สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ข้อดี แบบไม่ต้องมโน ใช้แค่ความจริงก็พอในการบอกให้ทราบตรงๆ
1. กล้อง(ภาพนิ่ง) ดีกว่าของยี่ห้อXiaomiที่ราคาใกล้เคียงกัน แบบชัดเจน , กล้องหน้าเซลฟี่ได้ดี ไปหาโอกาสลองเองได้เลย แล้วจะรู้ว่าจริงรึไม่
2. รุ่นราคาไม่เกิน 2,300 บาท(บางรุ่นราคาไม่เกิน 2,000 บาทแล้ว) ก็รองรับและปล่อย Wifi 5.0 GHz. ได้
3. บริษัทตัวแทนจำหน่ายมีการจ้างศูนย์บริการหลังการขาย ที่มีบริการDoor to Door(รับ,ส่งเครื่องที่ต้องซ่อม,ที่ซ่อมเสร็จแล้ว ส่งถึงที่หมาย โดยขนส่งเอกชน โดยผู้ประสงค์จะส่งซ่อมผ่านบริการนี้ไม่ต้องจ่ายค่าจัดส่ง) ในขณะที่Interbrandยี่ห้ออื่นๆที่มีการอวยในพันทิปเยอะๆบ่อยๆถี่ๆยังไม่มีบริการDoor to Door
4. วันเริ่มนับการรับประกันตัวเครื่อง ใช้วิธี ใส่ซิมในเครื่องแล้วเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของซิม(เบอร์) แล้วเข้าไปactivateวันรับประกันในแอปฯของศูนย์บริการได้ = วันที่เริ่มนับระยะประกัน เริ่มหลังวันที่ซื้อเครื่อง หลายๆวันได้
5. หลายๆรุ่นมีมิติของเสียงจากลำโพงจัดว่าดี(แต่เสียงค่อนข้างเบาไปนิด เมื่อเทียบกับพวกยี่ห้อที่ลำโพงเสียงดังดี(แต่มิติเสียงไม่ดี)
ุ6. ระบบGPSแม่นยำกว่าของInterbrandยี่ห้ออื่นๆ เช่น Xiaomi , Meizu , Huawei , Honor , Lava ฯลฯ
7. สีสันจอ แจ่มดีกว่าของยี่ห้ออื่นๆรุ่นอื่นๆที่ใช้PanelจอIPSเช่นกัน พอสมควร
8. XOS UIกับAndroidปกติ เสถียรดีกว่าUIของยี่ห้ออื่นๆพอสมควร เช่น เสถียรกว่า MI UI , Emotion UI , One UI , Flyme OS UI(แต่ก็ไม่เสถียรดีเท่ากับพวกPure Android UI , Oxygen OS UIหรอกนะ)
9. แสงแฟลชแถวกล้องหลัง(ใช้เป็นไฟฉายได้) สว่างแบบสบายตาดี(ถ้าใช้เป็นไฟฉาย) แต่ถ้าใช้เป็นแฟลชให้กล้องหน้าก็อาจแสบตาได้
10. มีอัปเดตSecurity Patchให้พอสมควร แม้รุ่นระดับล่าง ก็มีให้อัปเดตSecurity Patchหลายครั้ง
11.รุ่นระดับกลางๆของยี่ห้อInfinix บางรุ่นเริ่มมีการแถมที่ชาร์จ 18 วัตต์ให้ในกล่องโทรศัพท์บ้างแล้ว ในขณะที่Interbrandยี่ห้ออื่นๆมักจะยังมักแถมที่ชาร์จ 10 วัตต์ให้รุ่นระดับกลางของยี่ห้อนั้นๆเอง
ข้อด้อย แบบไม่ใช้การมโนดิสเครดิตมั่วๆแบบที่บางความคิดเห็นกระทำการมโนยัดเยียดความด้อยที่ไม่จริงให้Infinixแบบงงๆฮาๆ
1. ยังไม่ติดฟิล์มกันรอยมาให้ มีแค่แถมมาให้ในกล่องโทรศัพท์ ผู้ซื้อต้องเลือกเอง ว่า จะติดฟิล์มเอง หรือ จ้างคนอื่นให้ติดให้ หรือ จะไม่ติดเลย ในขณะที่ยี่ห้อในเครือเดียวกันกับInfinix อย่าง Tecno เริ่มปรับตัวเริ่มติดฟิล์มกันรอยมาให้บางรุ่นที่เปิดตัวช่วงปลายปีที่แล้วบ้างแล้ว
2. XOSในหลายๆเครื่อง ยังไม่มีฟังก์ชั่นClone Apps
