ด่า อฟช. โน้น   ดังนั้นนี่เป็นการฟ้องกวนทีนเฉยๆ  จงใจเตะสกัดขาเห็นๆ
ความคิดเห็นที่ 3
น้องแนทฟ้องกลับเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่