3. งานวีดิโอ ยังกันสั่นไม่เนี๊ยบพอ(ในระดับราคาใกล้เคียงกับที่Infinixมีขาย ก็ยังไม่มียี่ห้อใดที่กันสั่นวีดิโอเนี๊ยบสักยี่ห้อเช่นกัน) บางยี่ห้ออย่าง Xiaomi รุ่นอดีตเรือธงปีนี้ที่ราคาเกินหมื่นบาท ยังกันสั่นวีดิโอห่วยเลย แต่งงจริงๆ ที่หน้าม้าXiaomiกลับคอยอวยรุ่นอดีตเรือธงปีนี้ นั้นว่ากล้องดีเลิศแบบไม่ละอายใจบ้างเลยซะงั้น
4. เสียงดังสู้ยี่ห้ออื่นๆแทบไม่ได้ แต่มิติเสียงยังดีกว่าของยี่ห้ออื่นๆที่ดีแค่เสียงดัง
5. มักเลือกใช้Chipsetที่รองรับความเร็วLTE ด้านการDownload ไม่เกิน 150 Mbps มาใช้กับหลายๆรุ่นของยี่ห้อ
6. ในปัจจุบัน ยังไม่ปรากฏรุ่นที่รองรับCellular 5Gออกมาวางขาย
7. แม้เป็นInterbrandแต่ไม่ยอมทำโฆษณาทางทีวี แบบที่Interbrandหลายๆยี่ห้อในไทยทำ (InfinixในไทยเคยทำโฆษณาทางYoutubeเมื่อหลายปีที่แล้ว) และไม่ทำการจ้างหน้าม้าคอยอวยยี่ห้อตนเองแบบที่บางยี่ห้อกระทำอยู่
8. มีแค่บางรุ่นที่ได้ใช้Storageแบบ UFS 2.1(ที่Infinixเลือกให้รุ่นระดับเรือธงของยี่ห้อตนเองได้ใช้ เช่น Zero 8i , Zero 8) โดยส่วนใหญ่ยังเลือกใช้Storage แบบeMMC 5.1 ให้รุ่นราคาประหยัดของยี่ห้อตนเอง เช่น ในพวกรุ่น Hot 9 Play , Hot 10 , Smart 5 , Hot 9 ฯลฯ
9. XOS UI ใช้กับ Go Editionแล้วไม่เวิร์คสุด แต่ถ้า XOS UI กับ Androidปกติก็เวิร์คดีอยู่
10. ไม่มีอินฟาเรดสำหรับทำเป็นรีโมตอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด แบบที่บางยี่ห้อ มีให้หลายๆรุ่นของยี่ห้อนั้นๆ เช่น Xiaomi มีให้บางรุ่น
11. ไม่เหมาะกับคนที่จะใช้ดูnetflixแบบHD
12. ไม่เหมาะกับคนที่คลั่งไคล้การต้องได้อัปเดตOSข้ามVersionเสมอ(โดยหลายๆคน พอใช้รุ่นที่ได้อัปOSไปOSล่าสุด(ที่ยังBUGเยอะและหลายๆแอปฯยังไม่รองรับOSที่ล่าสุดเกินไป)แล้วไปเจอความไม่เสถียรหรือหลายๆแอปฯเด้งใช้ไม่ได้ก็บ่นอยากกลับใช้Versionเดิมกันซะงั้นน่อ) แต่เหมาะกับคนที่ต้องการใช้UIที่เสถียรๆพอสมควร
13. มีBloatware(แอปฯที่ไม่จำเป็นต้องใช้,ไม่จำเป็นต้องมี ที่ติดมากับUI แบบไม่มีเมนูถอนการติดตั้ง ผู้ใช้ปกติทำได้เพียง กดปิดการทำงานของแอปฯนั้นๆ) ไม่น้อยหน้า MI UI , Emotion UI , One UI , Realme UI , Colour OS UI , Funtouch OS UI , Star UI , JOY UI , ROG UI , Magic UI , Flyme OS UI ฯลฯ
14.เมื่อก่อน ยี่ห้อInfinixในไทย ยังมีการให้ประกันจอแตก 1 ครั้งใน 1 ปี ให้ทุกระดับรุ่น แต่พอเปลี่ยนบริษัทตัวแทนนำเข้า(ศูนย์บริการรับซ่อมหลังการขายยังใช้ที่เดิม) เหมือนว่าบริษัทตัวแทนนำเข้ารายปัจจุบัน จะยกเลิกดีลประกันจอแตกนั้นไปสักพักแล้ว
เท่าที่นึกได้ มีประมาณนี้
รอผู้ใช้จริง คนอื่นๆมาบอกกล่าวความจริง เรื่องอื่นๆของยี่ห้อนี้ เพิ่มเติม ล่ะกันนะครับ
1. กล้อง(ภาพนิ่ง) ดีกว่าของยี่ห้อXiaomiที่ราคาใกล้เคียงกัน แบบชัดเจน , กล้องหน้าเซลฟี่ได้ดี ไปหาโอกาสลองเองได้เลย แล้วจะรู้ว่าจริงรึไม่
2. รุ่นราคาไม่เกิน 2,300 บาท(บางรุ่นราคาไม่เกิน 2,000 บาทแล้ว) ก็รองรับและปล่อย Wifi 5.0 GHz. ได้
3. บริษัทตัวแทนจำหน่ายมีการจ้างศูนย์บริการหลังการขาย ที่มีบริการDoor to Door(รับ,ส่งเครื่องที่ต้องซ่อม,ที่ซ่อมเสร็จแล้ว ส่งถึงที่หมาย โดยขนส่งเอกชน โดยผู้ประสงค์จะส่งซ่อมผ่านบริการนี้ไม่ต้องจ่ายค่าจัดส่ง) ในขณะที่Interbrandยี่ห้ออื่นๆที่มีการอวยในพันทิปเยอะๆบ่อยๆถี่ๆยังไม่มีบริการDoor to Door
4. วันเริ่มนับการรับประกันตัวเครื่อง ใช้วิธี ใส่ซิมในเครื่องแล้วเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของซิม(เบอร์) แล้วเข้าไปactivateวันรับประกันในแอปฯของศูนย์บริการได้ = วันที่เริ่มนับระยะประกัน เริ่มหลังวันที่ซื้อเครื่อง หลายๆวันได้
5. หลายๆรุ่นมีมิติของเสียงจากลำโพงจัดว่าดี(แต่เสียงค่อนข้างเบาไปนิด เมื่อเทียบกับพวกยี่ห้อที่ลำโพงเสียงดังดี(แต่มิติเสียงไม่ดี)
ุ6. ระบบGPSแม่นยำกว่าของInterbrandยี่ห้ออื่นๆ เช่น Xiaomi , Meizu , Huawei , Honor , Lava ฯลฯ
7. สีสันจอ แจ่มดีกว่าของยี่ห้ออื่นๆรุ่นอื่นๆที่ใช้PanelจอIPSเช่นกัน พอสมควร
8. XOS UIกับAndroidปกติ เสถียรดีกว่าUIของยี่ห้ออื่นๆพอสมควร เช่น เสถียรกว่า MI UI , Emotion UI , One UI , Flyme OS UI(แต่ก็ไม่เสถียรดีเท่ากับพวกPure Android UI , Oxygen OS UIหรอกนะ)
9. แสงแฟลชแถวกล้องหลัง(ใช้เป็นไฟฉายได้) สว่างแบบสบายตาดี(ถ้าใช้เป็นไฟฉาย) แต่ถ้าใช้เป็นแฟลชให้กล้องหน้าก็อาจแสบตาได้
10. มีอัปเดตSecurity Patchให้พอสมควร แม้รุ่นระดับล่าง ก็มีให้อัปเดตSecurity Patchหลายครั้ง
11.รุ่นระดับกลางๆของยี่ห้อInfinix บางรุ่นเริ่มมีการแถมที่ชาร์จ 18 วัตต์ให้ในกล่องโทรศัพท์บ้างแล้ว ในขณะที่Interbrandยี่ห้ออื่นๆมักจะยังมักแถมที่ชาร์จ 10 วัตต์ให้รุ่นระดับกลางของยี่ห้อนั้นๆเอง
ข้อด้อย แบบไม่ใช้การมโนดิสเครดิตมั่วๆแบบที่บางความคิดเห็นกระทำการมโนยัดเยียดความด้อยที่ไม่จริงให้Infinixแบบงงๆฮาๆ
1. ยังไม่ติดฟิล์มกันรอยมาให้ มีแค่แถมมาให้ในกล่องโทรศัพท์ ผู้ซื้อต้องเลือกเอง ว่า จะติดฟิล์มเอง หรือ จ้างคนอื่นให้ติดให้ หรือ จะไม่ติดเลย ในขณะที่ยี่ห้อในเครือเดียวกันกับInfinix อย่าง Tecno เริ่มปรับตัวเริ่มติดฟิล์มกันรอยมาให้บางรุ่นที่เปิดตัวช่วงปลายปีที่แล้วบ้างแล้ว
2. XOSในหลายๆเครื่อง ยังไม่มีฟังก์ชั่นClone Apps
3. งานวีดิโอ ยังกันสั่นไม่เนี๊ยบพอ(ในระดับราคาใกล้เคียงกับที่Infinixมีขาย ก็ยังไม่มียี่ห้อใดที่กันสั่นวีดิโอเนี๊ยบสักยี่ห้อเช่นกัน) บางยี่ห้ออย่าง Xiaomi รุ่นอดีตเรือธงปีนี้ที่ราคาเกินหมื่นบาท ยังกันสั่นวีดิโอห่วยเลย แต่งงจริงๆ ที่หน้าม้าXiaomiกลับคอยอวยรุ่นอดีตเรือธงปีนี้ นั้นว่ากล้องดีเลิศแบบไม่ละอายใจบ้างเลยซะงั้น
4. เสียงดังสู้ยี่ห้ออื่นๆแทบไม่ได้ แต่มิติเสียงยังดีกว่าของยี่ห้ออื่นๆที่ดีแค่เสียงดัง
5. มักเลือกใช้Chipsetที่รองรับความเร็วLTE ด้านการDownload ไม่เกิน 150 Mbps มาใช้กับหลายๆรุ่นของยี่ห้อ
6. ในปัจจุบัน ยังไม่ปรากฏรุ่นที่รองรับCellular 5Gออกมาวางขาย
7. แม้เป็นInterbrandแต่ไม่ยอมทำโฆษณาทางทีวี แบบที่Interbrandหลายๆยี่ห้อในไทยทำ (InfinixในไทยเคยทำโฆษณาทางYoutubeเมื่อหลายปีที่แล้ว) และไม่ทำการจ้างหน้าม้าคอยอวยยี่ห้อตนเองแบบที่บางยี่ห้อกระทำอยู่
8. มีแค่บางรุ่นที่ได้ใช้Storageแบบ UFS 2.1(ที่Infinixเลือกให้รุ่นระดับเรือธงของยี่ห้อตนเองได้ใช้ เช่น Zero 8i , Zero 8) โดยส่วนใหญ่ยังเลือกใช้Storage แบบeMMC 5.1 ให้รุ่นราคาประหยัดของยี่ห้อตนเอง เช่น ในพวกรุ่น Hot 9 Play , Hot 10 , Smart 5 , Hot 9 ฯลฯ
9. XOS UI ใช้กับ Go Editionแล้วไม่เวิร์คสุด แต่ถ้า XOS UI กับ Androidปกติก็เวิร์คดีอยู่
10. ไม่มีอินฟาเรดสำหรับทำเป็นรีโมตอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด แบบที่บางยี่ห้อ มีให้หลายๆรุ่นของยี่ห้อนั้นๆ เช่น Xiaomi มีให้บางรุ่น
11. ไม่เหมาะกับคนที่จะใช้ดูnetflixแบบHD
12. ไม่เหมาะกับคนที่คลั่งไคล้การต้องได้อัปเดตOSข้ามVersionเสมอ(โดยหลายๆคน พอใช้รุ่นที่ได้อัปOSไปOSล่าสุด(ที่ยังBUGเยอะและหลายๆแอปฯยังไม่รองรับOSที่ล่าสุดเกินไป)แล้วไปเจอความไม่เสถียรหรือหลายๆแอปฯเด้งใช้ไม่ได้ก็บ่นอยากกลับใช้Versionเดิมกันซะงั้นน่อ) แต่เหมาะกับคนที่ต้องการใช้UIที่เสถียรๆพอสมควร
13. มีBloatware(แอปฯที่ไม่จำเป็นต้องใช้,ไม่จำเป็นต้องมี ที่ติดมากับUI แบบไม่มีเมนูถอนการติดตั้ง ผู้ใช้ปกติทำได้เพียง กดปิดการทำงานของแอปฯนั้นๆ) ไม่น้อยหน้า MI UI , Emotion UI , One UI , Realme UI , Colour OS UI , Funtouch OS UI , Star UI , JOY UI , ROG UI , Magic UI , Flyme OS UI ฯลฯ
14.เมื่อก่อน ยี่ห้อInfinixในไทย ยังมีการให้ประกันจอแตก 1 ครั้งใน 1 ปี ให้ทุกระดับรุ่น แต่พอเปลี่ยนบริษัทตัวแทนนำเข้า(ศูนย์บริการรับซ่อมหลังการขายยังใช้ที่เดิม) เหมือนว่าบริษัทตัวแทนนำเข้ารายปัจจุบัน จะยกเลิกดีลประกันจอแตกนั้นไปสักพักแล้ว
เท่าที่นึกได้ มีประมาณนี้
รอผู้ใช้จริง คนอื่นๆมาบอกกล่าวความจริง เรื่องอื่นๆของยี่ห้อนี้ เพิ่มเติม ล่ะกันนะครับ
แสดงความคิดเห็น
อยากทราบข้อดี ข้อเสีย ของมือถือ Infinix ค่ะ